เพียงก้าวเดียวก็จับตัวเธอไว้ได้ เจนจิรายกกำปั้นเล็กขึ้นหมายจะกระแทกใส่ใบหน้าหล่อขาวให้รู้ว่าเธอไม่เต็มใจให้เขาจูบสักนิด แต่เตวิชญ์ก็ไวทันกัน เบี่ยงหลบก่อนจะคว้าเธอเข้ามาจูบอีกครั้ง
คราวนี้เขาบดขยี้จูบดุดันร้อนแรง สูบกระชากวิญญาณสาว จนแทบขาดอากาศหายใจ จากนั้นก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นแผ่วหวาน รัญจวน เนิ่นนาน กว่าเขาจะยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ร่างบางเอนซบอกหนาใช้ร่างเขาพยุงตัวไว้ ไม่ให้ร่วงลงไปกองกับพื้น
“อย่ามาทำเก่งกับฉัน”
“นะ...นายวิชญ์ ก็ไม่ต้องมายุ่งกับเจนอีกเหมือนกัน” หญิงสาวโต้กลับด้วยน้ำเสียงขาดเป็นห้วงๆ หัวใจเต้นรัวเป็นกลอง
“ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับเธอนักหรอก ก็แค่อยากสั่งสอนคนอวดเก่ง หรือที่เธอทำแบบนี้ เพราะอยากเรียกร้องความสนใจจากฉัน…”
“คนอย่างเจนไม่เคยเรียกร้องความสนใจจากใคร รู้ไว้ซะด้วย...ปล่อย!!” เจนจิราดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดเขา ถึงจะเคยเสียตัวให้ แต่เธอก็ไม่มีทางยอมให้เขามาพูดจาดูถูกแบบนี้
“หึ!...ไม่ต้องดีดดิ้นหรอก อะไรที่เคยๆ แล้วครั้งหนึ่ง ถ้าไม่ใช่ ฉันก็ไม่คิดจะกินซ้ำสอง”
คำพูดกรอกข้างหู ทำเอาหญิงสาวตะลึงงันร่างแข็งทื่อ ไร้คำโต้กลับ คำพูดแสบสันนั้นเสียดแทงเข้าไปข้างใน เสียบแทงหัวใจเธอแทบจะแดดิ้นให้ขาดใจตาย สูญเสียไปอย่างไร้ค่า และยังถูกดูแคลนไม่มีชิ้นดี
เจนจิราผลักอกเขาออกเต็มแรง ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินแกมวิ่ง อยากหนีไปให้ไกลจากผู้ชายปากร้ายคนนี้ น้ำตาไหลกลบจนพร่ามัวมองไม่เห็นทาง มือยกขึ้นเช็ดลวกๆ ขาก็ก้าวไม่หยุด
ปากบอกว่าไม่สนใจเขา แต่ใจเธอสิ แค่คำพูดร้ายๆ ไม่กี่คำ ก็ทำเอาเจ็บเจียนตาย นี่เธอกำลังปล่อยให้เขามามีอิทธิพลเหนือเธอมากไปแล้วนะ
“ลูกพี่...คิดยังไงชวนมากินเหล้า” เดย์จ้องหน้าลูกพี่สาวด้วยความสงสัย ร้อยวันพันปีมีแต่บ่น หาว่าเขาเอาเงินมาลงกับขวดเหล้า แต่คราวนี้กลับเอ่ยปากชวนมาดื่มด้วยตนเอง
“เงินเดือนออก”
“หือ? เงินเดือนออก...แค่เนี้ยะ”
“เออ! อยากหาอะไรเย็นๆ แก้เซ็ง หรือแกจะไม่กิน”
“กินจ๊ะ กิน”
“งั้นก็ไม่ต้องพูดมาก”
หลังเลิกงาน เจนจิราเรียกเดย์ให้มาเจอกันที่ร้านขายของชำเจ้าเดียวเจ้าใหญ่ในแสงสุขฟาร์ม ทุกคนต่างรู้จักดี ที่นี่ขายทุกอย่าง สามารถซื้อหาได้ ทั้งแบบจ่ายสด และเงินเชื่อรอสิ้นเดือนค่อยจ่าย ของที่นำมาขาย ก็มีตั้งแต่ของกินของใช้ และของจำเป็นทุกชนิด
บางอย่างไม่ใช่ของจำเป็น หรือนานๆ จะมีคนซื้อก็ไม่ใช่ปัญหา รอให้ถึงวันหยุด แสงสุขฟาร์มจะมีรถยนต์เอาไว้บริการรับส่งคนงานไปซื้อของในเมือง แต่ถ้าเป็นเหล้าไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มี เพราะมันคือสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่นี่
เจนจิราเลือกที่นั่งโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้เยื้องออกมาจากหน้าร้าน ก่อนจะสั่งลูกน้องคนสนิทไปหยิบเหล้ามาหนึ่งกลมพร้อมกับแกล้มสี่ห้าจาน
เมื่อทุกอย่างพร้อม ลูกน้องคู่ใจก็ไม่รอช้าจัดการชงมาเสิร์ฟลูกพี่สาวทันที แก้วแรกสาดลงไปในลำคอ วันนี้เธอจะดื่มให้หนัก เอาให้สะใจ ไม่ต้องแคร์ ไม่ต้องสน เมาให้เละกันไปข้าง เผื่อจะช่วยให้ลืมไอ้เรื่องเฮงซวยในชีวิตไปได้บ้าง
“เฮ้…พี่นิค!...ทางนี้พี่” เดย์ส่งเสียงตะโกนเรียก เมื่อเห็นคนคุ้นเคยกัน กำลังเดินเข้ามาในร้าน
หลายเดือนก่อน พวกเขาคือเพื่อนร่วมดื่ม แก๊งค์เดียวกัน ในงานอกหักของเจ้านาย ก่อนจะวงแตกเมื่อจู่ๆ เจ้านายก็เลิกเหล้า และหันมาทำงานแบบเอาเป็นเอาตาย
“มาซื้อไรกัน”
เมื่อหันไปมองตามทิศทางของเสียง ก็เห็นลูกพี่สาวกับลูกน้องคู่ใจ กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าร้าน สองหนุ่มจึงเดินตรงเข้าไปหา
“มาซื้อของใช้หน่อยว่ะ ว่าแต่นี่…” สายตาจ้องมองขวดเหล้า แก้วน้ำสีอำพันตรงหน้าหญิงสาว จานกับแกล้มหลายอย่างวางบนโต๊ะ สีหน้าประหลาดใจ
“ไอ้เดย์ แกพาเจ๊มาฉลองอะไร”
“พี่รีบไปไหนปะล่ะ?...สนใจนั่งกินด้วยกันเปล่า วันนี้ลูกพี่เลี้ยง”
“หือ? นึกยังไงเจ๊เลี้ยงเหล้า ปกติเห็นบ่นพวกฉัน”
“เงินเดือนออก ก็แค่อยากฉลอง จะกินมั้ย...ถ้ากินก็นั่ง ไม่กินก็ไสหัวไป” เจนจิรายกเหล้าในมือขึ้นกระดกใส่ปาก ปล่อยให้น้ำสีเหลืองอำพันไหลลงคอ ร้อนวาบ แสบซ่านไปทั่วท้อง
“ว้าว! ลาบปากโว้ย” นิคร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะพูดจาเย้าแหย่ผู้ช่วยสาวคนสวย เมื่อเห็นยกเหล้าขึ้นดื่ม เจ๊คนสวยกินจริงไรจริง!
“เลี้ยงจริงดิ งั้นฉันไม่เกรงใจนะ”
“กินก็นั่ง”
“เอาสิวะ ไอ้แจ๊คนั่งเลยแก ยืนเซ่อทำไม คืนนี้เจ๊เจนเลี้ยง เราก็ต้องสนองศรัทธาหน่อย”
จากนั้นเดย์ก็ร้องหาแก้วเพิ่ม จากสมาชิกสองคน ตอนนี้เริ่มกลายเป็นสี่ แล้วเหล้าหนึ่งกรมก็หมดภายในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนจะทยอยสั่งมาเพิ่ม ทั้งเหล้าทั้งกับแกล้ม
เวลาล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่ม จากสมาชิกแก๊งสี่คนก็เพิ่มขึ้นกลายเป็นสิบ เสียงร้องเพลงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวที่ทุกคนรู้จัก และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ยังยกเหล้าขึ้นกระดกใส่ปาก สู้ไม่มีถอย
เจนจิราทำตัวได้กลมกลืน พวกมันดื่มเธอก็ดื่ม ไม่มีใครมองว่าเธอเป็นหญิง ถึงแม้หน้าตาจะสวยหวาน แล้วไง ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจนจิราไม่พิศวาสผู้ชาย
“พวกลื้อจะสั่งไรเพิ่มอีกมั้ย อั๊วจะปิดร้านแล้วนะ” เสียงเถ้าแก่เจ้าของร้าน ตะโกนออกมาจากข้างใน
“จะรีบไปไหนแปะ ละครหลังข่าวยังไม่จบเลย” หนึ่งในสิบตะโกนตอบโต้กลับไป
“เรื่องของอั๊ว”
“มึงก็อย่าไปกวนเถ้าแก่เค้าเลย ป่านนี้เมียแกคงรอให้เข้าไปตีตูดก่อนนอนจะแย่แล้ว”
“ไอ้ห่าพวกนี้ ลามปามนะมึง นี่ถ้าไม่เห็นแก่อาคุงเจน อั๊วไม่ขายให้แดกเลย”
“จะอาวไรอีก ก็รีบๆ สั่งโว้ยยยย ให้ไว พวกแกนี่พูดมาก” เสียงอ้อแอ้ดังขึ้นตัดความรำคาญ รู้ว่าไม่มีไร แต่พวกนี้ก็ชอบไปกวนประสาทต่อปากต่อคำกับเถ้าแก่ เดี๋ยวก็อดแดกกันพอดี
ใบหน้าขาวเนียน บัดนี้แดงก่ำเปล่งปลั่ง ลิ้นก็เริ่มพันกัน ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยดื่ม แต่กินมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เด็กเกษตรได้ชื่อว่าคอทองแดงไม่แพ้สายใดในมหาวิทยาลัย