เกริ่นนำ
บุรุษหากยังไม่แต่งงานจะใช้ชีวิตสำราญปานใดล้วนทำได้ บุปผางามตระการล้วนมากมี พึงเชยชมได้เต็มที่ เสพสมให้ทั่วถึง แต่เมื่อใดที่มีภรรยาเป็นตัวเป็นตน คนต้องรักเดียวใจเดียว มิอาจข้องเกี่ยวหญิงใดอีก ดังนั้นบุรุษสำราญเช่นเราอย่าเผลอใจไปกับสตรีที่เพียงร่วมสำราญแต่มิได้แต่งงานด้วยเด็ดขาด
อี้หาน[1]ปรมาจารย์ศาสตร์บนเตียงของจ้าวฉีเสวียน
***
สตรีหากเป็นแค่เครื่องมือปรนเปรอความสำราญแก่บุรุษแล้วอย่างไร ขอเพียงเขายังไม่แต่งงาน เราจะเรียกร้องสัมผัสรักใคร่จากเขาเท่าใดก็ได้ ใช่ว่าเขาสุขสมฝ่ายเดียว ดังนั้น สตรีผู้ช่ำชองต้องกอบโกยพลังหยางเอาไว้ แต่ห้ามเผลอใจรักเด็ดขาด
เสี่ยวเหยา[2]ปรมาจารย์ศาสตร์บนเตียงของหวงลี่ฟาง
[1]อี้หาน จากนิยายเรื่อง ‘เพียงรักฝังใจ’
[2]เสี่ยวเหยา จากนิยายเรื่อง ‘เพียงรักฝังใจ’
เพียงเผลอใจรัก จึงพลั้งผูกใจภักดิ์ รักเพียงท่านตลอดไป
งานชุมนุมชาวยุทธ์ประจำปีนี้พิเศษกว่าทุกปี เหตุเพราะท่านอ๋องน้อยให้เกียรติมาร่วมการประชัน
เขานั่งโดดเด่นอยู่เหนือสุดบนแท่นประธานการชุมนุม เด็กหนุ่มผู้นี้อายุยังไม่ถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำ เพียงเขานั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนั้นกลับชวนให้คนลุ่มหลงมัวเมาอย่างที่สุด เพียงได้เห็นแค่ไกลๆ ก็ยังปิดความกร้าวแกร่งทรงพลังแห่งบุรุษเพศไว้ไม่มิด
ทั้งหล่อเหลาคมคาย เรือนกายสง่างาม ผิวขาวราวแท่งหยก เรียกได้ว่ารูปงามยากพานพบ องอาจผ่าเผยเปี่ยมเสน่ห์สมบูรณ์แบบ ทว่าภายใต้ความงามทรงเสน่ห์นั้นทุกคนมอบสามวาจาให้เขา
เย็นชาสูงศักดิ์ เย่อหยิ่งทะนงตน และเข้าถึงยาก
เขาคือชินอ๋องซื่อจื่อแห่งผิงโจว
แต่ท่วงท่าสูงส่งเย็นชาและเย่อหยิ่งทะนงตนยากเข้าถึงนั้น หาได้มีสตรีใดนำพาไม่ พวกนางพากันมองเขาด้วยดวงตาหวั่นไหว เนื้อตัวสั่นระริก ตื่นเต้นไม่หยุด
สตรีทั้งหลายต่างก็อยากรู้เสียจริงว่าภายใต้ความเย็นชานั้น กล้ามแน่นๆ จะร้อนระอุปานใด ยามอยู่บนเตียงจะร้อนแรงแค่ไหน เพราะเพียงมองจากระยะสายตาไกลๆ พวกนางต่างก็รู้สึกได้ถึงรัศมีแห่งความเร่าร้อนแผ่ซ่านออกมาจากกายแกร่งปานนั้น คนย่อมมีจินตนาการบรรเจิดเพริดแพร้วอย่างควบคุมมิได้
เขาคือบุรุษที่มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามเกินขีดจำกัดโดยแท้ แค่นั่งเฉยๆ ยังทำสตรีรุ่มร้อนปานนี้...หากได้อยู่ใกล้ สูดกลิ่นกาย คงต้านทานความยั่วยวนไม่ไหวเป็นแน่
เหล่าสตรีทั้งหลายใกล้หลอมละลายเต็มที
ทุกคนต่างมีความคิดพร่างพราวตรงกันโดยมิได้นัดหมาย และพยายามทำตัวเองให้งดงามโดดเด่นที่สุดในสายตาเขา
ท่ามกลางสตรีเหล่านี้ที่พยายามเปิดเผยตัวตนให้โดดเด่นหมายเข้าไปอยู่ในสายตาชินอ๋องซื่อจื่อ มีเพียงสตรีนางเดียวที่พยายามหลบแล้วหลบอีก แต่หลบไม่ทัน
นางจึงทำได้แค่ปรับสีหน้าแล้วมองเขาด้วยดวงตาเรียบเฉย เหมือนไม่เคยรู้สึกอันใดต่อกันเลย แต่กลับเป็นเขาที่มองลงมา
เนิ่นนานที่มองนางด้วยสองตาคมกริบแต่นุ่มลึกสั่นไหว
เมื่อสบตา หวงลี่ฟางพลันนึกถึงค่ำคืนอันเปลี่ยวเหงา
นางจุดตะเกียงรอเขาทั้งราตรี แต่เขากลับอยู่ที่ห้องหนังสือกับสตรีอื่น ตื่นเช้ามาก็ออกไปด้วยกัน ทิ้งนางไว้กับกระต่ายตัวหนึ่งที่อยู่ในกรงคล้ายตอกย้ำตนเองที่ถูกขัง อีกครั้งก็คือตอนที่เขาพาสาวงามคนใหม่เข้าคฤหาสน์ แล้วพากันค้างแรมในเรือนปีกซ้าย
ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่นางเลี้ยงกระต่ายขาวอย่างเดียวดาย เขากลับเดินเคียงสตรีข้างกายที่สูงส่งเทียมกันอย่างหวานชื่น
หากท่านมีใครอื่นในใจ โปรดจำไว้ว่าสติปัญญาข้ามิใช่มีไว้เพื่อแย่งชิงท่าน
หลังจากที่นางตื่นจากฝันเฟื่องอันยาวนาน การจองจำหัวใจพลันบังเกิด เป็นนางที่จองจำเขา คนที่เผลอใจรักมิใช่นาง
แต่เป็นเขา จ้าวฉีเสวียน
สองตาสบประสาน ทั้งนางและเขาต่างไม่มีใครหลบเลี่ยง นางชิงชังเหินห่าง แต่เขาปักใจใฝ่หา ปรารถนาชิดใกล้เฉกวันวาน
บุรุษหนุ่มเริ่มหน้าบึ้ง แววตาฉายประกายดุดันข่มขวัญ มองจากหอคอยยังน่าเกรงขามปานนั้น เดิมที่เย็นชาดุจเกล็ดน้ำแข็งกลับทวีความร้อนแรงยิ่งกว่าเปลวเพลิงบรรลัยกัลป์
เตือนตนแล้วว่าอย่าผูกพัน พอต้องจากกันมันเจ็บ!
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ไม่อ้างอิงประวัติศาสตร์ชาติใด
ทุกตัวละครไม่มีอยู่จริง
ทุกตัวอักษรเกิดจากจินตนาการทั้งหมด
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ขอให้ทุกท่านมีความสุขและสนุกกับจินตนาการ
ด้วยรัก
หลี่หง
ผีเสื้อมนตรามิอาจสู้ปรารถนาเพียงนาง