บทที่ 2 หมาหมู่

1709 คำ
ร่างสูงยังไม่ตอบและยังคงขับรถไปอีกพักนึงก่อนจะหันมาตอบฉันพร้อมกับสีหน้านิ่งเรียบ “เอาเบอร์มา” “เบอร์?” “เบอร์เธอไง” “จะเอาเบอร์ฉันไปทำอะไร!” “ขอก็ให้มาเถอะ” อะไรกัน คนหน้าตาดีที่มีทุกอย่างเพรียบพร้อมอย่างเขามีแต่พวกสาวๆ อยากจะเข้าหาไม่ขาดมือ แต่เขากลับมาขอเบอร์คนอย่างฉันเนี่ยนะ เป็นไปได้เหรอ? “ฉันไม่สะดวกให้ พี่ขออย่างอื่นจะดีกว่า” ในเมื่อปฏิเสธไปตรงๆ ไม่ได้ ฉันจึงยื่นข้อเสนออื่นให้ร่างสูงแทน แต่เขากลับเหลือบมามองฉันด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา ก่อนจะมองท้องถนนเบื้องหน้าต่อ “ถ้าไม่ให้ ก็เตรียมตอบคำถามไอ้ฌินณ์ได้เลย” เขาเริ่มออกปากขู่ฉันอีกครั้ง เห็นมั้ยว่าเขามันร้ายขนาดไหน “ก็ได้ ยอมละ” แล้วมีทางอื่นให้ฉันเลือกมั้ยล่ะ ถ้าฉันไม่ทำตามคำขอของพี่เกียร์แล้วเรื่องที่ฉันแอบมาสนามแข่งไปถึงหูพี่ฌินณ์เข้า ฉันได้งานเข้าของจริงแหง “พูดง่ายแบบนี้ก็ดี” ฟึ่บ! พี่เกียร์โยนมือถือใส่บนตักฉันเป็นการบังคับให้ฉันกดเบอร์ตัวเองให้เขาไป ลมหายใจถูกพ่นออกมาเฮือกใหญ่ ฉันไม่น่าพลาดมาเจอเขาเลย เป็นคนอื่นยังดีซะกว่า ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่พี่เกียร์เขามักจะชอบเข้ามาหาเรื่องฉันอยู่ตลอด แม้นานๆ เราจะได้คุยกันสักทีนึงก็ตาม เซ้นส์ฉันมันบอก แล้วเพราะเหตุผลนี้ ฉันถึงไม่อยากเจอเขาบ่อยนัก nightclub [บันทึกพิเศษ : เกียร์] สายตาคมจรดจ้องไปยังหน้าจอมือถือที่ตอนนี้ปรากฏรูปภาพของหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานที่แสนทรงเสน่ห์ เธอคนนั้นคือ…ชิงชิง ผู้หญิงคนแรกที่ผมรู้สึกถูกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ แต่โชคกลับไม่เข้าข้างผม เพราะชิงชิงดันเป็นน้องสาวสุดหวงของไอ้ฌินณ์ เพื่อนสนิทของผมเอง ไอ้ฌินณ์มันโคตรจะหวงน้องสาว แถมยังตั้งกฏบ้าๆ ขึ้นมาอีกว่าห้ามเพื่อนในกลุ่มไปยุ่งกับน้องมันเด็ดขาด แล้วถ้าผมยังฝืนที่จะเดินหน้าจีบชิงชิงต่อ ผมกับไอ้ฌินณ์คงต้องมีปัญหากันแน่ เพราะแบบนั้นผมถึงเลือกที่จะอยู่เฉยๆ ทั้งที่ใจจริงอยากจะเข้าหาชิงชิงใจจะขาด เธอทั้งสวย ทั้งน่ารัก เป็นผู้หญิงที่ดูยังไงก็ไม่น่าเบื่อ “อะไรกัน อยู่กับมะนาวยังเปิดรูปคนอื่นดูอีกเหรอคะ” ผู้หญิงที่นั่งเบียดอยู่ข้างกายว่าพร้อมกับทำหน้างอนๆ ผมเก็บมือถือก่อนจะยกแก้วเตกิล่าขึ้นมาจิบ “ถามอะไรหน่อยสิมะนาว” “ว่ามาสิคะ ถ้าเป็นเกียร์ถามได้ทุกอย่างเลยค่ะ” มือเล็กค่อยๆ เลื้อยขึ้นมาหยุดที่บริเวรอกแกร่งพลางลูบไล้ไปมาช้าๆ ซึ่งผมก็ปล่อยให้เธอการกระทำของเธอดำเนินต่อไปอย่างไม่คิดจะขัด “ถ้าอยากจะเข้าหาผู้หญิงหยิ่งๆ ต้องทำยังไง” ใช่ว่าผมไม่รู้คำตอบ แต่มุมมองของผู้ชายกับผู้หญิงมักต่างกัน ผมก็แค่อยากฟังคำตอบในแง่มุมของผู้หญิงบ้าง “อืม…ผู้หญิงหยิ่งๆ จะเข้าหายากกว่าผู้หญิงประเภทอื่นนะคะ แต่เมื่อไหร่ที่เขาได้เปิดใจให้คุณแล้ว คุณจะกลายเป็นข้อยกเว้นของเขาทันที” “…..” “ผู้หญิงแบบนั้นมักมีกำแพงที่สูงมากๆ ถ้าอยากจะเอาชนะใจ ต้องแสดงความจริงใจเพื่อซื้อใจเธอค่ะ” ทำดีเพื่อซื้อใจงั้นเหรอ… “มานั่งหลบอยู่นี่เองมึง โทรหาก็ไม่รับ” ไอ้เหล็กมันเดินมาถึงที่โต๊ะก็แขวะผมทันที ก่อนมันจะเดินมานั่งตรงข้าม “ไอ้สิงห์ล่ะ?” “เดี๋ยวมา” “เออ” “ไอ้เจ้าของคลับมันไปไหน ทิ้งให้แขกนั่งเหงาเฉย” “ดูบัญชี เดี๋ยวก็ลงมา” “ว่าแต่เห็นคนที่สนามบอกว่าวันนี้น้องสาวไอ้ฌินณ์ไปที่นามแข่งเหรอวะ?” “มึงรู้ได้ไง” ผมอุตส่าห์กำชับทุกคนแล้วนะว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร เดี๋ยวไอ้ฌินณ์มันก็มาแดกหัวผมอีก ไอ้นี่ยิ่งกัดไม่ปล่อยอยู่ “เรื่องนั้นช่างแม่ง แล้วมึงไปส่งน้องเขาเหรอวะ” “เออ” “ชิงชิงยิ่งโตก็ยิ่งสวยว่ะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องเพื่อนนะ กูไม่ปล่อยไว้แน่!” “เชี่ยเหล็ก! พูดถึงเขาดีๆ เดี๋ยวไอ้ฌินณ์ได้ยินก็ยุ่ง” ผมไม่ได้กลัวไอ้ฌินณ์ได้ยิน แต่ไม่ชอบที่ไอ้เหล็กมันพูดถึงชิงชิงในแง่นั้น ทั้งที่คนอย่างผมไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย แต่กับเธอมันรู้สึกต่างออกไป จะเรียกว่าสนใจก็คงไม่ผิด! และถ้าคนอย่างผมสนใจอะไรขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ผมก็จะต้องเอามาครอบครองเป็นของผมให้ได้!! โดยเฉพาะของที่ได้มายากๆ อย่างชิงชิง! ถึงแม้จะต้องใช้วิธีเลวร้ายสักแค่ไหนผมก็ไม่เกี่ยง ขอแค่ให้ได้สิ่งที่ต้องการผมพอใจหมด ใครจะมองว่าผมสันดานเลวก็ช่าง เพราะสำหรับผมแค่คำว่า‘สารเลว’ยังถือว่าน้อยไป [จบบันทึก] มหาลัยเอกชน “มอนิ่งครับน้องชิงชิง มาแต่เช้าเลยนะเรา” “ค่ะ” ฉันละสายตาจากรุ่นพี่ที่เดินผ่านมา ก่อนจะหันมาสนใจกระดาษตรงหน้า คงมาเช้าไปจริงๆ ลูกพีชกับซีอิ๊วยังไม่โผล่มาเลย โทรหาก็ไม่มีรับสายสักคน แล้วนี่ฉันก็ยังไม่ได้เคลียร์เรื่องเมื่อวานกับพวกมันเลยที่ทำฉันเกือบแย่ แถมยังต้องให้เบอร์พี่เกียร์ไปอีก ไม่รู้เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ “หวัดดี” เสียงทักที่ดังมาจากด้านหลังปลุกให้ฉันตื่นจากภวังค์ และเมื่อฉันเบื่อนหน้าไปมองเจ้าของเสียงแหลมก็พบว่ามีผู้หญิงยืนเรียงกันอยู่ถึงถามคนด้วยกัน และดูเหมือนว่าทุกคนจะเป็นรุ่นพี่ฉันกันหมด แถมพวกเขาไม่ใช่เด็กคณะนี้ด้วย “คะ?” ฉันหมุนคิ้วเข้าหากันอย่างงงๆ ฉันแน่ใจว่าไม่รู้จักพวกเธอมาก่อน และหนึ่งในนั้นก็ก้าวขาเข้ามายืนตรงหน้าฉันพลางกอดอกแน่น สายตาที่มองมาดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย “ชื่อชิงชิงใช่มั้ย?” สาวเจ้าเอ่ยถามพร้อมกับจ้องหน้าฉันเขม็ง ทำไมรู้สึกเหมือนกำลังโดนหาเรื่องเลยนะ “ใช่ พวกพี่มีอะไร” ฉันตรงเข้าประเด็นทันที ตามนิสัยที่ไม่ชอบอ้อมค้อม ทำให้รุ่นพี่คนที่ยืนประจันหน้าฉันอยู่แค่นหัวเราะออกมาเบาๆ “คนในรูปคือเธอใช่รึเปล่า” หล่อนถามหลังจากที่โชว์รูปภาพบนหน้าจอมือถือมาให้ฉันดู และสิ่งที่ฉันเห็นก็คือ...รูปฉันกับพี่เกียร์ตอนที่เขากำลังลากฉันออกมาจากสนามแข่งเมื่อวาน! มีคนแอบถ่ายไว้งั้นเหรอ แบบนี้พี่ชายฉันจะเห็นมั้ย “อย่าเงียบ ฉันถามก็ตอบมา!!” ยัยนั่นเริ่มขึ้นเสียง ฉันจึงพยักหน้ารับแบบไม่ลังเล “ใช่ ฉันเอง” “ยอมรับตรงๆ ก็ดี งั้นก็จำใส่สมองไว้ด้วยว่าพี่เกียร์เขาเป็นของฉัน” “แล้วมาบอกฉันทำไม” “บอกเพื่อให้เธอเลิกยุ่งกับเขาไง เด็กแบบเธอพี่เกียร์ไม่สนใจหรอก เข้าใจมั้ย?” “อืม พูดจบรึยัง” ฉันถามทั้งที่สายตายังคงจับจ้องไปที่กระดาษชีทบนมืออย่างไม่คิดจะใส่ใจร่างบางตรงหน้า แต่ทว่ามือเล็กกลับดึงกระดาษออกไปจากมือฉัน แล้วก็โยนมันทิ้งต่อหน้าต่อตาฉัน!!! “อีนี่!! อย่ามากวนกูนะ” “แค่ผู้ชายคนเดียว ถึงขั้นต้องทำอะไรต่ำๆ ขนาดนี้เลยเหรอ” ฉันสวนกลับไปด้วยใบหน้าราบเรียบ ทั้งที่เพิ่งโดนถ้อยคำหยาบคายพ่นใส่หน้ามาเต็มๆ ถามว่าโกรธมั้ย? ฉันรู้สมเพชมากกว่า “จับมันไว้!! ฉันจะสั่งสอนมันให้รู้จักว่าใครเป็นใคร” สิ้นเสียงนั้นรุ่นพี่อีกสองคนก็ปรี่เข้ามาล็อคแขนฉันอย่างรวดเร็วโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว พวกเธอกระชากแขนให้ลุกขึ้นยืน เพี๊ยะ! “เป็นไง ยังจะปากดีอีกมั้ย” ใบหน้าของฉันหันไปตามแรงตบที่ปะทะเข้ามาบนแก้มซ้ายอย่างเต็มแรง!!!! “….” ไม่คำตอบใดๆ หลุดออกมาจากปาก ฉันกดตามองหน้าสวยนิ่ง ความรู้สึกชาวาบแล่นเข้ามาเล่นงานแก้มข้างที่ถูกตบในทันที เจ็บชะมัด! “มองหน้าเหรอ?” “พอเหอะ ฉันไม่อยากมีเรื่อง” “อะไรนะ ฮ่ะๆ นี่ฉันหูฝาดไปรึเปล่า อย่างแกเนี่ยนะจะมีปัญญาทำอะไรพวกฉัน” “งั้นก็ช่วยไม่ได้” จบประโยคนั้นฉันก็ออกแรงเหวี่ยงยัยรุ่นพี่ที่จับแขนฉันไว้จนพวกเธอเสียหลักล้มไปทั้งคู่ จากนั้นก็ไม่รอช้า ฉันใช้กงเล็บแหลมๆ หยุมไปที่เส้นผมสีทองของยัยนั่นก่อนที่จะกำหมัดและทุบเข้าไปที่ใบหน้าของเธอด้วยแรงทั้งหมดที่มี เสียงกรีดร้องเพราะความเจ็บปวดดังระงมไปทั่วบริเวณ ส่งผลให้นักศึกษาที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงกับหยุดมองกันด้วยความแตกตื่น “กรี๊ดดดดด!!! อีบ้า แกต่อยฉันเหรอนังเด็กเวร!” “ด่าอีกคำ ซิลิโคนบนจมูกเธอได้เบี้ยวแน่!!” นี่ไม่ใช่คำขู่ เพราะฉันพูดจริงทำจริงเสมอ คนแบบนี้มันต้องเจอของจริงถึงจะหลาบจำ! ไม่ใช่ดีแต่เล่นพรรคเล่นพวก ทำตัวกร่างรังแกรุ่นน้องไปวันๆ “กรี๊ดดดด!!! พวกแกมาจับมันเร็วสิ!” ยัยผมทองหันไปสั่งเพื่อนเธอทั้งสองคนที่ยื่นเก้ๆกังๆอยู่ แต่เมื่อพวกนั้นทำท่าจะเข้ามาล็อคตัวฉัน ฉันจึงตวัดนิ้วขึ้นมาชี้หน้าพวกเธอด้วยแววตาเอาจริงจนพวกนั้นชะงักไป “อยากเจ็บตัวก็เข้ามา!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม