สัมผัสร้าย 8 ไม่รู้ตัวเลยว่า... (3) NC

3277 คำ
กระดุมเสื้อนอนถูกปลดออกจนหมด ฉันรู้สึกตัวตอนที่เสื้อถูกแหวกออก ผิวหนังสัมผัสกับอากาศเย็นวาบ มองเรซที่นั่งคร่อมอยู่บนเอวด้วยแววตาสั่นไหว นิ้วเรียวยาวลากผ่านแนวกระดูกไหปลาร้าลงมาที่เนินอกแล้วดีดตุ่มไตอ่อนไหวอย่างหยอกเย้า “อื้อ...” ฉันกัดริมฝีปากแน่น แอ่นกายหลีกเร้นความเสียวกระสันที่ตามราวี พยายามฝืนกลั้นอารมณ์เป็นครั้งแรก “คนหน้าไม่อาย หยุดหาความสุขบนร่างกายของฉันได้แล้ว ไหนบอกว่าฉันเป็นแม่บ้านไง นาย... อื้อ เสียว~ เรซ... ตรงนั้นอ๊า” เรซแทรกนิ้วลงไปใต้หว่างขาฉัน ลูบไล้เนื้อสาวด้วยสัมผัสเย้ายวนใจ กรีดนิ้วกดคลึงตามซอกมุมอ่อนไหวราวกับกำลังเกลี่ยไล้กลีบกุหลาบบอบบาง ฉันถดสะโพกหนี หอบหายใจถี่กระชั้น เสียงที่เปล่งออกมาหลงทิศหลงทางไปหมด “ชอบให้เล่นกับตรงนี้งั้นเหรอ” “อ๊ะ~” เรซดึงอาวุธที่ผงาดค้ำฟ้าอยู่ใต้บ็อกเซอร์ออกมาชนๆ ถูๆ กับข้างใต้ของฉันอย่างกลั่นแกล้ง ฉันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เสียงหอบหายใจดังสะท้าน “ฉันไม่ใช่ลูกตาลนะ เลิกล้อเล่นสักที!” ฉันตะโกนออกไปอย่างโกรธๆ แต่ทั้งที่กำลังโมโหกลับยิ่งหวั่นไหวไปกับการคุกคามของอีกฝ่าย ฉันลุกขึ้นผลักไหล่เรซออกห่างแต่ร่างสูงไม่ขยับเขยื้อนสักนิด ดวงตาคมปลาบมองสบตาฉันนิ่ง “กับลูกตาลไม่ทำอย่างนี้” “นายจะบ้าเหรอ!” นัยน์ตาฉันลุกวาว ทุบไหล่เรซอย่างโมโห “พูดออกมาได้ไงห๊ะ” “อ้าวก็นึกว่าอยากฟัง” เรซคว้าข้อมือฉันเอาไว้ทันควัน ทำให้ฉันทุบได้เพียงอากาศ “ไอ้บ้านี่ปล่อยนะ!” ใครว่าฉันอยากรู้เรื่องนั้นตอนนี้กันล่ะ ถึงจะแปลกใจที่พูดออกมาเองก็เถอะ “โกรธอะไรนักหนา รู้มั้ยว่ายิ่งดื้อหน้าก็ยิ่งตลก” “เออ! ไปเลยนะ ไม่ต้องมายุ่งกับฉันเลย” ผิวหน้าฉันร้อนวาบ มองเสี้ยวรอยยิ้มขบขันของเรซอย่างนึกเจ็บใจ คว้าหมอนขึ้นมาฟาดหน้าเขาสุดแรงแต่ว่าเรซก็ยกแขนขึ้นมากันแล้วฉกหมอนออกจากมือฉันอย่างง่ายดาย ฉันหอบหายใจรัวแรงด้วยความโกรธ จ้องหน้าอีกฝ่ายแววตาสั่นระริก แต่จู่ๆ เรซก็ขำพรืดออกมาอย่างทนไม่ไหว “อุ๊บ... ฮ่าๆ” “นี่นายเสียสติไปแล้วหรือไง” ฉันมองคนที่กำลังกุมท้องหัวเราะอย่างรู้สึกสับสน เพิ่งเคยเห็นเรซขำกลิ้งแบบนี้เป็นครั้งแรก บรรยากาศรอบตัวเขาดูผ่อนคลายขึ้นทันตา “รู้มั้ยว่าทำไมฉันไม่จูบเธอ” เรซกลั้นขำ กวาดตามองใบหน้าฉันราวกับจะสื่อความนัยอะไรบางอย่าง ทำให้ฉันได้สติ คว้าหมอนอีกใบมาฟาดเขาแรงๆ “เพราะหน้าฉันมันตลกใช่มั้ย... ใช่มั้ย!” พลั่ก! เรซยอมให้ฉันตีไม่เกินสองครั้งก็รวบข้อมือฉันเอาไว้แน่น ดึงรั้งเข้าไปหาแผ่นอกกว้าง ก่อนจะผลักฉันลงไปนอนใต้รางของเขาด้วยกำลังที่เหนือกว่า ฉันดิ้นฮึดฮัด ในขณะที่อีกฝ่ายยังส่งเสียงขันในลำคอแผ่วเบาไม่หยุด พลอยทำให้อารมณ์โกรธของฉันกลายเป็นเรื่องตลกไปแทน ฉันเองก็ไม่รู้แล้วว่าโมโหจริงหรือโมโหเล่นๆ เจอแววตาหยอกเย้าของเรซเข้าไปก็ใจละลายได้เหมือนกัน เรซที่ปกติเย็นชาและดีแต่บังคับให้ทำตามความต้องการของตัวเอง ตอนนี้กลับกำลังข่มกลั้นอารมณ์ขันเพราะใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยปากกาของฉัน ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ให้ความรู้สึกเหมือนคนรักกำลังจู๋จี๋กันไม่มีผิด “ถ้าหน้าฉันพังขึ้นมาจะทำยังไง” ฉันถลึงตามองเขาอย่างขุ่นเคือง เรซทำหน้าอย่างไม่เคยนึกมาก่อน เขาคงไม่รู้สินะว่าเรื่องผิวหน้าสำหรับผู้หญิงแล้วเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เนียนๆ ใสๆ แบบนี้ก็หมดเงินซื้อครีมบำรุงไปเยอะนะ “หืม ไม่หรอกน่า หมึกปากกาแค่นี้ทำอะไรเธอไม่ได้หรอก” “จะบอกว่าฉันหน้าหนาเหรอ” ฉันแหวเสียงฉุน เรซกำลังจะซุกหน้าลงจูบต้นคอฉันชะงัก เขานิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนเงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยเสียงที่จริงจังผิดปกติ “หมายถึงสวยๆ อย่างเธอต่อให้โดนเขียนทั้งตัวก็สวยอยู่ดี” “บะบ้า...” ฉันมองสบดวงตาคมกริบหัวใจสั่นไหว แก้มร้อนวูบวาบ เขินจนไม่รู้ว่ากำลังทำสีหน้ายังไงออกไป เรซถึงได้กระตุกยิ้มพอใจขนาดนั้น “แมวน้อย... มาให้จูบซะดีๆ ” แววตาหลงใหลคลั่งไคล้ราวกับจะกลืนกินฉันเข้าไปทั้งตัวไม่เหลือเค้าความเย็นชาแม้แต่น้อย หัวใจฉันเต้นแรง สมองแยกแยะไม่ออกว่าคำพูดจริงหรือหลอก แต่แม้จะรู้ตัวก็ไม่อยากตื่นจากฝัน เรียวปากอุ่นร้อนประกบลงมาแนบสนิท ความวูบไหวแล่นปราดไปทั่วร่าง ฉันหลับตาพริ้ม เผยอช่องปากรับปลายลิ้นสากที่เลียเล็มเข้ามาเกี่ยวกระหวัดรัดพันดุนดันกับลิ้นฉันอย่างวาบหวาม “อือ...” เสียงหอบหายใจถี่กระชั้นสลับกับเสียงครางหวิวไหว จูบแลกลิ้นกันอย่างมัวเมา น้ำลายไหลย้อยลงตามมุมปากแต่ไม่มีใครสนใจ ฉันโอบแขนรอบลำตัวเรซ ลูบไล้แผ่นหลังเปลือยเปล่าอย่างลุ่มหลง ความต้องการคุกรุ่นไปทั้งตัว เรียวขาแยกออกอัตโนมัติ ความเร่าร้อนที่ถูกถ่ายเทลงมาจากร่างหนาปลุกไฟปรารถนาของฉันให้ลุกโชน ไม่รู้เอาแรงมาจากไหนฉันพลิกตัวขึ้นคร่อมเรซ แทรกลิ้นเข้าไปสำรวจช่องปากร้อนฉ่ำ ไล้ปลายลิ้นไปตามแนวเหงือกอ่อนและไรฟันทุกซอกทุกมุม ริมฝีปากของเราประกบจูบกันอย่างไม่เว้นว่าง ฝ่ามือหนาลูบคลำลำตัวฉันลงไปถึงแนวสะโพก วาดนิ้วผ่านร่องก้นทั้งที่มีผ้ากั้นขวางแต่กลับให้ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าอารมณ์อย่างมาก ฉันลูบไล้แผงอกล่ำสันของเรซอย่างเข้าถึงอารมณ์ เส้นขนลุกชูชันไวต่อทุกสัมผัส ลมหายใจร้อนระอุเป่ารดกันและกันทวีความรุนแรงและเร่าร้อนขึ้นถึงขีดสุด “อ๊ะ~” เรซผลักฉันลงไปใต้ร่างอย่างทนไม่ไหว ริมฝีปากอ่อนบางกดแนบเนินอกอิ่ม ขบเม้มตะกละตะกลาม เรซลมหายใจดุดันราวสัตว์ป่า ความแข็งขืนที่ดุนดันอยู่ตรงท้องน้อยทำฉันหายใจไม่อิ่ม อดไม่ไหวที่จะเอื้อมมือลงไปจับของรักของเรซ ลูบไล้ลำกายร้อนจัดมันพองขยายรับกับเรียวนิ้วอ่อนนุ่มของฉัน “อาส์...” เรซครางเบาๆ อย่างพึงพอใจ ตอบแทนความแสนรู้ของฉันด้วยการตวัดปลายลิ้นดูดเลียยอดอกฉันอย่างหนักหน่วง “อื้อ... อ๊ะ~” ฉันแอ่นตัวตามจังหวะดูดกลืนของคนด้านบน ลมหายใจหอบกระชั้น บิดตัวไปมาด้วยความเสียวกระสัน แรงที่กอบกุมท่อนลำเอาไว้ก็มากขึ้นเช่นกัน เรซส่งเสียงครางในลำคอ เลื่อนใบหน้าขึ้นมาจูบซับเนื้อแก้มฉันพลางกระซิบเสียงแหบปร่า “อา... ดีมาก ฉันชอบเธอจริงๆ เทียน” หัวใจฉันพลันอุ่นวาบ เหลือบมองใบหูแดงก่ำเพราะความปรารถนาของเรซอย่างรู้สึกสับสน ต่อให้รู้ว่าไม่ควรยึดติดกับคำพูดบนเตียงแต่ก็อดสงสัยในคำว่า ‘ชอบ’ ของเรซไม่ได้ ยังไม่ทันคิดหาคำตอบกางเกงนอนฉันก็ถูกดึงลงไปถึงปลายเท้า ช่วงล่างพลันเย็นวาบ ฝ่ามือหนาลูบลงตามแนวเอวก่อนช้อนเข้าใต้สะโพก ยกบั้นท้ายฉันลอยเหนือพื้นสอดใส่แก่นกายเข้ามากะทันหัน “อ๊า! เรซ” ร่างกายที่ยังไม่พร้อมดีพลันรู้สึกจุกเสียดเกร็งแข็ง ท่อนเนื้อร้อนผ่าวกระเสือกกระสนเข้ามาข้างในจนสุด ฉันเบือนหน้าซ้ายทีขวาทีอย่างอึดอัดคับแน่น มือขยุ้มผ้าปูเตียงจนยับย่น ลมหายใจหอบกระชั้นถี่ลึก มองประสานแววตาคมเข้มของเรซอย่างอธิบายไม่ถูก แก่นกายที่สอดแทรกอยู่ข้างในทำให้รู้สึกปั่นป่วน ก่อเกิดความต้องการที่ยากจะยับยั้ง ฉันขอร้องให้เขาขยับ แต่... เรซยิ้มมุมปาก ทอดสายตามองร่างเปลือยเปล่าฉันอย่างใจเย็น “เซ็กซี่ชะมัด” “ฉันรู้... รู้แล้วน่า ขยับได้มั้ย ฉัน... ฉันไม่ไหวแล้ว” ฉันพูดอย่างหน้าไม่อาย “เวลาที่แมวร้องขออาหาร... ต้องทำเสียงยังไงหืม?” “เรซ...” ฉันส่งสายตาวอนขอ ได้โปรดอย่าแกล้งกันได้มั้ย ข้างในฉันร้อนจนแทบหลอมละลายได้อยู่แล้ว เรซไม่มีทีท่าจะขยับเลยสักนิด ฉันก็อยากลุกขึ้นไปจัดการเองให้มันเสร็จๆ อยู่หรอกแต่พอถูกสายตาคมปลาบเพ่งมองมาแบบนี้ หน้ากลับบางขึ้นมาทันที ฉันกัดปากแน่น หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ กลั้นใจเลียนเสียงแมวสนองตัณหาอีกฝ่าย “ไม่ได้ยิน” ฉันเบะหน้า รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาทันควัน ร้องเสียงแมวออกไปอีกสองสามครั้ง น้ำตาจะไหล ทำไมชอบให้ทำอะไรแปลกๆ เวลามีอะไรกันด้วยก็ไม่รู้ ก่อนที่ฉันจะถูกความอับอายเล่นงานจนหมดอารมณ์เรซก็ทำตามสัญญาทันที เขาขยับ! แรงกระแทกอย่างดุดันทำฉันแทบคลั่ง ร่างกายโยกคลอนไปตามจังหวะหนักเบาของคนตรงหน้า เสียงเนื้อกระทบกันดังกังวานสะท้อนไปทั้งห้อง ความเสียวซ่านบาดลึกเข้าไปถึงกระดูก ทุกการถอดถอนและเติมเต็มเร่าร้อนจนแทบกระชากวิญญาณของฉันออกไปด้วย “เรซ... อ๊าาาา” เรียวขาฉันเกี่ยวรัดเอวสอบเอาไว้แน่น หยัดตัวขึ้นรองรับแรงกระแทกกระทั้นอย่างสุขสมซาบซ่าน กรีดร้องครวญครางไม่เป็นเสียง ก่อนนอนฟุบหน้าหอบหายใจระรัวอยู่บนเตียง หลังผ่านพ้นม่านอารมณ์อันหนักหน่วง เรซดึงฉันกลับเข้าไปในอ้อมกอด จูบซอกคอและหลังใบหู ปลุกเร้าความต้องการขึ้นมาใหม่ “อือ... เรซ” ฉันเบือนหน้าหนีแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน จับท่อนแขนที่ลื่นเหงื่อของเรซไว้แน่น ประท้วงเสียงแผ่วหวิว “ยังไม่พอเหรอ นี่สายมากแล้วนะ รอบเดียวก็... อือเดี๋ยวสิ ทำไมใจร้อน อาอ๊า...” เรซซุกหน้าลงนัวเนียกับอกนุ่มนิ่มพลางดุนดันความแข็งขืนเข้ามา ช่องทางด้านในโอบรัดของเรซแน่น ฉันแหงนหน้าด้วยอาการสั่นสะท้าน ปลายเท้าเหยียดเกร็ง ตอบรับจังหวะกระแทกกระทั้นที่โถมเข้าใส่อย่างรัวแรง เสียงครวญครางพ้องไปกับเสียงลมหายใจหอบกระชั้น เรซกอดก่ายเรือนร่างฉันอีกหลายครั้งอย่างไม่รู้จักคำว่าพอ Race – 3 ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแต่เทียนยังหลับอยู่บนเตียง ร่างบางเปลือยเปล่าใต้ชายผ้าห่มที่คลุมไม่มิด เผยสัดส่วนทั้งบนและล่างราวกับกำลังให้ท่าผมอยู่ แต่ที่จริงหลับ… ผู้หญิงอะไรขนาดตอนนอนยังเซ็กซี่ แค่มองก็แทบปั่นป่วน ผมถอนหายใจ เดินมาดึงผ้าคลุมตัวให้เพราะไม่อยากหน้ามืดแล้วปล้ำคนหลับเดี๋ยวไม่ได้ทำงานทำการกันพอดีแต่บังเอิญเหลือบเห็นรอยวาดบนหน้านวลเข้าซะก่อน ผมยิ้มขำเบาๆ มองกี่ทีก็ยังตลก แล้วเวลาหลับหนวดแมวนั่นยิ่งดูน่ารัก ผมหยิบปรอยผมที่หล่นลงมาข้างแก้มออกให้ ก้มลงไปใกล้จนปลายจมูกเกือบชนแก้มเทียน อึก! ผมได้สติ มองเครื่องหน้าของคนที่กำลังหลับด้วยแววตาสับสน ความรู้สึกพลุ่งพล่านประหลาดที่ก่อมวนในท้องทำผมรีบถอยห่างออกมาราว พร้อมความสงสัยผุดขึ้นในใจ ...จู่ๆ จะอยากหอมแก้มยัยนั่นทำไม ‘ถ้าหน้าพังขึ้นมาจะทำยังไง’ กำลังจะเดินออกมาก็ดันนึกถึงคำพูดเทียนขึ้นมาได้ เป็นไปไม่ได้หรอกน่า… ผมมองรอยปากกาบนใบหน้าสวยหวาน ถึงผมจะเถียงในใจแต่รู้ตัวอีกทีก็เข้ามาในห้องของยัยนั่น มองหาน้ำยาล้างหน้าแบบที่เธอเคยใช้เช็ดหน้าให้ผม เจอขวดหนึ่งบนโต๊ะกระจกแต่ใหญ่กว่าขวดที่ยัยนั่นซื้อจากร้านขายยามาก ผมเพ่งมองฉลากข้างขวดอย่างไม่แน่ใจแต่เห็นเขียนว่า Cleansing คิดว่าน่าจะใช่ หยิบขวดนั้นกับกล่องสำลีกลับเข้ามาในห้อง ใช้ Cleansing ทำความสะอาดใบหน้าเทียนจนหมดจด “แค่นี้ก็หายกันแล้ว” ผมมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาของคนบนเตียงอย่างพอใจก่อนจะลุกขึ้น เอาสำลีไปทิ้งแล้วออกจากห้อง ลงมาหาอะไรใส่ท้อง กลิ่นกาแฟผสมน้ำผึ้งลอยอบอวลแตะจมูกผมทันทีที่เข้ามาในครัว ในถ้วยกาแฟที่เก็บความร้อนเป็นอย่างดีแถมปิดฝาเอาไว้ยังอุ่นอยู่ ห้องครัวที่ดูสะอาดสะอ้านพลอยทำให้อารมณ์ปลอดโปร่งตามไปด้วย ผมเห็นตั้งแต่กลับมาถึงแล้วและก็รู้ด้วยว่าเทียนเป็นคนทำ ไม่ได้ปลื้มอะไรมากหรอกครับ แค่แปลกใจที่ยัยนั่นเป็นงานผิดกับรูปลักษณ์ภายนอก นึกว่าจะมีดีแค่ยั่วผู้ชายซะอีก เมื่อคืนเล่นเอาแปลกใจไม่น้อยที่เห็นเทียนอยู่กับลูอิส แถมยังแสดงท่าทีสนิทสนมราวกับรู้จักกันมานาน ผมเกือบเข้าใจไปอย่างนั้นแล้วถ้าฮานไม่โทรมาด่าผมที่ทิ้งยัยนั่นไว้ในสนามแข่งของลูอิส ทันทีที่รู้ว่าเรื่องเป็นมายังไงผมอึ้งไปพักหนึ่งกับความบ้าบิ่นหรือจะเรียกใจกล้าหน้าด้านของยัยนั่นดีที่กล้าขึ้นรถแข่งของคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ไม่รู้จักคำว่ากลัวบ้างหรือไง ตอนสระว่ายน้ำก็ทีหนึ่งใส่บิกินีลงมาเดินดึกๆ ดื่นๆ คนเดียว ถึงผมไม่ได้ตั้งใจให้บทเรียนก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็น่าจะรู้ได้แล้วว่าควรระวังตัวให้มากขึ้น แล้วชุดที่ใส่เมื่อคืน เกาะอก โชว์สะดือ ยืนปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ลูอิสลูบคลำราวกับเป็นผู้หญิงของมัน เห็นแล้วชวนหงุดหงิดฉิบหาย ผมส่ายหัวอย่างเอือมระอา หยิบถ้วยกาแฟที่ยัยนั่นชงทิ้งไว้ให้ออกมาที่โซฟา ในปากคาบขนมปังเอาไว้สองแผ่น หยิบรีโมตเปิดทีวีก่อนล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงออกมาเช็กข้อมูลข่าวสาร มีข้อความในไลน์กลุ่มเรดซันเด้งเป็นพรวน ส่วนมากเป็นสเป็กเครื่องยนต์ กับพวกชิ้นส่วนอะไหล่เจ๋งๆ ที่ถูกปล่อยออกมาในช่วงนี้ และก็พวกรายละเอียดงานแข่งต่างๆ ไปจนถึงเรื่องราวเล็กๆ น้อยของพวกลูกจ้างที่อู่ซึ่งส่วนมากเป็นเด็กพาร์ทไทม์ มีประจำอยู่ไม่กี่คน หลังจากริกกี้มีเรื่องหมางใจกับพ่อแท้ๆ ทำให้ทีมเรดซันถูกถอดจากรายการแข่งหลักๆ สปอนเซอร์ถอนตัวออกเกือบหมด พวกนักแข่งมืออาชีพก็พลอยย้ายสังกัดไปด้วย จนเกิดข่าวลือต่างๆ นานาว่าเรดซันกำลังจะถึงจุดจบ แม้ว่าพวกเรายืนพื้นและเติบโตมาจากการเดิมพันแข่งรถข้างถนน รายได้หลักมาจากนายทุนที่อยู่เบื้องหลังการเดิมพันแข่งรถใต้ดิน การแข่งในสนามอย่างเป็นทางการเป็นเพียงฉากหน้าที่ใช้โปรโมตทีม สปอนเซอร์คือผลพลอยได้ ต่อให้หายไปก็ไม่ทำให้ถึงขั้นล้มละลาย แต่ที่เป็นปัญหาคือผลกระทบจากการใช้อิทธิพลแทรกแซงของพ่อริกกี้จนสั่นคลอนความน่าเชื่อถือของทีม ถึงตอนนี้เราจะหลุดพ้นจากภัยคุกคามของ NJ CAPITAL (ด้วยการแบล็กเมล์ของแฮค) แต่ก็ใช่ว่าทีมจะกลับมาผงาดได้ในทันที แถมเพิ่งมีข่าวเปลี่ยนตัวหัวหน้าได้ไม่นาน ก็มีข่าวลือว่าจะยุบทีมอีก แล้วใครหน้าไหนจะกล้าเสี่ยง ยอมรับว่าการกลับมาของฮานช่วยได้มากจริงๆ แต่ถึงจะไม่มีมันผมกับคนอื่นๆ ก็หาทางทำอะไรสักอย่างอยู่แล้ว สนามแข่งรถเมื่อวานเป็นของลูอิสเพื่อนไอ้ฮานมัน ไม่ใหญ่มากแต่โครงสร้างได้มาตรฐาน เป็นสนามแข่งรถที่เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาใช้บริการ เก็บค่าเช่าสนามเป็นรายชั่วโมง ได้ยินว่าลูอิสมีแผนโปรโมตสนามด้วยการจัดงานแข่งรถอย่างเป็นทางการ การแข่งเมื่อคืนก็น่าจะเป็นการทดสอบความพร้อมของสนามไปในตัว ส่วนปาร์ตี้เป็นแค่ข้ออ้างที่เรียกให้ทุกคนไปรวมตัวกันเท่านั้น และผมเชื่อว่าฮานมีส่วนในการเคลื่อนไหวของลูอิสไม่มากก็น้อย ถือเป็นการเดินหมากในฐานะหัวหน้าทีมที่ดี เรดซันเริ่มกลับเข้ารูปเข้ารอยเหมือนตอนสร้างทีมใหม่ๆ โดยมีฮานเป็นแกนหลัก ผมเปิดดูรูปถ่ายเก่าๆ ที่มีสมาชิกครบห้าคน ในอกพลันรู้สึกอุ่นวาบ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง RED SUN (5) ริกกี้ : พรุ่งนี้นัดประชุมที่อู่ตอนหกโมงเย็นอย่าลืมล่ะ เสือหมู : รับทราบ ฮาน : อืม แฮค : ครับพ่อ ริกกี้ : รายละเอียดงานแข่งรถการกุศล.pdf ริกกี้ : เลขาคุณหมิงเพิ่งส่งมาให้กูเมื่อเช้า เรื่องนี้ต้องขอบคุณมึงละไอ้แฮค แฮค : เออซึ้งในน้ำพระคุณของกูซะ เสือหมู : จ้าๆ ฮาน : เรื่องเป็นไงมาไง เสือหมู : หืม ฮานไม่อยู่ตอนเกิดเรื่องนี่นะ แฮค : กูเป็นฮีโรที่เข้าไปช่วยสาวน้อยที่โดนความอยุติธรรมเล่นงาน เสือหมู : แต่ว่าตอนนี้สาวน้อยได้โดนความอยุติกรรมกลืนกินเรียบร้อยแล้ว แฮค : โลกนี้ไม่ยุติธรรม ริกกี้ : มันช่วยลบคลิปหลุดน้องสาวคุณหมิงออกจากระบบ ทางนั้นเลยติดหนี้มันอยู่ ฮาน : อ่อ แฮค : ไรวะริกกี้ อย่าเพิ่งเฉลยสิ ให้กูโม้หน่อย ริกกี้ : เสียเวลา แฮค : เออก็ได้! แล้วนี่ไอ้เวรเรซไปไหน หายไปไหน เสือหมู : จริงสิ ทำไมเราไม่ย้ายไปประชุมที่เซฟเฮาส์ จะได้กินข้าวเย็นฝีมือแม่บ้านคนใหม่ด้วย ริกกี้ : ไม่สะดวก คะนิ้งมาด้วย แฮค : มึงยังไม่ได้บอกคะนิ้งเรื่องเทียนเหรอวะริกกี้ ริกกี้ : ยัง เสือหมู : ริกกี้ชอบอุบความลับไม่ให้แฟนรู้ ระวังจะโดนงอนอีกน่า ริกกี้ : ความลับอะไรเฮีย ผมแค่ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากให้คะนิ้งต้องมาเหนื่อยใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วย เฮียก็รู้ว่าเมียผมเป็นคนดีขนาดไหน เสือหมู : จ้าๆ งั้นก็อย่าพาคะนิ้งมาด้วย จบปิ๊ง แฮค : กูเห็นด้วยกับเฮีย ฮานว่าไง ฮาน : ก็ดีเหมือนกัน ถือเป็นการทดสอบฝีมือแม่บ้าน จะได้รู้ว่าคุ้มค่ากับที่รับเข้ามาหรือเปล่า แฮค : โอเคเข้าใจตรงกันแล้วนะริกกี้ ริกกี้ : เห็นแก่นมอีกแล้วนะพวกมึง แฮค : หยาบคาย เสือหมู : ฮ่าๆ เอาน่าๆ เทียนทำอาหารอร่อยจริงๆ นะเออ มีใครโทรบอกเทียนมั้ยถ้าไม่มีเดี๋ยวเฮียโทรเอง ฮาน : เรซอ่านแชทอยู่หรือเปล่า ผมยกคิ้วขึ้นเบาๆ แต่ก็ไม่แปลกที่ฮานจะรู้ เวลาส่งข้อความลงในกลุ่ม จะขึ้นตัวเลขคนที่อ่านไว้หน้าข้อความอยู่แล้ว พอฮานทักคนอื่นก็โวยวายยกใหญ่โดยเฉพาะแฮค ผมรู้ว่ามันโมโหเพราะเรื่องเทียน แต่ที่ผมไม่รู้คือมันคิดกับเทียนถึงขั้นไหน ผิวเผินหรือว่าจริงจัง แล้วไอ้การที่รู้ว่ามันรู้เรื่องผมกับเทียนมีอะไรกันแล้วยังไม่เลิกทำตัวเป็นห่วงเป็นใยยัยนั่นอย่างออกนอกหน้ายิ่งทำให้ใจผมไม่สงบ ไม่ใช่ว่าผมหวงหรือหึง ผมแค่ไม่อยากให้แฮคกินของเหลือจากผมทั้งที่ชิ้นเนื้อดีๆ ยังมีอีกเยอะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม