พรึบ! เปลือกตาเปิดขึ้นมาอีกครั้งครั้นคิดได้ว่าแฝดคนพี่บางทีอาจจะมีวิธีนำน้องสาวหวนคืนกลับมาได้
“หลินเอ๋อ!”เว่ยอี้เรียกบุตรสาว
ใบหน้างามของเว่ยหลินหลางหันกลับไปมองหน้าผู้เป็นพ่อทันทีเมื่อได้ยินชื่อของนาง
“ข้ารู้ว่าท่านพ่อต้องการอะไร มุกคืนชีพจากหอดวงดาวจะใช้ได้กับคนที่ยังไม่หมดอายุขัยเท่านั้นจึงจะสามารถหวนกลับมามีชีวิตอยู่ต่อได้ตามอายุขัยที่แท้จริง แต่สำหรับหลิงเอ๋อนางหมดอายุขัยแล้วท่านพ่อ”เว่ยหลินหลางบอกผู้เป็นพ่อกลับไป
และนั่นทำให้ร่างสันทัดที่นั่งฟังอย่างมีความหวังต้องทิ้งตัวลงอย่างอ่อนแรงเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“โธ่! หลิงเอ๋อลูกพ่อ”เว่ยอี้คร่ำครวญหาบุตรสาวฝาแฝดด้วยความเสียใจยิ่งนักพร้อมเสียงของแฝดคนพี่ดังขึ้น
“แต่ข้าจะไม่ยอมให้หลิงเอ๋อต้องสิ้นชีพไปอย่างไร้ค่าเช่นนี้ท่านพ่อ ตระกูลเว่ยจะต้องปลอดภัยจากฮองเฮาผู้นั้นข้าให้สัญญา”เว่ยหลินหลางบอกผู้เป็นพ่อกลับไป
หากแต่เว่ยอี้กลับส่ายหน้าไปมาเป็นสัญญาณปฏิเสธเมื่อได้ยินบุตรสาวฝาแฝดกล่าวเช่นนั้น
“พ่อไม่อยากสูญเสียอีกแล้วหลินเอ๋อ หวังฮองเฮายากนักที่ผู้ใดจะต่อกรได้ อำนาจของสกุลหวังล้นฟ้า บารมีมากมายเหลือล้นเพราะถือตราบัญชาทัพอีกครึ่งของแผ่นดินเอาไว้ พ่อไม่อยากกลายเป็นคนผมขาวเผาคนผมดำอีก”เว่ยอี้กล่าวด้วยความเป็นห่วง
“ขอท่านพ่อวางใจทุกอย่างต้องมีทางออกเสมอเจ้าค่ะ ข้าลงจากเขาครั้งนี้ก็เป็นไปตามที่สวรรค์ลิขิต ถ้าหลิงเอ๋อไม่จบชีวิตมีหรือที่ข้าจะก้าวออกมาจากหอดวงดาวใหท่านพ่อต้องเป็นกังวลและข้าจะไม่ให้ฮองเฮาผู้นั้นสมดั่งใจ”เว่ยหลินหลางบอกบิดา
เว่ยอี้หันกลับไปมองแฝดคนพี่ทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น
“เจ้าจะทำอะไรหลินหลาง”คนเป็นพ่อถามกลับไปเสียงเบา
“วิธีที่จะลดอำนาจของสกุลหวังลงไปได้นั่นก็คือ ตราบัญชาทัพต้องเปลี่ยนผู้ถือครอง นอกจากจะทำให้สกุลหวังของฮองเฮาหมดอำนาจลงแล้ว สกุลที่ถือครองตราบัญชาทัพจะได้รับเอกสิทธิ์การคุ้มครองจากกองทัพและสามารถใช้กองกำลังทหารไปในทางที่ถูกที่ควรกว่านี้ ไม่ใช่ฉกฉวยเอาแต่ประโยชน์เข้าหาพวกพ้องดั่งเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เช่นนั้นแล้วข้าจะสวมรอยเข้าไปเป็นพระชายารัชทายาทแทนหลิงเอ๋อเพื่อถือครองตราบัญชาทัพนี้สืบต่อไปเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ!”เว่ยอี้อุทานออกมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น
ใบหน้าของผู้เป็นพ่อส่ายไปมาติดต่อกันบ่งบอกถึงความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างยิ่งยวด
“ไม่ได้นะ! หากเจ้าสวมรอยแทนหลิงเอ๋อ หวังฮองเฮาไม่มีทางที่จะละเว้นเจ้าแน่ พ่อไม่อยากเห็นการตายของเจ้าสองคนพี่น้องเกิดขึ้นอีก..ไม่อยากเห็น!”เว่ยอี้บอกลูกสาวอย่างห่วงใย
เว่ยหลินหลางได้ยินเสียงสั่นเครือของบิดากล่าวออกมาเช่นนั้น ร่างอรชรแน่งน้อยเดินออกจากหน้าเตียงนอนของน้องสาวฝาแฝดตรงไปหาบิดาพร้อมทรุดกายลงนั่งคุกเข่ากับพื้นก่อนจะโผเข้าสวมกอดร่างชราที่นั่งใบหน้าอมทุกข์อยู่ตรงหน้านาง
“ข้าเข้าใจที่ท่านพ่อเป็นกังวลเช่นนั้น แต่ถ้าพวกเราไม่ทำตระกูลเว่ยก็จะต้องพบกับจุดจบเช่นกัน ไม่มีใครเหลือรอดแม้แต่ชีวิตเดียว”นางบอกบิดากลับไปตามตรง
ควับ! เว่ยอี้หันกลับไปมองใบหน้าแสนสวยของฝาแฝดคนพี่ทันใดเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เจ้าหยั่งรู้ล่วงหน้าแล้วอย่างนั้นเหรอว่าตระกูลของเราจะมีจุดจบเช่นนั้น”เว่ยอี้ถามกลับไป
แทนการตอบรับเว่ยหลินหลางพยักหน้าขึ้นลงแทนคำตอบ และนั่นทำให้เว่ยอี้ถึงกับสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างแรงครั้นบุตรสาวยืนยันกลับมาเช่นนั้น นางหยั่งรู้เหตุการณ์เบื้องหน้าย่อมไม่มีผิดพลาดอย่างแน่นอน
“แต่การเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์เพื่อไม่ให้ตระกูลเว่ยพบกับจุดจบเช่นนั้น จะไม่ส่งผลต่อเจ้าอย่างนั้นเหรอหลินเอ๋อ”เว่ยอี้ถามกลับไปด้วยความเป็นห่วงบุตรสาว
และนั่นทำให้เว่ยหลินหลางนิ่งงันไปชั่วขณะเพราะหากจะกล่าวตามความเป็นจริงแล้ว นางหยั่งรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ใดบ้างก็จริง แต่นางยังไม่เคยให้คำแนะนำให้ผู้ใดเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ดังกล่าวแม้แต่น้อย
ใบหน้าแสนสวยที่จะงามล้ำกว่าน้องสาวฝาแฝดของนางคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ส่งกลับไปให้บิดา
“เรื่องนั้นท่านพ่อไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ไม่มีผลอะไรกับข้าอย่างแน่นอน”นางกล่าวคำเท็จออกไปเพื่อให้บิดาคลายความกังวลแต่ในความเป็นจริงแล้ว เว่ยหลินหลางก็ไม่อาจล่วงรู้เช่นกัน หากนางเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นผลที่นางจะได้รับตามมาจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง พร้อมเสียงของเว่ยอี้เอ่ยขึ้น
“หากไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง สกุลหวังก็จะกดขี่ผู้คนอยู่เช่นนี้เรื่อยไปและใช้อำนาจเข่นฆ่าชีวิตราวกับว่าไม่มีค่าเหมือนที่ทำกับหลิงเอ๋อ แม้พ่อจะหวั่นใจในความปลอดภัยของเจ้าก็ตาม แต่ในเมื่อเป็นลิขิตของสวรรค์ที่มอบหน้าที่ให้เจ้าเป็นตัวแทนในการทำลายบัลลังก์หงส์ของต้าโจว ฝืนไม่ทำรั้งจะเกิดผลเสียกับตระกูลของเรารวมไปถึงตัวเจ้าเองด้วยหากสวรรค์พิโรธ”เว่ยอี้กล่าวพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง
“เมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าจะทำเช่นไรต่อไปมีแผนหรือยัง”คนเป็นพ่อถามกลับไป
เว่ยหลินหลางส่ายหน้าไปมาเมื่อเว่ยอี้ถามกลับมาเช่นนั้น
“ข้ายังไม่มีแผนอะไรเลยท่านพ่อ ตอนนี้ทำได้แต่เพียงต้องประกาศออกไปว่าหลิงเอ๋อยังไม่ตาย หวังฮองเฮาสังหารหลิงเอ๋อเพื่อต้องการตราบัญชาทัพกลับคืน ดังนั้นจะต้องไม่ให้นางได้ในสิ่งที่หวัง และข้าจะเก็บตราบัญชาทัพเอาไว้เอง คาดว่าภายในวันนี้นางต้องส่งคนจากวังหลวงเพื่อริบตราบัญชาทัพกลับคืนอย่างแน่นอน และเตรียมการยกพระชายารองที่มาจากสกุลหวังขึ้นเป็นพระชายาเอกแทนหลิงเอ๋อ”นางบอกบิดาพร้อมหันหน้ากลับไปมองร่างไร้วิญญาณของแฝดน้อง
“แล้วร่างของหลิงเอ๋อจะทำอย่างไงหากเจ้าจะให้มีข่าวออกไปเช่นนั้น”เว่ยอี้ถามบุตรสาวกลับไป
เว่ยหลินหลางนั่งครุ่นคิดอยู่เพียงครู่ก่อนจะล้วงเข้าไปในอกเสื้อหยิบเอาหีบไม้ขนาดย่อมออกมาพร้อมเลื่อนออก เผยให้เห็นมุกขนาดหัวแม่นิ้วโป้งจำนวนสามเม็ดวางไว้อยู่ในหลุมที่เป็นฐานรองรับอยู่ในขณะนั้น สีขาวคือทำให้ชีวิตที่ยังไม่สิ้นอายุขัยหวนกลับคืนและจะอยู่ในร่างของคนผู้นั้นตลอดไปจนกว่าจะตายใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
มุกสีดำคือรักษาบาดแผลที่เกิดขึ้นให้เลือนหายไปราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวมไปถึงสามารถรักษาสภาพศพไม่ให้เน่าเปื่อยและอำพรางร่างไม่ให้ผู้ใดพบเห็นจนกว่าจะนำมุกดังกล่าวออกจากร่างนั้น
และมุกสีเงินสามารถหายใจในน้ำได้เหมือนปลา ไม่ว่าจะจมอยู่ในก้นแม่น้ำหรือก้นทะเลตราบใดที่อมมุกสีเงินไว้ในปากไม่มีวันจมน้ำตาย รวมไปถึงแก้พิษร้ายได้ทุกชนิดเพียงแค่อมไว้ในปากจนกว่าพิษจะเลือนหาย
ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสุดยอดของวิเศษที่เลื่องลือในตำนานแต่ไม่มีผู้ใดเคยพานพบมาก่อนด้วยเพราะถูกเก็บรักษาไว้อย่างเป็นความลับสุดยอด ซึ่งนางนำสิ่งมีค่าของแผ่นดินติดตัวมาด้วยเพียงแค่สองอย่างเท่านั้นคือมุกวิเศษและเทียนอธิษฐาน
ปลายนิ้วเรียวเลือกหยิบมุกสีดำที่วางอยู่ในฐานรองรับออกมาจากหีบพร้อมเอ่ยขึ้น
“มุกสีดำจะรักษาร่างของหลิงเอ๋อไม่ให้เน่าเปื่อยและอำพรางร่างให้ล่องหนไปจากสายตาของผู้คน ร่างของนางจะถูกเก็บรักษาไว้อยู่เช่นนี้ตลอดไปทันทีที่ข้าใส่มุกสีดำเข้าไปในปาก ขอท่านพ่อได้โปรดวางใจเมื่อทุกอย่างจบลงด้วยดีหลิงเอ๋อจะถูกนำไปฝังไว้ที่สุสานประจำตระกูลเว่ยต่อไป”
เว่ยอี้พยักหน้าขึ้นลงเมื่อได้ยินบุตรสาวอธิบายเช่นนั้น
“ถ้าเช่นนั้นก็รีบใส่มุกวิเศษให้น้องเถอะเดี๋ยวบ่าวไพร่จะเข้ามาเห็นเสียก่อน ภายในจวนของเรามีคนเฝ้าคอยเป็นหูเป็นตาแทนหวังฮองเฮารวมอยู่ด้วยในเวลานี้ เพราะถูกส่งมาช่วยจัดงานศพให้กับน้องสาวของเจ้า”
“เจ้าค่ะท่านพ่อ”เว่ยหลินหลางกล่าวพร้อมลุกขึ้นยืนถือมุกดำที่อยู่ในมือเดินกลับไปที่เตียงนอนของน้องสาวฝาแฝดอย่างรวดเร็วโดยมีร่างของเว่ยอี้เดินตามมาอย่างกระชั้นชิด
หมับ! ปลายนิ้วบีบปากของน้องสาวจนอ้าออกกว้าง พร้อมมุกสีดำเพื่อรักษาร่างไม่ให้เน่าเปื่อยถูกหย่อนลงไปในปากก่อนจะคลายมือออกพร้อมความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างทันตาเห็น
เมื่อร่างไร้วิญญาณค่อยๆ เลือนหายไปจากฟูกนอนตรงหน้าอย่างช้าๆ ทันทีที่หย่อนมุกสีดำเข้าไปในศพของนาง และเลือนหายไปในที่สุดต่อหน้าที่ของผู้เป็นพ่อและพี่สาวฝาแฝดของนาง
“หลิงเอ๋อลูกพ่อ!”เว่ยอี้เรียกบุตรสาวด้วยความรู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่งยวดก่อนจะรีบสลัดความเศร้าออกไปให้หมด
“ร่างของหลิงเอ๋อหายไปแล้วจริงๆ ด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเจ้าสองคนพี่น้องอยู่ด้วยกัน”
คำกล่าวของบิดาทำให้เว่ยหลินหลางพยักหน้าขึ้นลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่ยังไม่ทันจะกล่าวสิ่งใดเสียงดังเอ็ดอึงอยู่ทางด้านนอกก็แทรกขึ้นมาทันที
“หลีกไปให้พ้น! ชายาของข้าอยู่ที่ไหน! ข้าจะไปหานาง!!!”เสียงตะโกนกึกก้องของบุรุษดังจนมาถึงเรือนนอน
และนั่นทำให้ดวงตาดำใหญ่ของเว่ยอี้เบิกกว้างขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงของดังกล่าว
“รัชทายาทเสด็จมาถึงจวนเลยอย่างนั้นเหรอ”เว่ยอี้กล่าวพร้อมเดินตรงไปที่หน้าต่างพร้อมแง้มออกเล็กน้อย มองตรงไปด้านนอกเห็นทหารองครักษ์มากมายกำลังขวางรัชทายาทหนุ่มที่พยายามจะเสด็จเข้ามาภายในห้องเคารพศพ
“พ่อจะออกไปรับหน้าก่อน ส่วนเจ้าจะทำให้บ่าวไพร่ล่วงรู้ว่ามีชีวิตขึ้นมาช่วงไหนก็จัดการต่อเถิดเพราะอีกไม่นานก็จะต้องนำร่างไปไว้ในโลงจะเลือกช่วงดังกล่าวก็ได้”เว่ยอี้บอกบุตรสาวพลางหันกลับมามองหน้าเว่ยหลินหลางอีกครั้ง
“ในเมื่อตัดสินใจที่จะทำเช่นนี้แล้วก็ต้องไปต่อให้ถึงที่สุด แล้วพ่อจะช่วยเจ้าวางแผน ตอนนี้ต้องไปสกัดรัชทายาทให้เสด็จกลับไปก่อนเป็นการดีที่สุด หาไม่แล้วหวังฮองเฮาจะต้องลงมือทำอะไรอีกเป็นแน่ ตราบัญชาทัพวางอยู่บนโต๊ะตัวนั้น”เว่ยอี้กล่าวพร้อมชี้ไปที่ตู้สูงที่วางใกล้เตียงนอน ก่อนจะรีบเปิดประตูเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางสายตาของเว่ยหลินหลางมองตามร่างสันทัดของบิดาเดินจากไปจนลับสายตา ร่างอรชรหันหลังกลับเดินตรงไปที่ตู้สูงที่วางติดกับเตียงนอนก่อนจะเลื่อนบานไม้ไปอีกเผยหีบที่ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กบรรจุตราบัญชาทัพของแผ่นดิน
ก่อนจะเปิดหีบออกพบตราบัญชาทัพนอนนิ่งอยู่ภายในนั้นซึ่งเป็นเพียงแผ่นป้ายที่ทำจากหยกขาวเนื้อดี แกะสลักเป็นตราประทับหงส์เคียงคู่กับมังกรสัญลักษณ์ของราชวงศ์ต้าโจว
“เจ้าสิ่งนี้สินะที่เป็นสาเหตุทำให้น้องสาวฝาแฝดของข้าต้องจบชีวิตลง”เว่ยหลินหลางกล่าวพร้อมเก็บตราบัญชาทัพเอาไว้ภายในอกเสื้อของนางพร้อมปิดหีบเอาไว้ตามเดิม
เจ้าหอคนงามนำหีบเปล่าไปเก็บไว้ที่เดิมก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเสียงฝีเท้าจำนวนหลายคนดังขึ้นอยู่นอกห้องและดูเหมือนจะเข้าใกล้ห้องนอนเข้าไปทุกขณะ
เสียงของบ่าวรับใช้พร้อมกับแม่นมที่เลี้ยงเว่ยหลิงเหลียนมาตั้งแต่เกิดดังขึ้นอยู่นอกห้อง พวกนางกำลังตรงมาทางห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดที่สวยที่สุดและดีที่สุดให้แก่คุณหนูของพวกนาง
“คุณหนูของพวกเราคือพระชายาเอกขององค์รัชทายาท ดังนั้นสวมฉลองพระองค์เต็มยศในตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งจากฮ่องเต้ให้สมพระเกียรติเป็นครั้งสุดท้ายกันเถอะ รวมไปถึงเครื่องประดับเหล่านี้มีเท่าไรช่วยกันใส่ไปให้หมดนะพวกเรา คุณหนูจะยิ่งงดงามมากขึ้นไปอีก”แม่นมของหลิงเอ๋อกำชับบ่าวคนสนิททั้งสองนาง
คำพูดของบรรดาบ่าวที่อยู่ด้านนอกทำให้เว่ยหลินหลางเบิกตากว้างขึ้นมาทันที
“แย่แล้ว! ทำไมพวกนางมาจัดการศพหลิงเอ๋อเร็วถึงขนาดนี้เลยเหรอ”เว่ยหลินหลางบ่นพึมพำ
ตุบ! นางกระโดดลงไปนอนบนเตียงอย่างรวดเร็วพร้อมรีบคลี่ผ้าห่มคลุมร่างของตัวเองแสร้งทำทีเป็นนอนหลับ
แอดด!!! เสียงของบานประตูห้องถูกเปิดออกและร่างของแม่นมและบ่าวรับใช้ทั้งสองนางต่างก้าวเข้ามาภายในห้องนอนกันอย่างรวดเร็วพร้อมเสียงของแม่นมเอ่ยขึ้นทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้องนอนดังกล่าว
“พวกเจ้าสองคนรีบแยกย้ายกันค้นหาตราบัญชาทัพเร็วเข้า! สิ่งนี้ฮองเฮาทรงต้องการกลับคืนไปให้เร็วที่สุดถือโอกาสตอนนี้แหละที่พวกเรามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับพระชายาจะไม่มีผู้ใดสงสัยว่าพวกเราทั้งหมดเข้ามาทำอะไรในนี้”แม่นมของเว่ยหลิงเหลียนกำชับบอกบ่าวรับใช้ทั้งสองที่พากันยืนมองร่างของคุณหนูคนงามนอนอยู่บนเตียงตรงหน้า
“แม่นมพวกข้าสองคนไม่ทำได้ไหม! ข้ากลัวคุณหนูจะเสียใจที่เป็นบ่าวรับใช้คอยดูแลใกล้ชิดแท้ๆ แต่กลับไปช่วยฮองเฮาทำเช่นนี้”เสียงของหนึ่งในบ่าวรับใช้ดังแทรกขึ้นมา
ใบหน้าของแม่นมแปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“แล้วพวกเจ้าคิดว่าข้าอยากจะทำแบบนี้นักเหรอ หากไม่ทำตามรับสั่งของฮองเฮาข้าและพวกเจ้าสองคนก็ต้องถูกสังหารรวมไปถึงทั้งครอบครัวด้วย แม้จะฝืนใจแต่ก็ต้องฝืนทำหาไม่แล้วก็ต้องพบกับจุดจบไม่แตกต่างจากคุณหนูหรือว่าพวกเจ้าต้องการให้ลงเอยเป็นแบบนั้น”เสียงของแม่นมถามกลับไป
บ่าวรับใช้ทั้งสองนางรีบส่ายหน้าไปมาติดต่อกันทันที
“พวกข้าสองคนยังไม่อยากตายเจ้าค่ะแม่นม”ทั้งสองต่างพูดเสียงอ้อมแอ้ม
“ข้าก็ไม่อยากตายเช่นกัน ดังนั้นไม่ทำก็ไม่ได้เพื่อความอยู่รอดของทุกชีวิตอย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องฝืนใจทำ”แม่นมคนดังกล่าวบอกสองสาวใช้ที่พากันยืนก้มหน้ามองพื้นฟังนางอย่างตั้งใจอยู่ในขณะนั้น
“ถ้าเช่นนั้นก็อย่าชักช้าอยู่เลย กงกงของฮองเฮารออยู่รีบจัดการค้นหาโดยเร็ว”แม่นมกล่าวเตือนก่อนจะแยกย้ายกันลงมือค้นหาตราบัญชาทัพตามที่ได้รับคำสั่งมาอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเอง
“พวกเจ้าทำอะไร!”เสียงที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินกลับทำลายความเงียบขึ้นมาภายในห้องนอนดังกล่าวทันที