“จะพูดสิ่งใดก็จงคิดให้ถ้วนถี่ เมื่อเจ้าเอื้อนเอ่ยออกมาแล้ว คำพูดเหล่านั้นจะเป็นนายเจ้า รู้เอาไว้” เพราะไม่อยากต่อว่าจึงได้แต่สั่งสอนไป นางน่าจะอายุน้อยกว่าเขา อาวุโสกว่าสอนสั่งผู้น้อยย่อมไม่ผิด หากแต่จ้าวเยว่ถิงไม่ใคร่ฟัง นางยกมือขึ้นชันปลายคาง ยิ้มออกมาอย่างหยอกเย้า “รับไม่ได้หรือที่เป็นชายบำเรอของหญิงหม้ายเช่นข้า” หยางซือโฉวจ้องหน้านางนิ่ง นางก็จ้องเขานิ่งเช่นกัน จนเขาต้องปรามออกมาอีกระลอก “คำพูดเป็นนาย ระวังคำพูดเจ้าด้วย” “ข้าจำต้องสนใจสิ่งใดอีก ต่อให้ข้าเรียกท่านว่าชายบำเรอกี่ร้อยกี่พันครั้งก็หาได้มีผู้ใดใส่ใจไม่ สามีข้าตายแล้ว ” นางว่า ช่างไม่เข้าหูหยางซือโฉวเสียเลย เขาจึงปั้นหน้าขึงขัง “ระวังคำพูด” นางสวนกลับไม่ยี่หระ “สามีข้าตายแล้ว” “ฮูหยิน...” “สามีข้าตายแล้ว” “ถึงอย่างนั้นก็ไม่สมควรที่จะ...” “สามีข้าตายแล้ว” “ข้ารู้แล้ว!” คราวนี้ติดจะรำคาญเพราะเมื่อครู่เขายังพูดไม่ท