“เพราะพี่ใหญ่เป็นแบบนี้ไงครับน้องแก้มกับน้องอรถึงได้หมายหัวพี่เอาไว้”
ก้องภพบ่นใส่พี่ชายทันที เขาไม่โทษแฟนสาวกับพินทุอรหรอก เพราะพี่ชายเขาก็ทำตัวเรื่องมากเอง ทั้งที่รู้อยู่ว่าทั้งสามสาวเขารักและสนิทกันขนาดไหน แต่ก็ดันขัดขวางไม่ให้ทั้งสามคนเจอกัน
“ฉันไม่สนหรอกเจ้ากลาง ต่อให้ยัยแก้มกับยัยหนูอรวางแผนอะไร ฉันก็ไม่แพ้ยัยเด็กสองคนนั้นหรอก หึ! ไม่รู้จะมาวุ่นวายกับครอบครัวคนอื่นเขาทำไมนักหนา”
น้ำเสียงทุ้มบ่นงึมงำเมื่อนึกถึงว่าที่น้องสะใภ้ในอนาคตกับยัยเพื่อนตัวแสบของภรรยาและว่าที่น้องสะใภ้ ไม่รู้เขาต้องเผชิญกับอารมณ์ปรวนแปรของทั้งสองไปอีกเมื่อไหร่ แค่เขาเคยทำผิดพลาดแค่ครั้งเดียว ยัยตัวแสบสองคนนั้นก็อาฆาตและชอบแผ่รังสีอำมหิตใส่เขาตลอด
ท่านพสุธากับคุณหญิงกรองแก้วหัวเราะออกมาอย่างขบขันกับอาการหงุดหงิดของบุตรชายคนโต แต่พวกท่านก็ช่วยอะไรไม่ได้ในเมื่อคนผิดก็คือบุตรชายของท่าน
ส่วนว่าที่ลูกสะใภ้กับเพื่อนสนิทตัวแสบก็รักลูกสะใภ้คนโตของพวกท่านมาก ยิ่งเกิดเรื่องในอดีตทั้งสองสาวก็เลยตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์อย่างเปิดเผย เห็นทีงานนี้บุตรชายของพวกท่านคงเจอศึกหนัก
“แม่ว่าตาใหญ่พาหนูแก้วขึ้นไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะได้ลงมาทานข้าวกัน”
“ก็ดีครับคุณแม่ คุยเรื่องยัยตัวแสบสองคนนั้นทีไร ผมปวดหัวทุกที”
“งั้นแก้วขอตัวก่อนนะคะคุณพ่อคุณแม่”
ปิยะดาเอ่ยขออนุญาตก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับสามี ก่อนจะถูกผู้เป็นสามีดึงให้ออกเดินตามออกจากห้องโถงกลับออกไปหน้าตึกเพื่อเดินไปยังเรือนกลางน้ำ ซึ่งตอนนี้เธอและสามีใช้เป็นที่อยู่อาศัย
“พี่ใหญ่นี่ขี้หึงชะมัดเลยนะครับคุณพ่อแถมยังหวงไม่เข้าท่า”
ก้องภพหันมาเอ่ยกับบิดากับเรื่องนิสัยของพี่ชาย เพราะแบบนี้นี่แหละเพียงตะวันกับพินทุอรถึงได้ชอบแกล้ง โชคดีที่น้องสาวคนเล็กไม่อยู่เมืองไทย ไม่อย่างนั้นพี่ชายของเขาคงจะปวดหัวมากกว่านี้ หากสี่สาวมาอยู่รวมกัน ก็อย่างว่าแหละนะสี่สาวก็อายุไล่เลี่ยกัน ก็ย่อมสนิทกันเป็นธรรมดา
“เพราะแบบนี้ไงเจ้าใหญ่ถึงถูกยัยหนูแก้มกับยัยหนูอรแกล้งบ่อยๆ”
“นั่นสิค่ะคุณพี่ เดือนว่าตาใหญ่จะขี้หึงมากไปหรือเปล่า เดี๋ยวหนูแก้วเบื่อขึ้นมา แล้วจะยุ่งไปกันใหญ่ เห็นว่าช่วงนี้ตาใหญ่ก็อยู่ในช่วงทดลองคบกับหนูแก้วอยู่นิค่ะ”
“ก็คงประมาณนั่นแหละคุณหญิง ผมว่าหนูแก้วกำลังเอาคืนเจ้าใหญ่อยู่น่ะ”
“ผมก็คิดเหมือนคุณพ่อนั่นแหละครับ ดูท่างานนี้พี่ใหญ่คงจะโดนไม่น้อย ถึงน้องแก้วจะยอมกลับมาคืนดีด้วยแต่ก็ไม่ได้หมายความการกลับมาอยู่ในครั้งนี้น้องแก้วจะไม่เอาคืนพี่ใหญ่”
ก้องภพเห็นด้วยกับความคิดของบิดา และดูเหมือนว่าพี่ชายเขาก็รู้ แต่ก็ยอมให้ภรรยาเอาคืน อาจเพราะรู้ตัวว่าตัวเองเคยทำไม่ดีนั่นแหละ แค่ถูกเอาคืนแค่นี้ก็ยังดีกว่าถูกเกลียดและไม่ได้อยู่กับภรรยาตัวเองไปตลอดชีวิต แต่เขาก็ไม่รู้ว่าพี่ชายจะอดทนได้นานไหนที่จะไม่แตะต้องพี่สะใภ้
เฮ้อ...คิดแล้วกลุ้ม
“แม่ว่าตากลางก็ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วล่ะ เดี๋ยวจะได้ลงมาทานข้าวกัน”
“ก็ดีครับคุณแม่งั้นผมขอตัวนะครับคุณพ่อ”
ชายหนุ่มหันไปบอกบิดาก่อนจะลุกเดินออกจากห้องโถง ตรงไปยังบันไดขึ้นไปชั้นสอง เขาเองก็พยายามหาวิธีให้แฟนสาวยอมตกลงแต่งงานกับเขาเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะแผนไหนดี เพราะดูๆ แล้วหญิงสาวคงไม่ยอมเดินมาตกหลุมเขาง่ายๆ
“ผมว่าอีกไม่นานคุณหญิงกับผมคงได้เห็นเรื่องสนุกๆ เกิดขึ้นแน่”
เห็นทีอีกไม่นานนี่แหละท่านคงได้เห็นเรื่องสนุกๆ เกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งลูกชายและลูกสะใภ้ต่างก็เจ้าเล่ห์ไม่ต่างกัน แต่ก็ดีไปอย่าง อย่างน้อยจะได้ไล่ตามกันทัน
“นั่นสิค่ะคุณพี่”
คุณหญิงกรองแก้วรับคำสามีอย่างเห็นด้วย ทั้งลูกสะใภ้และว่าที่ลูกสะใภ้ดูจะแสบๆ พอกัน ส่วนลูกสะใภ้คนโตท่านไม่กังวลเท่าไหร่ แม้นิสัยจะเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนก็เถอะ แต่ยังไงนิสัยโดยส่วนตัวแล้วลูกสะใภ้ของท่านก็อ่อนโยนและเรียบร้อย เพียงแต่ท่านอยากอุ้มหลานมากกว่า แต่ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้อุ้มเสียที
/////////////
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...
เพียงตะวันก็ลงไปใต้ด้วยความเป็นห่วงพินทุอรกับคาร่า เธอไม่คิดว่าพี่ชายจะไม่ชอบเพื่อนสนิทชาวต่างชาติของเธอถึงขนาดนี้ แต่จากคำพูดที่เธอได้ยินเมื่อคืนทำให้เธอเปลี่ยนความคิดโดยทันที แผนการกำจัดคาร่าออกจากพินทุอรมันช่างโหดร้ายเหลือเกิน
“ไปจัดการให้เรียบร้อยนะไกร ฉันไม่ต้องการให้ยัยคาร่าอยู่ใกล้แฟนฉันอีก นายจะจัดการด้วยวิธีไหนก็เรื่องของนาย ฉันอนุญาต”
“ครับนาย”
ชายหนุ่มรับคำผู้เป็นนายด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก จู่ๆ ให้เขาไปจัดการเพื่อนสนิทของคุณหนูแก้ม และที่สำคัญให้เขาจัดการขั้นเด็ดขาดหากหญิงสาวไม่ยอมเชื่อฟัง เห็นทีงานนี้เขาคงจะเอาชีวิตมาทิ้ง เพราะใครๆ ก็รู้อยู่ว่าคุณหนูแก้มรักและหวงเพื่อนมากแค่ไหน
ไกรวินได้แต่เฝ้าถามตัวเองมาตลอดว่าทำไมเจ้านายหนุ่มถึงมอบหน้าที่นี่ให้เขา ทั้งๆ ที่ข้างกายผู้เป็นเจ้านายก็ยังมีปิยะ อวัชแล้วก็เลิศอยู่ แต่ทำไมต้องเลือกเขาไปทำงานนี่ด้วย เกิดเพื่อนสนิทของคุณหนูแก้มไม่ยอมเลิกราจากว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายแล้วเขาจะทำยังไง
“แล้วไม่ต้องให้ยัยแก้มรู้เรื่องนี้ล่ะ ฉันไม่อยากให้ยัยแก้มเข้าไปยุ่ง”
“ครับ”
พอนึกถึงเรื่องที่พี่ชายตัวแสบสั่งให้คนสนิทไปจัดการแยกคาร่าออกมาจากพินทุอร เธอก็ยิ่งรู้สึกกังวล เพราะในบรดาคนสนิททั้งสี่ ไกรวินนี่แหละที่ทำได้ดีที่สุด ไม่ว่างานนั้นจะยุ่งยากแค่ไหน แต่ก็ไม่ครณามือของชายหนุ่มเลย และมีอีกสิ่งหนึ่งที่เธอกลัวมากที่สุดก็คือเขาเกลียดผู้หญิงแบบคาร่าที่สุด
“บ้าที่สุดเลย ทำไมพี่กรต้องส่งนายไกรวินไปจัดการคาร่าด้วยก็ไม่รู้ พี่กรไม่รู้หรือไงว่านายไกรวินไม่ชอบทอมไม่ชอบดี้นะ เห็นทีงานนี้คงจะยุ่งไม่น้อย ให้ตายสิทำไมพี่กรต้องทำแบบนี้ด้วย”
“บ่นอะไรอยู่นะแก้ม”
เสียงของพินทุอรดังมาจากด้านหลัง ทำให้คนที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองถึงกับสะดุ้ง จนแทบจะทำแก้วกาแฟหล่นลงมาบนโต๊ะ
“อ้าว..เอ้อไปเลยหรือไอ้แก้ม”
พินทุอรเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นอาการเหรอหราของเพื่อนรัก ร่างเล็กเดินอ้อมมาที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามอย่างแปลกใจ เพียงตะวันคิดอะไรอยู่กันหนอถึงได้ใจลอยขนาดนี้ ทักก็ไม่ตอบ เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังก็ยังไม่รู้สึกตัว นี่ถ้าเธอไม่ยกมือไปแตะ ยัยเพื่อนบ้านี่ก็คงจะยังไม่รู้สึกตัวสินะ
เพียงตะวันเงยหน้าขึ้นไปมองร่างเล็กที่กำลังชะโงกหน้าเข้ามาหาเธออย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะโผล่มาตอนนี้และนับว่าเป็นเรื่องโชคดีของเธอที่ไม่พูดเรื่องที่พี่ชายกำลังวางแผนกำจัดคาร่าออกไป เฮ้อ...ว่าแต่ยัยเพื่อนตัวแสบนี่มายืนอยู่ด้านตรงหน้าเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
“มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็นานพอที่จะเห็นแกนั่งเหม่อนั่นแหละไอ้แก้ม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“ก็ไม่มีอะไรนิ ว่าแต่แกมาคนเดียวเหรอ แล้วคาร่าไปไหนเสียล่ะ”
“อ้อ...คาร่ากำลังนอนหลับกลางวันอยู่น่ะสิ”
พินทุอรพอไม่อย่างใส่ใจ ดวงตาคู่งามจ้องมองใบหน้าหวานซึ้งของเพียงตะวันอย่างสงสัย วันนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมยัยเพื่อนคนนี้ถึงได้มีอาการเหม่อลอยอย่างนี้
เห็นทีมันต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นเพียงตะวันจะไม่มีอาการกังวลถึงขนาดนี้ และในบรรดาเพื่อนเธอทั้งหมด เพียงตะวันนี่แหละที่สุดยอดเจ้าแผนการณ์ที่สุด
“งั้นเราก็ไปกันเถอะ คุณแม่ทำกับข้าวที่แกชอบเอาไว้ด้วยนะ นี่ก็เกือบเที่ยงแล้ว รีบไปกันเถอะ แล้วนี่แกขนอะไรมาบ้างล่ะ มาเดี๋ยวอรช่วยถือ”
////////////////
////
...โปรดติดตามตอนอต่ไป...