ตอนที่ 5

1502 คำ
ตอนที่ 5 “แกจะเคาะให้มันได้อะไรขึ้นมานังปัด ลุงขับรถมาไกลมันก็ต้องเหนื่อยอยากนอนพักกันมั่งซิวะ นังนี่ชักเอาใหญ่ เดี๋ยวๆ ลุงกำนันตื่นขึ้นมาดุเอา ข้าไม่ช่วยนะโว้ย” “ทำอย่างกับลุงกำนันนอนกินบ้านกินเมืองเหมือนกับน้าพรอย่างนั้นแหละ กว่าจะตื่นได้แต่ละวัน หนูเห็นตะวันแยงก้นตลอด” ปานธิดาเถียงคอเป็นเอ็น ลุงกำนันถือตัวเองว่าเป็นชาวนาคนหนึ่ง ที่แม้จะนอนดึกสักแค่ไหนก็ยังตื่นเช้าเป็นอาจิณ ในขณะที่น้าพรฉวีที่เป็นน้องสาวคนเล็ก ถือตัวว่าเป็นลูกสาวที่ย่ารัก เพราะมีการันต์ตีความสวยระดับนางงามจากเวทีนางสงกรานต์ประจำอำเภอ เอาแต่นอนและหาเรื่องอู้งาน ใช้ให้ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็มักจะบอกว่าเดี๋ยวเล็บหักบ้าง เดี๋ยวตัวดำ ผิวไม่ผ่อง จะกลายเป็นคนไม่สวยบ้าง เลยอยู่แต่ในห้องปะหน้าทาแป้งเสียจนขาววอกเหมือนกับลิงกัง “พูดมากไปแล้วนะนังปัด เดี๋ยวน้าพรก็มาด่าแกเอาหรอก” “ย่านั่นแหละดี เข้าข้างแต่น้าพร คอยดูนะ พ่อมาหนูจะฟ้องซะให้เข็ดเลย มีเงินทีไร น้าพรของละให้ทุกที แต่ทีหนูขอ ไม่เคยให้” ร่างอ้วนป้อมที่นั่งบนพื้นไม้ลุกขึ้นยืน ยกมือขึ้นเท้าสะเอว สองเท้าอ้าออกกว้างอย่างไม่ยอมแพ้คนเป็นย่า แม้จะรู้แก่ใจ บิดามาเมื่อไหร่ก็ไม่เคยหรอกที่จะสนใจใครอื่นนอกจากตัวเอง กับอ้อนของเงินจากแก้วตาเพื่อไปซื้อยามากิน “ก็ลองดู ถ้าแกกล้าฟ้อง ข้าก็จะฟ้องกลับเหมือนกัน แกเอาแต่แต่งตัวสวยๆ ดูแต่ทีวี เล่นเกมในคอมไม่ยอมอ่านหนังสือ” เสียงทุ้มเถียงของสองย่าหลานที่ไม่มีใครยอมแพ้ใครดังลั่นบ้านจนธราเทพคิดว่าอีกไม่นานเกร็ดแก้วคงได้สติ และก็เป็นจริง... เกร็ดแก้วกะพริบตาปริบๆ และตื่นขึ้นมาอย่างงงๆ ขณะยกมือขึ้นจับศีรษะที่ปวดจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ลำคอแห้งผากเหมือนไม่ได้ทานน้ำมาหลายวัน ที่มาพร้อมกับความงุนงง คิ้วคมเข้มขมวดมุ่น ก่อนดวงตากลมโตจะเบิกกว้าง เมื่อคิดถึงเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพดานห้องที่เห็น...ไม่คุ้นเคย ที่เธอจำได้ มีผู้ชายคนหนึ่งมาหา เรียกชื่อและ...จูบ! ‘ไอ้คนเฮงซวย ไอ้บ้านั่นกล้าแตะต้องเธอ เจอหน้าเมื่อไหร่จะตบให้คว่ำเชียว’ ว่าแต่...ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกัน อยู่ภูเก็ตพักโรงแรมระดับห้าดาว แค่เพดานห้องก็วาดลวดลายประดับประดาอย่างสวยงาม แต่แสงจากด้านนอกส่องให้เห็นรำไรว่าเป็นโครงไม้ธรรมดาและมีหลอดไฟสีขาวขุ่นติดอยู่ตรงกลาง เกร็ดแก้วเบนสายตามองไปยังอีกฝั่ง ก็เห็นผนังห้องเป็นสีขาวอมเทา มีภาพถ่ายที่จัดวางแขวนไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย หญิงสาวหันมามองอีกด้าน ที่ทำให้เธอตกใจจนสุดขีด อ้าปากจะร้อง แต่ก็ไม่ทันมือเคลื่อนมาปิดไว้เสียก่อน ไม่เพียงแค่นั้น ร่างหนายังขยับขึ้นมาทาบทับ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงเร็ว ปลายมือปลายเท้าเย็นเฉียบรีบยกขึ้นผลักและดัน บ้างก็ทุบตีจิกข่วนกายแกร่ง แต่ดูเหมือนไอ้ผู้ชายฉวยโอกาสจะไม่สะทกสะท้านเลย และยังจะยิ้มใส่ตาเธอแล้วจับมือเล็กไปตรึงไว้เหนือศีรษะ “อรุณสวัสดิ์ตอนเช้าๆ ครับคุณเมียสุดที่รัก” ธราเทพทักทายอย่างสนิทสนมด้วยน้ำเสียงยิ้มๆ ชายหนุ่มมองสบกับดวงตาแวววาวโกรธเคืองระคนไม่แน่ใจ จะเอายังไงกับเขาดี จะสู้หรือยอมรับฟัง “ห้ามส่งเสียงร้องนะ ถ้าไม่อยากถูกผมปั๊มๆ ตอนเช้าแบบนี้ ได้นอนพักผ่อนเต็มที่ เรี่ยวแรงกำลังผมยังดี ไม่ใช่อะไรหรอก ผมกลัวคุณจะลุกจากที่นอนไม่ได้นะครับ” ธราเทพเอ่ยน้ำเสียงยิ้มๆ เขาวางมือบนกายอรชร พลางลูบไล้แผ่วเบาเรื่อยไปจนถึงทรวงอกกลมกลึง “ถ้าคุณร้องนะครับ ผมจะแบบว่า...ขยำๆ ตรงนี้แรงๆ พอเป็นรอย แล้วรอให้แม่และคนอื่นๆ ในบ้านเข้ามาเห็นคุณนอนแก้ผ้าอยู่บนเตียง ส่วนผมก็รีบวิ่งไปยืนตัวสั่นอยู่แถวๆ ข้างตู้ผ้า พวกเขาไม่คิดอะไรมากหรอกครับ นอกจาก...คุณปล้ำผม!” คิดว่ายังไงเสีย เกร็ดแก้วก็จะต้องร้องแน่นอน เขาเลยเตรียมตัวรับสถานการณ์ไว้ก่อน ในเมื่อมือหนึ่งไม่ว่างเพราะจับแขนเรียวตรึงไว้เหนือศีรษะ อีกมือก็อยู่ตรงเนินอกอวบอิ่มและนุ่มนิ่มอย่าบอกใครเชียวละ ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่ปากเท่านั้นเอง “แม่ผมจะต้องคิดว่า...แค่คิดว่าคุณเป็นลูกสาวบ้านไหนหนอ ช่างใจกล้าเสียจริง ปีนเข้ามาปล้ำหนุ่มถึงห้อง!” “กะ...” ธราเทพฉกจุมพิตลงบนเรียวปากอิ่มก่อนที่เกร็ดแก้วจะส่งเสียงร้อง “อื้อ...อื้อ...” เกร็ดแก้วร้องประท้วง พร้อมกับเบี่ยงหน้าหนีจุมพิตร้อนผ่าวที่กดลงมาอย่างหนักหน่วง แรกเริ่มเขาเพียงแค่ต้องปิดปากนุ่มเท่านั้นเอง แต่เมื่อได้สัมผัสถึงความหวานละมุนใจก็เตลิดไปอย่างรวดเร็ว จุมพิตจึงเว้าวอนเรียกร้องให้ตอบสนอง เรียวลิ้นหนาสอดแทรกเข้าไปภายในโพรงปากนุ่ม มือก็เริ่มขยับอย่างแผ่วเบาจากปทุมถันอวบอิ่มข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นสาวสมัยใหม่ที่การกอดจูบและจูบปากกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อถูกจู่โจมจากใครก็ไม่รู้ และจุมพิตก็เรียกร้องทำให้เกร็ดแก้วถึงกับตัวสั่น เมื่อถูกปลุกเร้าอย่างชำนาญและนุ่มนวล ทำให้เธอเคลิบเคลิ้มเหมือนล่องลอยอยู่ในความฝัน จนเผลอตอบสนองสัมผัสของชายแปลกหน้าไปโดยไม่รู้ตัว “อืม...จูบคนกรุงมันหอมหวานแบบนี้นี่เอง โอ๊ย!! โชคดีจริงโว้ยที่ไอ้หนุ่มบ้านนอกอย่างผมได้จูบลูกสาวคนมีกะตังค์กับเขาด้วย” ธราเทพอดแขวะไม่ได้ เข้าถึงเนื้อถึงตัวเพียงแค่นิดหน่อย เกร็ดแก้วก็พร้อมที่จะร้อนไปด้วย มิน่าล่ะเปรมมิกาถึงได้แพ้อย่างหลุดลุ่ย เพราะแม่น้องสาวเขาถึงจะหัวสมัยใหม่แต่ก็ยังรักงวนสงวนตัว ไม่ยอมมีอะไรกับผู้ชายก่อนที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องทั้งทางกฎหมายและศาสนา มันเลยไม่ถูกใจถึงใจไอ้หนุ่มหน้ามนลูกชายคุณหญิงคุณนาย “แก...แก...ไอ้บ้า! ไอ้คนห้าร้อย ไอ้หมาข้างถนน แกเป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหน?” “อ้าว...!! คุณเมียสุดที่รักจ๋า ตื่นมาก็พูดจาหมาไม่รับประทานแบบนี้ แล้วจะอยู่กันยืดได้ไงกัน เป็นเมียจะต้องพูดจาหวานๆ กับผัวมั่งซิคู้น...” ธราเทพเอ่ยน้ำเสียงติดตลก เขาซ่อนแววกังวลอยู่ในอก แม่สาวหน้าใสคนนี้จะมีนิสัยเป็นยังไงบ้าง จะน่ารักเหมือนกับรูปหน้าหรือเปล่า ที่เขารู้แล้วว่า...เธอปากร้าย ด่าเก่งและเล็บคมด้วย เพราะมันทำให้แขนเขาเป็นรอยแดงไปหมดแล้ว “ใครเป็นสามี ใครเป็นภรรยากันยะ พูดให้ดีนะ ก่อนที่ฉันจะเอาเลือดหัวแกออก แล้วแกก็รีบถอยออกไปจากตัวฉันด้วย ไอ้บ้า!” เกร็ดแก้วด่ากราดเป็นชุดใหญ่ เธอรีบผลักร่างหนาให้ห่างกาย ก่อนจะรีบตะครุบผ้าเนื้อหน้ามาปิดกาย เมื่อเห็นว่าร่างกายนั้นเปลือยเปล่า ไม่มีผ้าสวมใส่อยู่แม้เพียงชิ้นเดียว เธอจะกรีดร้อง ทว่า... “ถ้าร้องอีก คราวนี้ผมไม่แน่ใจนะคุณเมียที่รัก จะเพียงแค่จับๆ ต้องๆ หรือว่าจะเลยเถิดไปไกล” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ขณะมองกายอรชรไล่ตั้งแต่ใบหน้านวลเนียนที่ตอนนี้กลายเป็นสีแดงสด เพราะโกรธจนอยากจะฆ่าเขาทิ้ง “แก! ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้บ้า อย่าให้ถึงทีฉันก็แล้วกัน จะไม่เอาแกไว้ทำพันธุ์แน่” เกร็ดแก้วฝากคำอาฆาตไว้ เธอยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปาก ลบร่องรอยที่ถูกประทับไว้ออกให้หมด แต่ตายังมอง คอยหาโอกาสที่จะประทุษร้ายและหนีเอาตัวรอดจากไอ้คนบ้าให้ได้ “โธ่...โธ่คุณเมียสุดที่รักจ๋า ทำไมใจร้ายกับผัวนักละจ้ะ เพิ่งจะแต่งงานกันหยกๆ จะตัดของผัวทิ้งเสียแล้วหรือจ๊ะ อย่างนี้คุณเมียที่รักจ๋าจะไม่ใจดำกับผัวไปหน่อยหรือไร อย่างนี้ผัวก็ชีช้ำนะซิ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม