CHAPTER 7
เสียงดนตรีที่ดังขึ้นด้วยระดับเสียงที่สามารถฟังผู้คนที่ต่างพูดจาจับกลุ่มได้สบายตั้งแต่ที่ย่างก้าวเท้าของตัวเองจากประตูเข้ามาใน QP MISCREANT CLUB มันทำให้ฉันตะลึงไม่ใช่ว่าตัวเองโลกสวยไม่เคยเข้ามาในสถานที่แบบนี้แต่ที่ตะลึงก็เพราะว่าที่นี่สวยมาก
การตกแต่งที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง เน้นไปในโทนสีม่วงดำเสียมากกว่าผู้คนที่เข้ามาใช้บริการก็มากมายไม่ว่าหญิงหรือชายแบบนี้นี่เองถึงได้มีวัยรุ่นพูดกันว่าเป็นแหล่งสถานบันเทิงชื่อดังที่ทุกคนรู้จัก
ผู้คนที่ต่างเบียดเสียดเต้นกันอย่างสุดมันสุดเหวี่ยงจนทำให้บางครั้งทำให้ชนกันบ้างจากที่เกิดขึ้นเป็นบางครั้งหนักเข้าก็เริ่มเกิดขึ้นถี่ๆ จนทำให้ฉันต้องเป็นคนหลบเพราะไม่อยากโดยชนอีก ไม่อยากมีเรื่องกับพวกคนเมามันไม่รู้จบ
“โซน VIP อยู่ชั้นสองสินะ”
เมื่อสายตาของตัวเองเหลือบเห็นป้ายที่ติดไว้ขนาดใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ ก็รีบเร่งเดินขึ้นบันไดไปทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลาเสียโอกาส
“เรเนสทางนี้ วู้!”
เสียงของเพื่อนสาวประเภทสองเรียกดังขึ้นทำให้ทุกคนต่างมองมาทางฉันด้วยสายตาที่คาดเดาได้ยากไม่ว่าจะจากผู้ชายหรือผู้หญิงบางสายตาก็อ่านออกว่าเขาชื่นชมแต่มีนับหลายสายตาที่มองเข้ามาอย่างไม่ประสงค์ที่จะดีด้วย
มองอะไรกันนักหนาก็แค่ใส่ชุดเดรสรัดรูปสีดำที่สั้นจากเข่าไปคืบเดียวเองขัดผิวที่ขาวผ่องบวกกับทรงผมที่ยาวสลวยถูกดัดลอนคลายตรงปลายเพื่อเพิ่มความเซ็กซี่ตบท้ายด้วยการแต่งหน้าที่โฉบเฉี่ยวสไตล์สาวมั่นที่โดดเด่นด้วยริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยสีแดงจัดจากเครื่องสำอางราคาแพง
“ชนกันหน่อยสำหรับคนสวยๆ อย่างคุณ....”
“…”
สายตาคู่นั้น?
ใจของฉันเต้นระรัวเพิ่มระดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนแทบจะระเบิดออกมาด้านนอกสายตาที่มองเข้าไปเหมือนจะไม่มีอะไรเลยมีแต่ความว่างเปล่าแต่ทว่าเมื่อฉันมองเข้าไปมันทำให้รู้สึกว่าเหมือนตัวเองอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะที่แสนเยือกเย็นไม่ว่าจะมองไปทางไหนทั้งซ้ายและขวาก็มีแต่สีขาวของเกล็ดหิมะความเยือกเย็นนั่นแหละที่เข้าถาถมใส่ตัวเอง
ไม่เข้าใจสายตาคู่นั้นจริงๆ ว่าเขาคิดอะไรอยู่ในตอนนี้หรือว่าอาจจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ชอบอ่อยก็ว่าเป็นได้
พี่...รูธ
ใช่มันเป็นพี่รูธจริงๆ โต๊ะที่นั่นโซนลึกเข้าไปด้านในสุดที่ดูโดดเด่นมากเพราะว่ามีเพื่อนๆ ของเขานั่งอยู่ด้วยอีกสี่คนซึ่งแต่ละคนก็มีสาวๆ นั่งอยู่ข้างๆ เว้นแต่พี่รูธที่ไม่มีแบบนี้แสดงว่าโสดสินะไม่คิดเลยว่าเขาจะมองฉันด้วยได้ยินมาว่าค่อยข้างเป็นเสือยิ้มยากใช่เล่น
“นายยังอยู่อีกหรอ?”
ฉันเบี่ยงหางตาของตัวเองมองไปยังผู้ชายที่เข้ามาพร้อมกับแก้วเหล้าในมือเพื่ออยากดื่มด้วยไม่คิดว่ายังอยู่อีกโดนเมินจนเสียหน้าขนาดนี้ยังด้าน
“…”
“ทั้งหยิ่ง ทังสวยแบบนี้ผมชอบ”
ว่าแล้วสายตาที่สำรวจตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าด้วยสายตาที่บอกได้ว่าหื่นกามสุดๆ อยากจะฆ่านัก! ทำไมจะไม่รู้ว่าคนอย่างมันคิดอะไร
“แต่ฉันไม่ชอบเก็ท?”
หมับ
“แบบนี้ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ รู้ไหม?”
“…”
จากแรงกระชากทำให้ตัวของฉันปลิวเข้าไปกระทบกับอกแข็งของผู้ชายที่ไม่เคยรู้จักจากนั้นมันก็ค่อยๆ ใช้ฝ่ามือลูบแผ่นหลังลงมาเกือบถึงสะโพก
เอ๊ะ!
“ใจร้อนนะคะรู้ไหมว่าเรย์เห็นคุณครั้งแรกแทบอดใจไม่ไหวเหมือนกันเลย...”
“เรย์?”
ฝ่ามือของฉันลูบขึ้นจากหน้าท้องจนถึงอกแกร่งสายตาที่ยั่วเย้าส่งผ่านออกจากตาของตัวเองด้วยความเสน่ห์หาที่ไม่ว่าชายคนไหนก็ต้องมีอาการเคลิ้มกันบ้างละถ้าไม่ใช่แบบนั้นก็ฟันธงได้เลยว่าเกย์ชัวร์แท้แน่นอน
“ค่ะชื่อเรย์ รู้ไหมว่าการฝืนความรู้สึกไว้เพราะอยากให้คุณเป็นคนมาทำความรู้จักก่อนมันทรมานแค่ไหน?”
เรย์ไหนก็ไม่รู้แต่ที่รู้ๆ กันอยู่ว่าเรย์ไม่ใช่ชื่อของตัวเองก็แล้วกัน ความแหลความสตอมันมีอยู่ในตัวหัดใช้ให้เป็นประโยชน์ไปในที่ดีบางก็เท่านั้น จะหาว่าร้ายว่าแรงก็เชิญแล้วแต่เลยเพราะยังไงคำนินทาก็ไม่มีประโยชน์กับตัวฉันหรือแม้กระทั่งครอบครัว
ช่างแม่งค่ะ!
“ไปต่อกันไหมครับคนสวย..”
ยิ่งได้ใจเมื่อเห็นว่าผู้หญิงสนใจผู้หญิงเข้าหาหน่อยก็ทำเนียนชวนไปต่อที่อื่นๆ เหอะ! ลูกไม้ตื้นๆ คิดหรอว่าจะสามารถหลอกเรเนสคนนี้ได้
“หรอคะ?”
พลั่ง! ตุบ!
เพล้ง!
ผู้ชายคนดังกล่าวถูกผู้หญิงตัวเล็กๆ จับทุ่มด้วยแรงที่เหนือกว่า ร่างกายลอยอยู่บนอากาศราวกับถูกรีเพลย์อย่างช้าๆ ก่อนที่ร่างกายจะตกลงมากระทบพื้นจนทำให้ลุกขึ้นแทบไม่ได้
“อุ้ย! ลืมบอกไปว่าสายดำเทควันโด”
“…”
การกระทำแบบนี้ในคลับยิ่งเป็นจุดที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้นใครจะไปรู้ผู้หญิงที่ดูบอบบาง หุ่นเล็กๆคนหนึ่งจะสามารถทำผู้ชายตัวโตหมดสภาพได้ถึงระดับนี้
“นะ นัง..”
“จำไว้ไอ้เหี้ยอยู่ดีๆ อยากแส่เข้ามารนหาที่พิการเองคนสวยก็ช่วยสงเคราะห์!”
ก่อนที่ไอ้นั้นจะพูดมากสาวความยาวฉันก็ถึงเวลาชิงพูดก่อนเพื่อที่จะได้เดินไปที่โต๊ะสักที เบื่อที่วันๆ มีแต่เรื่องชวนให้ปวดหัวอยู่เรื่อยเสียเวลาชะมัด
บทบรรยายพิเศษ: รูธ
“มองตั้งนานมึงสนว่างั้น?”
“ไม่”
พยางค์เดียวสั้นๆ ที่ออกจากริมฝีปากผมทำให้ไอ้พวกเพื่อนที่รอลุ้นคำตอบต่างก็ทำหน้าเซงกันทั่วหน้าตอบตรงไปก็เป็นแบบนี้ไม่ตอบก็ชอบเซ้าซี้ตกลงมันจะเอายังไงวะ? สายตาผมมองไปยังไอ้แวนเดอร์ที่มันพูดขึ้นมาเป็นเชิงถาม
“อย่าใช้สายตาแบบนั้นมองกูเพราะมันไม่มีอิทธิพลเท่าของเมีย”
“เผียะ! แวนเดอร์!”
อยู่ๆ ฝ่ามือของเมียมันก็เข้ามาตบตรงที่แขนด้วยความแรง สมน้ำหน้าจริงๆ เหอะทำมาเป็นพูดดีนึกว่าจะได้จูบจากเมียหรือไง
“แล้วมึงมองเพื่อ?”
คราวนี้เป็นคำถามของคุณพ่อลูกสองไอ้โซฟัสที่นานๆ ทีจะเห็นมันสักทีคงมัวแต่คลุกอยู่กับเมียสินะสายตาของผมเบี่ยงไปสบตาของมันบาง
“มองเรื่อยๆ ไม่ได้?”
“กูชอบมึงก็ตรงนี้แหละปากไม่ตรงกับใจ”
“มันจะตรงเพื่ออะไรวะไอ้เทลในเมื่อเป็นคนละอวัยวะ”
พอตัวเองพูดจบก็คว้าแก้วเหล้ามากระดกเข้าปากบางพูดกับไอ้เพื่อนพวกนี้มันยิ่งน่าเบื่อมากกว่าการอยู่คนเดียวเสียอีกวันๆ
“ให้มันจริงเถอะวะไอ้เชี้ยรูธเห็นมองตาไม่กะพริบแบบนี้”
“ชัวร์ไอ้เชี้ยคิวพี”
หลังจากที่ตอบไปหมดแล้วผมก็ได้เอนตัวลงไปพิงโซฟาอย่างเต็มๆ เพื่อที่คลายความเบื่อหน่ายมากกว่าไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นอะไรและแล้วสายตาของไอ้พวกนั้นก็มองมาทางผมเหมือนเดิมไม่รู้ว่าวันนี้ผมแต่งตัวหล่อไปใช่ไหมเหตุผลประการนี้ไม่ใช่แน่นอนไม่อยู่ในตัวเลือกด้วยซ้ำไป ปล่อยให้พวกมันมองหน้ามโนเองก็แล้วกันไม่มีอะไรที่จะต้องตอบ
“ผู้หญิงคนนั้นคุ้นๆวะ”
ไอ้เทลพูดขึ้นมาอีกครั้งหน้าหน้าของมันที่แสดงถึงการคิดมากจนคิ้วนี้แทบขมวดรวมเป็นเส้นเดียวกันด้วยซ้ำ
ไอ้พวกความจำเสื่อม!
แค่นี้ก็คิดไม่ออกอยากจะเตือนความจำของพวกมันด้วยการตบศีรษะสักสองสามทีจริงๆ เพื่อให้ความจำมันกลับมา
“ไอ้รูธ”
“ว่า?”
ในที่สุดก็เอ่ยปากพูดขึ้นอีกครั้งนะไอ้โซฟัสตอนที่เมียอยู่พวกมันทำเป็นไม่สนใจสาวๆ รอบตัวพอเมียกลับไปไม่นานก็เริ่มแลสาวเสียแล้ว
“…”
“เงียบเพื่อถามก็ถามรำคาญ!”
ใบหน้าเริ่มหงุดหงิดเมื่อไอ้พวกนั้นเอาแต่เงียบไม่มีใครเอ่ยปากออกมาสักทีพวกมันจะลีลาให้ได้อะไรขึ้นมาวะโสดก็ไม่โสดทำตัวเหมือนว่าตัวเองไม่มีครอบครัวอย่างนั้น
“มึงไม่รู้จักหรอวะ?”
เสียงของไอ้แวนเดอร์ถามแต่ครั้งนี้ดูจริงจังมากกว่าครั้งอื่นๆ ที่มีท่าทีแสดงว่าเล่นๆ อยู่บ้าง จะเครียดเพื่ออะไรจะเคยรู้จักหรือไม่? คุ้ยเคยหรือไม่ก็เปล่าแล้วมันจำเป็นต้องจริงจังขนาดนั้นไหมวะ
“กูไม่บอก!”