EP.02 จุดเริ่มต้นความโง่เขลา

2105 คำ
02 จุดเริ่มต้นความโง่เขลา หนึ่งชั่วโมงต่อมา... แกร๊ก~ "ฉันเรียกแล้วทำไมไม่ไปหาหรือลืมไปแล้วว่าหน้าที่ของเธอคืออะไร" เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงของเหนือเวหาทำให้เฌอร์วาที่นั่งร้องไห้อยู่รีบยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาอย่างลวก ๆ "วาไม่ได้ลืมค่ะ วากำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้" เธอไม่เคยลืมว่าหน้าที่ของตัวเองคือคนใช้ที่ต้องคอยรับใช้และดูแลในเรื่องต่าง ๆ ของเขาไม่เว้นแม้แต่เรื่องบนเตียง "รู้ก็ดีฉันจะได้ไม่ต้องคอยย้ำเตือน แล้วที่ทำแบบนี้เพราะต้องการท้าทายฉันงั้นเหรอเฌอร์วา" นัยน์ตาคมดุจเหยี่ยวจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าราวกับเหยื่ออันโอชะพร้อมเท้าหนาที่ก้าวเข้าไปเรื่อย ๆ ทำให้เฌอร์วาก้าวถอยหลังอย่างเกรงกลัว "อึก! มะ...ไม่ วาไม่เคยคิดแบบนั้นเลย" สุดท้ายเธอก็ก้าวถอยหลังจนชิดกับกระจกระเบียงห้องในขณะที่เหนือเวหายกแขนขึ้นมากักกันเธอไว้ในอ้อมแขน เธอไม่ชอบตอนเขาอารมณ์ไม่ดีเพราะเขาจะเอาความรู้สึกทั้งหมดมาลงกับเธออย่างทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา "จำได้ไหมว่าในสระน้ำนั่นเราเคยร้อนแรงกันมากแค่ไหน" ใบหน้าสวยที่เอียงหลบในตอนที่ใบหน้าคมคายโน้มลงมาประชิดพร้อมเสียงแหบพร่าที่เอ่ยประชิดอยู่ที่ใบหูทำให้สมองพลันคิดถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น "อึก!" "จะว่าไปที่ระเบียงก็ยังไม่เคยลองดูเลยนะ ฉันเองก็อยากรู้ว่ามันจะได้บรรยากาศสักแค่ไหน" มุมปากหนายกยิ้มเหยียดหยันเมื่อเห็นร่างแน่งน้อยตัวสั่นเทาในอ้อมแขน "มะ...ไม่เอา อึก! อย่าทำวาเลยนะคะ อึก" เธอทั้งหวาดกลัวและอับอาย แม้บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าเวรตามจุดต่าง ๆ รอบ ๆ คฤหาสน์จะไม่เห็นแต่ก็ใช่ว่าจะไม่รับรู้ว่าเธอกับเขาทำอะไรที่น่าอับอายกันอย่างโจ๋งครึ่ม "รู้ไหมว่าการที่ฉันเห็นเธอตัวสั่นเทาเหมือนเหยื่อตัวน้อย ๆ ที่รอวันหลุดพ้นจากเจ้าป่าอย่างฉัน มันน่าสมเพชขนาดไหน" มือหนาลูบไล้ใบหน้าเนียนสวยพร้อมแสยะยิ้มที่มุมปากราวกับคนโรคจิต "ทำไมต้องใจร้ายกับวามากขนาดนี้ด้วยคะ ฮึก!" เพียงเพราะเหตุการณ์ในอดีตทำให้เธอต้องมาตกเป็นผู้รับผลกรรมที่ไม่ได้ก่อ แต่สุดท้ายเธอก็ต้องทนเพื่อคนคนนั้นคนที่เธอรัก "ทำไมงั้นเหรอ? ถ้าอยากรู้นักก็ไปขุดโครงกระดูกพ่อของเธอขึ้นมาถามสิว่ามันทำกับพ่อแม่ของฉันได้ยังไง!" นัยน์ตาคมฉายแววความดุดันออกมาจนหญิงสาวก้มหน้าหลบสายตากับความแค้นที่ฉายออกมาผ่านดวงตาตรงหน้า เธอรู้ว่าเหนือเวหาแค้นพ่อของเธอมากแค่ไหนเธอจึงยอมชดใช้แทนอยู่แบบนี้ "วายอมคุณทุกอย่าง แต่เมื่อไรความโกรธแค้นของคุณมันจะหายไปเสียที ช่วยบอกวาหน่อยได้ไหมคะ?" ที่ผ่านมาเธอยอมเขาทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องอะไรหรือเขาสั่งให้เธอทำอะไร แต่ที่เธออยากรู้คือเมื่อไรความโกรธแค้นที่เขามีต่อพ่อของเธอจะลดหายไปได้บ้าง เพียงสักนิดก็ยังดี "เธอคิดว่าร่างกายเน่า ๆ ของเธอที่ให้ฉันใช้ระบายความแค้นมันจะทำให้ความโกรธแค้นที่ฉันมีลดลงอย่างนั้นเหรอ แต่ก็ไม่แน่นะถ้าพ่อเธอมันรู้ว่าลูกสาวที่มันรักนักรักหนายอมใช้ร่างกายเพื่อให้ฉันใช้ระบายความแค้นที่มันเคยทำเอาไว้ไม่ต่างจากนางบำเรอ พ่อเธอมันคงจะกระอักเลือดตายอยู่ในนรกไปแล้วมั้ง" นัยน์ตาคมเต็มไปด้วยความสะใจในคำพูดแต่ทว่าอีกคนต้องกำหมัดแน่นข่มความปวดร้าวกับคำพูดที่ไม่นึกถึงความเจ็บปวดของคนฟังเลยสักนิด "คุณมันเลวที่สุดละ...อื้อออ!!" ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ต่อว่ามือหนาก็บีบเข้าที่ปลายคางของเธออย่างแรงก่อนที่จะก้มลงประกบจูบอย่างอุกอาจเต็มไปด้วยความรุนแรงจนเธอต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บเมื่อถูกขบกัดที่ริมฝีปากจนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง "อื้ออ!!" ครั้นจะหันหน้าหลบการรุกรานก็ไม่สามารถทำได้เพราะถูกมือหนาจับล็อกปลายคางเอาไว้พร้อมดันร่างกายเธอแนบชิดจนติดไปกับกระจกบานใสจนไม่สามารถต่อต้านความต้องการของเขาได้ "อย่ามาทำเป็นดีดดิ้นทำเหมือนตัวเองมีราคา เพราะคนอย่างเธอมันไม่มีค่าอะไรเลยสักนิด" เหนือเวหาถอนจูบออกหลังจากพอใจ เขาเหยียดยิ้มอย่างสมเพชให้กับเธอก่อนจะถอยหลังเดินออกไปทำให้เฌอร์วาทรุดตัวลงบนพื้นพร้อมร้องไห้ออกมาด้วยความอดสู บางทีเหตุผลของคนเรามันก็หนักเบาไม่เท่ากัน คนอื่นอาจจะมองว่าเธอโง่แต่ถ้าหากไม่มายืนอยู่ในจุดที่เธออยู่คงไม่มีวันเข้าใจ จุดเริ่มต้นของความโง่เขลาของเธอ... สามปีที่แล้ว... ในตอนที่เธอยังอาศัยอยู่ที่บ้านสวนกับ คุณหญิงเกษร ซึ่งเป็นย่าของเขาและเป็นคนที่รับดูแลเธอหลังจากที่ พงศ์พัฒน์ ผู้เป็นพ่อนั้นเสียชีวิตไป โดยไม่ได้รังเกียจหรือตั้งแง่ในตัวของเธอเลยแม้ว่าพ่อของเธอจะทำเรื่องไม่ดีไว้กับลูกชายของท่าน ต่างกับอีกคนที่โทษว่าเป็นความผิดของพ่อเธอแล้วนำความโกรธเกลียดที่มีมาลงกับเธอที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ในคืนหนึ่งที่เธอลงมาจากชั้นสองเพื่อจะมาหาน้ำดื่มในช่วงกลางดึกของวันทำให้เห็นเงาร่างใหญ่ของใครบางคนที่เดินโซซัดโซเซเข้ามาในบ้านก่อนที่มือเรียวจะค่อย ๆ ยกไฟฉายอันเล็กในมือขึ้นส่องทำให้เธอเห็นว่าคนที่เดินเมามายเข้ามาคือเหนือเวหา เธอนิ่งไปเมื่อรู้ว่าเป็นเขาแต่เมื่อจะเดินหนีออกไปร่างสูงก็ทำท่าจะเซล้มลงทำให้เธอรีบสาวเท้าเข้าไปพยุงเขาไว้ด้วยความเป็นห่วง "เธอเองเหรอ" สายตาคมเหลือบมองใบหน้าคนที่เข้ามาพยุงผ่านความมืดสลัวยามราตรีมีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์ที่สาดส่องผ่านม่านเข้ามาพอที่จะทำให้เขามองเห็นว่าเธอเป็นใคร "คุณเวหาไหวไหมคะ?" เฌอร์วาเอ่ยขึ้นแม้รู้ว่าเขาจะไม่พอใจที่เธอถูกเนื้อต้องตัวของเขาแต่เพราะความเป็นห่วงทำให้เธอรีบถลาเข้ามาพยุงเขาไว้ กลิ่นเหล้าที่โชยออกมาจากตัวเขาทำให้เธอรับรู้ได้ทันทีว่าเขานั้นดื่มมาไม่น้อย "ฉันปวดหัว" "ถะ...ถ้างั้นนั่งก่อนนะคะเดี๋ยววาไปตามคุณอลันมาช่วย" เมื่อหันมองไปทางประตูไม่เห็นอลันเข้ามาด้วยเธอจึงเอ่ยขึ้นพร้อมกับจะพยุงเขาไปนั่งที่โซฟาเพราะในเวลานี้เหล่าแม่บ้านก็พากันเข้านอนกันหมดแล้ว "จะไปตามคนอื่นทำไมไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อน" ทว่าในระหว่างที่เธอกำลังจะเดินออกไปเรียกอลันซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของเขาให้มาช่วยก็ชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้น "ละ...แล้ว..." "พาฉันขึ้นไปที่ห้องสิ หรือถ้าเธอเป็นเด็กไร้มารยาทที่ไปปลุกคนอื่นขึ้นมากลางดึกกลางดื่นก็แล้วแต่เธอ" "..." คำพูดร้ายกาจของเขาเธอได้ยินมันมาตลอดจนคล้ายจะชินชาแต่ก็ไม่สักที แต่ที่ทำให้เธอไม่เข้าใจเลยก็คือคำพูดที่ว่าให้เธอเป็นคนพาเขาขึ้นไปที่ห้องทั้งที่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยอนุญาตให้เธอย่างเท้าเข้าไปเหยียบในพื้นที่ส่วนตัวของเขาเลยสักครั้ง เธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่หวงพื้นที่ส่วนตัวมาก "จะยืนบื้ออีกนานไหม มาช่วยฉันสิหรือจะปล่อยให้ฉันนอนตากยุงอยู่ตรงนี้รึไง" เสียงของเขาฉุดรั้งสติของเธอขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่เธอจะเข้าไปพยุงร่างสูงใหญ่ขึ้นแล้วค่อย ๆ พาเขาขึ้นบันไดด้วยความระมัดระวังเพราะขนาดตัวที่แตกต่างกันอย่างมาก แกร๊ก~ "อ๊ะ!" เฌอร์วาร้องออกมาเบา ๆ ด้วยความตกใจหลังจากที่พยุงเขาเข้ามาถึงเตียงกว้างสีดำสนิทในห้องนอนของเขาแต่ทว่าในระหว่างที่เธอกำลังจะช่วยเขาให้นอนลงบนเตียงเขากลับดึงมือเธอไว้จนเธอล้มลงทาบทับร่างกำยำทำให้ใบหน้าห่างกันเพียงแค่คืบเท่านั้น "ปะ...ปล่อยวาเถอะค่ะ" หญิงสาวหน้าแดงก่ำท่ามกลางแสงไฟสลัวของโคมไฟบนหัวเตียง เพราะนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เธอกับเขาใกล้ชิดกันมากขนาดนี้ หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำอย่างรุนแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอกจนเธอกลัวว่าอีกคนจะได้ยิน แต่ทว่าเหนือเวหากลับเลื่อนท่อนแขนไปรัดเอวบางของเธอเอาไว้จนไม่สามารถขยับออกห่างได้ "จะรีบให้ปล่อยทำไม นี่คือสิ่งที่เธอต้องการมาตลอดไม่ใช่เหรอเฌอร์วา การใกล้ชิดกับฉันแบบนี้เป็นสิ่งที่เธอต้องการมาตลอดไม่ใช่เหรอ" น้ำเสียงทุ้มกับสายตานุ่มลึกที่จ้องตาทำให้เธอหน้าแดงใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเพราะนี่ถือว่าเป็นการแนบชิดกับเพศตรงข้ามเป็นครั้งแรกในวัยแตกสาว "ตะ...แต่..." เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่เขาทำแบบนี้ต้องการอะไรทั้ง ๆ ที่ผ่านมาเขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบหน้าเธอ "เธอชอบฉันไม่ใช่เหรอเฌอร์วา" ทว่าคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของเขาทำให้เธอตาโตด้วยความตกใจ "คะ...คุณรู้" ที่ผ่านมาเธอแอบรักเขาข้างเดียวมาโดยตลอดเพราะครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ทำให้ความปลื้มใจในครั้งนั้นแปรเปลี่ยนมาเป็นความรักที่รักข้างเดียว เธอเฝ้ามองเขาอยู่ห่าง ๆ มาโดยตลอดเพราะรู้ตัวเองดีว่าไม่เหมาะสมและไม่คู่ควรกับคนอย่างเขา และเขาเองก็คงไม่มีวันปรายตามองลงมาที่เธอ ผู้หญิงที่ไม่มีอะไรคู่ควรเหมาะสมกับเขาเลยสักอย่าง "ฉันรู้มาโดยตลอด ว่าเธอรู้สึกยังไง" พรึบ! พูดจบร่างสูงก็เปลี่ยนให้หญิงสาวนอนราบลงกับเตียงโดยที่เขาขึ้นมานอนคร่อมทับสร้างความตกใจให้เธอไม่น้อยกับท่าทางที่ล่อแหลมจนเธอตัวสั่นน้อย ๆ "คะ...คุณเวหา" "เธอรักฉันไม่ใช่เหรอ? รักฉันก็ยอมฉันสิ..." เหนือเวหาเอ่ยเสียงแหบพร่าพร้อมกับใช้นิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมออกจากพวงแก้มแดงก่ำของเธอในขณะที่เฌอร์วานอนตัวแข็งทื่อ ถ้อยคำและการกระทำของเขาทำให้เธอเผลอตัวเผลอใจในที่สุดเมื่อใบหน้าคมคายค่อย ๆ โน้มลงจนริมฝีปากแนบชิดกับกลีบปากอวบอิ่มแดงเรื่อ "อืมม เปิดปากหน่อย" คำพูดของเขาเปรียบเสมือนคำสั่งที่ทำให้เธอทำตามอย่างไม่ต้องคิด ริมฝีปากค่อย ๆ เผลออ้าออกทำให้เรียวลิ้นสากสอดแทรกเข้าไปฉกชิมความหอมหวานจากภายในได้อย่างง่ายดาย "อ๊ะอื้ออ~" เฌอร์วาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับคำพูดกับการกระทำของเขาอย่างง่ายดายโดยไม่หักห้ามใจเพราะลึก ๆ แล้วเธอเองก็แอบรักเขามาโดยตลอด คืนนั้นเปรียบเสมือนความฝันที่เธอไม่อยากตื่นขึ้นมาถ้ารู้ว่าจะต้องพบเจอกับความใจร้ายของเขาอีกครั้ง "อย่าได้คิดว่าการที่ฉันนอนกับเธอแล้วเธอจะกลายเป็นเมียของฉัน เพราะเธอมันก็เป็นได้แค่ผู้หญิงหน้าโง่ที่ฉันใช้ระบายความใคร่ก็เท่านั้น" นี่คือประโยคแรกที่ออกมาจากปากของเขาหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ เป็นจุดเริ่มต้นของความโง่เขลาที่หลงเชื่อไปกับคำพูดและการกระทำที่หลอกลวงนั่นจนถึงตอนนี้  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม