ไทเกอร์...
หลายวันมาแล้วที่ผมไม่ได้ไปนั่งเฝ้าลานเกียร์เพราะล้มเลิกความคิดนั้นไป จากวันนั้นมาเฮียธามก็ต้องเลิกเรียนดึกทุกวันทำให้เราสองคนไม่ได้กลับห้องพักพร้อมกัน ส่วนผมเองก็เริ่มเรียนหนักขึ้นเหมือนกันเพราะขึ้นปีสองแล้วก็จะไม่ค่อยมีเวลาว่างเหมือนช่วงปีหนึ่ง
ผลั่ก!
"โอ๊ย!"
ขณะที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำก็ต้องชะงักเท้าเอาไว้เพราะมีเสียงกลุ่มคนด้านในดังออกมา ฟัง ๆ ดูแล้วถ้าเข้าไปตอนนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผมเท่าไหร่นัก
"กูบอกมึงว่าไงจำไม่ได้เหรอวะ มึงต้องทำให้เสร็จวันนี้! กูต้องส่งงานอาจารย์วันนี้!"
เสียงทุ้มด้านในที่ตะโกนใส่ใครบางคนดังออกมาจนผมที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยินชัดเจน เหมือนกับว่าใครบางคนจะสั่งให้ใครอีกคนทำงานอะไรให้สักอย่าง
"ผมทำเร็วที่สุดได้แค่นี้แหละ คุณก็รู้ว่าผมเรียนหนักเหมือนกันแถมยังต้องทำงานพิเศษด้วย เหลืออีกแค่นิดเดียวถ้าคุณเอาไปทำต่อก็เสร็จแล้วนะ"
ผลั่ก!
"อั่ก!"
"ถ้าวันนี้หลังเที่ยงมึงทำให้กูไม่เสร็จกูกระทืบมึงจนเข้าเรียนไม่ได้แน่ จำใส่หัวมึงไว้"
เสียงทุ้มนั้นเงียบลงขณะที่ผมยังคงยืนหลบอยู่มุมข้างห้องน้ำก่อนที่จะมีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมา เสื้อช็อปสีคุ้นตากับสัญลักษณ์ที่ปักอยู่บนอกนั้นทำให้ผมรู้ทันทีว่าเราเรียนคณะเดียวกัน
ปึก!
"โอ๊ย! / เชี้ยไรวะ!"
ผมที่กำลังเดินเข้าไปในห้องน้ำแบบไม่ดูตาม้าตาเรือก็ชนเข้ากับไหล่แข็ง ๆ ของใครบางคนที่กำลังเดินออกมาด้วยท่าทางไม่สู้ดีนัก ไอ้หน้าจืดนี่มัน... ไอ้เบ๊นี่หว่า
"ขอโทษครับผมไม่ทันมอง"
คนที่ตัวเล็กกว่าบอกผมพลางมองหน้าผมแปลก ๆ
"เอ่อ... ขอโทษนะครับ คุณใช่คนที่นั่งอยู่ลานเกียร์วันที่มีคนสะดุดล้มหรือเปล่า"
เจ้าของร่างบางถามต่อจนผมที่กำลังเดินเข้าไปในห้องน้ำต้องชะงัก เออกูนี่แหละที่มึงสะดุดเกียร์กูล้มอะ
"อือมีอะไร"
"นี่ใช่ของ ๆ คุณมั้ยผมสะดุดมันล้มแล้วเก็บมันกลับไปด้วย เพราะรีบมากวันนั้นก็เลยไม่ได้ถาม"
สร้อยหนังสีดำที่มีจี้เฟืองสัญลักษณ์ของคณะห้อยอยู่ถูกยื่นมาให้ผมด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนที่ผมจะรีบรับมันมาไว้ในมือ คิดว่าจะไม่ได้คืนซะแล้ว...
"เออใช่ แต่มันขาดนะเพราะฉะนั้นมึงเกี่ยวมันจนขาดก็หาทางรับผิดชอบมันด้วยล่ะ"
ผมบอกคนตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะเดินเลยเข้าห้องน้ำไป
ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าถ้าไอ้หน้าจืดนี่เป็นแฟนเนื้อคู่ของผมจริง ๆ หรือว่ากำลังจีบกันอยู่ผมจะทำยังไงกับมันดี หรือจะร่วมมือกับคนที่กระทืบมันสั่งสอนให้มันเลิกยุ่งกับเนื้อคู่ของผมซะ ทางจะได้สะดวก
.
.
.
"โอ๊ย! พอแล้ว พอแล้ว อั่ก"
"กูบอกมึงว่ายังไงห๊ะ! หลังเที่ยงให้มึงเอางานมาส่งกูแต่นี่จนเย็นแล้วมึงก็ยังไม่โผล่หัวมาแถมยังหนีหน้ากูอีก นี่มึงไม่เข็ดใช่มั้ยหรืออยากตายจริง ๆ ไอ้ธีร์"
เสียงคนสองสามคนที่ยืนมุงใครสักคนที่นอนกองอยู่กับพื้นพูดขึ้น ทำไมผมต้องเจอไอ้หน้าจืดนี่อีกแล้วนะ ไอ้พวกนี้ก็เหมือนกันมาทำอะไรในห้องน้ำแทนที่จะลากไปทำที่อื่น วุ่นวายจริง ๆ!
"ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาทำให้ครับ แต่ตอนนี้ผมก็ทำให้จนใกล้จะเสร็จแล้วนะ แล้วอีกอย่างคนที่คณะคุณเขาก็บอกว่าอาจารย์ให้ส่งพรุ่งนี้นี่ครับ"
ผลั่ก!
อั่ก!
เท้าหนัก ๆ ของคนที่ยืนอยู่ถีบเข้าไปยังหน้าท้องของคนที่นอนงอตัวอยู่ที่พื้นแรง ๆอีกครั้ง จนผมที่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ รู้สึกเจ็บแทน
"นี่มึงเถียงกูเหรอ! กูจะส่งวันนี้มึงเข้าใจมั้ย!"
แม่งเอ๊ย!
"ปวดขี้จะตายห่าอยู่แล้วแม่ง นี่กูต้องยืนรอพวกมันซ้อมไอ้จืดนั่นให้เสร็จก่อนใช่มั้ยวะ"
ผมบ่นพลางวิ่งเหยาะ ๆ ไปมาอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำ จะไปที่อื่นก็อยู่กันคนละตึกเลยแถมตอนนี้ห้องน้ำบนตึกก็ปิดหมดแล้วด้วย
"แม่งเอ๊ย! พวกมึงทำเชี้ยไรกันวะ!"
ผมเดินเข้าไปตะโกนใส่คนสองสามคนที่ยืนอยู่ด้วยความโมโห ปวดขี้จะตายอยู่แล้วแม่งแทนที่จะรีบ ๆ กระทืบให้จบ ๆ ไปแล้วก็ไสหัวไปซะ ยังจะมาร่ายสนทนาไปกระทืบไปอีก เวรจริง ๆ
"เชี้ย! / ไทเกอร์! / ประธานรุ่น!"
พวกมันสามคนหันมามองหน้าผมด้วยความตกใจ รวมทั้งคนที่นอนกองอยู่กับพื้นด้วยท่าทางใกล้ตายนั่นด้วย
"เออกูเอง ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูอาจารย์พวกมึงก็รีบไสหัวไปซะ"
ผมบอกคนสามคนก่อนที่พวกมันจะหันไปมองหน้ากันแล้วรีบแยกตัวออกไป ทิ้งให้ผมยืนมองไอ้หน้าจืดที่นอนกองกับพื้นอยู่
"มึงก็รีบ ๆ ไสหัวไปได้แล้วแม่งกูจะขี้!"
ผมบอกคนที่กำลังพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นก่อนจะยืนมองร่างบาง ๆ เดินกะเผลก ๆ ออกไปแล้วรีบเข้าไปทำธุระส่วนตัว แต่พอนั่งลงได้ไม่ทันไรสายตาของผมที่เหลือบไปมองที่วางกระดาษชำระก็ต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจ เวรแล้วทิชชู่ไม่มี!
"แม่งเอ๊ย!"
ผมสถบด้วยความอารมณ์เสียแต่จะให้ลุกออกไปตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วน่ะสิ ปล่อยออกมาเต็มที่ขนาดนี้แล้วด้วย
"ไอ้ธีร์! ธีร์! ไอ้เหี้ยธีร์มึงยังอยู่ข้างนอกป่าววะ"
ผมตะโกนร้องเรียกคนด้านนอกเมื่อนึกได้ว่ามันน่าจะยังไปไหนได้ไม่ไกล เพราะสภาพมันเมื่อครู่ไม่ดีสักเท่าไหร่ อย่างน้อยก็น่าจะเดินเป๋ไปเป๋มาอยู่แถวนี้
"ว่าไงครับ!"
เสียงใส ๆ ของคนด้านนอกตะโกนเข้ามา เหมือนกับว่าตอนนี้มันอยู่หน้าประตูห้องน้ำที่ผมเข้าอยู่
"มึงหยิบทิชชู่ให้กูดิ๊ ห้องนี้แม่งหมด"
"รอแป๊บนะครับ ส่งให้ด้านล่างนะ"
มันตอบกลับมาก่อนจะเงียบหายไป สักพักกระดาษชำระม้วนหนึ่งก็ยื่นเข้ามาด้านในทางประตูด้านล่างก่อนที่มันจะเงียบไปอีกครั้ง
"ขอบใจ"
ผมบอกแบบไม่เต็มใจเท่าไหร่นักเพราะใจหนึ่งก็เกลียดขี้หน้ามันอย่างบอกไม่ถูก แต่ถ้าไม่ได้มันผมก็คงแย่เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี
ผมใช้เวลาจัดการตัวเองสักพักก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ และตรงไปยังรถจักรยานของผมที่จอดอยู่ก่อนจะปั่นกลับห้องพักตามปกติ แต่ปั่นไปได้สักพักสายตาของผมก็ปะทะเข้ากับร่างบาง ๆ ของใครบางคนที่เดินกะเผลก ๆ อยู่ไม่ไกลนัก
"มึงจะไปไหนเดี๋ยวกูไปส่ง"
อยากจะตบปากตัวเองสักทีโทษฐานที่มันไม่รักดี อยู่ ๆ ผมก็ถามคนที่เดินเป๋ไปเป๋มาขึ้นพร้อมกับชะลอจักรยานไปปั่นข้าง ๆ มัน อะไรวะไหนตั้งใจว่าจะปล่อยให้มันโดนแกล้งแล้วก็แกล้งมันอีกแรงไง ช่วยมันทำไมเนี่ย!
"ผมจะกลับหอน่ะ"
คนที่เดินอยู่หันมาตอบ
"ไกลป่าวล่ะจะได้ไปส่ง ไม่ก็ไปลงใกล้ ๆ หอก็ได้"
ผมพูดต่อพลางมองสภาพของคนข้าง ๆ ไปด้วย ภายนอกดูเหมือนไม่เป็นอะไรแต่อาการมันตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะหน้าซีดเหงื่อโชกไปหมด มันจะตายป่าววะ...
"ไม่เป็นไรครับขอบคุณมาก"
"แลกกันที่มึงเอาทิชชู่ให้กูวันนี้ไง รีบ ๆ ขึ้นมากูไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร"
"แต่คุณก็ช่วยผมไม่ให้โดนกระทืบไปแล้วนี่ แสดงว่าเราหายกัน"
คนข้าง ๆ หันมาบอก ไอ้นี่แม่งเถียงเก่ง!
"ถ้ามึงไม่ขึ้นมากูจะกระทืบมึงตรงนี้แหละ"
ผมขู่
ไม่นานจักรยานคันเก๊าเก่าของผมก็ปั่นเข้าไปในซอยแคบ ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดข้างมหาลัยที่เรียนอยู่มากนัก ในซอยนี้มีตึกเก่า ๆ ตั้งเรียงรายอยู่ บ้างก็เป็นเพลิงไม้เล็ก ๆ บ้างก็เป็นตึกร้าง วังเวงฉิบหาย...
"ทำไมมึงไม่ไปอยู่ที่อื่นวะ แถวนี้แม่งอันตรายนี่ถ้าเดินตอนกลางคืนน่ากลัวว่ะเพราะไม่มีไฟส่องทางเลย"
อยู่ ๆ ผมก็หันไปถามคนที่นั่งซ้อนท้ายอยู่เงียบ ๆ ก่อนจะมองซ้ายทีขวาทีแล้วทำหน้าที่ปั่นจักรยานต่อไป
"แถวนี้มันถูกดีแล้วก็อยู่ใกล้มอด้วยครับ"
คนข้างหลังตอบ
"อ้าวเฮ้ยพวกเรา วันนี้ไอ้หนุ่มน้อยหน้าหวานมันมีคนมาส่งด้วยโว้ย"
ปั่นไปได้สักพักเสียงคนกลุ่มหนึ่งที่นั่งเกาะกลุ่มกันอยู่หน้าร้านซ่อมรถเล็ก ๆ ก็ร้องแซวพวกเราสองคนขึ้น พลางเดินเข้ามาขวางทางจักรยานของผมเอาไว้ ท่าทางยียวนกวนประสาทแบบนั้นผมล่ะกลัวว่าจะมีเรื่องจริง ๆ
"คุณกลับไปเถอะ ส่งผมแค่นี้ก็ได้เดี๋ยวผมเดินกลับเอง"
คนข้างหลังกระซิบบอกผมก่อนจะลงจากรถไป ท่าทางไม่ดีเลยแฮะวันนี้
"วันนี้ให้แฟนมาส่งเหรอจ๊ะน้องสาว อิอิ"
หนึ่งในกลุ่มคนที่มาล้อมวงพวกเราเอาไว้พูดขึ้น พลางเอื้อมมือที่เลอะเทอะด้วยคราบน้ำมันมาลูบแก้มขาวเนียนของคนที่ลงจากรถผมไป ไอ้เบ๊นี่มันยอมทุกคนเลยหรือไง ทำไมไม่สู้? เห็นแล้วหงุดหงิด!
หมับ!
"ถ้ารู้ว่าเขามีแฟนแล้วก็ไม่ควรยุ่งกับแฟนของคนอื่นสิ ทำแบบนี้แถวบ้านเรียกไม่มีมารยาทนะ หรืออยากเป็นมือที่สาม?"
ผมรีบคว้ามือสกปรกนั่นเอาไว้ก่อนจะบีบแน่นจนคนถูกคว้ามือหน้าหงิกไปด้วย ไม่รู้สิอยู่ ๆ มือผมมันก็ไปเอง
"เฮ้ย! มึงปล่อยมือลูกพี่กูไอ้หน้าจืด"
คนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากผมนักร้องบอกผม
"ถ้ายังมาวุ่นวายกับแฟนกูอีก กูไม่ปล่อยพวกมึงไว้แน่"
ผมพูดบ้าอะไรออกไปวะเนี่ย!
"ขึ้นรถดิ จะกลับมั้ยห้องอะ"
ผมหันไปดุคนข้าง ๆ ที่ยืนนิ่งอยู่ก่อนจะรีบปั่นจักรยานออกมาจากกลุ่มคนพวกนั้น
ขากลับผมต้องเลี่ยงทางนี้ไม่ก็ต้องให้ลุงที่คุมผับแถวนี้มารับแล้วแหละ ไม่งั้นได้หัวแบะก่อนถึงบ้านแน่ ๆ ลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเลยวันนี้