ร่างสูงยังไม่ตอบและยังคงขับรถไปอีกพักนึงก่อนจะหันมาตอบฉันพร้อมกับสีหน้านิ่งเรียบ
“เอาเบอร์มา”
“เบอร์?”
“เบอร์เธอไง”
“จะเอาเบอร์ฉันไปทำอะไร!”
“ขอก็ให้มาเถอะ” อะไรกัน คนหน้าตาดีที่มีทุกอย่างเพรียบพร้อมอย่างเขามีแต่พวกสาวๆ อยากจะเข้าหาไม่ขาดมือ แต่เขากลับมาขอเบอร์คนอย่างฉันเนี่ยนะ เป็นไปได้เหรอ?
“ฉันไม่สะดวกให้ พี่ขออย่างอื่นจะดีกว่า” ในเมื่อปฏิเสธไปตรงๆ ไม่ได้ ฉันจึงยื่นข้อเสนออื่นให้ร่างสูงแทน แต่เขากลับเหลือบมามองฉันด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา ก่อนจะมองท้องถนนเบื้องหน้าต่อ
“ถ้าไม่ให้ ก็เตรียมตอบคำถามไอ้ฌินณ์ได้เลย” เขาเริ่มออกปากขู่ฉันอีกครั้ง
เห็นมั้ยว่าเขามันร้ายขนาดไหน
“ก็ได้ ยอมละ” แล้วมีทางอื่นให้ฉันเลือกมั้ยล่ะ ถ้าฉันไม่ทำตามคำขอของพี่เกียร์แล้วเรื่องที่ฉันแอบมาสนามแข่งไปถึงหูพี่ฌินณ์เข้า ฉันได้งานเข้าของจริงแหง
“พูดง่ายแบบนี้ก็ดี”
ฟึ่บ!
พี่เกียร์โยนมือถือใส่บนตักฉันเป็นการบังคับให้ฉันกดเบอร์ตัวเองให้เขาไป ลมหายใจถูกพ่นออกมาเฮือกใหญ่ ฉันไม่น่าพลาดมาเจอเขาเลย เป็นคนอื่นยังดีซะกว่า ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่พี่เกียร์เขามักจะชอบเข้ามาหาเรื่องฉันอยู่ตลอด แม้นานๆ เราจะได้คุยกันสักทีนึงก็ตาม เซ้นส์ฉันมันบอก
แล้วเพราะเหตุผลนี้ ฉันถึงไม่อยากเจอเขาบ่อยนัก
nightclub
[บันทึกพิเศษ : เกียร์]
สายตาคมจรดจ้องไปยังหน้าจอมือถือที่ตอนนี้ปรากฏรูปภาพของหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานที่แสนทรงเสน่ห์ เธอคนนั้นคือ…ชิงชิง ผู้หญิงคนแรกที่ผมรู้สึกถูกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ แต่โชคกลับไม่เข้าข้างผม เพราะชิงชิงดันเป็นน้องสาวสุดหวงของไอ้ฌินณ์ เพื่อนสนิทของผมเอง
ไอ้ฌินณ์มันโคตรจะหวงน้องสาว แถมยังตั้งกฏบ้าๆ ขึ้นมาอีกว่าห้ามเพื่อนในกลุ่มไปยุ่งกับน้องมันเด็ดขาด แล้วถ้าผมยังฝืนที่จะเดินหน้าจีบชิงชิงต่อ ผมกับไอ้ฌินณ์คงต้องมีปัญหากันแน่ เพราะแบบนั้นผมถึงเลือกที่จะอยู่เฉยๆ ทั้งที่ใจจริงอยากจะเข้าหาชิงชิงใจจะขาด
เธอทั้งสวย ทั้งน่ารัก เป็นผู้หญิงที่ดูยังไงก็ไม่น่าเบื่อ
“อะไรกัน อยู่กับมะนาวยังเปิดรูปคนอื่นดูอีกเหรอคะ” ผู้หญิงที่นั่งเบียดอยู่ข้างกายว่าพร้อมกับทำหน้างอนๆ ผมเก็บมือถือก่อนจะยกแก้วเตกิล่าขึ้นมาจิบ
“ถามอะไรหน่อยสิมะนาว”
“ว่ามาสิคะ ถ้าเป็นเกียร์ถามได้ทุกอย่างเลยค่ะ” มือเล็กค่อยๆ เลื้อยขึ้นมาหยุดที่บริเวรอกแกร่งพลางลูบไล้ไปมาช้าๆ ซึ่งผมก็ปล่อยให้เธอการกระทำของเธอดำเนินต่อไปอย่างไม่คิดจะขัด
“ถ้าอยากจะเข้าหาผู้หญิงหยิ่งๆ ต้องทำยังไง” ใช่ว่าผมไม่รู้คำตอบ แต่มุมมองของผู้ชายกับผู้หญิงมักต่างกัน ผมก็แค่อยากฟังคำตอบในแง่มุมของผู้หญิงบ้าง
“อืม…ผู้หญิงหยิ่งๆ จะเข้าหายากกว่าผู้หญิงประเภทอื่นนะคะ แต่เมื่อไหร่ที่เขาได้เปิดใจให้คุณแล้ว คุณจะกลายเป็นข้อยกเว้นของเขาทันที”
“…..”
“ผู้หญิงแบบนั้นมักมีกำแพงที่สูงมากๆ ถ้าอยากจะเอาชนะใจ ต้องแสดงความจริงใจเพื่อซื้อใจเธอค่ะ”
ทำดีเพื่อซื้อใจงั้นเหรอ…
“มานั่งหลบอยู่นี่เองมึง โทรหาก็ไม่รับ” ไอ้เหล็กมันเดินมาถึงที่โต๊ะก็แขวะผมทันที ก่อนมันจะเดินมานั่งตรงข้าม
“ไอ้สิงห์ล่ะ?”
“เดี๋ยวมา”
“เออ”
“ไอ้เจ้าของคลับมันไปไหน ทิ้งให้แขกนั่งเหงาเฉย”
“ดูบัญชี เดี๋ยวก็ลงมา”
“ว่าแต่เห็นคนที่สนามบอกว่าวันนี้น้องสาวไอ้ฌินณ์ไปที่นามแข่งเหรอวะ?”
“มึงรู้ได้ไง” ผมอุตส่าห์กำชับทุกคนแล้วนะว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร เดี๋ยวไอ้ฌินณ์มันก็มาแดกหัวผมอีก ไอ้นี่ยิ่งกัดไม่ปล่อยอยู่
“เรื่องนั้นช่างแม่ง แล้วมึงไปส่งน้องเขาเหรอวะ”
“เออ”
“ชิงชิงยิ่งโตก็ยิ่งสวยว่ะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องเพื่อนนะ กูไม่ปล่อยไว้แน่!”
“เชี่ยเหล็ก! พูดถึงเขาดีๆ เดี๋ยวไอ้ฌินณ์ได้ยินก็ยุ่ง”
ผมไม่ได้กลัวไอ้ฌินณ์ได้ยิน แต่ไม่ชอบที่ไอ้เหล็กมันพูดถึงชิงชิงในแง่นั้น ทั้งที่คนอย่างผมไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย แต่กับเธอมันรู้สึกต่างออกไป
จะเรียกว่าสนใจก็คงไม่ผิด!
และถ้าคนอย่างผมสนใจอะไรขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ผมก็จะต้องเอามาครอบครองเป็นของผมให้ได้!! โดยเฉพาะของที่ได้มายากๆ อย่างชิงชิง!
ถึงแม้จะต้องใช้วิธีเลวร้ายสักแค่ไหนผมก็ไม่เกี่ยง ขอแค่ให้ได้สิ่งที่ต้องการผมพอใจหมด ใครจะมองว่าผมสันดานเลวก็ช่าง เพราะสำหรับผมแค่คำว่า‘สารเลว’ยังถือว่าน้อยไป
[จบบันทึก]
มหาลัยเอกชน
“มอนิ่งครับน้องชิงชิง มาแต่เช้าเลยนะเรา”
“ค่ะ” ฉันละสายตาจากรุ่นพี่ที่เดินผ่านมา ก่อนจะหันมาสนใจกระดาษตรงหน้า คงมาเช้าไปจริงๆ ลูกพีชกับซีอิ๊วยังไม่โผล่มาเลย โทรหาก็ไม่มีรับสายสักคน
แล้วนี่ฉันก็ยังไม่ได้เคลียร์เรื่องเมื่อวานกับพวกมันเลยที่ทำฉันเกือบแย่ แถมยังต้องให้เบอร์พี่เกียร์ไปอีก ไม่รู้เขาคิดจะทำอะไรกันแน่
“หวัดดี”
เสียงทักที่ดังมาจากด้านหลังปลุกให้ฉันตื่นจากภวังค์ และเมื่อฉันเบื่อนหน้าไปมองเจ้าของเสียงแหลมก็พบว่ามีผู้หญิงยืนเรียงกันอยู่ถึงถามคนด้วยกัน และดูเหมือนว่าทุกคนจะเป็นรุ่นพี่ฉันกันหมด แถมพวกเขาไม่ใช่เด็กคณะนี้ด้วย
“คะ?” ฉันหมุนคิ้วเข้าหากันอย่างงงๆ ฉันแน่ใจว่าไม่รู้จักพวกเธอมาก่อน และหนึ่งในนั้นก็ก้าวขาเข้ามายืนตรงหน้าฉันพลางกอดอกแน่น
สายตาที่มองมาดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
“ชื่อชิงชิงใช่มั้ย?” สาวเจ้าเอ่ยถามพร้อมกับจ้องหน้าฉันเขม็ง ทำไมรู้สึกเหมือนกำลังโดนหาเรื่องเลยนะ
“ใช่ พวกพี่มีอะไร” ฉันตรงเข้าประเด็นทันที ตามนิสัยที่ไม่ชอบอ้อมค้อม ทำให้รุ่นพี่คนที่ยืนประจันหน้าฉันอยู่แค่นหัวเราะออกมาเบาๆ
“คนในรูปคือเธอใช่รึเปล่า” หล่อนถามหลังจากที่โชว์รูปภาพบนหน้าจอมือถือมาให้ฉันดู และสิ่งที่ฉันเห็นก็คือ...รูปฉันกับพี่เกียร์ตอนที่เขากำลังลากฉันออกมาจากสนามแข่งเมื่อวาน!
มีคนแอบถ่ายไว้งั้นเหรอ แบบนี้พี่ชายฉันจะเห็นมั้ย
“อย่าเงียบ ฉันถามก็ตอบมา!!” ยัยนั่นเริ่มขึ้นเสียง ฉันจึงพยักหน้ารับแบบไม่ลังเล
“ใช่ ฉันเอง”
“ยอมรับตรงๆ ก็ดี งั้นก็จำใส่สมองไว้ด้วยว่าพี่เกียร์เขาเป็นของฉัน”
“แล้วมาบอกฉันทำไม”
“บอกเพื่อให้เธอเลิกยุ่งกับเขาไง เด็กแบบเธอพี่เกียร์ไม่สนใจหรอก เข้าใจมั้ย?”
“อืม พูดจบรึยัง” ฉันถามทั้งที่สายตายังคงจับจ้องไปที่กระดาษชีทบนมืออย่างไม่คิดจะใส่ใจร่างบางตรงหน้า แต่ทว่ามือเล็กกลับดึงกระดาษออกไปจากมือฉัน แล้วก็โยนมันทิ้งต่อหน้าต่อตาฉัน!!!
“อีนี่!! อย่ามากวนกูนะ”
“แค่ผู้ชายคนเดียว ถึงขั้นต้องทำอะไรต่ำๆ ขนาดนี้เลยเหรอ” ฉันสวนกลับไปด้วยใบหน้าราบเรียบ ทั้งที่เพิ่งโดนถ้อยคำหยาบคายพ่นใส่หน้ามาเต็มๆ ถามว่าโกรธมั้ย? ฉันรู้สมเพชมากกว่า
“จับมันไว้!! ฉันจะสั่งสอนมันให้รู้จักว่าใครเป็นใคร”
สิ้นเสียงนั้นรุ่นพี่อีกสองคนก็ปรี่เข้ามาล็อคแขนฉันอย่างรวดเร็วโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว พวกเธอกระชากแขนให้ลุกขึ้นยืน
เพี๊ยะ!
“เป็นไง ยังจะปากดีอีกมั้ย” ใบหน้าของฉันหันไปตามแรงตบที่ปะทะเข้ามาบนแก้มซ้ายอย่างเต็มแรง!!!!
“….” ไม่คำตอบใดๆ หลุดออกมาจากปาก ฉันกดตามองหน้าสวยนิ่ง ความรู้สึกชาวาบแล่นเข้ามาเล่นงานแก้มข้างที่ถูกตบในทันที เจ็บชะมัด!
“มองหน้าเหรอ?”
“พอเหอะ ฉันไม่อยากมีเรื่อง”
“อะไรนะ ฮ่ะๆ นี่ฉันหูฝาดไปรึเปล่า อย่างแกเนี่ยนะจะมีปัญญาทำอะไรพวกฉัน”
“งั้นก็ช่วยไม่ได้”
จบประโยคนั้นฉันก็ออกแรงเหวี่ยงยัยรุ่นพี่ที่จับแขนฉันไว้จนพวกเธอเสียหลักล้มไปทั้งคู่ จากนั้นก็ไม่รอช้า ฉันใช้กงเล็บแหลมๆ หยุมไปที่เส้นผมสีทองของยัยนั่นก่อนที่จะกำหมัดและทุบเข้าไปที่ใบหน้าของเธอด้วยแรงทั้งหมดที่มี
เสียงกรีดร้องเพราะความเจ็บปวดดังระงมไปทั่วบริเวณ ส่งผลให้นักศึกษาที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงกับหยุดมองกันด้วยความแตกตื่น
“กรี๊ดดดดด!!! อีบ้า แกต่อยฉันเหรอนังเด็กเวร!”
“ด่าอีกคำ ซิลิโคนบนจมูกเธอได้เบี้ยวแน่!!” นี่ไม่ใช่คำขู่ เพราะฉันพูดจริงทำจริงเสมอ คนแบบนี้มันต้องเจอของจริงถึงจะหลาบจำ! ไม่ใช่ดีแต่เล่นพรรคเล่นพวก ทำตัวกร่างรังแกรุ่นน้องไปวันๆ
“กรี๊ดดดด!!! พวกแกมาจับมันเร็วสิ!” ยัยผมทองหันไปสั่งเพื่อนเธอทั้งสองคนที่ยื่นเก้ๆกังๆอยู่ แต่เมื่อพวกนั้นทำท่าจะเข้ามาล็อคตัวฉัน ฉันจึงตวัดนิ้วขึ้นมาชี้หน้าพวกเธอด้วยแววตาเอาจริงจนพวกนั้นชะงักไป
“อยากเจ็บตัวก็เข้ามา!”