จวนราชครู
เสียงร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้าต่อการจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน ดังก้องระงมไปทั่วทั้งจวนราชครู ผ้าแดงมงคลที่เคยประดับเอาไว้ไปทั่วทุกพื้นที่ทั้งภายนอกและภายในของจวน บัดนี้ค่อยๆ ถูกปลดออกเปลี่ยนเป็นผ้าขาวแห่งการไว้ทุกข์และการจากลาอย่างไม่มีวันกลับของพระชายารัชทายาท
ภายในบริเวณเรือนทิศตะวันตกซึ่งเป็นสถานที่วางโลงศพของพระชายารัชทายาท ถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วพร้อมโลงศพอย่างดีอันเป็นสถานที่สุดท้ายเพื่อใช้เป็นที่พำนักไปชั่วนิจนิรันดร์ของพระชายากำลังเคลื่อนออกจากเรือนนอนส่วนตัว ภายหลังนำร่างอันไร้วิญญาณบรรจุลงในโลงดังกล่าว โดยมีร่างของราชครูเว่ยอี้เดินตามหลังโลงศพของบุตรีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยโศกเศร้าและหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด
ร่างสันทัดยืนเอามือไพล่หลังมองบรรดาบ่าวรับใช้กำลังช่วยกันขนโลงศพของพระชายาซึ่งทางวังหลวงพระราชทานมาให้หลังจากทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระชายารัชทายาท นำไปตั้งวางไว้กลางห้องของเรือนตะวันตก ซึ่งใช้เป็นสถานที่เคารพศพอย่างเป็นทางการ
งานมงคลกลับแปรเปลี่ยนเป็นงานศพไปอย่างคาดไม่ถึง หัวใจของคนเป็นพ่อเต็มไปด้วยความเศร้ามากล้นพันทวีเมื่อต้องมายืนมองโลงศพบุตรสาวคนสุดท้องต้องจบชีวิตลงด้วยเหตุผลเพียงแค่นางถูกเลือกให้เป็นพระชายารัชทายาทนั้นเอง
ท่ามกลางความเงียบงันที่แผ่ปกคลุมไปโดยรอบ ราชครูเว่ยอี้ยืนมองโลงศพบุตรสาวคนสุดท้องด้วยความเศร้าใจภายหลังเสร็จสิ้นการจัดเตรียมห้องทำพิธีเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากเงียบงันอยู่เป็นนานนับตั้งแต่บุตรีของเขาสิ้นชีวิตลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งหมอหลวงที่มาตรวจสภาพศพก่อนตายสรุปสาเหตุออกมาว่า นางสิ้นชีพในขณะกำลังหลับสนิทไม่มีผู้ใดทำให้ตายและไม่มีร่องรอยการถูกยาพิษแต่อย่างใด
“เหลียงเฉา!”ราชครูเรียกคนสนิท
“บ่าวอยู่ตรงนี้แล้วขอรับ”เหลียงเฉาบ่าวรับใช้คนสนิทของราชครูเว่ยอี้ตอบกลับไป
“อย่าให้ข่าวการตายของหลิงเอ๋อไปถึงหอดวงดาวเป็นอันขาด หากทางนั้นล่วงรู้ย่อมไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเสียใจแค่ไหนก็อย่าให้มาเป็นอันขาด”ราชครูเอ่ยถึงใครบางคนที่ถูกห้ามเข้าแผ่นดินแคว้นต้าโจว
“รับทราบขอรับ”บ่าวรับใช้นามว่าเหลียงเฉารับคำแข็งขัน
“เจ้าคอยดูแลบ่าวจัดเตรียมสถานที่ให้เรียบร้อย ข้าจะเข้าไปดูพระชายาเสียหน่อย”เว่ยอี้กล่าวเสียงเศร้าครั้นเอ่ยถึงลูกสาวฝาแฝดคนสวยของตนพลางก้าวเดินกลับไปที่เรือนนอนของเว่ยหลิงเหลียน ซึ่งร่างไร้วิญญาณยังไม่ได้นำออกจากเรือนนอนรอสถานที่จัดเตรียมให้เรียบร้อยเสียก่อน จึงจะนำนางไปไว้ในโลงที่ได้รับพระราชทานมา
ราชครูเว่ยอี้มีบุตรทั้งหมดห้าคน บุตรชายสามคนและบุตรีสองคน บุตรชายทั้งสามถวายตัวรับใช้ราชสำนักต้าโจวไปตามความสามารถของตัวเอง เป็นแม่ทัพอยู่ตามแนวชายแดนถึงสองคน อีกหนึ่งเป็นขุนนางฝ่ายสำนักการศึกษาเช่นเดียวกับบิดา มีบุตรีฝาแฝดนามว่าเว่ยหลินหลางและเว่ยหลิ่งเหลียน
เว่ยหลินหลางแฝดคนพี่ ครอบครองหอดวงดาวอยู่กลางหุบเขาลึกของแคว้นต้าฉี มีหน้าที่ดูแลตำราและศาสตร์โบราณมากมายรวมไปถึงเป็นหมอเทวดาที่สามารถรักษาคนได้หายจากอาการเจ็บป่วยได้ทุกโรค อีกทั้งดูตำแหน่งดวงดาวได้อย่างแม่นยำ
และเว่ยหลิงเหลียนแฝดน้อง ที่เพิ่งจากไปด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น น้องสาวฝาแฝดอันเป็นที่รักยิ่งของเว่ยหลินหลางซึ่งเติบโตมาด้วยกันที่หอชิงทาหรือผู้หอดวงดาวอันลี้ลับที่ไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นปรากฏอยู่แต่ในตำนานโบราณเท่านั้น
นางเพิ่งจะเดินทางมาจากสถานที่แห่งนั้นเข้าเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมคัดเลือกพระชายารัชทายาท ซึ่งเป็นไปตามพระราชโองการที่กำหนดให้ขุนนางในราชสำนักส่งบุตรีเข้าร่วมคัดเลือกพระชายารัชทายาทในครั้งนี้
สาเหตุที่เว่ยหลิงเหลียนแฝดน้องเข้าร่วมคัดเลือกพระชายาในครั้งนี้ แทนที่จะเป็นเว่ยหลินหลางแฝดคนพี่ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่จะต้องให้คนเป็นพี่ออกเรือนไปก่อน คนเป็นน้องจึงจะออกเรือนได้ตามหลัง
นั้นก็เพราะดวงชะตาและเวลาตกฟากของแฝดพี่สะเทือนบัลลังก์หงส์ของแคว้นต้าโจว ดวงชะตาแข็งกล้าและเป็นผู้ทำลายบัลลังก์ผู้เป็นใหญ่ของฝ่ายในอย่างย่อยยับจนสิ้นอำนาจไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีก
ในขณะที่ดวงชะตาของเว่ยหลิงเหลียนแฝดผู้น้องซึ่งเกิดห่างจากแฝดผู้พี่เพียงหนึ่งเค่อเท่านั้น กลับอยู่ในเกณฑ์ดวงชะตาปกติไม่สามารถทำลายบัลลังก์หงส์ได้ จึงทำให้รอดพ้นจากคำสั่งสั่งหารของเด็กหญิงที่เกิดและมีเวลาตกฟากทำลายบัลลังก์หงส์ของแคว้นต้าโจว ซึ่งครอบครองโดยสกุลหวังมาอย่างช้านานไม่เคยเปลี่ยนเป็นสกุลอื่น
ราชครูเว่ยอี้ผู้ได้ลูกฝาแฝดหญิงจำเป็นต้องปกปิดและแจ้งชื่อในทะเบียนเกิดเพียงให้มีชื่อและตัวตนจริงเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นโดยแจ้งชื่อแฝดน้องเว่ยหลิงเหลียน ส่วนเว่ยหลินหลางแฝดพี่กลายเป็นคนไม่มีตัวตนในแคว้นต้าโจว สตรีลึกลับที่ถูกซ่อนเร้นให้อยู่แต่ในเทือกเขาสูงไปตลอดกาล เพื่อรักษาชีวิตตระกูลเว่ยเอาไว้ทั้งหมด
นางถูกส่งออกจากเมืองหลวงให้ผู้คุมกฎหอดวงดาวเป็นผู้เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักหอดวงดาวทันทีที่เจ้าสำนักคนเดิมสิ้นชีพลง เว่ยหลินหลางจึงก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าสำนักหอดวงดาวในวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น
แต่แล้วด้วยพระราชโองการที่บังคับให้ขุนนางต้องส่งบุตรีเข้าทำการคัดเลือกพระชายารัชทายาท ซึ่งทำให้ราชครูเว่ยอี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และต้องจบลงอย่างน่าเศร้าเมื่อรัชทายาทแห่งต้าโจว ทรงเลือกเว่ยหลิงเหลียนเป็นพระชายาด้วยเพราะเข้าใจว่านางคือเว่ยหลินหลางแฝดพี่ที่พระองค์แอบหลงรัก
ในขณะที่ความดีใจของแฝดคนน้องมีเพียงแค่ชั่วระยะเวลาสามเดือนเท่านั้นหลังจากได้รับพระราชโองการแต่งตั้งให้นางเป็นพระชายารัชทายาทอย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่มีผู้ใดล่วงรู้เลยว่านางจะสิ้นชีพลงอย่างกะทันหันด้วยสาเหตุคือ สิ้นใจในขณะนอนหลับ
แอดดด!!! บานประตูห้องนอนของเว่ยหลิงเหลียนเปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมร่างของเว่ยอี้ก้าวเข้าไปในห้องดังกล่าว แต่แล้วร่างสันทัดกลับต้องยืนนิ่งงันไปทันที เมื่อเว่ยหลินหลางฝาแฝดคนพี่กลับมาปรากฏกายอยู่ในห้อง นางกำลังใช้มือลูบไล้ใบหน้าของนางสาวฝาแฝดไปมาด้วยความรักและอาลัยเป็นยิ่งนัก
หลินหลาง!!! เว่ยอี้เรียกชื่อบุตรสาวฝาแฝดคนโตพร้อมรีบปิดบานประตูที่เปิดค้างอยู่ในขณะนั้นอย่างรวดเร็ว
ปัง!!! เสียงบานประตูปิดเข้าหากันเสียงดังสนั่นอย่างรีบร้อน ด้วยกลัวว่าจะมีผู้ใดมาพบเห็นการปรากฏตัวของแฝดคนพี่ที่หน้าตาเหมือนกับเว่ยหลิงเหลียนราวเป็นคนเดียวกัน ร่างสันทัดของคนเป็นพ่อรีบสืบเท้าก้าวเข้าไปหาแฝดคนพี่อย่างร้อนรน
“หลินเอ๋อ! นี่เจ้าล่วงรู้ได้อย่างไร”เว่ยอี้ถามกลับไปก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเป็นประโยคที่ไม่ควรถามเป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อนางมีญาณหยั่งรู้ไม่มีทางที่จะปกปิดเรื่องนี้ได้
“เหตุใดเจ้าจึงก้าวออกจากหอดวงดาว ไม่รู้อย่างนั้นเหรอหากออกจากสถานที่แห่งนั้นก่อนอายุ 20 ปีเจ้าจะต้องประสบกับอะไรบ้าง! เหตุใดจึงโง่เขลาเช่นนี้!”เว่ยอี้ต่อว่าบุตรสาวกลับไป
“ข้าต้องมาท่านพ่อนี่คือลิขิตของสวรรค์”เว่ยหลินหลางตอบบิดากลับไปโดยไม่หันกลับมามองแม้แต่น้อย
และคำตอบดังกล่าวทำให้คนเป็นพ่อเบิกตากว้างขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เป็นลิขิตของสวรรค์อย่างนั้นเหรอ! บ้าไปแล้ว!เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ใจคอสวรรค์จะพรากบุตรสาวของข้าไปพร้อมกันทั้งคู่อย่างนั้นเลยเหรอ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย!!!”เว่ยอี้คร่ำครวญออกอย่างปวดใจพร้อมทิ้งกายลงนั่งบนตั่งที่วางไว้อยู่ตรงมุมห้องนอนอย่างอ่อนแรง
คำกล่าวของเว่ยอี้ทำให้ฝาแฝดคนพี่หันกลับมามองใบหน้าบิดาผู้ให้กำเนิดนาง นี่คือครั้งที่สองที่ได้พานพบหน้ากันหลังจากที่พบกันครั้งแรกเมื่อครั้งพาาเว่ยหลิงเหลียนไปให้นางรักษาอาการหอบหืดที่หอดวงดาวเมื่อห้าปีก่อน และสองฝาแฝดพำนักอยู่ด้วยกันในสถานที่แห่งนั้นเป็นต้นมา
จวบจนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อนเว่ยหลิงเหลียนเดินทางกลับเมืองหลวง เพื่อร่วมคัดเลือกพระชายารัชทายาทตามพระราชโองการของฮ่องเต้ต้าโจว ซึ่งมีชื่ออยู่ในทะเบียนเกิดว่านางคือบุตรีเพียงหนึ่งเดียวของราชครูเว่ยอี้เท่านั้น และเพื่อทำตามหัวใจของตัวเองด้วยอยากครองคู่กับชายที่นางหลงรักทันทีที่ได้พานพบ
“ลิขิตสวรรค์ไม่อาจฝืนได้ ท่านพ่อลืมไปแล้วอย่างนั้นเหรอว่าข้าเกิดมาเพื่อล้มล้างบัลลังก์หงส์ของต้าโจว และเพราะการตายของหลิงเอ๋อในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ต้องออกจากหอดวงดาว”
คำกล่าวของบุตรสาวฝาแฝดคนพี่ทำให้เว่ยอี้นั่งนิ่งงันไปชั่วขณะครั้นได้ยินเช่นนั้น
“นี่เจ้ากำลังจะบอกกับพ่อ ไม่ว่าอย่างไรก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไปอย่างนั้นเหรอ ชะตาล้มบัลลังก์หงส์ของเจ้าเกี่ยวอะไรกับการออกจากหอดวงดาวในครั้งนี้ รวมไปถึงการตายของหลิงเอ๋อด้วย”เว่ยอี้ถามกลับไปอย่างคลางแคลงใจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเว่ยหลินหลางหันกลับไปมองใบหน้างดงามของน้องสาวฝาแฝดที่เหมือนกับนางเป็นพิมพ์เดียวกันเพียงครู่พร้อมเอ่ยขึ้น
“หลิงเอ๋อถูกผู้อื่นสังหารท่านพ่อ นางถูกทำให้ตายไม่ได้สิ้นลมหายใจขณะกำลังหลับตามที่หมอหลวงบอก”เว่ยหลินหลาง บอกความจริงให้เว่ยอี้ล่วงรู้
“อะไรนะ! หมายความว่า...”เว่ยอี้เสียงขาดห้วงไปเสียดื้อๆ ก่อนจะกล่าวต่อท้ายเบาๆ
“หลิงเอ๋อถูกสั่งฆ่าอย่างนั้นเหรอ”ราชครูผู้เป็นพ่อถามย้ำกลับไปเพื่อความมั่นใจ
แทนการตอบรับใบหน้าคนงามพยักขึ้นลงติดต่อกัน
“เจ้าแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าหลิงเอ๋อถูกผู้อื่นสังหาร”เว่ยอี้ไม่วายถามย้ำกลับไปอีก
และนั่นทำให้เว่ยหลินหลางหันกลับมามองบิดาผู้ให้กำเนิดพร้อมเอ่ยขึ้น
“ท่านพ่อก็ล่วงรู้ดีว่า วิชาแพทย์ของข้าเป็นอย่างไรหมอคนอื่นสรุปให้ฟังตามคำกล่าวของคนบงการ แต่สิ่งที่ข้าตรวจพบนางถูกทำให้ขาดใจตาย หากสังเกตดีๆ คนตายนิ้วมือหรือนิ้วเท้าจะไม่เกร็งแต่หลิงเอ๋อ นิ้วเท้าของนางเกร็งทั้งสิบนิ้วราวกับว่าพยายามที่จะดิ้นรนให้มีชีวิตรอดอยู่ต่อไปจากการกระทำของคนผู้นั้น”เว่ยหลินหลาง กล่าวพลางเปิดผ้าห่มที่คลุมร่างอันไร้วิญญาณของน้องสาวฝาแฝดออกพร้อมชี้ไปที่นิ้วเท้าทั้งสองข้างของนาง
ตึง!!! เว่ยอี้ถึงกับกระแทกหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างแรงเมื่อเห็นเช่นนั้น ดวงตาบ่งบอกถึงความเสียใจและความโกรธอย่างเห็นได้ชัดที่ล่วงรู้สาเหตุการตายที่แท้จริงของลูกสาวฝาแฝดคนน้อง
“จะต้องเป็นฝีมือของหวังฮองเฮาเป็นแน่! พระนางทรงไม่พอพระทัยเป็นอย่างมากที่รัชทายาทเลือกนางเป็นพระชายาแทนที่จะเลือกหลานสาวจากสกุลหวังที่ตระเตรียมเอาไว้ให้ จะต้องใช่แน่นอนหากหลิงเอ๋อถูกสังหารเช่นนี้จะเป็นผู้ใดอีกไม่ได้แล้ว”เว่ยอี้ พูดลอดไรฟัน เปลือกตาปิดลงทันใดด้วยความสงสารลูกสาวฝาแฝดของเขาอย่างจับใจ