ในเรือนลับหลังใหญ่เร้นหญิงงามผู้หนึ่งเอาไว้
นางกำลังนั่งสางผมรอจ้าวฉีเสวียนอยู่ที่หน้าคันฉ่อง
หวงลี่ฟาง...
แท้ที่จริงแล้วตำแหน่งภรรยาลับนี้มิใช่ความต้องการของจ้าวฉีเสวียนแต่เป็นความปรารถนาของหวงลี่ฟางเอง
แน่นอนว่าบุรุษหนุ่มผู้ร้อนรุ่มคนหนึ่งย่อมไม่คิดขัดศรัทธา เขาไม่เสียประโยชน์อันใดกับความลับนี้จึงไม่จำเป็นต้องทัดทาน
“รอนานแล้วกระมัง?”
ร่างสูงสง่าถามขณะยืนกอดอกอิงขอบประตูด้วยท่วงทีที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับยามอยู่หลังบนอาชาเหนือขบวนกลางเมือง ยามนั้นเขาสุขุมนุ่มลึกและเย่อหยิ่งเย็นชา หากแต่ยามนี้ แม้ยังคงสูงส่งเกินเอื้อมคว้า ทว่าสีหน้าแววตากลับกรุ้มกริ่มยียวน
หวงลี่ฟางลุกขึ้นคำนับเขา “ข้ารอซื่อจื่อมาตลอด...”
คำกล่าวนี้มิได้เกินจริง หลายปีที่หวงลี่ฟางรอจ้าวฉีเสวียน เพียงแต่เรื่องราวของสองเราช่างน่าเศร้า ผ่านเหตุการณ์พลิกผันครั้งแล้วครั้งเล่า จนสุดท้าย นางกลับกลายจำต้องอยู่ในจุดนี้ จุดที่มิอาจเปิดเผยตัวตน แม้ใจจริงปรารถนากู่ก้องว่าเป็นคนของเขา ทว่ากลับทำไม่ได้ มิอาจทำได้
จ้าวฉีเสวียนไม่สนใจแววตาซุกซ่อนเร้นนัย เขาไม่เคยใส่ใจ เพียงก้าวเท้าเข้ามาในห้องของหวงลี่ฟางแล้วปิดประตูลง
ร่างสูงเคลื่อนกายเนิบช้าเข้าหาร่างนุ่มนิ่ม มือใหญ่โอบกระชับเอวเล็กคอดกิ่วเข้าประชิด จนเนินอกหยุ่นนุ่มปะทะอกแกร่ง ให้ความรู้สึกดีอย่างประหลาด
ร่างกายของนางมีกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้นานาพันธุ์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว กลายเป็นกลิ่นพิเศษที่เขาชอบ
ปลายจมูกโด่งซุกที่ซอกคอขาว สูดดมกลิ่นเนื้อนวลนางอย่างเพลิดเพลิน
แม้มีเสื้อผ้ากางกั้นแต่กระไออุ่นจากเนินเนื้อนุ่มนิ่มนั้นกลับแผ่ซ่านเข้ามาถึงเนื้อแท้ที่มีมัดกล้ามแข็งแกร่ง ทำคนร้อนกรุ่นทันที
“ข้าคิดถึงเจ้าแทบคลั่ง” จ้าวฉีเสวียนเอียงหน้าเม้มติ่งหูขาว กระซิบแหบพร่า “เร่งทำศึกก็เพื่อกลับมาร่วมรักกับเจ้า”
วาจาเขาช่างเถรตรง ไม่มีหรอกเก็บข่มเฉกสุภาพชน
หวงลี่ฟางหลับตา เอียงลำคอให้จมูกโด่งสันที่เริ่มซุกไซ้อย่างเอาแต่ใจ “ร่างกายข้าพร้อมเสมอเพื่อซื่อจื่อเจ้าค่ะ”
ด้วยความไร้เดียงสาหรือไร้ยางอายก็ช่าง นางพร้อมเพื่อเขาอย่างไม่คิดบิดพลิ้วสักครา วาจาต่อขานก็เช่นกัน
สาบเสื้อแบะอ้า ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนจากซอกคอขาวซุกลงตรงเนินอกสล้าง ขบเม้มยอดปทุมถันสีชมพูหวาน ดูดดึงคล้ายหิวกระหาย เรียวนิ้วยาวลากไล้ล้วงใต้กระโปรงแล้ววนเวียนที่กลีบบุปผาจนฉ่ำชื้นผ่านผ้าซับด้านใน
“เจ้าร้อนเร็ว”
เสียงทุ้มแผ่วพร่าว่ายามลากปลายลิ้นต้อนยอดทรวงงามเข้าโพรกปากแล้วดูดกลืนราวกับทารกดื่มนมมารดา
หวงลี่ฟางปรือตากัดปาก นางร้อนเร็วจริงดั่งเขากล่าวหา ช่วยมิได้ที่ร่างกายนี้ตอบสนองได้ดียามถูกเขาแตะต้อง
“ทำตรงนี้เลยนะ”
จ้าวฉีเสวียนเอื้อมมือกวาดสิ่งของบนโต๊ะออกไปจนเกลี้ยง จับสะโพกมนขึ้นวาง จับนางแยกขา เลิกกระโปรงเปิดเปลือย เรียวนิ้วร้อนร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ
“อื้อ...ซื่อจื่อ”
เพราะซาบซ่านด้านล่างจนกลีบเนื้อฉ่ำเยิ้ม เนินอกจึงกระเพื่อมแอ่นขึ้นจนเต่งตึงชูชันสั่นไหว “อา...”
ความหวานแผ่ซ่านไปทั้งโพรงปาก ความหยุ่นนุ่มที่สัมผัสในตอนนี้ส่งผลให้เลือดในกายสูบฉีดทั่วร่าง กลิ่นหอมรวยรินจากกายสาวทำให้ความปรารถนาพลุ่งพล่าน จ้าวฉีเสวียนรู้สึกดีมาก อยากผละจากร่างนุ่มนิ่มก่อนฟ้าสางแต่มือกลับไม่ยอมปล่อย ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาไม่ค้างแรมกับนาง ร่วมรักกันครั้งแล้วครั้งเล่าจนนับไม่ถ้วน
ตั้งแต่พลาดท่าเสียทีเป็นคนแรกของกันและกัน ไม่มีวันใดที่ไม่ต้องการครั้งที่สองที่สามตามมา
เสียงขาโต๊ะโยกโยนกระทบกับพื้นห้องดังเป็นจังหวะน่าอาย เสื้อผ้าชายหญิงหลุดลุ่ยไปกว่าครึ่ง
บุรุษเผยบ่ากว้างแผงกล้ามแน่นตึงทรงเสน่ห์แห่งชายชาญ สตรีเผยนวลเนื้อฉ่ำเย็นที่เพียงเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าหวานล้ำเพียงใด
หวงลี่ฟางปรือตาฉ่ำน้ำมองแผ่นอกหนาแน่นที่แผ่ซ่านความทรงพลังทะลุเสื้อผ้าจนสตรีทั้งหลายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเปี่ยมเสน่ห์มากล้นจนคนมองต่างรู้สึกร้อนรุ่มปานใด
ยามนี้ ไม่มีเสื้อผ้ากั้นเอาไว้ นางให้รู้สึกใกล้หลอมละลายทั้งตัวและหัวใจ ยิ่งกว่าเพลิงผลาญก็คือไฟร้อนจากกายเขา
หญิงสาวอดใจไม่ไหวจึงเอื้อมมือขึ้นจิกเล็บครูดมัดกล้ามกร้าวแกร่งนั้นอย่างหลงใหล
จ้าวฉีเสวียนแทรกกายเข้ากลางหว่างขาเรียวขาวที่อ้ารับ ขยับเอวสอบเล็กน้อย จดจ่อปากทางร่องสาว ถูไถเปิดทางเบาๆ ค่อยๆ สอดใส่เนิบช้า
“อา...” หวงลี่ฟางเผยอปากหลุดเสียงครางหวิว
แม้ร่างกายคุ้นเคยแต่เส้นทางคับแคบนี้กลับไม่ค่อยคุ้นชิน ขนาดความเป็นชายของจ้าวฉีเสวียนใหญ่เกินไป นางที่ตัวเล็กเท่านี้ มีหรือจะขยายได้ดังใจ
“ซื่อจื่อ เจ็บ...” หญิงสาวจิกเล็บกับบ่ากว้าง
ชายหนุ่มพลันชะงัก ตัวตนที่สอดใส่ได้เพียงครึ่งหยุดลง มือหนึ่งเอื้อมมาใกล้บุปผาฉ่ำ ไล้นิ้วเรียวเวียนวนละเล่นเกสรงาม
หวงลี่ฟางเริ่มบิดกายสะโพกโยกย้าย อาการเจ็บจุกถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกดีและผ่อนคลาย
“เจ็บแค่เริ่มต้นรอบแรกรอบเดียว รอบต่อไปย่อมเสียว...”
เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยวาจาน่าอายออกมาอย่างไม่เก็บข่ม มีเพียงอยู่กับหวงลี่ฟางเท่านั้นที่จ้าวฉีเสวียนจะเผยตัวตนด้านนี้
“เจ้าอ้าขาออกอีก ข้าอยากรักเจ้าลึกๆ”