2. จำอะไรไม่ได้

1143 คำ
ก๊อก ก๊อก~ เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังติดกันสองครั้งก่อนจะมีคนเปิดประตูเดินเข้ามา “น้องพาฝันคะ พี่เป็นพยาบาลเวรเช้านะคะ เดี๋ยวเราไปตรวจร่างกายกันค่ะ” หญิงสาวในชุดพยาบาลเข้ามาประคองพาฝันลงไปนั่งรถเข็นสำหรับคนป่วยก่อนจะเข็นเธอออกไปจากห้องพักตรงไปยังห้องเอกซเรย์ที่อยู่อีกชั้นของโรงพยาบาล “พี่ชื่ออะไรคะ” พาฝันคลี่ยิ้มหวานก่อนจะหันหน้าไปถามพยาบาลที่กำลังเข็นรถให้เธออยู่ “พี่ชื่อขวัญค่ะ อาทิตย์นี้พี่อยู่เวรเช้าเราคงได้เจอกันทุกวันเลย” “อ๋อค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” หลังจากทำความกันรู้จักกันเรียบร้อย รถเข็นคนไข้ก็ได้มาหยุดลงที่หน้าห้องเอกซเรย์ หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่อีกสองคนมาพาเธอเข้าไปตรวจด้านใน ก่อนจะได้ผลตรวจออกมาแล้วยื่นซองเอกสารส่งให้กับขวัญพยาบาลที่ยืนรออยู่ภายในห้อง “ผลตรวจเป็นยังไงบ้างคะพี่ขวัญ” “เดี๋ยวรอให้คุณหมอภัทรมาดูอีกทีนะคะ ช่วงเย็นๆ น่าจะมาตรวจ น้องพาฝันค่ะ รอฟังผลตรวจที่คุณหมอนะคะ” “ค่ะ” หญิงสาวไม่ได้ถามอะไรต่อจากนั้น จนกระทั่งเธอมาถึงที่ห้องขวัญก็ประคองเธอขึ้นไปนอนพักบนเตียงดังเดิมแล้วก็เดินออกไป ..... “ว่าไงไอ้หมอ คนไข้คนใหม่ของนายสวยมากมั้ยวะ” เสียงสารวัตรหนุ่มรูปหล่อเพื่อนสนิทของหมอภัทรเอ่ยถามขึ้นขณะที่พวกเขาอยู่กันในห้องพักส่วนตัวของแพทย์ “อืม ก็น่ารักดี” หมอภัทรตอบกลับไปอย่างนั้น แต่สายตายังคงมองไปที่ผลตรวจของคนไข้ที่อยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ “มองอะไรวะเห็นจ้องอยู่นาน” เมื่อเพื่อนตำรวจเห็นว่าหมอภัทรไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาพูดจึงถามออกไปด้วยความสงสัย “ฉันอ่านผลตรวจคนไข้อยู่ แล้วสรุปเรื่องคดีเครื่องบินเป็นยังไงบ้างวะ แล้วเรื่องที่ฝากให้นายไปสืบเรื่องญาติของพาฝันไปถึงไหนแล้ว” คุณหมอเงยใบหน้าขึ้นมองสารวัตหนุ่มก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นถามออกไปด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “พาฝัน รู้ชื่อเขาแล้วด้วย ได้เรื่องจริงๆ เลยนะไอ้หมอ ส่วนเรื่องเครื่องบินฉันเช็กแล้วเกิดจากระบบขัดข้อง แต่เรื่องของคนสวยคนนี้นี่สิจะว่าไปก็แปลกมากเลยว่ะ ฉันค้นหาประวัติน้องเขามาสามวันแล้วนะเว้ย แต่กลับไม่พบอะไรเลย” สารวัตรกัญจ์เล่าออกมาด้วยความประหลาดใจ “ไม่พบ หมายความว่ายังไง” “ก็ไม่พบข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ ไม่มีประวัติการศึกษา หรือรายชื่อผู้โดยสารเที่ยวบินยังไงล่ะ” หมอภัทรขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม “จะเป็นไปได้ยังไง” “ก็นั่นนะสิ คนทั้งคนเลยนะเว้ยจะไม่มีข้อมูลอะไรให้ตรวจสอบเลยได้ยังไง” “เออๆ เอาเป็นว่านายลองสืบต่อไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันขอไปตรวจคนไข้ก่อน” “เออ งั้นฉันไปก่อนนะ” “อืม” หมอภัทรลุกออกจากโต๊ะพร้อมกับสารวัตกัญจ์ที่กำลังจะเดินออกจากห้องไปพอดี ..... ก๊อก ก๊อก ก๊อก~ แอ๊ด~ เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาหยุดอยู่ข้างเตียง “กำลังนอนหลับอยู่หรือครับ หมอเข้ามารบกวนรึเปล่า” หมอภัทรถามคนไข้สาวที่กำลังปรือตาตื่นขึ้นมา “คะ เปล่าค่ะ” หญิงสาวดิ้นขลุกขลักขยับตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง “หมอของดูแผลหน่อยนะครับ” “ค่ะ” คุณหมอเดินเข้ามาใกล้เตียงพลางเลื่อนผ้าห่มบนเตียงออกให้พ้นทาง ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนเตียงเดียวกับพาฝัน มือหนาสองข้างเลื่อนขึ้นมาแกะผ้าก๊อตปิดแผลออกจากหน้าผากมน รอยแผลถลอกดูดีขึ้นกว่าตอนที่มาในวันแรก ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันเพียงไม่ถึงคืบ สองสายตาสบประสานเข้าหากัน ในจังหวะที่คุณหมอหนุ่มเลื่อนใบหน้าลงมาอยู่ในระดับเดียวกันกับเธอนั้น ตึกๆ ตักๆ เสียงหัวใจดวงน้อยเต้นแรงเป็นระส่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงตากลมโตเบิกตาโพลงค้างไว้ไม่กระพริบ พวงแก้มขาวเนียนเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อราวกับลูกตำลึง “ยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่าครับ” น้ำเสียงเอื้อนเอ่ย ทำให้คนที่แทบกลั้นหายใจขณะอยู่ใกล้กันได้สติ “ไม่เจ็บแล้วค่ะ” “เดี๋ยวหมอเปลี่ยนผ้าปิดแผลให้นะครับ ปิดไว้อีกสักสองสามวันค่อยเอาออก” “ค่ะ” พาฝันเชื่อฟังคุณหมออย่างว่าง่าย หมอภัทรจัดการล้างแผลและปิดผ้าขาวสะอาดผืนใหม่ให้กับเธอ “เสร็จแล้วครับ” นิ้วเรียวยาวเลื่อนจับปอยผมที่หล่นลงมาปกคลุมใบหน้ายกขึ้น ทัดใบหูให้กับหญิงสาวอย่างลืมตัว “คะ...คุณหมอ” พาฝันก้มหน้างุดหลบดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มองมา “ขอโทษครับ พอดีผมมันหล่นลงมา หมอกลัวว่ามันจะโดนแผล” “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” ตึกตัก ตึกตัก ใจเจ้ากรรมเต้นแรงอีกแล้ว แถมใบหน้าร้อนผ่าวอย่างกับคนจะเป็นไข้ คุณหมอนะคุณหมอ ยังเอาผมมาทัดหูให้ฉันอีก ฉันก็เขินเป็นนะ พาฝันแอบคิดอยู่ในใจ “คุณหมอคะ ผลตรวจของฉันเป็นยังไงบ้างคะ” พาฝันเลือกเอ่ยถามผลตรวจเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอาย “ผลตรวจของคนไข้ปกติดีนะครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนนี้ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่าครับ แล้วคิดอะไรออกบ้างแล้วหรือยัง” “ก็ยังปวดนิดหน่อยค่ะ แต่ฉันยัง…” “ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องฝืนตัวเองนะ พักผ่อนนะครับไม่ต้องเครียด” “แล้วฉันต้องอยู่ที่นี่อีกกี่วันคะ ฉันจะได้ออกจากโรงพยาบาล วันไหน” “เดี๋ยวพรุ่งนี้หมอมาตรวจอาการโดยรวมอีกที ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับ” “ค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะ” “ครับ” “งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ” คุณหมอลุกออกจากเตียงไป หญิงสาวหลุบตาลงมองผ้าห่มที่ ปกคลุมท่อนล่างของเธอ พลันขบคิดว่าถ้าพรุ่งนี้ได้ออกจากโรงพยาบาลจริงๆ เธอจะไปอยู่ที่ไหน ตอนนี้เธอพยายามจะคิดอย่างไรเธอก็คิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอกันแน่ เธอเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร แล้วพ่อแม่เธออยู่ที่ไหน บ้านเธออยู่ที่ไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกปวดร้าวไปทั่วทั้งหัวของเธอ เจ้าของร่างเพรียวบางขยับกายลงนอนด้วยความเจ็บปวดจนผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม