“ขออาบน้ำก่อนได้ไหม” เธอหาช่องทางเอาตัวรอด
“อาบด้วย ดีเหมือนกันในอ่างยังไม่เคยเลย” เขาพูดขึ้นด้วยท่าทีมึนๆ ไม่สะทกสะท้านต่อสายตาของอบเชยที่กำลังมองมาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเขา
“โรคจิตหรือยังไง?”
“ยอมรับ” ไหวไหล่หนึ่งที
“ไม่ รอฉันอยู่นี่แหละ”
“ป้าคิดจะหนีอยู่หรือเปล่า” เขาหลี่ตามองจับผิดเธอ
“นี่นาย นี่มันชั้น25นะ ฉันจะหนียังไง?” รอยยิ้มพึงพอใจยกขึ้นเมื่อได้รับคำตอบจากเธอ จริงๆ เขารู้อยู่แล้วแหละว่าเธอไม่มีทางหนีเขาพ้น เหยื่อวิ่งเข้ามาถึงในถ้ำขนาดนี้ ไม่มีทางที่จะรอดได้หรอก
“ก็ดี...”
20นาทีต่อมา...
แกร๊ก แอ๊ด!!
“แล้วจะยืนอีกนานไหมเนี้ยป้า” ฐานทัพเอ่ยเรียกสติอบเชยเสียงเข้ม บนตัวของเขาตอนนี้มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนสีขาวพันรอบเอวสอบเอาไว้ ดวงตากลมโตมองมัดกล้ามเป็นลอนสวยงาม ที่บ่งบอกว่าเขานั้นดูแลตัวเองอย่างดี และนั่นมันก็ทำให้เธอใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาเพราะรู้สึกเขินอาย ตั้งแต่เล็กจนโตก็เคยเห็นแค่ขององศาพี่ชายของเธอเนี้ยแหละที่มักจะถอดเสื้อเปลือยท่อนบนเดินรอบๆ บ้าน แต่ก็ไม่ได้ฟิตขนาดนี้หรอก พอเห็นแบบนี้แล้วมันก็พานทำให้หัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ขึ้นมาเสียดื้อๆ อย่านะอบเชย เธอบอกกับตัวเองเอาไว้ ให้ข่มความรู้สึกของตัวเอง จำไว้ว่าเขาคือคนไม่ดี อย่าได้เคลิบเคลิ้มไปกับหุ่นล่ำๆ ของเขาเป็นอันขาดแม้จะน่าขย้ำแค่ไหนก็ตาม
“ป้า!! ขึ้นมาสิ ผมพร้อมแล้วเนี้ย” เขาเอ่ยบอกพร้อมกับเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างขนาดคิงไซซ์
“แป๊ป ขอไปหยิบอุปกรณ์ก่อน” คำว่าอุปกรณ์ของอบเชย ทำให้ฐานทัพถึงกับตาลุกวาว คิดดีไม่ได้เลย นอกจากความจังลี้ในหัว
“ป้า...ไม่เบานะเนี้ย สายอุปกรณ์ซะด้วย ป้านี่โคตรทึ่ง” พูดด้วยน้ำเสียงดี๊ด๊า
“หึ เดี๋ยวได้ทึ่งจริงๆ แน่” เธอยกยิ้มมุมปาก สองเท้าก้าวไปที่โซฟา และล้วงหยิบอุปกรณ์ที่อยู่ในกระเป๋ามาถือและแอบมันเอาไว้
“เร็วๆ ดิป้า...” เขายังคงตะโกนเรียกเธอ เพราะกลัวว่าเธอนั้นจะเล่นตุกติก หาทางรอดอีก
“ถ้าใจร้อนก็ไปซื้อกิน...ของดี...รอหน่อยไม่ได้หรือไง” เธอขึ้นเสียงใส่บ้าง แล้วรีบหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องนอน
“ซื้อกินอะไรป้า เซ็นต์ไปแล้ว อย่ามาตลก...เร็วๆ ...แล้วก็ถอดออกสักทีได้ป้ะชุดคลุมเนี้ย” ฐานทัพเอ่ยบอกด้วยความหงุดหงิด ในใจก็อยากที่จะเห็นภายในใจจะขาด ยิ่งได้กลิ่นกายหอมๆ จากการอาบน้ำมาใหม่มันยิ่งพานทำให้ความเป็นชายอยากที่จะเข้าไปทักทายเธอในเร็วๆ นี้
ทั้งที่ก็เป็นสบู่อันเดียวกัน แต่ทำไมพอไปอยู่บนตัวเธอ มันกลับหอมจนอยากที่จะซุกไซร้ สไลด์ซอกคอของเธอซะเดี๋ยวนี้เลย หอมจนอยากจะเข้าไปกระชากร่างของเธอมานอนบนเตียงแล้วจับขาเธอให้อ้าออกกว้างๆ ตามด้วยกระแทกใส่ร่องของเธอให้มิดลำ แค่จินตนาการก็ฟินไปถึงไส้ติ่งแล้ว
หมับ!!
“ว๊าย!! ไอ้บ้า...หยุดเดี๋ยวนี้นะ” คนใจร้อนไม่รอช้ากระชากร่างของเธอให้ปลิวมาอยู่บนร่างเขา จนคนตัวเล็กร้องลั่นด้วยความตกใจ เพราะตั้งตัวไว้ไม่ทัน
“หยุดอะไร มาขนาดนี้แล้ว” เขาเตรียมจะพลิกร่างของเธอให้ลงไปใต้ร่าง แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเธอเองก็ขืนตัวเอไว้ ขืนลงไปอยู่ใต้ร่างเขามีหวังเธอต้องหาทางรอดยากแน่ๆ
“อย่าคิดนะว่าฉันจะให้นายง่ายๆ น่ะ คนบ้ากามโรคจิตแบบนาย มันต้องเจอนี่!!”
หมับ!!
“ฮะ เฮ้ย...งึกๆๆๆๆๆๆๆ” อบเชยหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าที่แอบไว้ข้างหลังมาถือไว้ ก่อนจะกดปุ่มและจี้ไปที่หน้าท้องของฐานทัพ ร่างสูงชักเพราะถูกไฟช็อตเพียงไม่นานเขาก็หมดสติไปต่อหน้าต่อตา จากนั้นก็รีบลุกขึ้นทันทีที่เขานั้นสลบไปแล้ว
“เกือบไปแล้วไหมไอ้อบ เกือบถูกเปิดซิงซะแล้ว” พูดจบก็รีบวิ่งไปหาเสื้อผ้ามาใส่ ตามด้วยไปค้นหาคีย์การ์ดเพื่อที่จะได้หนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
แต่เนื่องจากว่าลิฟต์ตัวที่เธอขึ้นมานั้น มันได้ถูกเปลี่ยนรหัสผ่านโดยเจ้าของห้อง ทำให้เธอไม่สามารถที่จะออกไปจากที่นี่ได้
“ไอ้บ้าเอ้ย! ใจคอจะเอาให้ได้เลยใช่ไหม” ฝ่ามือเล็กเสยผมขึ้นลวกๆด้วยความหงุดหงิดใจ ก่อนจะสบถออกมาด้วยความหัวเสีย และเดินกลับเข้าไปในห้องนอนแล้วเปิดตู้ เปิดลิ้นชัก เพื่อหารหัส แต่หายังไงก็หาไม่เจอ สุดท้ายเลยเลือกเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาเชือกมามัดเขาเอาไว้แทน เผื่อว่าฟื้นขึ้นมาแล้วจะได้ทำอะไรเธอไม่ได้ กันไว้ย่อมดีกว่า
ระหว่างที่รื้อค้นหาเชือกอยู่นั้นสายตาของเธอก็ดันเหลือบไปเห็นกล่องถุงยางอนามัยนับสิบๆ กล่องที่มันวางเรียงๆ ไว้ในลิ้นชักตู้ชั้นล่าง ไม่พอแค่นั้น ยังมีโซ่ แส้ กุญแจมือ อุปกรณ์เซ็กส์ทอยต่างๆ มากมายเต็มไปหมด
“ไอ้บ้านี่มันต้องเป็นคนประเภทไหนกัน หึ่ย!” พูดจบก็รีบดันลิ้นชักกลับเข้าไป พร้อมกับทำทีขนลุกขนพองรังเกียจกับสิ่งที่เห็น แต่ก่อนที่จะปิดลงก็หยิบกุญแจมือออกมา4อัน แล้วเดินตรงไปที่เตียงจัดการล็อกข้อมือทั้งสองข้างของเขาไว้กับหัวเตียงทันทีสองมุม ตามด้วยล็อกขาไว้ที่มุมเตียงอีกสองมุม ท่าที่เธอจัดให้เขาตอนนี้มันเป็นท่าขึงเขาราวกับกำลังจะเอาเขาไปบูชายัญ ช่วยไม่ได้ ก็กลัวว่าเขาจะฤทธิ์เยอะ เลยจัดการเอาให้ดิ้นไม่ได้เลย แม้จะดูเกินไปหน่อย แต่เพื่อความปลอดภัยของตัวเองก็ต้องทำ เมื่อจัดการล็อกเขาเสร็จ ก็ดึงผ้าห่มขึ้นไปคลุมร่างของเขาเอาไว้ แน่นอนว่าเขามีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ระหว่างที่จัดการล็อกแขนขา มันก็แอบผงาดประกาศความยิ่งใหญ่ใส่เธอ นี่ขนาดหลับนะ ยังร้ายกาจขนาดนี้ สุดท้ายเลยรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมไว้ ปกปิดความอุจาดลูกตา
“ฉลาดจริงๆ เลยอบเชย หึ! เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับคนอย่างฉัน...คนบ้ากามอย่างนายต้องเจอคนบ้าอย่างฉันนี่!!” พูดจบก็หัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความสะใจ
“แล้วฉันจะออกไปยังไงล่ะเนี้ย ช็อตไปซะนานเลย จะตายไหมวะ?” เธอบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว ไม่วายใช้นิ้วจิ้มๆ ที่ไหล่เขาเบาๆ ตามด้วยฟังเสียงลมหายใจของเขาว่าเขายังมีลมหายใจอยู่หรือเปล่า
จ๊อก~
แต่แล้วเสียงท้องของเธอร้องขัดจังหวะ จึงดีดตัวขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องนอนเขา เดินเรื่อยๆ ไปจนถึงครัว และถือวิสาสะเปิดตู้เย็นหาของกินแทน
“ช่วยไม่ได้...อยากขังฉันเอาไว้เอง...ถือซะว่ามากินข้าวฟรีก็แล้วกัน” มือเปิดตู้รื้อของออกมานั่งกินที่โซฟา ไม่พอแค่นั้นยังไปเปิดทีวีเขาดูหน้าตาเฉย
“หืม อร่อยเหมือนกันแฮะ อิ่มไปอีกมื้อ”
ตื้อดึ่ง!
เขตต์ : ถึงบ้านยังอบ ทำไมไอ้องศามันบอกว่าอบยังไม่กลับ
เสียงข้อความเด้งขึ้นขัดจังหวะรายการโปรดที่เธอชอบดูเป็นประจำ จึงรีบหยิบขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นข้อความของรุ่นพี่ที่ทำงานทักมา
~เสียงโทรศัพท์~
‘พี่เขตต์’
“ค่ะพี่เขตต์ มีอะไรหรือเปล่าคะ โทรมาดึกเชียว”
[เอ่อ...อ้อ...พอดีว่าเมื่อกี้พี่คุยกับไอ้องศาเรื่องกิจกรรมวันพ่อน่ะ เลยถามถึงอบว่ากลับบ้านหรือยัง พี่เห็นว่าอบไปทำธุระตั้งแต่ปล่อยเด็กกลับบ้านแล้ว แต่มันก็บอกอบยังไม่กลับ พี่เป็นห่วงเลยทักมาถาม]
“แฮะๆ ไม่ต้องห่วงอบนะคะ พอดีว่าอบมาคุยเรื่องคดีที่ดินค่ะ มันไม่ค่อยลงตัวสักเท่าไหร่ อบเลยเช่าโรงแรมนอนที่นี่ ดีหน่อยที่พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ไม่งั้นต้องแย่แน่ๆ เลย” เธอเอ่ยบอกปลายสายด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
[พรุ่งนี้พี่พาแม่เข้าเมืองพอดีเลย อบเช่าโรงแรมไหน เดี๋ยวพี่แวะไปหา] ความซวยบังเกิด จะให้ตอบว่าไงดีล่ะทีนี้ เพราะเธอไม่ได้เช่าโรงแรมจริงๆ เสียหน่อย แต่ดันมาอยู่ห้องผู้ชาย
“เอ่อ...อบจำไม่ค่อยได้ค่ะ อีกอย่างตื่นแล้วอบคงกลับบ้านเลย เราคงไม่ได้เจอกัน ไว้เจอกันที่โรงเรียนทีเดียวแล้วกันนะคะพี่เขตต์ อบนอนก่อนนะคะง่วงมากๆเลย สวัสดีค่ะ” ไม่รอให้ปลายสายได้พูดอะไรตอบกลับมา เธอก็ชิ่งวางสายไปเสียก่อน
“ฟู่ว! เกือบไปแล้ว...” เธอพ่นหายใจออกมายาวๆ ด้วยความโล่งใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนอนของฐานทัพ ที่ตอนนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะตื่นเลย สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินออกมาที่ห้องโถงแล้วทิ้งตัวลงนอนที่โซฟาด้วยความเพลีย
“พ่อขา แม่ขา คุ้มครองอบด้วยนะคะ...” เธอเอ่ยกับตัวเองเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ หลับตาลง จากนั้นก็เข้าสู่ห้วงนิทราทันที
เช้าวันต่อมา...
“อื้ม...” เสียงทุ้มต่ำครางออกมาเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆ ขยับตัว
กึกๆๆ!!
“เฮ้ย!! อะไรวะเนี้ย” เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่รั้งมือทั้งสองข้างและขาทั้งสองข้างของเขาเอาไว้ จากที่ง่วงๆ ก็ตาตื่นขึ้นมาในทันทีทันใด
“ไง...ตื่นแล้วหรอ...” เสียงของอบเชยทำให้ฐานทัพนั้นหันไปมองตามเสียงทันที ดวงตาคมกริบตวัดไปมองร่างเล็กที่นั่งกอดอกมองเขา บนโซฟาที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเขานัก
“ป้า...ทำป้าอะไรของป้าเนี้ยห๊ะ!...”
“ใครใช้ให้นายหื่นกามก่อน...บอกรหัสลิฟต์มาเดี๋ยวนี้!!”
“ไม่! ไขกุญแจก่อน...”
“ไขให้นายมาปล้ำฉันหรอ ฝันไปเถอะ!!”
“คิดถูกคิดผิดวะกู ที่จะเอายัยป้านี่ ฤทธิ์เยอะชิบ!”
“พูดอะไร พูดให้มันดังๆ” ไม่พูดเปล่าแต่กลับลุกขึ้น และเตรียมจ่อเครื่องช็อตไฟฟ้าไปตรงหน้าเขา
“ปะ...เปล่า...อย่าช็อตนะ”
“บอกรหัสมา ไม่งั้นฉันช็อตลูกชายนายสูญพันธ์ุแน่”
“เห้ย...อย่านะป้า...ผมเป็นลูกชายคนเดียว...ถ้าสูญพันธ์ุไป บรรพบุรุษจะต้องลงโทษผมแน่ๆ”
“ฉันไม่สน!! บอกมา!!”
“ผมจำไม่ได้ คนเพิ่งตื่นสมองมันเบลอ ใครจะไปจำได้”
“อย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน”
“อยากลองเล่นลิ้นดูว่ะ” ความกวนประสาทมันไม่เข้าใครออกใคร แม้ว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นลอง แต่ก็ไม่วายพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ ยั่วอารมณ์ของอบเชย จนเธอนั้นเริ่มจะหัวเสีย
“เดี๋ยวก็ช็อตปากเลยนี่! บอกมา...” เครื่องช็อตไฟฟ้าถูกจ่อเข้ามาใกล้เขาจนต้องเอนหน้าหลบ เพราะดูท่าแล้วเธอดูเอาจริง เอาวะ ตั้งสติก่อน อย่าเพิ่งไปกวนป้าแกตอนนี้ ถ้าไปจี้จุด มีหวังโดนเครื่องนั่นจี้เข้าอีกรอบแน่ๆ