CHAPTER 3

1524 คำ
CHAPTER 3 ~เฮ่อ~ ~เฮ่อ~ ~เฮ่อ~ เสียงถอนหายใจดังขึ้นแล้วและก็ดังต่อมาอีกในเวลาต่อมา เหมือนกับว่าคนที่ทำให้เกิดเสียงนี้มีอะไรที่คิดไม่ตกอยู่ในหัวสมองอย่างงั้น ถึงแม้ว่าจะพลิกตัวนอนตะแคงไปด้านไหนก็ตาม ความคิดนั้นมันก็ยังอยู่ไม่จากไปง่ายๆ เสียแล้ว แต่การถอนหายใจนั้นอาจมีเรื่องหลายอย่างที่ไม่สามารถเดาออกได้ทุกเรื่องราวแต่ที่มักจะเห็นได้นั้นก็คือการถอนหายใจเพื่อแสดงความกังวนการคิดหนักการคิดไม่ตกกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งการกลุ้มใจเป็นต้น แต่สำหรับฉันนั้นมันเหมือนกับการเอาเรื่องที่ได้เจอวันนี้มาคิดไปต่างๆ นานา จนกระทั่งรวมกันไปหมดแล้วแหละ ผู้ชายที่ทุกคนต่างรู้จักนามว่า “รูธ” ภาพของเขายังอยู่ในสมองของฉันนะจนบัดนี้ ผู้ชายที่แสดงออกไปตรงๆ เลยว่าเป็นคนก้าวร้าวดุดัน อีกทั้งยังหัวรั้นไม่ยอมใครๆ แรงมาก็แรงกลับตอบไปเป็นร้อยเท่าจนกลุ่มวัยรุ่นมักใช้ทำว่าสารเลวแทนกลุ่มของพวกเขาทั้งห้าคน ผู้ชายคนนั้นมันใช่คนเดียวกับที่ฉันเคย “รัก” เมื่อหกปีที่แล้วหรือเปล่าแต่ทว่าทำไมถึงได้แตกต่างไปจากเดิมนักและอีกประการที่ต่างกันก็คือชื่อ “ริว” ใช่ทุกคนคิดไม่ผิดหรอกถึงฉันไม่เคยมีแฟนเลยสักครั้งแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยรักใครนิเมื่อตอนมอสี่ฉันได้แอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งชื่อว่าริว เขาเป็นคนที่อบอุ่น ใจดีเป็นรุ่นพี่ที่คอยดูแลเอาใจใส่น้องๆ ในคณะแพทย์เป็นอย่างดีจนทำให้ผู้หญิงทั้งหลายต่างเทใจให้แม้จะอยู่ต่างคณะก็ตามหนึ่งในนั้นก็คือฉันด้วย แต่ทว่าอีกอาทิตย์หนึ่งก็เกิดข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเขาว่าได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยไปแล้วด้วยเหตุใดก็ไม่มีใครทราบจากนั้นมาฉันก็สืบข่าวคราวไม่ได้อีกเลยจนมาถึงวันนี้ที่ได้เห็นเขาอีกครั้งในชื่อรูธ ความรู้สึกที่โลดแล่นเข้ามาในจิตใจเมื่อตอนที่ได้เจอใบหน้าของเขาเป็นครั้งแรกมันตอบได้เลยว่าเขาต้องใช่พี่ริวแน่ๆ ใจที่สั่นระรัวเต้นไม่เป็นจังหวะมันบอกแบบนั้นจริงๆ แต่แล้วความจริงมันไม่ใช่เพราะเขาชื่อรูธ หนึ่งในกลุ่ม MISCREANT “นายเป็นใครกันแน่ใช่คนเดียวกันหรือเปล่าทำไมเหมือนกันนักแต่ไม่ว่าจะเป็นใครฉันต้องเอามาเป็นแฟนให้ได้..ไม่สน!” ความแน่วแน่ที่ตัวเองตั้งขึ้นในตอนนี้มันสูงลิวจนกลบความกลัวไปหมดแล้ว ถึงแม้ว่าจะเรียนอยู่ก็ตามแต่ความรักมันห้ามกันได้ที่ไหน จริงไหมล่ะไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็มีความรักได้ทั้งนั้นแหละถึงมันจะน่ากลัวสำหรับใครๆ แต่สำหรับฉันได้รัก ยังดีกว่าไม่เคยรักก็แล้วกัน ทุกอย่างที่ก้าวเข้ามาให้เจอในชีวิตล้วนเป็นประสบการณ์ที่จะสั่งสอนให้คนเราสามารถเลือกทางให้ตัวเองในด้านที่ดีที่สุด ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็ตาม ถึงสมองจะคิดแบบนี้แล้วทำไมถึงได้สวนทางกับใจละ ภายในใจของฉันมีเสียงของระดับหัวใจที่เต้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเสียใจหรือดีใจกันแน่ “แล้วเราจะได้เจอกัน รูธ....” Rr…. ความคิดของฉันดับลงไปในพริบตาเมื่อโดนเสียงสายเข้าโทรศัพท์ปลุกแบบเต็มๆ เที่ยงคืนแบบนี้ใครกันที่มันโทรมาไม่รู้เวลาเอาเสียเลยถึงแม้แต่บ่นด้วยความหงุดหงิดแต่มือก็ดันไปเลื่อนสัมผัสเพื่อรับสายอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่รับคงได้บ้านแตกคราวนี้ [รับช้าไปไหนมา?] เสียงทุ้มปลายสายเอ่ยถามขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าฉันกดรับน้ำเสียงที่ค่อนข้างหงุดหงิดผสมกับอารมณ์ที่เริ่มคลุกกรุ่นพร้อมเกิดดารปะทุได้ทุกเมื่อ “ก็นอนสิเวลานี้ถามทำไมคะ?” ฉันตอบไปด้วยความสัตย์จริงถึงแม้จะยังไม่หลับก็เถอะแต่ก็ถือว่าตอนนี้อยู่บนเตียงแล้วมันก็คงต้องพูดว่านอนอยู่แล้ว [กวนเพื่อ?] “เอ้า ก็มันจริงๆ นิ นี่เมืองไทยนะคะ ไม่ใช่ LA?” […] เสียงของคนปลายสายเงียบไปสักพักหนึ่งเขาคงอยู่ในที่ที่มีเสียงเพลงดังเกินจนทำให้ไม่ได้ยินเสียงของฉันเป็นแน่และบอกได้เลยว่าคนปลายสายยังไม่จบการสนทนากับเพียงแค่นี้หรอก เงียบแบบนี้แสดงว่าให้ถือสายรอถึงเป็นการโทรข้ามทวีปก็ไม่เสียดายเงินที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์แค่นี้ขนหน้าแข้งเฮียยังไม่ร่วงแน่ๆ ไม่มีวันเป็นอย่างยิ่ง [เฮียถามวันนี้ไปไหนมาตอบให้ตรงด้วยเรเนส] “…” นั้นไง ฉันเดาถูกจริงๆ ด้วยแต่ประโยชน์นี้มันเริ่มจริงจังขึ้นมาหลายระดับ น้ำเสียงที่เข้มกว่าปกติแฝงความขู่ไว้เห็นๆ [เงียบเพื่อไรวะทำผิดมาอีกใช่ไหม?] “… นะ เนส” ได้ยินเสียงต่ำขู่ยิ่งทำให้ฉันหายใจไม่ปกติเลย ความผิดที่ฉันได้ทำลงไปในวันนี้ไปถึงหูเฮียเร็นแล้วสินะ รวดเร็วดีจริงนั่นมันอีกซีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ความร้อนรนทำให้เสียงที่ตอบดูกุกักไม่เป็นธรรมชาติ [เรเนสพูดเฮียกำลังให้โอกาสอธิบายอยู่นะ!] “เนส...ไปดูแข่งรถมาเฮียเร็น” ในที่สุดก็โผพูดออกไปจนได้คนอย่างฉันมันโกหกไม่เก่งเลย อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองในเรื่องนี้จริงแต่ก็นะทำไม่ได้เวลาที่ตัวเองทำผิดเหมือนมีชนักติดหลังกลัวไปหมดก็ว่าได้ [บอกกี่ครั้งว่าห้ามไปทำไมไม่ฟังกันบ้างวะ!] เสียงตะคอกลงโทรศัพท์ของปลายสายแทบทำให้ฉันเอาออกจากหูตัวเองแทบไม่ทันการ เวลาเฮียโกรธน่ากลัวยิ่งกว่าอะไรอีก ใครก็ไม่กล้าขัด แต่ครั้งนี้ขอเถอะ “ใครคะ ใครเป็นคนบอกเฮียเรื่องที่เนสไปดูการแข่งรถวันนี้ทำไมถึงได้ทำตัวเป็นสุนัขช่างคาบข่าวไปบอกเฮียเสียจริงบอกเนสสิว่าใคร!” [ทำผิดแล้วยังไม่ยอมรับนะเรเนสให้เฮียหักค่าขนมไหม ไม่สิง่ายไปเอาเป็นว่าไม่ให้ออกจากบ้านสักหนึ่งอาทิตย์เป็นไง] “เฮียเร็นทำกับเนสแบบนี้ไม่ได้นะเนสโตแล้วนะ!” [ยิ่งโตก็เหมือนยิ่งโง่บอกอะไรเคยฟังบ้างปะวะในเมื่อไม่ฟังก็อย่าหวังว่าคราวนี้เฮียจะฟัง อ๋อ! อีกอย่างอย่าไปสืบเลยว่าใครเป็นคนคาบข่าวมาบอกเฮียไม่มีทางรู้ได้แน่นอน เวลมันคนละระดับกันน้องรัก] “เฮีย! เฮีย! เฮียเร็น!” ตู๊ดๆ “โธ้เว้ย!” ด้วยความอารมณ์เสียเป็นอย่างยิ่งทั้งที่ยังพูดไม่เคลียร์เลยพี่ชายตัวดีของฉันก็วางสายไปเสียแล้ว เฮียเร็นต้องการที่จะจุดฉนวนระเบิดไว้เพื่อทำให้ฉันระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่ทุกคนไม่ต้องงงหรอกนะ ฉันมีพี่ชายที่หล่อ ดูดี ฐานนะดี ครบสูตรที่สาวๆ ทุกคนต้องการเฮียเร็นอายุเยอะกว่าฉันไปสามปี ตอนนี้ดูแลธุรกิจกับพ่อแม่อยู่ต่างประเทศเหลือเพียงฉันคนเดียวที่อยู่ในบ้านหลังโตแบบนี้อีกอย่างเฮียเร็นก็เป็นคนที่ชอบพูดจาตรงๆ จริงจังกับทุกอย่างสิ่งที่ชอบมากคือกวนบาทาคนอื่นๆ นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่เฮียไม่ชอบให้ฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวก็คือการเข้าคลับหรือเรียกว่าร้านเหล้า การดูการแข่งรถข้อห้ามอีกหลายประการมีเหตุผลเพียงเพราะว่ามันไม่ปลอดภัย คนอย่างเฮีนเร็นชาตินี้คงไม่มีวันมีเมียแน่ๆ ฉันคนหนึ่งที่ขอแช่งเอาไว้เลยดูสิทำกับน้องนุ่งที่ร่วมสายเลือดกันแบบนี้ได้ยังไงตัดค่าขนมอย่างที่ผ่านมาจะไม่ว่าสักคำแต่นี้อะไรห้ามออกจากบ้านเลยนะโลกภายนอกภายในหนึ่งอาทิตย์อย่าหวังว่าฉันจะได้เห็นเลย เฮียเร็นเป็นคนที่พูดจริงทำจริง ลูกน้องเต็มไปหมด อย่าให้ฉันรู้นะว่าใครเป็นคนรายงานเรื่องนี้จะลงโทษให้เข็ดหลาบปากโป้งดีนัก “ทนไม่ไหวแล้วโว้ยอยากตะบันหน้าหล่อๆ ของพี่ชาย!” กิริยาที่บ่งบอกว่าหัวเสียจนทิ้งขว้างทั้งหมอนข้างเหวี่ยงหนอนใบใหญ่ที่ตัวเองหนุนออกไปอย่างไม่ใยดี เท้าเล็กๆ ก็ถีบผ้าห่มลงจากเตียงใหญ่อย่างไม่กลัวเปื้อนอาการแบบนี้จะเกิดเป็นประจำเมื่อมีอารมณ์ขุ่นมัวของหญิงสาว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม