เย็นนั้น
@Fire SpeedPrak
หลังเลิกคลาส ทั้งไฟ เพลิง พายุ ต่างรีบมายังสนามแข่งเพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนที่พายุจะชี้ให้ทุกคนดูบุคคลปริศนาจากในภาพ
“นั่นไง มันกำลังขึ้นรถตู้”
ไฟขบกรามด้วยความแค้น เขากำหมัดแน่นมองภาพบุคคลปริศนาที่กำลังก้าวขึ้นรถตู้ นึกคับแค้นใจให้กับความประมาทและไม่ทันเอะใจของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงที่ทำให้เขาต้องเสียลูกรักและเสียประวัติแชมป์ไปอย่างไม่น่าให้อภัย
“กูแม่งทำไมไม่เอะใจพวกมันวะ”
ใช่ ทั้งที่พวกมันแม่ง! มีพิรุธขนาดนี้ แต่เขาชะล่าใจไปจริง ๆ พวกมันมีพิรุธเต็มไปหมด ทั้งไม่ยอมเปิดหน้า ทั้งไม่ยอมทักทาย อย่างทุกคนและที่สำคัญเขาก็ยอมรับว่าพลาดเองที่ไม่ได้ตรวจสอบพวกมันให้ดีก่อนลงแข่ง ส่วนหนึ่งก็คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะกล้าเล่นสกปรกแบบนี้
แววตาคู่คมจับจ้องไปที่ภาพในกล้องวงจรปิดไม่วางตา
จนกระทั่ง...
“มันลงรถมาแล้ว” พายุพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น กะว่าจะได้เห็นหน้าค่าตาของคนที่อยู่ภายใต้ชุดแข่งเสียที
ทว่า... เมื่อประตูรถตู้เปิดออก สายตาทั้งสามคนมองเพ่งไปที่ภาพบุคคลปริศนาอย่างใจจดใจจ่อที่จะได้เห็นหน้า ก่อนจะเห็นพร้อมกันว่าคนในชุดนักแข่งกำลังก้าวขาลงจากรถ
“สัส เสือกใส่หมวกมิดชิด” เพลิงพูดด้วยน้ำเสียงติดขัดใจ อุตส่าห์ตั้งหน้าตั้งตารอมันเปิดประตูลงจากรถแล้วจะได้เห็นหน้าของมันแต่กลับไม่เห็นอะไรเลย
“เชี่ยแม่งทำตัวลึกลับฉิบหาย” พายุถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ ก่อนจะขยับตัวจ้องไปที่กล้องวงจรปิดอีกครั้ง เมื่อเห็นคนในภาพดูมองซ้ายมองขวามีพิรุธก่อนจะเดินเข้ามายังด้านในของอาคาร
“ว่าแต่มันจะเดินไปไหน”
แปลก! แทนที่จะขึ้นรถไปกับรถตู้ของพวกมัน แต่คนในภาพกลับเดินเข้าไปยังด้านในของอาคารด้วยท่าทางน่าสงสัย
“รู้ที่อับผู้คน...” ไฟสงสัยไม่ต่างกันกับเพลิง แต่มีสิ่งที่น่าแปลกใจไปกว่านั้น
“...หรือว่าจะเป็นคนใน” เขาจับจ้องคนในจอที่กำลังเดินไปตามทางเลี้ยวซ้ายขวาอย่างชำนาญทาง
ใช่...ถ้าชำนาญและรู้ทางดีขนาดนี้ต้องเป็นคนในหรือคนที่รู้จักที่นี่เท่านั้น ก่อนที่ทั้งสามคนจะมองหน้าจอแล้วร้อง “เชี่ย” ออกมาแทบพร้อมกัน เพราะบุคคลปริศนาในชุดแข่งกำลังเดินเข้าไปยัง
ห้องน้ำหญิง!
“เข้าห้องน้ำหญิง เชี่ย! อย่าบอกนะว่าเป็นผู้หญิง!” พายุพูดขึ้นอย่างตกใจ
ในขณะที่เพลิงและไฟต่างเงียบอย่างไม่เชื่อสายตา แต่กลับเฝ้ารอ... รอให้เห็นกับตาว่าจะเป็นไปได้จริงเหรอ?
เกือบสิบห้านาทีต่อมา พวกเขาก็ต้องตื่นเต้นอีกครั้ง เมื่อคนที่เพิ่งเดินเข้าไปในห้องน้ำกำลังเปิดประตูเดินออกมา
“สัส! ผู้หญิง” ไฟเอ่ยพูดเสียงเรียบ แค่เห็นรูปร่างที่บอบบางของคนในจอนั่นก็รับรู้ได้ทันที แม้จะใส่เสื้อฮู้ดกางเกงวอมขายาว ใส่หมวกแก๊ปรวบผม แต่ทรวดทรงและหุ่นก็ทำให้รู้ได้ว่าคนในจอเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน
ใบหน้าหล่อของไฟราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ หากสายตาราบเรียบหากที่ใช้มองนั่น เขากำลังรู้สึกเสียเซลฟ์เป็นอย่างมาก
แพ้ใครไม่แพ้ แต่ดันแพ้ผู้หญิง !
พวกมันหยามเกินไปแล้วที่กล้าจ้างวานผู้หญิงมาแข่งกับเขา
สายตาคมยังคงจับจ้องไปที่หญิงสาวที่เดินก้มหน้าก้มตารีบร้อนดินออกไป ทว่าจังหวะหนึ่ง อยู่ ๆ เธอคนนั้นก็แหงนหน้าขึ้นมามองกล้องวงจรปิด ทำให้พวกเขามองเห็นใบหน้าของหญิงสาว
“สัส เห็นไม่ชัดว่ะ” พายุพยายามเพ่ง แต่ก็ไม่ชัดเท่าไหร่เพราะจุดที่เธอเงยหน้าดันเป็นมุมอับที่แสงไฟส่องสว่างไม่ถึงทำให้มองหน้าของเธอไม่ชัดเจน
“ซูมหน่อยได้ปะวะ” ไฟขยับตัวเข้าใกล้เพ่งมองอย่างพินิจ แต่ก็นั่นแหละทั้งเขา เพลิงและพายุพยายามเพ่งแล้วเพ่งอีกแต่ก็เห็นเธอคนนั้นไม่ชัดเจนอยู่ดี
“มึงพอจะคุ้นหน้าบ้างไหม” เพลิงเอ่ยถามเมื่อเห็นไฟจ้องมองอยู่นาน
“ไม่คุ้น” ไฟจับจ้องไปที่หญิงสาวในจอ เพื่อดูว่าเขาไม่เคยเห็นเธอหรือคุ้นหน้าเธอเลยแม้แต่นิด แต่ทำไมเธอคนนี้ถึงรู้จักทางมาห้องน้ำที่ไม่ค่อยมีใครใช้ และยังรู้จักทางที่นี่เป็นอย่างดี เพราะมันมีแต่คนในเท่านั้นที่จะรู้?
ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลก
“เพลิงมึงไปนัดพวกมันมาแข่งใหม่ บอกมันไม่ต้องรอวันที่5เดือนหน้า เพราะกูอยากแข่งกับพวกมันให้เร็วที่สุด” ไฟหันไปพูดกับเพลิงต่อทันที
“บอกพวกมันว่ากูเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสามเท่าแลกกับรถ”
“ไม่มีปัญหากูจัดการให้” เพลิงพยักหน้าตอบ
“หึ ได้เจอกันแน่”
ไฟยกยิ้มร้ายที่มุมปาก ถึงภายนอกของเขาในตอนนี้อาจจะดูนิ่งเฉย แต่เชื่อเถอะ...ด้านของเขาในตอนนี้กำลังสุมเพลิงไฟแค้นรอวันระเบิดพร้อมแผดเผาทุกสิ่งให้วอดวายจนไม่เหลือชิ้นดี
เช้าวันต่อมา...
@ใต้ตึกคณะบริหารธุรกิจ
“มาทำไรที่ตึกบริหารวะ” พายุเดินเข้ามาหาเพลิงเมื่อเห็นว่าเพื่อนชายกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ใต้ตึกคณะบริหาร เมื่อมองไปรอบ ๆ มีสายตาของสาวมองมายังเขาเป็นประกายหลายคู่ สำหรับผู้หญิงอาจจะเป็นเรื่องดี แต่เสื้อช็อปวิศวะต่างคณะกับตึก ช่างเป็นสิ่งล่อเป้าให้กับหนุ่ม ๆ บริหารได้เหมือนกัน
แต่คนอย่างไฟหน่ะเหรอจะสนใจ เพราะไม่มีใครไม่รู้จัก ไฟ เพลิง และ พายุ แห่งคณะวิศวะ
“มาเอาของ” ปากหนาพ่นควันบุหรี่ออกไปด้านหน้าพร้อมกับเอ่ยบอกเพื่อนชายด้วยเสียงราบเรียบ
“มาหาเด็ก?” พายุที่ตีความหมายของคำว่า ของ เป็นของที่เป็นคน ก็เอ่ยถามอย่างเลิกคิ้วเชิงแหย่แซว
“กูไม่ใช่มึง” ไฟทิ้งก้นบุหรี่ลงจานรองทิ้งบุหรี่ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนสายด้วยสายตาไม่เล่น
คิดว่ามาต่างคณะจะไม่ได้เจอมัน แต่ก็ยังไม่พ้นให้ต้องได้มาหงุดหงิดกับมันแต่เช้า อารมณ์เขาในช่วงนี้ยิ่งโมโหง่ายเพราะเรื่องแข่งรถนั่นแหละ
“ของที่เป็นของ ไม่ใช่คน” ไฟอธิบายออกมา ทั้งที่จริงเขาไม่ต้องอธิบายเลยก็ได้
“อ้าวใครจะไปรู้” พายุพูดอย่างหยอกเย้า
“ว่าแต่มึงมาทำเหี้ยไรที่นี่” ไฟเอ่ยถามกลับบ้าง
“กูมาหาเด็กกู” พายุตอบด้วยใบหน้าระรื่นยิ้มแย้ม
และคำตอบเป็นอะไรที่ไฟคาดเดาได้อยู่แล้ว
“หึ” เขาก็แค้นหัวเราะอย่างหมั่นไส้ ไม่ใช่เพราะเพื่อนข้าง ๆ มาหาเด็ก แต่ที่หมั่นไส้เพราะหน้ามันที่แสดงยิ้มออกมาอย่างกับผู้ชนะต่างหาก
ไม่นานคนที่ไฟรอก็มา
“พี่ครับ” น้องที่ไฟรอก็มาถึง พร้อมกับหยิบของในกระเป๋ายื่นให้เขา
“เลขบัญชีเดิมนะ”
“ใช่ครับพี่”
“กูโอนเรียบร้อย”
“ขอบคุณครับพี่ หมดแล้วทักมาอีกนะครับ”
“อือ” ไฟขานรับ เสร็จน้องเขาก็เดินออกไป
เมื่อได้สิ่งที่ต้องการไฟก็หมุนตัวเพื่อจะเดินกลับคณะตัวเองในทันที โดยไม่สนเพื่อนชายที่ยืนอยู่ข้างกาย
ก็ในเมื่อมันบอกว่ามันมาหาเด็ก เขาก็เดินกลับออกมาอย่างไม่สนใจก็ถูกแล้ว
แต่ทว่า...
“พอตตัวใหม่เหรอว่ะ กูขออัน” พายุที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่อครู่ก็รีบเดินตามไฟกลับทันที พร้อมกับเอ่ยบอกขอสิ่งที่อยู่ในมือพร้อมกับหยิบเอามาต่อหน้าต่อตา
“เอาน่าเดี๋ยวกูแบ่งเด็กให้คน” เมื่อไฟมองค้อนที่เขาแย่งออกไปจากมือก็เอ่ยพูดให้ดูมีข้อแลกเปลี่ยน
“กูมีปัญญาหาเอง เผลอ ๆ หาได้ดีกว่ามึงด้วย”
“เออสัส รู้น่า แหม พ่อคนหล่อ”
และในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินเถียงกันไปมาอยู่ใต้ตึกคณะบริหารอยู่นั้น
ปึก!
“อ๊ะ ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันระ...ระวัง”