บทที่ 10 แผนร้าย
“ขอโทษนะแกที่ทำให้ลำบากไปด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอก เขาต้องชนะ” ฉันมองตรงไปยังรถหรูทั้งสองคันที่ตอนนี้ถูกจอดเทียบข้างกันอยู่ที่หน้าจุดสตาร์ท เสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มบวกกับเสียงเชียร์ข้างริมสนามทำให้ฉันอดที่จะลุ้นตามไปด้วยไม่ได้
ถ้าพี่เกียร์เอาชนะหมอนั่นไม่ได้มีหวังฉันต้องแย่แน่ๆ
“ใช่ คงเอาชนะได้ไม่ยากอยู่แล้ว” ซีอิ๊วตอบมา
“ทำไมเหรอ”
“ก็เขาแข่งเก่งจะตาย ตั้งแต่ลงสนามมาฉันยังไม่เคยเห็นเขาแพ้ใครเลย”
“แบบนี้ก็หมดห่วง”
“แต่ไอ้บ้านั่นมันก็ขี้โกงใช่ย่อยเลยล่ะ ถ้าชนะตรงๆ ไม่ได้ มันก็คงเล่นสกปรก!!”
“อ่าว แก”
“ก็ต้องรอดู”
ฉันหันกลับมาสนใจรถสองคันในสนามต่อหลังฟังซีอิ๊วว่าจบ รอเพียงไม่นานเมื่อพริตตี้สาวส่งสัญญาณผ่านธงรูปตารางรถทั้งสองคันต่างก็พุ่งทะยานออกตัวไปในเวลาแทบจะไล่เลี่ยกัน!
“กรี๊ดดดดดดดด!!”
“พี่เกียร์สู้เขาค่าาาา~”
สาวๆ ที่ทำหน้าที่เป็นกองเชียร์แข่งกันส่งเสียงเชียร์ให้คนในสนามเสียงดังหนาหูไปหมด ฉันยืนดูการแข่งขันตรงหน้าอย่างลุ้นระทึกแทบจะทุกวินาที ขอล่ะ ช่วยชนะทีเถอะพี่เกียร์!
“ไม่ต้องกังวลไป ยังไงฉันก็จะไม่ปล่อยให้แกลำบากคนเดียวแน่ชิงชิง” ซีอิ๊วว่าพลางวางมือลงมาแตะที่บ่าฉันเชิงปลอบใจ ฉันจึงส่งยิ้มบางๆ ให้เพื่อน
“ขอบใจนะ”
“แต่แกแน่ใจนะ ว่าถ้าพี่เกียร์ชนะแกจะไปกับเขาจริงๆ น่ะ” ประโยคนั้นทำให้ฉันเริ่มฉุกคิดขึ้นมาได้ จริงด้วย เขาเองก็อันตรายไม่ต่างจากคนอื่นเลยนี่ ไปกับคนอย่างเขาฉันจะปลอดภัยรึเปล่าก็ไม่รู้?
“ไม่รู้สิ”
“ลืมไปพี่แกโหดจะตาย คงไม่มีใครกล้าทำอะไรแกหรอกเนอะ” ยกเว้นคนอย่างพี่เกียร์ เขาเคยแคร์คนอื่นที่ไหน กับพี่ชายฉันก็เห็นท่าจะยาก!!
“แอร้ยยยยย~”
เสียงกรี๊ดของคนข้างสนามดังสนั่นขึ้นมาอีกระลอก ฉันจึงรีบเบนหน้าไปมองการแข่งขันในสนามอีกครั้งตอนนี้รถทั้งสองคันวิ่งได้สูสีกันพอสมควร ถ้าดูด้วยตาเปล่าแทบไม่รู้เลยว่าคันไหนมีสิทธิ์ชนะมากกว่ากัน
ตอนนี้เหลือระยะในการแข่งอีกแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น แต่พวกเขายังเอาแต่เร่งเครื่องมุ่งหน้าสู่เส้นชัยอย่างไม่มีใครยอมใคร
และเมื่อโค้งสุดท้ายใกล้เข้ามาถึงทุกสายตาต่างก็ยิ่งออกเสียงเชียร์ดังขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดรถของโจทย์ยัยซีอิ๊วก็เป็นฝ่ายขึ้นมานำจังหวะเลี้ยวโค้งสุดท้าย ใจฉันเริ่มสั่นเพราะเห็นแววไม่ค่อยดี แต่อีกใจก็ยังเชื่อว่าพี่เกียร์คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ คนที่ชอบการเอาชนะอย่างเขา ต้องทำมันได้แน่
ระยะเส้นชัยใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ แต่รถของพี่เกียร์ก็ยังคงเป็นรองรถของอีกฝั่งอยู่ค่อนข้างมาก บอกตามตรงตอนนี้ฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าใครจะชนะใครกันแน่
“จังหวะนี่แหละ”
ซีอิ๊วว่าจบพี่เกียร์ก็เร่งเครื่องพุ่งทะยานจนขึ้นมาแซงได้ในวินาทีที่เรียกได้ว่าฉิวเฉียดสุดๆ ก่อนที่เขาเป็นฝ่ายวิ่งเข้าเส้นชัยคว้าชัยชนะมาครองได้สำเร็จ!!!
สุดท้ายก็ทำได้จริงๆ สินะ
“เฮ้!!!!!”
เสียงโห่เชียร์ดีใจดังขึ้นอย่างระงมเมื่อคนที่เข้าเส้นชัยคือคนที่หลายๆ คนคาดการกันไว้ และฉันเองก็แอบโล่งใจไปด้วยอีกคนที่อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปกับคนพวกนั้น แต่กลับต้องมาเจอเสือร้ายอย่างพี่เกียร์แทน มันจะต่างกันมั้ยนะ!?
“เขาชนะแล้วล่ะแก เตรียมตัวไว้เลย” ซีอิ๊วกระซิบบอกในขณะที่คนที่ถูกกล่าวถึงกำลังก้าวขายาวๆ เดินตรงดิ่งมาทางที่เราสองคนยืนกันอยู่
“ซีอิ๊ว!”
“มีอะไรก็รีบโทรหาฉันเลยนะ เข้าใจมั้ย”
“อื้ม” ฉันตอบเพื่อนสาวจบก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาเดินมาหยุดตรงหน้าพวกเราพอดี พี่เกียร์ถือวิสาสะคว้าหมับเข้ามาที่ข้อมือฉัน ก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตามเขาไปท่ามกลางสายตาคนทั้งสนาม!!!
“แกนั่นใครน่ะ?”
“ไม่รู้สิ หน้าตายังเด็กอยู่เลย”
“เออใช่ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยอ่ะ”
“ปกติป่ะ พี่เกียร์เขาก็เปลี่ยนสาวไปเรื่อยแหละ”
“จริงจ้า!”
เสียงซุบซิบจากผู้คนที่อยู่ข้างสนามดังเข้าโสตประสาทฉันจนฉันต้องรีบสะบัดแขนเพื่อให้เขาปล่อย ไม่ชอบตกเป็นขี้ปากใครเลยให้ตาย! ต่อให้ฉันจะสะบัดแขนแรงแค่ไหนแต่ก็เปล่าประโยชน์ เพราะพี่เกียร์จับมือฉันไว้แน่นมากๆ
“ปล่อย! คนมองใหญ่แล้ว”
“ช่างหัวมันสิ” เสียงเข้มเอ่ยอย่างไม่ยี่หระพร้อมกับลากฉันจนมาถึงรถ เขาถึงจะยอมปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ
“ขึ้นรถ”
ฉันจ้องใบหน้าหล่อก่อนที่จะยอมขึ้นรถไปแต่โดยดี ถือว่าครั้งนี้ฉันทำเพื่อเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเขาอุตส่าห์มาช่วยซีอิ๊วกับฉันไว้ ฉันก็จะตอบแทนด้วยการไปกับเขาแบบไม่ขัดขืน!!
“จะพาไปไหน?” ฉันถามห้วนๆ เมื่อร่างสูงออกรถมาจากสนามแข่งได้สักพักหนึ่งแล้ว บอกตามตรงว่าฉันไม่ไว้ใจเขาเลยสักนิด
“เดี๋ยวก็รู้”
ร้านอาหาร
กลิ่นอาหารที่ถูกนำมาเสิร์ฟวางอยู่ตรงหน้าหลากหลายเมนูลอยคุ้งขึ้นมาเตะปลายจมูกฉันอย่างเต็มๆ ส่งผลให้กระเพาะน้อยๆ เรียกน้ำย่อยออกมาได้เป็นอย่างดี
“กินสิ ร้านนี้อร่อยนะ” พี่เกียร์ว่าพร้อมกับตักอาหารมาใส่จานให้ทั้งที่ฉันไม่ได้ขอ มีมุมนี้ด้วยเหรอเนี่ย
“พี่พาฉันมาทานข้าวเหรอ”
“ใช่! เธอคิดว่าฉันจะพาเธอไปไหน”
“เปล่า”
“กินเถอะ เดี๋ยวก็เย็นหมด”
“อะ อืม” ถึงจะไม่ไว้ใจแต่ฉันก็ยอมกินอาหารที่เขาสั่งมาจนแทบจะหมดเกลี้ยง และใช่อย่างที่เขาบอกจริงๆ ร้านนี้อาหารอร่อยแทบทุกอย่าง
แต่ที่น่าแปลกก็คือคนที่พามากินกลับไม่ค่อยแตะอาหารบนโต๊ะเลย พี่เกียร์เอาแต่จ้องฉันกินอยู่นานสองนาน ฉันเผลอเมื่อไหร่ก็เป็นต้องมองเมื่อนั้น ฉันก็อายเป็นนะ!
หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จสรรพเรียบร้อยพี่เกียร์ก็พาฉันมาส่งที่บ้านโดยที่ไม่ได้พาออกนอกลู่นอกทางเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าทึ้งมากสำหรับวายร้ายอย่างเขาที่จะทำเรื่องดีๆ โดยไม่หวังผลตอบแทนแบบวันนี้
ทันทีที่พอร์ชคันหรูขับเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน ฉันก็ปลดสายเข็มขัดก่อนที่จะหันไปขอบคุณร่างสูงอีกครั้ง
“ยังไงก็ ขอบคุณนะที่วันนี้มาช่วยไว้”
“ครับ” เสียงเข้มตอบจบก็ยิ้มบางๆ ส่งมาให้ฉัน ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะยิ้มเป็นด้วย
“ขับรถกลับดีๆ แล้วกัน ฉันต้องไปแล้ว” มือเล็กที่กำลังจะเอื้อมไปเปิดประตูกลับถูกมือหนารั้งไว้ ฉันชะงักและหันไปมองหน้าหล่ออย่างงงๆ
“ฝันดีนะ…ชิงชิง” ทันทีที่เขาพูดจบปลายจมูกคมๆ ก็พุ่งเข้ามาฝังลงที่พวงแก้มฉันโดยไม่ทันได้ตั้งตัวมาก่อน
พี่เกียร์หอมฉัน!!!!
ตาสวยเบิกกว้างเพราะอาการตื่นตะลึงปนอาย ฉันถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ มือไม้รู้สึกเย็นเฉียบราวกับคนจับไข้ ลมหายใจอุ่นๆ รดมาที่ต้นคอทำให้อัตราการเต้นหัวใจของฉันเร็วขึ้นไม่เป็นจังหวะ!!!
“พี่เกียร์!”
“ค่าน้ำมันรถ”
“ฮึ่ย!” ฉันได้แต่ขมวดคิ้วไม่พอใจแล้วจากนั้นก็รีบลงมาจากรถและไม่ลืมที่จะปิดประตูแรงๆ กระแทกใส่หน้าคนด้านในโชคดีที่วันนี้พี่ฌินณ์ไม่อยู่ไปทำธุระที่ต่างจังหวัดฉันเลยรอดต้วไป
ฉวยโอกาสที่สุด!!
[บันทึกพิเศษ : เกียร์]
ครืดด ครืดดด!
มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับพร้อมด้วยสีหน้าพึ่งพอใจ
“เออ ว่าไง”
[เป็นไงบ้าง เรียบร้อยดีมั้ย?]
“ก็ดีว่ะ”
[ฉันทำตามแผนของแกแล้ว อย่าลืมเรื่องที่รับปากด้วยล่ะ]
“โอเค หนี้ที่ติดในบ่อนทั้งหมดกูยกให้”
[ขอบคุณที่รักษาคำพูด ว่าแต่…ไม่ลงทุนมากไปหน่อยเหรอ?]
“แค่นี้ถือว่าน้อยไปถ้าเทียบกับความไว้ใจที่กูได้” ผมว่าจบก็โยนมือถือไปยังเบาะข้างๆ อย่างไม่ใส่ใจ สายตาคมตวัดมองไปยังบ้านหลังใหญ่ที่ร่างเล็กเพิ่งเดินเข้าไป พร้อมกับรอยยิ้มที่กระตุกขึ้นอย่างมีแผนการ
และใช่! เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นหนึ่งในแผนการของผมเอง ผมรู้ว่าวันนี้ไอ้ฌินณ์มันไปดูงานที่ต่างหวัด แมวไม่อยู่แถมยังทิ้งปลาย่างแสนอร่อยไว้อีกต่างหาก มีหรือที่ผมจะปล่อยโอกาสทำคะแนนให้หลุดมือไป!