ปัง!
“เป็นไปได้ไงวะ” ไฟทุบมือลงที่ล็อกเกอร์อย่างหัวเสีย! ภาพในสนามแข่งยังติดตาไม่หาย ทั้งทักษะต่าง ๆ ตั้งแต่อีกฝ่ายออกตัวหรือแม้กระทั่งการดริฟต์ในโค้งสุดท้าย มันไม่เหมือนคนเดิมที่เขาเคยแข่งด้วยเลยสักครั้ง
มันไปฝึกมาจากไหนวะ! แค่เดือนเดียวมันไม่น่าจะเก่งถึงกับจะเอาชนะกันได้แบบนี้
คิดแล้วโคตรหงุดหงิด!
“เกิดอะไรขึ้นวะ” เพลิงเดินเข้ามาพร้อมเอามือเกาะบ่าราวกับจะปลอบ แต่ไฟกับเบี่ยงตัวหลบเพราะตอนนี้เขากำลังหัวเสียเอามาก ๆ
“ไม่รู้โว้ย กูจะรู้ได้ไง!” เป็นคำถามที่เขาก็เพิ่งถามตัวเองไปเหมือนกัน ยิ่งคิดก็ได้แต่ยิ่งเจ็บใจ
“แต่กูว่ามันแปลก ๆ ...” พายุที่เดินเข้ามาตามหลังพูดขึ้นทำให้ทั้งไฟและเพลิงหันไปมองยังพายุในทันที
“มันชนะมึงได้ครั้งแรก แต่แม่งกลับเงียบไม่มาเย้ยมึงเลย ผิดนิสัยมันเปล่าวะ ปกติคนอย่างมันตอนชนไม่ว่าจะกับใครมันเดินมาเย้ยแล้วนะเว้ย แล้วนี่มันชนะมึงเลยนะเว้ย มันเคยชนะมึงซะที่ไหน”
เออ...ก็จริงอย่างที่มันบอก
“ใช่ ถ้ามันแพ้ก็ว่าไปอย่าง” เพลิงพูดเสริม
“เออว่ะ แปลกจริง”
“หรือว่าแม่งพวกมันจะเล่นตุกติก!”
ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างใช้ความคิด แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นเพราะไม่มีหลักฐานที่จะชี้ชัดหรือเอาผิดอีกฝ่ายได้ อย่างเก่งก็ต้องรอวัดฝีมือกันในรอบเดือนถัดไปถึงพิสูจน์พวกมันได้อีกที
@มหาลัยKING
“ไฟ อยู่นี่นี่เองเจอตัวพอดีเลย ไหนเล่าสิเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น”
เสียงหวานใสของเพื่อนสาวคนเดียวของกลุ่มเดินเข้ามาทักทายไฟจากด้านหลัง เธอชื่อ เฟียร์ เรียนคณะนิเทศศาสตร์ เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มของไฟ เพลิง และพายุ ที่เรียนคณะวิศวกรรม
“ถามทำไมวะ” ไฟที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่โรงอาหารของคณะตอบกลับอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์
“ก็คนในมหาลัยเขาลือกันให้แซดเลยว่าเมื่อวานนายแข่งแพ้ เป็นไปได้ไงอะ แล้วไงสรุปนายแพ้ได้ไง”
“กูจะรู้ได้ไงแพ้ก็คือแพ้ปะวะ” ไฟกระดกขวดน้ำเข้าปากก่อนจะวางลงข้าง ๆ อย่างหัวเสีย ในขณะที่เฟียร์ถอนหายใจมองเพื่อนชายอย่างเห็นใจก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ
“แล้วนายจะเอาคืนพวกมันปะ”
“ต้องเอาคืนดิ มันเอารถกูไปกูต้องไปเอาคืนอยู่แล้ว” ไฟดันลิ้นที่กระพุ้งปากด้วยความแค้น แววตาของเขาวาวโรจน์ โคตรแค้นที่ตัวเองที่ชะล่าใจให้กับคู่แข่งจนถึงกับต้องเสียรถ
พวกมันหยามกันชัด ๆ
เฟียร์ได้แต่ยกมือตบบ่าปลอบใจไฟเบา ๆ ก่อนจะหันไปสบตาแล้วพยักหน้าให้กับพายุ ทั้งสองคนรู้ดีว่าเรื่องนี้ไฟไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ ๆ ยังไงไฟก็ต้องโดนเอาคืนพวกมันอยู่ดี ก่อนที่จะเฟียร์จะเอ่ยปากถามหาเพลิงเพราะไม่เห็นมาทานข้าวกลางวันนั่งด้วยกัน
“แล้วเพลิงไปไหนอะ ทำไมไม่อยู่กับพวกนายสองคน”
“ถามหามันทำไม คิดถึงมัน?” เป็นพายุที่ถามแบบทีเล่นทีจริง เพราะในกลุ่มพวกเขาสนิทกันสี่คนก็จริง แต่เพลิงจะเป็นคนที่สนิทกับเฟียร์มากที่สุด
“ถามเฉย ๆ อย่ากวนตีน!”
“ฤกษ์ดีว่ะวันนี้ โดนด่าแต่เช้าเลยกู”
“มันไปโรงพยาบาล” ไฟตอบออกมาอย่างรำคาญที่สองคนมัวแต่กวนประสาทกันแต่เช้า เขาก็แค่อยากอยู่เงียบ ๆ
“มันไปทำไม”
“แล้วมึงไม่โทรถามมันเองละ”
“กวนตีนอีกละไอ้พายุนี่” เฟียร์ยกกำหมัดหมายจะทุบหลัง จนพายุต้องรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะโดนฝ่ามือพิฆาตของเฟียร์เข้าจริง ๆ
“โอเค ๆ ไม่ล้อ มาต่อเรื่องของไอ้ไฟดีกว่า”
“ว่า...”
“มันแปลก ๆ ปะมึงว่า” สายตาของเขาพายุมองไปรอบ ๆ ก่อนจะหันมาสบตากับเฟียร์และไฟที่มองอยู่ วันนี้บรรยากาศภายในมหาลัยดูสงบเงียบเกินไปจนเขาแปลกใจ
“แปลกเรื่องไร”
“คนอย่างไอ้เหี้ยนั่น มันจ้องอยากชนะไอ้ไฟมาตั้งนาน แต่พอมันชนะได้ กลับเงียบหายเข้ากลีบเมฆไปเลย” พายุลองวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ที่ไม่น่าเป็นไปได้ พวกมันดูมีอะไรแปลก ๆ ตั้งแต่แข่งชนะจนกระทั่งหลังแข่ง ก็ยังไม่เห็นไอ้พวกนั้นจะมาเย้ยไฟอย่างที่คิด ดูเงียบจนน่าแปลกไปหมด
“หรือมันเตรียมแผนอะไรอยู่” เฟียร์ออกความเห็นก่อนจะหันไปมองหน้าไฟที่มีสีหน้าเคร่งเครียด
“กูแปลกใจตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” ไฟเอ่ยเสียงเรียบ เขาก็คิดแบบนั้นและคิดมาทั้งคืน ว่าคนอย่างมันวันนี้ต้องมาเย้ยเขาถึงคณะแน่นอน แต่นี่อะไร? เงียบกริบอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้และไม่ใช่นิสัยของพวกมัน
“เออจริงสิจะว่าไป เมื่อกี้เราเดินผ่านคณะพวกมัน เราไม่เห็นมันเลยนะ ที่เห็นก็มีแต่เพื่อนในกลุ่มมันแค่บางคนเท่านั้น” เฟียร์พูดเสริมตามที่เธอสังเกตเห็น ทุกอย่างดูแปลกไปจริง ๆ
“อืม กูก็ว่าพวกมันแม่งแปลกฉิบหาย ผิดสันดานคนอย่างมัน”
ครืด ครืด...
แล้วความสงสัยทุกอย่างก็หยุดลง
เมื่อโทรศัพท์ทั้งสามเครื่องของทั้งสามคนสั่นครืด แจ้งเตือนว่ามีข้อความจากไลน์กลุ่มเข้ามาพร้อม ๆ กัน ปรากฎเป็นข้อความรูปจากเพลิงที่ส่งข้อความเข้ามา ก่อนที่พายุจะกดอ่านเป็นคนแรก
“เชี่ย ไอ้ไฟ มึงดูนี้” พายุส่งรูปจากหน้าจอให้ไฟดูทันที!
รูปจากเพลิง เป็นรูปที่แอบถ่ายจากหน้าห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาล ภายในห้องคือ แทน คู่ปรับและคู่แข่งกับไฟกำลังนอนใส่เฝือกอยู่บนเตียง
“อ่อ มันเข้าโรงพยาบาลนี่เองถึงว่าไม่มาเย้ยที่แข่งชนะ” เฟียร์ที่เปิดดูภาพจากหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองเอ่ยขึ้น
“มันก็ใช่ นั่นมันก็ส่วนหนึ่ง แต่...” พายุที่ชักโทรศัพท์ของตัวเองกลับมาดู เห็นข้อความจากเพลิงที่ส่งเข้ามาเพิ่มเติมอีก ก่อนที่เขาจะอ่านข้อความทวนประโยคที่เพลิงส่งเข้ามาล่าสุดพร้อมกับมองหน้าทุกคนที่กำลังใช้ความคิด
“...ไอ้เพลิงมันบอกว่า มันเกิดอุบัติเมื่อสี่วันก่อน”
“สี่วันก่อน” คิ้วหนาของไฟขมวดเข้าหากัน มองสบตาพายุที่เต็มไปด้วยความสงสัยไม่แพ้กัน ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุเมื่อสี่วันก่อน ก็แสดงว่าคนเมื่อวานไม่ใช่พวกมันแต่เป็นคนอื่นมาแข่งแทน!
“แล้วงี้ เมื่อวานไฟแข่งกับใครอะ” เฟียร์ปะติดปะต่อเรื่องราวก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเธอเริ่มจับประเด็นได้
“สัส! มันแน่ใจใช่ไหม ข้อมูลที่มันได้มา” ไฟกัดฟันกรอด มือกำหมัดแน่นด้วยความแค้น หากเป็นอย่างที่เพลิงส่งข่าวมาก็แสดงว่าพวกมันเล่นตุกติกกับเขา
“อืมไอ้เพลิงว่ามันมั่นใจ”
“อย่างงี้ก็เท่ากับว่ามันเล่นสกปรกกับพวกนายสินะ” เฟียร์ออกความเห็น ก่อนจะหันไปมองพายุที่ลุกขึ้นพร้อมกับบีบหมัดเข้าหากันดังกรอบราวกับว่าร่างกายเขาพร้อมปะทะกับพวกมันเต็มที่
“เอาไงวะ งั้นพวกเราไปลุยพวกมันที่โรงพยาบาลเลยปะ เล่นกับเพื่อนกูแบบนี้ มึงคิดผิดแล้วไอ้เหี้ยแทน”
“ไม่ กูมีวิธีที่ดีกว่านั้น นอกจากรถและชื่อเสียงที่กูจะต้องเอาคืน กูจะเอาให้แม่งกระอักจนคนพวกมันไม่คิดท้าแข่งกับกูอีก!” ไฟพูดเสียงลอดไรฟันด้วยความแค้น แววตาเขาในตอนนี้ราวกับมีลูกไฟลุกโชนจนดูน่ากลัว
“แต่ตอนนี้กูอยากรู้ว่า...วันนั้นกูแข่งกับใคร”