ตอนที่ 2 ยื่นคำขาด (2)

1477 คำ
นับตั้งแต่จำความได้หวังจื่อเทียนก็มีนิสัยเช่นนี้มาโดยตลอด ไม่ชอบสุงสิงหรือพบปะผู้คน ทั้งยังแสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับงานภายในของวังหลวง สิ่งเดียวที่สองพี่น้องให้ความสนใจตรงกันและนำมาสนทนากันอยู่เสมอคือเรื่องตำราเรียนและบทกวี “ข้าอ่านเขียนอะไรไม่ได้เลยในช่วงนี้ หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่าทารกน้อยเป็นเพศหญิง เสด็จพ่อก็เริ่มรุกข้าหนักมากขึ้น แต่ท่านก็รู้ว่าข้ากับผิงอันคงไม่สามารถทำให้เสด็จพ่อสมหวังได้” องค์ชายหวังจื่อเทียนกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้เขาไม่สามารถคิดอ่านอะไรได้ในช่วงนี้ “เจ้าอย่าได้กังวลไป ข้าสาบานกับท่านแม่ว่าจะดูแลเจ้าให้ดีที่สุด ปล่อยให้ข้าจัดการเรื่องนี้เถิด อีกอย่างตอนนี้ชายาเอกคนงามของข้าเหมือนจะมีอาการแพ้ท้อง กำลังรอหมอหลวงมาตรวจดูว่าเท็จจริงประการใด” องค์ชายใหญ่ยืนยันหนักแน่นว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่หวังจื่อเทียนต้องมากังวล เขายังมีสนมและนางกำนัลอีกหลายต่อหลายคนไว้ให้พยายามต่อ “ข้ารักลูกของข้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นองค์ชายหรือองค์หญิงก็ตาม ได้แต่หวังว่าสักวันบ้านเมืองเราจะอนุญาตให้สตรีเป็นรัชทายาทได้ เรื่องนี้ข้าคงต้องฝากไว้ให้ฝ่ายวิชาการอย่างเจ้าเป็นคนคิด แก้ไข และเปลี่ยนแปลงเพื่อให้บ้านเมืองเราได้พัฒนาและก้าวหน้ายิ่งขึ้น” หวังจื่อเทียนถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้ ร่างสูงผ่อนนั่งคลายอารมณ์อยู่ในสวนสวยที่เขาจัดการออกแบบตกแต่งด้วยสองมือของตน เหล่าดอกไม้นานาพรรณที่มักทำให้เขาใจเย็นอยู่เสมอ กลับมีมนต์วิเศษไม่มากพอที่จะทำให้อารมณ์ขุ่นมัวที่เกิดขึ้นในวันนี้จางหายไป การปรากฏตัวของร่างเล็กเพรียวระหงและนางกำนัลอีกสองคน ทำให้องค์ชายรองต้องเริ่มปรับลมหายใจอีกครั้งเพื่อข่มอารมณ์โกรธที่เข้ามาผสมโรงกับอารมณ์ขุ่นมัวที่มีมาแต่เดิม ดวงตาคู่เรียวเพ่งความสนใจไปยังดอกบัวที่กำลังบานสะพรั่ง สีหน้าไม่ยินดียินร้ายของหวังจื่อเทียน บังคับให้ผิงอันในวัยยี่สิบสี่ปีเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่สบายใจนัก “วันนี้ท่านดูเคร่งเครียดกว่าทุกวันที่ผ่านมา ท่านพี่หวังเจี้ยนผิงไม่ได้บุตรชายอีกแล้วหรือ” มือเรียวเล็กบรรจงรินชาชั้นดีที่ส่งตรงมาจากแดนใต้อย่างตั้งใจ ผิงอันมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ต่างจากเจ้าของบ้าน แต่ภายในใจร้อนรุ่มยิ่งกว่าน้ำชาที่นำมาบรรเทาความเหนื่อยล้าให้บุรุษตรงหน้าเสียอีก “เสด็จพ่อเร่งเร้าข้าให้มีทายาทสืบสกุล เพราะดูท่าจะหมดหวังจากทางท่านพี่เสียแล้ว ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าท่านพี่ไปทำบาปทำกรรมอะไรไว้ บุตรเกือบสิบคน กลับมีเพียงสตรีเพศ ไม่ใช่ข้าไม่ชอบใจเด็กผู้หญิง แต่หากเปลี่ยนเป็นผู้ชายได้สักคน ข้าคงไม่ต้องถูกกดดันถึงเพียงนี้” คุณหนูใหญ่แห่งบ้านต้าหวังถึงกับต้องเบือนหน้าหนีเพื่อซ่อนความรู้สึกคับแค้นใจ เป็นความผิดของนางเองที่ไม่สามารถให้กำเนิดทายาทแก่ประมุขของบ้านได้ อย่าว่าแต่องค์ชายเลย องค์หญิงก็ยังไร้ซึ่งความหวัง ช่างน่าขับขันยิ่งนักที่การไร้ผู้สืบสกุลสามารถสร้างปัญหากวนใจได้มากเช่นนี้ ช่วงแรกเริ่มที่ผิงอันก้าวเข้ามาอยู่ในตำหนักแห่งนี้ ไม่มีวันไหนที่องค์ชายจะทำให้นางขุ่นเคืองใจ เขาให้เกียรติและดูแลนางเป็นอย่างดี จนค่อยคลายความโศกเศร้าที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอน ทว่าเมื่อเวลาล่วงเลยผ่าน หวังจื่อเทียนก็เริ่มทำตัวห่างเหินและเมินเฉย เพราะมิอาจทนเห็นนางผู้เป็นสาเหตุที่เขาต้องถูกกดดันเรื่องทายาทใช้ชีวิตราวกับไม่มีความทุกข์ร้อนใดๆ ถึงเวลาแล้วที่ผิงอันจะต้องเลิกเห็นแก่ตัวและช่วยเขาแก้ปัญหาที่มีตัวนางเองเป็นสาเหตุ “ท่านพี่ ข้ามีข้อเสนอที่ท่านคงไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่นัก แต่ข้าคิดว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้” ผิงอันเสียงสั่นเล็กน้อย ดวงหน้างามก้มต่ำซ่อนความรู้สึกผิด ก่อนเอื้อนเอ่ยวิธีการอันแยบยลขึ้นมา “พวกเจ้าออกไปก่อน” ผิงอันเอ่ยสั่งเหล่าสาวใช้ที่คอยรับคำสั่งอยู่ในบริเวณนั้น เรื่องที่นางจะกล่าวต่อไปนี้ มิควรมีผู้ใดล่วงรู้ นอกจากตัวนางและองค์ชายหวังจื่อเทียน “ในเมื่อข้าไม่สามารถมีบุตรให้แก่ท่านได้ ข้าขอเสนอให้ท่านมีบุตรกับผู้อื่นเสีย” สิ้นเสียงหวานของผิงอัน องค์ชายรองถึงกับหันมามองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าสับสนเกินบรรยาย แปลกใจที่นางยอมเอ่ยถึงข้อตกลงที่เคยทำร่วมกันเป็นครั้งแรกหลังจากเวลาล่วงผ่านมานานกว่าห้าปี “ตามข้อตกลงก่อนแต่งงานคือข้าสามารถข้องเกี่ยวกับใครก็ได้ แต่ห้ามยกย่องผู้ใดให้ทัดเทียมเจ้า ทั้งยังห้ามมีทายาทสืบสกุลด้วยมิใช่หรือ” องค์ชายรองเอ่ยถามอย่างไม่อ้อมค้อม เขาละสายตาจากเหล่าดอกบัวที่บานสะพรั่ง ก่อนจ้องมองผิงอันด้วยหมายที่จะได้คำตอบที่ชัดเจน “ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามที่ท่านกล่าว ทว่าเด็กที่เกิดมาจะต้องเป็นบุตรของข้า ไม่ว่าทารกน้อยจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม” หวังจื่อเทียนถึงกับหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ผิงอันเอ่ยราวกับว่านางไม่เคยรู้จักเขามาก่อน องค์ชายรองมีหรือจะยอมให้คนอื่นต้องมารับเคราะห์กรรมเพราะเรื่องไร้สาระเหล่านี้ “แล้วจะมีสตรีใดเล่าที่จะยอมมีลูกให้กับเจ้าโดยไม่เรียกร้องสิทธิ์ของความเป็นแม่ ไม่มีใครในโลกใจร้ายได้มากขนาดนั้นหรอกนะผิงอัน” ร่างสูงเอ่ยเสียงราบเรียบ ใบหน้ากระตุกเพียงเล็กน้อยเพราะความโกรธที่พลุ่งพล่านจนแทบควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ เขาลุกขึ้นยืนเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถและเบนความสนใจไปที่เหล่าดอกไม้อีกครั้ง “ท่านไม่ต้องกังวลว่าข้าจะหาสตรีที่ไม่ดีมาให้ท่าน ข้าพอจะรู้จักอยู่คนหนึ่ง อายุอานามพอออกเรือนได้แล้ว นางมาจากครอบครัวที่ดี มีกิริยามารยาทงดงาม เหมาะที่จะตั้งครรภ์ลูกของเราเป็นอย่างยิ่ง” เมื่อคนตรงหน้านิ่งงัน ไม่ตอบโต้ ผิงอันจึงได้โอกาสพูดต่อไป แม้รู้ดีว่าองค์ชายรองกำลังมีอารมณ์อยู่ก็ตาม “ถ้าข้าสามารถหาคนที่มีคุณสมบัติที่ว่าได้ ท่านพี่สัญญาว่าจะทำตามแผนของข้าได้หรือไม่” ดวงตาเป็นประกายของผิงอันทำเอาหวังจื่อเทียนแปลกใจ นางแสดงออกราวกับว่ามีใครอยู่ในใจแล้ว ว่าแต่คนในใจของนางรู้ถึงแผนนี้แล้วหรือยัง แล้วคนที่ว่านั้นเต็มใจแล้วแน่หรือ องค์ชายรูปงามถอนหายใจ ดวงหน้าเรียวมีเพียงรอยยิ้มเหยียดแต้มมุมปาก มือเรียวยาวแตะไหล่มนของภรรยาพร้อมกับมองตาอย่างมีความหมาย องค์ชายหวังจื่อเทียนขยับตัวเข้าใกล้ผิงอันจนใบหน้าทั้งสองห่างกันเพียงหนึ่งฝ่ามือ “นี่ท่าน!” ผิงอันผลักชายผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีออกห่างอย่างตื่นตระหนก ตลอดเวลากว่าห้าปีที่ร่วมชีวิตใต้ชายคาเดียวกัน หวังจื่อเทียนไม่เคยประพฤติตัวเช่นนี้มาก่อน คงเป็นเพราะนางบังคับให้เขาอับจนหมดหนทาง จนอารมณ์โกรธที่เกิดขึ้นนั้นยากจะควบคุม “ข้าเป็นสามีถูกต้องตามธรรมเนียมทุกประการ เจ้ายังหวาดกลัวได้มากขนาดนี้ แล้วคนที่เจ้าจะให้มาอุ้มท้องลูกของข้าจะรู้สึกอย่างไรกัน ข้าไม่แปลกใจหากมีสตรีที่เพียบพร้อมทุกประการยินดีเสนอตัวให้ข้า แต่เรื่องยอมตั้งครรภ์และยกลูกให้โดยไม่หวังอะไรเลยสิน่าคิด เอาเถิด หากเจ้ามั่นใจว่าสามารถจัดการได้ ข้าก็ไม่เห็นเหตุผลใดที่จะขัดใจเจ้า เพราะข้าเองก็เบื่อกับเรื่องนี้เต็มทนแล้ว” องค์ชายหวังจื่อเทียนเดินออกจากสวนไปโดยเร็ว เพราะไม่อยากให้ใครเห็นอารมณ์โกรธเคือง เขาเกลียดตนเองที่ต้องตกอยู่สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทำให้ชีวิตเขายุ่งยากมากว่าครึ่งทศวรรษ ถึงเวลาที่ต้องโยนปัญหานี้ให้นางเป็นคนจัดการแก้ไขเสียที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม