CHAPTER 4

1394 คำ
CHAPTER 4 โรงพยาบาล XX “จัดการต่อด้วยปลอดภัยแล้ว” เสียงพูดธรรมดาแต่น่าเกรงขามออกมาจากริมฝีปากภายใต้หน้ากากที่ปกปิดเนื่องจากอยู่ในหน้าที่ที่ต้องทำในฐานะแพทย์ที่ได้ชื่อว่ามือเบาที่สุดของโรงพยาบาลอีกทั้งยังได้ฉายาจากนางพยาบาลทั้งหลายว่าเจ้าชายหมอผู้เย็นชาแต่หล่อเหล่าที่สุด “ได้ค่ะคุณหมอ” พอพูดจบเขาก็ได้ก้าวออกไปจากห้องผ่าตัดที่อยู่มาหลายชั่วโมงติดกัน นางพยาบาลที่แพทย์คนอื่นๆ ต่างชื่นชมในฝีมือที่เฉียบขาดแต่อย่างใดก็ตามไม่ใช่ง่ายๆ ที่จะให้เขาเป็นคนผ่าตัดมีแต่คนไข้รายพิเศษเท่านั้นที่จะถึงมือหมอรูธหล่อผู้นี้ พอขานรับทุกคนในห้องผ่าตัดก็จัดการหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายทันทีเพราะการทำให้ผู้อื่นมีลมหายใจต่อไปเป็นหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว จะต้องช่วยให้ได้ไม่เพียงแค่ช่วยแค่เพียงผู้ป่วยเท่านั้นยังเป็นการช่วยญาติคนอื่นๆ ให้มีกำลังใจที่ดีอีกอย่างหนึ่ง เฮ่อ ปึก! เสียงถอนหายใจเกิดขึ้นทันทีเมื่อตัวเองได้เข้ามาในห้องพักก่อนที่จะทรุดตัวลงเก้าอี้ตัวใหญ่ด้วยความเหนื่อยล้าที่ต้องเผชิญตั้งห้าชั่วโมง ตอนนี้ใบหน้าขาวจนถึงซีดได้เผยขึ้นอย่างไร้การปกปิดสิ่งใดๆ เพราะได้ถูกเหวี่ยงลงไปบนโต๊ะก่อนหน้านี้อย่างไม่ใยดี “ผ่านไปด้วยดี” ผมพูดขึ้นขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ชื่อ รูธ มีอาชีพคือหมอหรือที่ใครๆ เรียกว่าแพทย์นั่นแหละมันไม่ใช่อาชีพหลักอะไรหรอกก็แค่อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตัวเองไม่รู้จักอย่าพึ่งว่าเป็นคนดีนะ ถ้ายังไม่รู้จักพอ อันนี้บอกไว้เลย Rr… “ว่า” น้ำเย็นชาที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองกรอกไปยังปลายสายเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ที่รู้จักของลูกน้องคนสนิทมือขวาที่ทำงานอยู่ RUTH MISCREANT RACING ของผมเอง [เฮียครับ เกิดเรื่อง] “อืม..เดี๋ยวกูไป” [ครับ] ตู้ดๆ ทันทีที่ผมได้ยินก็รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรมันค่อนข้างที่จะชาชินกับเรื่องพวกนี้ที่เข้ามาในชีวิตประจำวันของตัวเองแล้ววะ ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไร นอกจาก “เบื่อ” แต่ว่ามันคงเป็นเรื่องปกติสำหรับชีวิตของผมเสียแล้วสิ ขาดไปคงเหงาใช่ย่อย มือใหญ่เอื้อมเข้าไปจับกระป๋องน้ำเย็นจรดเข้าปากอย่างช้าๆ พร้อมกลืนลงไปอย่างใจเย็นเป็นที่สุดก่อนที่จะปาเข้าติดข้างฝา ตุบ! “ได้เวลาสนุกแล้วสิ!” ร่างสูงพูดขึ้นก่อนเดินก้าวออกจากห้องด้วยความใจเย็นระดับสิบ ความเย็นชาที่ทุกคนได้เห็นจนชาชินมันเป็นสิ่งแรกที่สาวๆมองว่าชอบมาก บรึ้น! เอี๊ยด! แรมโบกินีสีเขียวรุ่นใหม่ล่าสุดโลดแล่นเข้าด้วยความเร็วสูงเพื่อมาระงับเหตุการณ์ที่แสนดุเดือดที่เกิดขึ้นราวหนึ่งชั่วโมงได้ไฟหน้ารถส่องไปยังเป้าหมายวัยรุ่นกลุ่มอื่นที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนด้วยความไม่พอใจ สายตาคู่พิฆาตที่ใครได้สบจะต้องยอมแพ้และกลัวเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของรถได้ก้าวลงจากรถแต่แสงไฟยังส่องไปที่หน้าผู้ก่อเหตุอยู่ที่ทำให้พวกนั้นเห็นใบหน้าอย่างไม่ชัดเจน “อยากไปทักทายนรกนักหรอวะถึงได้มาที่นี่?” “…” ผมเดินเข้าไปให้ไอ้พวกวัยรุ่นขยะเห็นหน้าตาความนิ่งของผมคงทำให้พวกมันไม่กลัวสินะถึงได้ทำหน้าตากวนตีนแบบนั้น “สนามเหี้ยๆ แบบนี้พวกกูก็ไม่อยากมานักหรอก!” สายตาสีดำสนิทของชายผู้หนึ่งมองมายังผมพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างท้าทาย ใบหน้าที่มีรอยซ้ำ แผลที่ได้มาจากเหตุการณ์เมื่อกี้น้อยกว่าคนอื่นๆ บอกได้ว่าไอ้นี่สินะหัวหน้า “ถุย! แล้วมึงก็เสือกมา!” คราบแพทย์อันขาวสะอาดเมื่อกี้ถูกลบเลือนออกไปอย่างสิ้นเชิง มีเพียงผู้ชายที่ดูเถื่อนๆ ถุยน้ำลายลงพื้นด้วยความกวนทรงผมถูกเซทขึ้นเผยใบหน้าขาวตี๋อย่างชัดเจนกางเกงสีดำขาดๆ เหมาะกับเสื้อยืดสีขาวสวมทับด้วยยีนสีเข้มดูโดดเด่นมากขึ้นด้วยสีผิวที่ขาวซีด คำพูดออกจากปากของเจ้าสนามพูดขึ้นแล้วก็เดินเข้าไปช้าๆ พร้อมทั้งลูกน้องอีกนับสิบคนที่เดินตามไปติดๆ สายตาสีทองแดงเข้มยังจับจ้องไปทางไอ้ดรีม หัวหน้าของกลุ่มที่มาหาเรื่องที่สนามแข่งของผมถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาตีสามก็แล้วเถอะทำตัวกร่างไปทั่วทำไมผมถึงจะไม่รู้ชื่อของมันละแต่ในเมื่ออยากโดนดีไอ้รูธคนนี้ก็ให้ได้ “…” “มึงข้องใจเชี้ยอะไรวะกับสนามของกูหะไอ้ดรีม!” “…” คนชื่อดรีมแปลกใจไม่น้อยที่ผมรู้จักชื่อของมันสายตาที่เหมือนจะตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นเข้มเข้ากลบเกลื่อนตามเดิม คิดว่าคนอย่างไอ้รูธไม่รู้หรอกวะบอกเลยกระจอก “แพ้เองหาเรื่องเองงั้นหรอวะหรือว่า....” ผมยังพูดไม่จบก็มีการแทรกพูดขึ้นมาทันที “พวกกูมาเอาเงินเดิมพันคืน” “แม่ง !แต่พวกมึงแพ้” เกินไปไหม? แพ้แล้วมาขอเงินเดิมพันคืนบอกเลยว่าด้านวะเกลียดเข้าไส้กับคนประเภทนี้ใครให้ก็โง่เต็มทนแล้วแบบนี้ “แพ้แล้วไงวะก็กูจะเอาเงินคืน ไม่อยากให้...หรือไม่มีจ่ายกันแน่” “…” “เออหรือว่ามึงจะให้พวกกูพังที่นี่ละเลือกเอา!” “คิดว่ากลัว?” คนอย่างผมมีปัญญาจ่ายคืนเต็มจำนวนแน่ๆ หรือมากกว่านั้นอีกถ้าเกิดมีการผิดพลาดเกิดขึ้นแบบแฟร์ๆ แต่คงไม่ให้คืนแน่นอนกับพวกปัญญาอ่อน ไม่มีหัวคิดจริงๆ แบบแพ้แล้วทวง “มีแต่ตีนที่กูจะให้พวกมึง!” “เฮ้ย! พวกเราลุย!” เสียงไอ้ดรีมหันตัวไปสั่งลูกน้องทันทีเมื่อได้ยินผมปฏิเสธความคุกกรุ่นกระจายไปทั่วทุกสารทิศในช่วงเวลานี้ สายตาที่ต่างคนต่างแสดงออกถึงความไม่ยอมใครทั้งนั้นความดุเดือดที่ออกมาจากองค์ประกอบทั้งอุปกรณ์การสู้ทั้งไม้หน้าสาม ท่อนเหล็กขวดแก้วเป็นต้นที่แต่ละคนถือยิ่งเป็นการตอกย้ำได้ดีจริงๆ ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! “จากตีนเป็นลูกปืนก็แล้วกันง่ายกว่าเยอะ” ผมพูดขึ้นเมื่อยิงไปที่พื้นคอนกรีตหนาตรงหน้าไอ้ดรีมที่กำลังจะเดินเข้ามาก่อเรื่องลูกน้องมันต่างชะงักถอนลงไปเมื่อได้ยินเสียงนี้ความเหนือกว่ามันใช้ได้ถ้าคนเรารู้จักการใช้มันสมองให้เกิดประโยชน์การจัดการกับหัวหน้ากลุ่มย่อมทำให้ลูกน้องไม่กล้าเข้ามาอีกเป็นหน้า “อยากตายก็เข้ามาลูกปืนของกูมีเพียบ พร้อมยิงเสมอถ้าเสร่อเข้ามาหาความตาย!” “เอาไงดีลูกพี่?” เสียงชายวัยรุ่นกลุ่มตรงหน้าพูดขึ้นถามไอ้ดรีม แต่สายตาคู่นั้นก็มองมายังวัตถุสีดำวาวที่อยู่ในมือของผมอย่างสั่นๆ เพราะความกลัวโลดแล่นเข้าใส่ “พวกมึงป๊อดหรือไงวะ” เสียงหัวเสียของไอ้ดรีมพูดขึ้นถัดมา “แต่พวกนั้นมีปืนนะลูกพี่พวกเราแค่ท่อนไม้ เหล็กแก้วคงสู้ไม่ได้” วัยรุ่นคนดังกล่าวพูดขึ้นอีกครั้ง “เงียบ!” เสียงตะคอกของไอ้ครีมดังขึ้นมาด้วยแรงโทสะที่รุนแรงเพื่อเตือนลูกน้องของตัวเองก่อนที่สายตาจะหันกลับมาสบตาของผมอีกครั้งหนึ่ง ไอ้นี่มันกัดไม่ปล่อยง่ายๆ “ถ้ามึงไม่กลัวก็เข้ามาไอ้ดรีมแต่นัดนี้ กู....ไม่พลาด!” กริ๊ก! ปัง! เมื่อเสียงเตือนของผมจบลงลูกกระสุนก็พุ่งออกจากปลายกระบอกปืนโลดแล่นเข้าไปสู่มือด้านซ้ายของไอ้ดรีมเลือดอันแดงฉานต่างออกทะลักมาอย่างล้นหลาม “ช่วยไม่ได้มึงไม่เชื่อกูเอง” “…” เสียงประกาศิตออกจากริมฝีปากได้รูปอย่างช้าๆ ด้วยความใจเย็นไม่สนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสายตาที่ลูกน้องไอ้ดรีมมองผมเหมือนกับว่าไม่เชื่อสายตา “ใครอยากเป็นรายต่อไปก็เข้ามา...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม