ไทเกอร์...
ผ่านมาหลายวันแล้วตั้งแต่ที่ผมรับมอบเกียร์ กิจวัตรประจำวันของผมในช่วงว่าง ๆ หลังเลิกเรียนก็คือการนั่งเฝ้าลานเกียร์รอสาวที่ตัวเองแอบชอบเดินผ่านมา พอเธอสะดุดล้มปุ๊ปผมก็จะรีบเข้าไปช่วยอุ้มเธอปั๊บ! นี่แหละครับแผนของผม...
แต่วันแล้ววันเล่าสาวสวยคนนั้นก็ไม่เคยสะดุดลานเกียร์นี้สักที ทั้ง ๆ ที่เธอก็เดินผ่านอยู่ทุกวี่วัน
"ไอ้เกอร์"
เสียงของคนที่เดินเข้ามาหาผมทักทายขึ้น
"ว่าไงเฮีย"
ผมหันไปมองคนมาใหม่แล้วทักกลับก่อนจะหันกลับมาจดจ่ออยู่กับลานเกียร์เช่นเดิม เพราะใกล้เวลาที่เธอคนนั้นจะเดินผ่านทางนี้แล้ว
"นี่อย่าบอกนะว่ามึงมานั่งรอสาวคนนั้นอีกอะ"
เฮียธามที่เดินเข้ามาถามขึ้นก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ผมพลางหันมาขมวดคิ้วมองผมด้วยความไม่เข้าใจ
"ใช่แล้วเฮีย"
ผมหันไปตอบคนข้าง ๆ ก่อนจะพูดต่อ
"นี่ก็ใกล้เวลาที่เนื้อคู่ของเกอร์จะเดินผ่านลานนี้แล้วด้วย เฮียคอยดูนะเกอร์ว่าวันนี้แหละเนื้อคู่ของเกอร์จะต้องสะดุดลานเกียร์ แล้วเกอร์ก็จะได้วิ่งเข้าไปช่วยเขา คิดแล้วโคตรจะโรแมนติกอะเฮีย"
ผมพูดไปยิ้มไปพลางทำท่าเพ้อฝันถึงสาวสวยคนนั้น จนรู้สึกได้ถึงความหมั่นไส้ที่เฮียกำลังมองผมอยู่ตอนนี้
"เพ้อเจ้อมึงอะ กูเคยเห็นแต่พวกผู้หญิงเป็นนี่ยังมาเห็นมึงอีกนะไอ้เกอร์"
เฮียธามพูดพลางส่ายหัวไปมาอย่างเอือม ๆ ก็งี้แหละคนที่ไม่มีหัวใจรักใครไม่เป็นอย่างเฮียอะจะไปรู้อะไร!
"ว่าแต่มึงจะมารอให้เขาเดินสะดุดลานเกียร์เพื่ออะไรวะ ไหน ๆ ก็เรียนคณะเดียวกันอยู่แล้ว เจอหน้ากันแทบทุกวันทำไมมึงไม่จีบให้จบ ๆ ไป"
เฮียธามขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่
"โธ่เฮียนี่ไม่รู้อะไรเลย ถ้าไปจีบแบบนั้นแล้วเขาไม่ชอบเกอร์ขึ้นมาจะทำยังไงล่ะจะมองหน้ากันยังไง สู้เกอร์รอเป็นพระเอกขี่ม้าขาวไปช่วยตอนเขาเดินสะดุดลานเกียร์แล้วเริ่มทำความรู้จักกันจะไม่ดีกว่าเหรอ อย่างน้อยถ้าเขาไม่ชอบเกอร์เราก็เป็นเพื่อนกันได้นี่นา"
ผมตอบคนข้าง ๆ ที่ยังคงทำหน้าสงสัยอยู่
"ไม่ใช่ว่ามึงฟังเรื่องเล่าตำนานอาถรรพ์ลานเกียร์แล้วจำขึ้นสมองจนอยากลองทำบ้างนะไอ้เกอร์"
เฮียธามหรี่ตามองผมอย่างรู้ทัน
"อันนั้นมันก็มีส่วนนะเฮีย แต่เกอร์อยากให้เขาประทับใจเกอร์ตั้งแต่แรกเจอมากกว่าจะได้ดูมีคะแนนหน่อย"
"มึงก็ทำคะแนนกับเรื่องอย่างอื่นสิวะจะมารอให้เขาเดินสะดุดลานเกียร์ทำซากอะไร ชักช้าแบบนี้เดี๋ยวก็มีคนคาบไปกินหรอก"
เฮียพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดทำเอาผมจิตตกไปด้วย
"ที่เฮียพูดมามันก็มีเหตุผลนะ แต่เกอร์ว่าเกอร์ขอลองดูอีกสักวันก็แล้วกันเฮีย ถ้าพรุ่งนี้เขาไม่เดินมาสะดุดลานเกียร์เดี๋ยวเกอร์เปลี่ยนแผนเอง เคป้ะ"
ผมบอกคนข้าง ๆ ที่ยังคงส่ายหัวให้กับเรื่องหัวใจของผมด้วยความเซ็ง ๆ
"เฮียธาม ๆ! นั่นไงเนื้อคู่ของเกอร์มาแล้ว เขามาแล้วเขามาแล้วเฮีย! อ๊ากเขิน ๆ เกอร์จะทำไงดีเฮียจะนั่งตรงไหนจะนั่งท่าไหน แล้วตอนนี้หน้าเกอร์เป็นไงเฮียยังหล่ออยู่ใช่ปะ"
ผมหันไปถามคนข้าง ๆ ด้วยความตื่นเต้นพลางทำท่าทางระริกระรี้ใส่เฮียธาม ที่ตอนนี้มองไปยังสาวสวยที่กำลังเดินมาก่อนจะหันกลับมาถอนหายใจยาว ๆ ให้กับท่าทีของผมแล้วก็ส่ายหัวไปมาอีกครั้ง
"มึงนี่เป็นผู้ชายจริงป่าววะเกอร์แรดฉิบหาย อยู่นิ่ง ๆ ดิ๊รอดูว่าเขาจะสะดุดล้มมั้ย!"
เฮียธามพูดกับผมเสียงดุก่อนจะมองไปยังเท้าคู่เล็กของคนที่กำลังเดินผ่านหน้าเราสองคนอย่างใจจดใจจ่อพอ ๆ กับผม
"สะดุดดิวะ สะดุด... สะดุด..."
แต่ไม่ว่าจะกี่ก้าวที่สาวคนนั้นเดินผ่านไป เท้าคู่สวยสองข้างก็ไม่มีวี่แววว่าจะสะดุดล้มเลยสักครั้ง
"สะดุดดิว้า สะดุด..."
"เฮ้อ! / เฮ้อ!"
เสียงผมกับเฮียธามถอนหายใจแรง ๆ พร้อมกันเมื่อเนื้อคู่ของผมได้เดินผ่านไปโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ปั่ก!
"โอ๊ย! เจ็บนะเฮียตบเกอร์ทำไมเนี่ย!"
ฝ่ามือหนัก ๆ ของเฮียธามที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ฟาดลงบนศรีษะของผมจนฟุบลงกับโต๊ะตรงหน้า อะไรวะทำไมผมต้องโดนตบหรือว่าเฮียธามแอบชอบเนื้อคู่ของผม!
"กูไม่ถีบมึงให้ล่วงตรงนี้ก็บบุญแค่ไหนแล้วไอ้น้องโง่!"
เฮียธามพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดราวกับว่าผมทำอะไรผิด นั่นดิผมทำอะไรผิด?
"ไม่ต้องมาเอียงคอทำแอ๊บแบ๊วใส่กูเลยนะมึง"
คนข้าง ๆ ยังคงบ่นไม่หยุด
"อะไรอะเฮีย พูดดิไม่พูดเกอร์จะรู้มั้ย"
ผมยู่หน้าใส่คนข้าง ๆ พลางลูบหัวตัวเองไปด้วย เพราะยังรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ อยู่จากอิทธิฤทธิ์ฝ่ามือใหญ่เท่าใบลานของเฮียเมื่อกี้นี้นั่นแหละ
"มึงเอาสมองซีกไหนของมึงคิดเนี่ยว่าเขาจะเดินผ่านลานเกียร์แล้วสะดุดล้มห๊ะไอ้เกอร์ "
เฮียธามถามผมด้วยความอารมณ์เสีย
"ไอ้ห่าผู้หญิงใส่เสื้อช็อปกับกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบเดินทะมัดทะแมงซะขนาดนั้นใครเขาจะสะดุด!"
เฮียธามพูดด้วยต่อน้ำเสียงหงุดหงิดพลางถอนหายใจใส่ผมแรง ๆ
"นี่มึงฟังเรื่องอาถรรพ์ลานเกียร์เยอะไปใช่มั้ยก็เลยอยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง"
คนรู้ทันหรี่ตามองอย่างจับผิด สมกับเป็นเฮียธามจริงจริ๊ง!
"ก็นิดนึงแหละเฮีย"
ผมตอบพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้เฮียเพราะไม่มีอะไรจะเถียง
"มึงฟังกูให้ดีนะไอ้ไทเกอร์"
คนข้าง ๆ เอื้อมมือมาตบไหล่ผมแรง ๆ พร้อมกับมองมาที่ผมด้วยแววตาสีหน้าจริงจัง
"ครับเฮีย"
ผมจึงตอบรับด้วยท่าทางจริงจังบ้างเพราะเฮียต้องมีอะไรดี ๆ มาแนะนำผมแน่ ๆ
"เรื่องที่มึงฟังมาอะผู้หญิงเขาใส่ทรงเอรัดติ้ว สวมรองเท้าส้นเข็มแหลม ๆ อะสูงปรี๊ดแล้วก็เดินแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ มึงเข้าใจปะเขาเลยสะดุดล้ม"
เฮียธามพูดเรื่องของคู่รักที่พบรักกันกลางลานเกียร์ขึ้น
"แต่เนื้อคู่ของมึงแม่งใส่กางเกงยีนส์ทะมัดทะแมงเลย แถมยังใส่รองเท้าผ้าใบเดินแบบมั่นคงขนาดนั้น มึงนั่งเฝ้าจนหมาเห่าเป็นเสียงไก่ขันเขาก็ไม่สะดุดลานเกียร์ล้มให้มึงวิ่งไปอุ้มเขาเขาหรอก อย่าเพ้อ!"
"แล้วเกอร์ต้องทำไงอะเฮีย"
ผมถามอย่างปลง ๆ
ก็คงจะเป็นเหมือนที่เฮียบอกจริง ๆ นั่นแหละผมนั่งเฝ้าลานเกียร์มาตั้งแต่ปีหนึ่งยันตอนนี้ขึ้นปีสองแล้วเนื้อคู่ของผมก็ยังไม่เดินสะดุดล้มเลยสักครั้ง
"มึงก็จีบเขาเลย เนี่ยถ้าพรุ่งนี้เขาเดินผ่านมึงก็เดินไปบอกเขาเลยว่ามึงชอบเขามึงอยากรู้จักเขา"
เฮียบอก
"เกอร์ไม่กล้าหรอกเฮีย แค่เห็นหน้าเกอร์ก็อยากมุดดินหนีแล้วเขาน่ารักขนาดนั้น"
ผมรีบแย้ง
"เออไม่กล้าก็ไม่ต้องจีบ"
"ได้ไงอะเฮีย คนนี้เกอร์มองมาตั้งแต่งานรับน้องเลยนะ"
ผมรีบเถียง
"มึงชอบเขามึงก็จีบเขาสิวะไอ้นี่"
พูดจบเฮียธามก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินหนีผมไปทางลานจอดรถจนทำให้ผมต้องรีบวิ่งตามไป
"เฮียช่วยกอร์หน่อยไม่ได้เหรอ นะนะเฮียนี่ไทเกอร์น้องชายเฮียธามไง"
ผมที่รีบปลดล็อกโซ่ที่คล้องกับล้อรถจักรยานอยู่พูดกับเฮียที่กำลังปั่นจักรยานหนีผมไป
"เฮียช่วยเกอร์หน่อยนะนะเฮีย"
ผมรีบปั่นจักรยานให้ทันคนข้าง ๆ ที่กำลังพยายามปั่นหนีผมอยู่ก่อนจะตามตื้อไม่ยอมหยุด เพราะถ้าไม่ใช่เฮียผมก็ไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว
"ไม่ช่วยโว้ย ใครชอบคนนั้นก็จีบเองดิวะ"
เฮียว่า
"เฮียใจร้ายอะคอยดูนะเกอร์จะบอกแม่เฮียว่าเฮียโกงค่าเทอมแม่"
ผมรีบขู่
"คราวนี้ถ้ากูถีบกูจะไม่ถีบลงข้างข้างแล้วนะเกอร์ แต่กูจะถีบมึงเข้าถนนใหญ่ให้รถเหยียบตายไปเลยไอ้ห่า"
คนที่ปั่นจักรยานหนีผมหันมาพูดก่อนจะทิ้งให้ผมปั่นจักรยานคันเก่าที่ต้องแวะเอาโซ่ขึ้นบ่อย ๆเพราะโซ่มันชอบหลุดตลอดทาง
และแล้วสายตาของผมที่กำลังจ้องมองไปยังท้องถนนตรงหน้าก็ปะทะเข้ากับเนื้อคู่ของผมเต็ม ๆ สาวสวยคนนั้น! แต่เธอไม่ได้เดินอยู่คนเดียวน่ะสิ ข้างเธอนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งเดินอยู่ด้วย
"หรือว่าจะมีแฟนแล้ววะ แบบนี้ก็...ต้องแย่งอะดิคิก ๆ"
ผมพูดยิ้ม ๆ กับตัวเองก่อนจะพยายามเพ่งไปยังไอ้หน้าอ่อนคนนั้นที่มองด้วยหางตาก็พอจะรู้แล้วว่ามันน่ะหล่อน้อยกว่าผมเห็น ๆ
"ใส่ชุดนักศึกษาแล้วก็เดินออกมาทางมอเรา งั้นก็เรียนมอเดียวกันกับเรานี่หว่า"
ผมพึมพำกับตัวเองพลางขมวดคิ้วไปด้วย
"คณะไรวะแบบนี้ต้องสืบแล้วก็ต้องรีบรุกเหมือนที่เฮียธามบอกซะแล้ว ไม่งั้นมีหวังอดชัวร์!"
ผมรีบบอกตัวเอง ถ้าผมไม่รีบมีหวังไอ้หน้าหล่อน้อยกว่าผมคนนั้นมันต้องได้เธอไปแน่ๆ