ทรงพลผ่อนลมหายใจยาวเหยียด “ปล่อยมันไป อย่าไปสนใจมันเลย”
เขารู้สึกเหนื่อยหน่าย เขาทำทุกอย่างเพื่อลูก แต่ทำไมความรักของเขาส่งไม่ถึงเตชินเลย บุตรชายหัวดื้อทำตัวขวางโลกเพิ่มขึ้นทุกวัน เขาควรทำอย่างไรกับเตชินดีนะ
“คุณอย่าโมโหเลยค่ะ เดี๋ยวจะทรุดไปอีก... ใจเย็นๆ นะคะ” มาลัยพยายามปลอบสามีสูงวัยของตัวเอง
“ฉันขอโทษเธอด้วยนะมาลัย ขอโทษแทนเจ้าเตมันด้วย...” ทรงพลพูดกับภรรยาคนล่าสุดของตัวเองด้วยความเสียใจ
“ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณ มาลัยไม่เป็นไร ตอนนี้คุณเตชินเธออยู่ในช่วงวัยรุ่น เลือดลมก็ร้อนเป็นธรรมดาค่ะ”
“ฉันจะส่งมันไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ทันทีที่มันเรียนจบมัธยมปลาย”
ทรงพลตัดสินใจเด็ดขาด บางทีการห่างกันสักพัก และเตชินโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกสักหน่อย บุตรชายอาจเข้าใจความคิดของเขา มาลัยรู้ดีว่าทรงพลทำแบบนี้ก็เพราะทุกคนจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบ
“ความจริงคุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลยค่ะ มาลัยทนได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องส่งคุณเตชินไปเมืองนอกก็ได้ค่ะ เพราะแบบนี่เท่ากับยั่วให้คุณเตชินโกรธมากขึ้น” มาลัยพยายามท้วง
สิ่งที่ทรงพลคิด อาจไม่เป็นผลดีกับใครเลย
“ฉันอยากให้มันไปสงบสติอารมณ์สักสี่ห้าปี เวลาที่มันกลับมามันจะได้มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เธอไม่ต้องคิดมากนะมาลัย เพราะที่ฉันทำลงไปทุกอย่างก็เพื่อตัวไอ้เต ไม่ใช่เพื่อใครเลย”
“ค่ะคุณ”
สิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้องอาหาร อยู่ในสายตาของชญานินทุกอย่าง เธอที่มีความคิดความอ่านเป็นผู้หญิงเกินวัย เข้าใจทุกอย่างได้เกือบทั้งหมด
ป้ามาลัยไม่ได้มีความสุขอย่างที่เคยเข้าใจ แต่ป้ามาลัยแค่พยายามมีความสุขให้ทุกคนเห็นเท่านั้น
ต้นเหตุก็คือเตชิน ลูกชายคนเดียวของทรงพลนั่นเอง
ชีวิตของเธอในคฤหาสน์หลังนี้ ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยสินะ
หลังจากเกิดสงครามเย็นในห้องอาหารในค่ำวันนั้นแล้ว ชญานินก็รู้สึกหวาดกลัวเสมอเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเตชิน เพราะสายตาที่เขามองมาที่เธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ป้ามาลัยบอกให้เธอพยายามเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขา แต่โชคชะตาก็มักจะกลั่นแกล้งให้เธอได้บังเอิญเจอกับเขาเสมอ
เช่นวันนี้...
ขณะที่ชญานินกำลังนั่งเล่นขายของบนพื้นดิน รอบตัวเธอมีแต่กองดอกไม้และใบไม้ที่เก็บใส่ตะกร้าใบใหญ่มา เธอหยิบดอกกะดังงาขึ้นมาดม เตชินก็เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าพอดี เขาเตะตะกร้าที่บรรจุใบไม้ดอกไม้ของเธอจนปลิว ตะกร้าใบใหญ่กระแทกใส่ลำตัวของเธอ และชญานินยกมือขึ้นกันเอาไว้ แรงกระแทกนั่นทำให้เธอเจ็บแปลบ เพราะอุ้งมือของเธอเหมือนถูกเสี้ยนที่ขอบตะกร้าทิ่มแทง
“โอ้ย!!” เสียงร้องแสดงความเจ็บปวดของเด็กหญิงตัวเล็ก ทำให้เตชินรู้สึกสะใจ
“เด็กกาฝากแบบเธอ ไม่ต่างจากผู้หญิงคนนั้นหรอกนะ!!”
ชญานินบีบมือเข้าหากัน และก็ส่ายหน้าไปมา
“ชญาทำอะไรให้คุณไม่พอใจเหรอคะ?”
“เธอกับป้าของเธอไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่ถูกใจฉันทั้งหมดนั่นแหละ พวกเธอแค่กาฝากที่คิดจะกอบโกยสมบัติของพ่อฉัน”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ”
ชญานินส่ายหน้าปฏิเสธ พยายามช่วยมาลัยหาข้อแก้ต่าง แต่เธอก็เด็กเกินกว่าจะหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผล ดวงตาเธอแดงระเรื่อเพราะเจียนจะร้องไห้รอมร่อ
เตชินยิ้มเยาะ เขากดปลายเท้าขยี้ใบไม้และดอกไม้ที่ตกอยู่บนพื้น แล้วก็ก้มลงหยิบดอกไม้เละๆ เหวี่ยงใส่หน้าของชญานิน
“ถ้าเธอยังคิดจะเกาะพ่อฉันอยู่แบบนี้ เธอก็จะมีสภาพไม่ต่างจากดอกไม้พวกนี้หรอก เพราะฉันจะขยี้เธอกับป้าของเธอให้แหลกคาตีนเลยคอยดู!!”
“แกทำอะไรหนูชญาน่ะ เจ้าเต!!”
เสียงของทรงพลดังขึ้นด้านหลัง ทำให้เตชินหน้าถอดสีเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้เกรงกลัวบิดาเลยสักนิดเดียว
“ผมอยากทำอะไร คุณพ่อเกี่ยวอะไรด้วยครับ?” เตชินย้อนถาม
ทรงพลที่มีมาลัยประคองอยู่รีบเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของบุตรชาย และมองชญานินด้วยความสงสาร
“นี่แกแกล้งหนูชญาอีกแล้วเหรอไงหะ!!”
“ผมไม่ได้ทำอะไรแม่นี่สักหน่อย” เตชินแก้ตัวหน้าตาย
“ก็ฉันเห็นอยู่ว่าแกทำ ไอ้ลูกเวร!” ทรงพลตวาดกลับ
“คุณคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ใช่มั้ยยัยชญา คุณเตชินเขาไม่ได้ทำอะไรเราใช่ไหม?” มาลัยขยิบตาให้หลานสาวแล้วก็ถามเสียงนุ่ม
เตชินเบ้ปาก เขาไม่มีทางมองผู้หญิงตรงหน้าในแง่ดีหรอก มารยาร้อยเล่มเกวียนของหล่อนใช้ได้ผลกับบิดดาเขา แต่ไม่มีทางสำเร็จกับคนอย่างเขา
“รับบทเป็นแม่เลี้ยงใจดีแล้วหนึ่ง” เตชินพึมพำ พลางกดยิ้มมุมปาก
“มาลัยอุตส่าห์ช่วยแก ทำไมแกถึงมองว่าเขาเป็นคนไม่ดีไปได้ละหะ?”
“ก็เพราะเมียใหม่ของพ่อไม่มีทางทำดีกับผมไง หล่อนแค่เสแสร้งตอนที่อยู่ต่อหน้าพ่อเท่านั้นแหละ”
เตชินเถียงบิดาคอเป็นเอ็น และคำพูดเหล่านั้นทำให้ถูกทรงพลโมโหจนลืมตัว เขาตวัดมือผ่านซีกแก้มของบุตรชาย ‘เพี้ยะ!!’
“คุณพ่อ!!” เตชินยกมือจับซีกแก้มที่ชาดิกและเบิกตามองบิดาแบบไม่อยากเชื่อตาตัวเอง
มาลัยตาโต มองผิวหน้าขาวสะอาดที่กำลังแดงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความตกใจ
ทรงพลเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อย แต่ก็ยังพยายามทำใจแข็งเข้าไว้
“หนูชญาเป็นคนของฉัน ต่อไป...ห้ามแกแกล้งหนูชญาอีกเด็ดขาด!!”
เตชินไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ ริมฝีปากเขาเม้มแน่น มีเพียงแววตาร้าวรานเท่านั้นที่เผยออกมาให้ทุกคนเห็น เขาหมุนตัวกลับ เดินจ้ำอ้าวหนีไปอย่างรวดเร็ว
ชญานินมองตามเตชินที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งห่างออกไปด้วยความรู้สึกผิด ซึ่งก็ไม่ต่างจากมาลัยเลยแม้แต่น้อย
“ชญา... ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณลุง คุณเตชินไม่ได้ทำอะไรชญาเลยนะคะ”
ยิ่งชญานินรีบพูดแก้ตัวแทนบุตรชายเช่นนี้ ทรงพลก็ยิ่งเอ็นดูระคนสงสาร เพราะเด็กหญิงเจียมตัวเหลือเกิน
“มาลัย เธอพาหนูชญาเข้าบ้านไปก่อนเถอะ”
“แล้วคุณล่ะคะ”
“ฉันขอนั่งคิดอะไรตรงนี้อีกสักพักน่ะ”
มาลัยยอมทำตาม ทรงพลเองก็ต้องการเวลา เขาไม่ใช่พ่อที่แย่หรอก เตชินจะรู้ในวันหนึ่ง ความรักที่ทรงพลเคยมีให้บุตรชายไม่เคยลดน้อยลงเลย เตชินยังคงเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลการัณยภาสเสมอมา
“ค่ะคุณ”
มาลัยพาชญานินเดินกลับเข้ามาภายในบ้าน ระหว่างทางก็พยายามทำความเข้าใจกับหลานสาวไปด้วย
“เจ็บมากไหมชญา?”
ชญานินส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะป้า แต่คุณเตสิคะเธอถูกดุเพราะชญาแท้ๆ เลย”
ชญานินอดที่จะรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้
“คุณเตชินไม่ชอบป้า ไม่ชอบชญา ดังนั้นชญาต้องคอยหลบคุณเตชินดีๆ นะลูก เพราะถ้าเจอหน้ากันจังๆ ก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ชญาคงไม่อยากเห็นคุณเตชินกับคุณลุงทะเลาะกันใช่ไหม”
ชญานินส่ายหน้าไปมา
“ค่ะ ชญาไม่อยากเห็นคุณเตชินถูกคุณลุงดุอีก”
“งั้นชญา ก็พยายามเลี่ยงคุณเตชินเขานะลูก”
“ค่ะป้า”
ตอนที่ 3.ชนวนเหตุที่ทำท่าจะลุกลาม
หลังจากวันนั้น ชญานินก็พยายามหลบหน้าลูกชายเจ้าของบ้าน เธอหมกตัวอยู่ในครัว ช่วยแม่ครัวทำงานเล็กๆ น้อยๆ และเรียนรู้การทำขนมไปด้วย และคงเพราะเธอยังเด็ก เลยไม่เข้าใจแรงอาฆาตของเด็กชายวัยรุ่นเท่าไหร่นัก ชญานินแค่อยากเอาใจเตชิน เผื่อบางทีเขาอาจจะเปลี่ยนความคิดใหม่ เธอกับป้าไม่ได้เข้ามาในครอบครัวการัณยภาสเพราะหวังกอบโกยเงินทองของพวกเขา เธอเลยตั้งใจเอาขนมที่หัดทำนี้ แอบไปวางไว้ให้เขาลับๆ
หลังจากมองซ้าย มองขวาจนแน่ใจ
ไม่มีสาวใช้คนไหนเห็นสิ่งที่ตนเองกำลังจะทำแน่ๆ ชญานินเลยรีบเปิดประตูห้องนอนของเตชิน เธอวางขนมกล้วยที่เพิ่งสุกใหม่ๆ ลงบนโต๊ะเตี้ยๆ ใกล้กับโซฟาตัวยาวสีน้ำตาลไหม้ ริมกระจกใสยาวจรดเพดาน
แล้วก็ตั้งใจจะรีบออกไปจากห้อง แต่ทว่า...เตชินดันกลับเข้าห้องมาเสียก่อน