*****
“ฮึก ฮึก~ คุณคะลูกเราจะเป็นอะไรมากมั้ยคะ นี่ก็ข้ามวันแล้ว นะคะ ลูกยังไม่ฟื้นเลย”
“ไม่ต้องห่วงนะคุณอยู่ในมือหมอแล้ว”
“ฮือ~ ทำไมต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้กับลูกเราด้วยคะ ฮึก~ ยัยฝันฟื้นสักทีสิลูก”
*****
หญิงสาวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงคนไข้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อมากมายผุดพรายขึ้นมา สองข้างหน่วยตามีน้ำสีใสไหลออกมาอาบสองแก้ม
หมอภัทรที่เข้าเวรดึกเดินผ่านมาทางนี้ ต้องเรียกว่าตั้งใจมาดูมากกว่าว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง จึงได้ถือวิสาสะเข้ามาในห้องพักคนไข้โดยที่ไม่ได้เคาะประตูเรียก
“พาฝันครับ ตื่นก่อนครับ”
แพทย์หนุ่มร้องเรียกหญิงสาวที่นอนหลับฝัน แต่ดูทรงแล้วคงจะเป็นฝันร้าย จึงได้เขย่าแขนเรียกให้เธอตื่น
“พาฝันครับ”
เฮือก! พาฝันสะดุ้งตื่นตกใจ มือน้อยเผลอดึงมือของอีกคนเข้ามากอบกุมและซบใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาอย่างลืมตัว
“ฮึก ฮึก~”
“ฝันร้ายหรือครับ”
หญิงเจ้าน้ำตาพลันได้สติตอนได้ยินเสียงที่คุ้นหูเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“หมอภัทร ขอโทษค่ะ”
พาฝันรีบปล่อยมือของหมอภัทรให้เป็นอิสระก่อนจะขอโทษกับสิ่งที่เธอไม่ได้ตังใจ
“ไม่เป็นไรครับ”
ใบหน้าหล่อเหลาจมูกโด่งเป็นสันที่ตอนนี้ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยเผยรอยยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน มือหนายกขึ้นลูบเรือนผมสลวยเพื่อปลอบขวัญหญิงสาว
“ฝันถึงอะไรเล่าให้หมอฟังได้มั้ยครับ”
น้ำเสียงนุ่มนวลที่ถูกเปล่งออกมาจากคนตรงหน้า ทำให้คนที่ฝันร้ายรู้สึกดีได้อย่างน่าประหลาดใจ
“ฉัน ฝันเห็นตัวเองนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงคนป่วยค่ะ แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอกำลังร้องไห้คุยกับผู้ชายที่ยืนอยู่ แล้วพวกเขาเรียกฝันว่าลูก”
“ไม่เป็นอะไรนะครับ ตอนนี้คุณก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว บางทีคุณอาจจะคิดถึงคุณพ่อคุณแม่มากก็ได้เลยเก็บเอาไปฝัน”
“คุณพ่อคุณแม่หรือคะ”
พาฝันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงความฝันที่เธอเห็น แต่ทำไมเธอถึงจำชายหญิงวัยกลางคนที่เรียกเธอว่าลูกไม่ได้เลย
“โอ๊ย~”
เธอเลื่อนมือขึ้นไปกุมขมับของตัวเอง ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวจนแทบทนไม่ไหว
“ปวดหัวหรือครับ ไม่ต้องคิดแล้วนะ เดี๋ยวหมอเอายามาให้กิน”
หมอภัทรเดินออกจากห้องเพื่อไปขอยาจากพยาบาลที่เคาน์เตอร์ ก่อนจะเดินเข้ามาหาพาฝันอีกครั้ง
“กินยาก่อนนะ แล้วก็นอนพักนะครับ”
คุณหมอยื่นยาที่อยู่ในมือสองเม็ดให้กับคนที่ปวดหัว เธอรับยาไปกินอย่างว่าง่ายแล้วก็นอนลงไป
“หมอขอตัวก่อนนะครับ”
หมับ! ชายเสื้อกาวน์ถูกคนที่นอนอยู่คว้าเอาไว้ในมืออย่างฉับพลัน หมอภัทรหันกลับมาเจอเข้ากับสายตาที่กำลังอ้อนวอนราวกับไม่อยากให้เขาออกจากห้องนี้ไป
“อย่าพึ่งไปได้มั้ยคะ”
พาฝันตัดสินใจเอ่ยรั้งหมอภัทรให้อยู่ต่อด้วยความกลัวและว้าวุ่นใจกับเรื่องที่ฝัน ทำให้เธอไม่สามารถข่มตาลงนอนในห้องนี้คนเดียวได้
“ครับ นอนซะนะ เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อน”
หมอภัทรเลื่อนมือไปลูบศีรษะของพาฝันอย่างเบามือก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียง นี่เป็นครั้งแรกที่หมอภัทรเรียกแทนตัวเองว่าพี่ คนที่ได้ฟังรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าและรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“ขอบคุณนะคะ”
เธอลองข่มตาลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอนอนหลับไปได้อย่างง่ายดาย ที่ข้างเตียงยังคงมีหมอภัทรคอยเฝ้ามองอยู่ใกล้ๆ จนแน่ใจว่าเธอนั้นได้หลับไปแล้วจึงหยัดกายลุกขึ้นยืนเพื่อจะออกจากห้อง แต่ทว่ามือบางกลับคว้าชายเสื้อของเขาเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว เขาเลยจำใจต้องนั่งลงต่ออีกสักหน่อยแต่ก็เผลอฟุบหลับไป
…..
“ฉันอิจฉาคนไข้ห้องนั้นมากเลยอะ หมอภัทรคอยดูแลเป็นอย่างดี โอ๊ย อิจฉาๆ”
“เธอก็ลองความจำเสื่อมอ้อนหมอดูสิ เผื่อหมอภัทรจะใจดีกับเธอบ้าง”
“ไม่เอาอะ ฉันขอแอบมองหมอภัทรอยู่ห่างๆ ก็พอ คนอะไรทั้งหล่อ ทั้งเก่ง แถมยังนิสัยดีอีกต่างหาก”
“ว่าแต่ก็สงสารเธอเหมือนกันนะ ได้ข่าวว่ายังสืบหาครอบครัวไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าถ้าได้ออกจากโรงพยาบาลเธอจะไปอยู่ที่ไหน ญาติ สักคนก็ไม่มีติดต่อมาเลย”
เสียงซุบซิบของพยาบาลหน้าวอร์ดคุยกันถึงคนไข้สาวที่นอนพักอยู่ในห้องผู้ป่วยใน
…..
กริ๊ง~ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเป็นเวลาตีห้าทำให้หมอภัทรสะดุ้งตื่นอย่างเร็วพลัน มือหนารีบควานหาโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเพื่อปิดเสียงกลัวจะรบกวนคนไข้ที่กำลังหลับอยู่
“นี่ฉันมาหลับตรงนี้ได้ยังไงเนี่ย”
หมอภัทรพึมพำเสียงเบา เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตนนั้นเผลอหลับไปตอนไหน แถมยังนอนอยู่แบบนี้ทั้งคืน
คนตัวเล็กที่น้อยอยู่ขยับเรือนร่างและค่อยๆ ปรือตาตื่นขึ้นจากเสียงรบกวน
“หมอภัทร”
ทันใดที่ตื่นได้เต็มตาก็พบว่าหมอภัทรยังนั่งอยู่ข้างเธอ
“เสียงนาฬิกาปลุกพี่กวนหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ เมื่อคืน…”
“พี่เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ครับ พาฝันคงไม่ถือใช่มั้ย”
จะถือได้ยังไงล่ะ จำได้ว่าเมื่อคืนเธอเป็นคนรั้งเขาเอาไว้เอง คิดแล้วเธอจึงตอบกลับไป
“ไม่ถือค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะที่อยู่เป็นเพื่อน”
อยู่เป็นเพื่อนเหรอ นอนเป็นเพื่อนต่างหากล่ะ คนคิดในใจหน้าแดงระเรื่อรู้สึกเหมือนเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นเต็มใบหน้า
“ร้อนหรือครับเหงื่อออกเต็มเลย”
ว่าแล้วหมอภัทรก็ยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้ทันที ตึกตัก ตึกตัก ใจเต้นแรงเป็นระส่ำ ใบหน้าของคนโดนกระทำยิ่งแดงเข้าไปใหญ่
“ปะ…เปล่าค่ะ”
เธอตัดสินใจผละใบหน้าออกจากมือก่อนจะหลุบตาลงอย่าง เขินอาย
“งั้นหมอออกไปก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
คุณหมอหนุ่มเดินออกจากห้องไปโดยที่มีคนไข้สาวมองตาม แผ่นหลังทำตาปริบๆ
ทันใดที่ก้าวเดินพ้นจากประตูก็พลันยกมือขึ้นยีผมของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ อย่าบอกนะว่าเขากำลังแอบชอบคนไข้ของตัวเอง คิดแล้วก็ยีผมของตัวเองแรงๆ
“คุณหมอ”
พยาบาลที่เห็นหมอภัทรเดินออกมาจากห้องของพาฝันเอ่ยทักขึ้นอย่างตะลึง
“ผมไปตรวจคนไข้มาครับ”
หมอภัทรรู้ได้ทันควันว่าสาวพยาบาลจะถามอะไรเลยชิงตอบออกไป ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องทำงานของตนเอง
“ตรวจคนไข้ เวลานี่เนี่ยนะ”
สาวพยาบาลยังคงคิดไม่ตก เวลาตีห้าแต่คุณหมอหนุ่มหล่อขวัญใจพยาบาลสาวน้อยใหญ่กลับบอกว่ามาตรวจคนไข้ มันช่างไม่สมเหตุสมผลจริงๆ