บทที่ 5 คนที่ไม่ควรเผลอใจ

1553 คำ
บทที่ 5 คนที่ไม่ควรเผลอใจ ฟู่ววว! ฟู่วววว! ฉันนั่งไดร์ผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งพลันหัวสมองก็ดันไปนึกถึงเหตุการณ์ที่สระว่ายน้ำมาซะอย่างงั้น บ้าจริง! ตั้งแต่ขึ้นมาจากสระฉันยังเอาเรื่องนี้ออกจากหัวไม่ได้เลย ทำไมคนอย่างเขาต้องมาทำดีกับฉันด้วยนะ? แอด… เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจทำให้ฉันหันไปมองพร้อมกับร่างสูงของพี่ฌินณ์ที่ย่างเท้าเข้ามาในห้อง “คุยงานเสร็จแล้วเหรอ” “อืม แล้วนี่เห็นไอ้เกียร์บ้างรึเปล่า มันบอกพี่ว่ามาถึงแล้วแต่หายหัวไปไหนก็ไม่รู้” เมื่อพี่ชายฉันเอ่ยถึงชื่อเขาคนนั้น มือที่กำลังถือไดร์เป่าผมอยู่กลับชะงักลง ให้ตาย! ภาพในสระลอยเข้าหัวมาอีกแล้ว “….” “เงียบทำไม ไม่ได้ยินที่พี่ถามเหรอ?” “อ่อ น้องยังไม่เห็นเขาเลย” ว่าจบฉันก็ไดร์ผมตัวเองต่อ แน่นอนว่าฉันเลือกที่จะไม่บอกความจริงว่าฉันได้เจอเพื่อนพี่ฌินณ์แล้ว เพราะนั่นอาจจะทำให้พี่ชายฉันสงสัยขึ้นมา แม้ว่าระหว่างฉันกับพี่เกียร์จะไม่มีอะไรกันก็ตาม แต่อย่าให้พี่ฉันรู้เรื่องพวกนี้เลยจะปลอดภัยที่สุด “หายไปไหนของมัน” “แล้วเพื่อนคนอื่นของพี่ไม่มาเหรอ” ฉันเปลี่ยนเรื่องไปอย่างงั้น เพราะไม่อยากได้ยินชื่อคนคนนั้นบ่อยๆ “มาสิ เดี๋ยวคงตามกันมา” “อืม ขอไปเดินชายหาดนะ” “แถวนั้นมีแต่ผู้ชาย งั้นพี่ไปด้วย” “ตามใจ” ว่าจบพี่ฌินณ์ก็เดินกลับห้องของตัวเองไป สงสัยน่าจะไปเปลี่ยนชุด ฉันถอนหายใจทิ้งพรืดใหญ่พลางสะบัดหัวเบาๆ เพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากสมอง ไม่ควรคิดเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลยชิงชิง ล็อบบี้ “อย่าเดินเร็วนักสิชิงชิง รอพี่ด้วย” “ไม่ต้องเดินตัวติดกันมากก็ได้” “ไม่ได้! ดูน้องแต่งตัวสิ อีกนิดจะเป็นบิกีนี่แล้วนะ!” “นี่มาทะเลนะพี่ ไม่ได้เข้าวัด” ฉันหันไปว่าพี่ชายก่อนที่จะจ้ำอ้าวออกมาจากหน้าล็อบบี้โรงแรม ซึ่งร่างสูงก็กำลังเดินแกมวิ่งตามหลังฉันมาติดๆ แต่ฉันไม่ใส่ใจตั้งหน้าเดินต่อจนกระทั่งเกือบจะไปชนเข้ากับร่างสูงที่เดินสวนมาตรงหน้าประตูโรงแรม “ขอโทษด้วย…” เสียงของฉันหายเข้าไปในลำคอโดยอัตโนมัติ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบว่าคนที่ฉันเกือบจะชนเขาคือพี่เกียร์!! “เป็นไรรึเปล่า” “เปล่า โทษที” ฉันก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วเป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างบางของหญิงสาวคนนึงเดินมาหยุดที่ข้างกายเขา “เป็นอะไรรึเปล่าเกียร์?” เสียงเล็กเอ่ยถามชายหนุ่มพร้อมกับลูบแขนพี่เกียร์เบาๆ ฉันที่ยืนมองภาพนั้นอยู่จึงเสมองไปทางอื่น “ไม่ครับ” “กว่าจะโผล่มานะมึง หวัดดีเอยมาด้วยเหรอ?” พี่ฌินณ์เดินมาหยุดข้างฉันและทักทายเพื่อนเขา ก่อนจะหันไปทักผู้หญิงคนนั้นอย่างเป็นกันเอง ซึ่งฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อนเลย “หวัดดีฌินณ์ มาถึงกันนานแล้วเหรอ” “ถึงตั้งแต่บ่ายแล้ว ว่าแต่เอยเถอะ ไอ้เกียร์มันลากมาเหรอ?” พี่ฌินณ์มองหน้าเพื่อนซี้เป็นเชิงแซว แต่ร่างสูงก็เอาแต่ตีหน้านิ่งไม่พูดไม่จา “เปล่าสักหน่อย เอยเห็นว่าเกียร์จะมาทำงานที่ภูเก็ตก็เลยอยากขอตามมาเที่ยวด้วยคนน่ะ” รอยยิ้มหวานบนหน้าสวยถูกส่งออกมาอย่างเป็นมิตร เธอสวย สวยมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนสูงที่สมส่วน หรือหุ่นที่กำลังพอดี ผิวขาวอ่อร่าจับราวกับพวกเซเลบดัง ปากกระจับสีชมพูระเรื่อ ดวงตาเฉี่ยวคมตามประสาคนสวยแบบคมๆ พูดง่ายๆ ก็คือผู้หญิงคนนี้เธอเพอร์เฟคทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้า!!! “ตามมันมาทำงานไม่เบื่อรึไง” “ไม่หรอก แล้วนี่สาวที่ไหนสวยเชียว” ตาเฉี่ยวเหลือบมามองฉันพร้อมรอยยิ้มบางๆ ฉันเลยต้องยิ้มตอบตามมารยาท “นี่ชิงชิง น้องสาวน่ะ” “หวัดดีจ้ะชิงชิง” “หวัดดีค่ะ” “แหม น้องสาวสวยแบบนี้นี่เอง ถึงว่าเกียร์ชอบบ่นให้ฟังว่าฌินณ์หวงนักหวงหนา” จบประโยคนั้นทั้งฉันและพี่เกียร์ต่างก็สบตากันโดยบังเอิญ ก่อนที่จะต่างคนต่างมองไปทางอื่น “น้องคนเดียวก็ต้องหวงสิ” “จ้ะ แล้วกำลังจะไปไหนกันเหรอ” “ไปหาด มึงก็พาเอยไปเดินเล่นด้วยกันสิไอ้เกียร์” “เดี๋ยวดูก่อน” เสียงทุ้มว่าสั้นๆ ดูเขาจะไม่ค่อยสบอารมณ์สักไหร่ เพราะเอาแต่ตีหน้านิ่ง ไม่พูดสักคำ “พาเอยไปนะเกียร์ เอยอยากถ่ายรูปข้างชายหาดด้วย” “ก็แล้วแต่เอย” นัยน์ตาคมเคลื่อนมาสบตาฉันอีกครั้งแล้วเขาก็เดินนำออกไป ทิ้งให้ผู้หญิงคนนี้ยืนงงอยู่คนเดียว “ไปก่อนนะฌินณ์ รอเอยด้วยสิเกียร์” ร่างเล็กรีบตามคนตัวโตไปก่อนที่ทั้งสองคนจะหายเข้าไปในลิฟต์ สายตาของฉันเผลอหันไปมองแบบไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าทำไมต้องสนใจพวกเขาด้วย “มองอะไร?” แต่แล้วเสียงพี่ฌินณ์ก็เรียกสติของฉันให้กลับมา ฉันจึงส่ายหน้าปฏิเสธเขาไป “เปล่า พวกเขาเหมาะกันดีนะ” “เอิงเอยกับไอ้เกียร์เหรอ?” “อื้ม” “เหมาะดี แต่เอาไอ้เกียร์ไม่อยู่หรอก” “คบกันนานรึยัง” “ไม่ได้คบ เอิงเอยเป็นลูกสาวเพื่อนแม่มัน ผู้ใหญ่อยากให้คบกัน แต่ไอ้บ้านั่นมันเคยคบใครที่ไหน” ไม่น่าแปลกใจเลยสักนิด ก็เพื่อนพี่ฌินณ์มีแต่พวกวายร้ายตัวพ่อ แต่ละคนฉันกล้าพูดเลยว่าทั้งชั่วทั้งเลวกันแบบสุดกู่ แม้แต่พี่ชายฉันก็ไม่เว้น พวกเขาถนัดทำแต่เรื่องที่คนดีๆ เขาไม่ทำกัน ชั่วช้า สามานย์ ขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิงกันทั้งนั้น!!! “เพื่อนพี่ร้ายคนทุกคนเลยสิ” “แหงสิ พี่ถึงบอกให้น้องอยู่ห่างๆ พวกมันไง พี่รู้ว่าเพื่อนพี่เป็นคนยังไง แล้วพี่ก็ไม่อยากให้เราต้องมาเจอผู้ชายแย่ๆเข้าใจรึเปล่า” “เข้าใจแล้ว” นับตั้งแต่นี้ไปฉันคงต้องอยู่ให้ห่างจากตัวอันตรายอย่างเขาแล้วสินะ เกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมามันจะได้ไม่คุ้มเสีย ชายหาด เท้าฉันเดินมาหยุดอยู่ที่ริมหาดก่อนจะยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพวิวริมทะเลไว้พร้อมกับรอบยิ้มบาง ทะเลที่นี่สวยมากจริงๆ ทั้งสวย ทั้งบรรยากาศดี ถ้าได้มากับคนรักคงโรแมนติกน่าดู “พอรึยัง ไม่ร้อนเหรอ” พี่ฌินณ์เดินหน้ามุ่ยเข้ามาถาม ใบหน้าหล่อมีแต่เหงื่อผุดขึ้นมาจนฉันรู้สึกสงสารเลยที่พาพี่ชายมาลำบาก “ถ้าร้อนก็เข้าโรงแรมไปก่อนสิ” “แล้วน้องล่ะ?” “ขอเดินอีกแป๊บ เดี๋ยวค่อยกลับ” “แน่ใจนะว่าแป๊บเดียว!” “อือ พี่ไปก่อนเถอะ” “ก็ได้ รีบตามมาด้วย แล้วอย่าไปคุยกับคนแปลกหน้าล่ะ” “ไม่คุยอยู่แล้ว” เมื่อออกคำสั่งจบคนตัวโตก็รีบเดินเข้าโรงแรมไป คุณชายเจ้าสำอางชะมัด โดนแดดแค่นิดหน่อยก็ทนไม่ได้ ฉันละสายตาจากแผ่นหลังหนาและหันมาสนใจวิวด้านหน้าต่อ เท้าเล็กค่อยๆ เดินกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณที่ปลอดคน “ทำไมมายืนคนเดียว” น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาข้างหู และเมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นเขาจริงๆ “….” “ไม่ตอบ?” “ฉันอยากอยู่คนเดียว” ว่าจบฉันก็เบือนหน้าหนีแล้วมองไปยังพื้นผิวทะเลเบื้องหน้าแทน น้ำทะเลสีฟ้าครามดูสดใจสบายตาสุดๆ ผิดกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ที่มองทีไรก็รู้สึกไม่สบายใจทุกที “เหมือนเธอกำลังหงุดหงิด” “เปล่านี่!” เมื่อยังโดนตื้อไม่เลิกฉันจึงเลือกที่จะเดินหนี แต่คนหน้าด้านก็ไม่วายที่จะเดินตามมาเรียกฉันอีก “ชิงชิง” “อะไรของพี่ จะตามมาทำไม” “ก็อยากอยู่ใกล้ๆ” ขาที่กำลังก้าวอยู่ชะงักลงแทบจะในทันทีที่เขาพูดจบ อีกแล้ว พูดแบบนี้อีกแล้ว… “พี่ต้องการอะไร ทำไมต้องทำแบบนี้กับฉัน” “….” ร่างสูงสบตากับฉันนิ่งราวกับว่าอยากจะสื่อสารบางอย่างผ่านทางสายตา แล้วมันคืออะไรล่ะ? เป็นเรื่องยากถ้าจะให้ฉันเดาใจคนแบบเขา บางครั้งก็เหมือนจะอ่านง่าย แต่บางครั้งก็ไม่รู้เลยว่าภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งซ่อนความรู้สึกอะไรไว้กันแน่ “เกียร์คะ อยู่นี่เองเอยหาตั้งนาน” เราสองคนละสายตาจากกันอย่างรวดเร็วเมื่อมีบุคคลที่สามพูดแทรกขึ้น เอิงเอยเดินมายืนอยู่ข้างร่างสูงก่อนจะหันมามองฉันด้วยสีหน้างงๆ “ทำไมมาอยู่กันตรงนี้?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม