เสียชีวิต

1074 คำ
“ยี่หวาเป็นยังไงบ้างลูก” คุณหญิงเจิมจันรีบวิ่งเข้าไปดูลูกสาวของตัวเองทันที เมื่อเห็นร่างบางบนเตียงเริ่มขยับตัวในเช้าวันต่อมา ยี่หวาพยายามกระพริบตาเพื่อปรับรับแสง ดวงตากลมโตค่อย ๆ ลืมตามองดูบนเพดานสีขาวสะอาดตา สมองกำลังประมวลผลถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน ทุกอย่างเหมือนฝันร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ ร่างบางที่นอนนิ่งมองเพดานจนผู้เป็นพ่อและแม่ถึงกับใจเสีย เมื่อเห็นอาการเหม่อลอยของลูกสาว ก่อนที่คุณหญิงเจิมจันจะสะกิดเรียกลูกสาวของตัวเองอีกครั้ง “ยี่หวา” น้ำเสียงนุ่มนวลของผู้เป็นแม่ ทำให้ยี่หวาถึงกับหันหน้าไปมองต้นเสียง ร่างบางค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นจากเตียงเหมือนต้องการจะนั่งโดยมีคุณแม่ของเธอเป็นคนช่วยพยุง “คุณแม่ หนูฝันร้าย” เมื่อร่างบางอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นแม่ตัวเอง เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ดังขึ้น หัวไหล่บางสั่นสะท้าน ภายในใจเต็มไปด้วยความกลัว ภาพของผู้หญิงคนนั้นยังคงติดตาเธอไม่หาย “ไม่เป็นไรนะลูก พ่อกับแม่อยู่ตรงนี้” คุณหญิงเจิมจันลูบแผ่นหลังของลูกสาวตัวเองเบา ๆ ความอบอุ่นที่ยี่หวาสัมผัสได้ ทำให้เสียงสะอื้นเริ่มเบาลง “ผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ” เมื่อร่างบางร้องไห้อยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นแม่อยู่นาน เธอพึ่งได้สติจึงผลักตัวออกจากอ้อมกอดของผู้เป็นแม่และเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยถามผู้เป็นพ่อของตัวเอง หลังมือบางปาดน้ำตาของตัวเองที่เหือดแห้ง ดวงตากลมโตมองหน้าผู้เป็นพ่อเพื่อต้องการคำตอบ เมื่อเห็นใบหน้าเลิกลั่กกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของผู้เป็นพ่อและแม่ ทำให้หญิงสาวเริ่มใจคอไม่ดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “คุณพ่อคะ บอกหนูมาเถอะค่ะ” “ผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อคืนแล้วลูก” กึก!!คำตอบของผู้เป็นพ่อ ทำให้ดวงตากลมโตที่พึ่งหยุดร้องไห้ ปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง มือบางยกขึ้นปิดหน้าของตัวเองทันที ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาภายในจิตใจ ร่างบางเหมือนคนสติกระเจิดกระเจิงเพียงแค่รู้ว่าเธอทำให้อีกหนึ่งคนต้องตาย “ยี่หวาใจเย็นลูก” ร่างบางสั่นสะท้านจนผู้เป็นพ่อและแม่ต้องรีบเข้าไปกอดร่างบางของลูกสาวตัวเองเอาไว้ เพื่อปลอบประโลมจิตใจที่บอบบางของลูกสาว “ไม่จริงใช่ไหมคะ ไม่จริง กรี๊ด!!” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง สติเตลิดไปไกลกับความคิดวนอยู่ในหัวของเธอ ก่อนที่ร่างบางจะส่งเสียงกรีดร้องออกมาพร้อมกับสติที่วูบดับไปอีกครั้ง “ลูกผมเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ” เสียงทุ้มของท่านศิวกรเอ่ยถามคุณหมอหนุ่มอย่างสุภาพแต่คำตอบที่ได้กับทำให้คิ้วของท่านขมวดกันเป็นปม “ลูกคุณไปทำอะไรมาล่ะครับ ถึงได้มีอาการแบบนี้” “อุบัติเหตุ เมื่อคืนไง” “ลูกของคุณไม่ได้เป็นอะไรมากแต่ควรพบจิตแพทย์” หลังจากที่ตรวจดูอาการของหญิงสาว คุณหมอหนุ่มหันไปแจ้งอาการของเธอกับท่านศิวกรและคุณหญิงเจิมจันเสียงแข็งและเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว “ฉันว่าเราย้ายโรงพยาบาลให้ลูกกันดีกว่าไหมคะ” เมื่อคุณหญิงเจิมจันเห็นสายตาของคุณหมอหนุ่มเป็นแววตาแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง เมื่อเขาปรายตามองลูกสาวของเธอ “ก็ดีเหมือนกัน” “ไอ้คามิน เพนนีตายแล้วจริง ๆ เหรอวะ” เสียงทุ้มของคุณหมอไบรอันเดินเข้ามาทักทายคุณหมอคามินที่เดินออกจากห้องตรวจคนไข้พอดี เพนนีถือว่าเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่พวกเขาสนิทแต่เพนนีดูจะสนิทกับคามินมากที่สุดก็ว่าได้และทั้งสองก็มักจะถูกคนอื่นมองว่าเป็นแฟนกันอยู่เสมอ “ใช่” “ใครเป็นคนชนวะ” “นอนอยู่ในห้องนั่น” ตาคมปรายตาไปมองประตูห้องพักผู้ป่วยที่เขาพึ่งเดินออกมาด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะหันไปสบตากับคุณหมอไบรอันที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว “มันคืออุบัติเหตุ” มือหนาของคุณหมอไบรอันตบไหล่เพื่อนรักอย่างคุณหมอคามินเบา ๆ เป็นเชิงปลอบใจ เพราะคุณหมอไบรอันรู้ดีว่าคามินเสียใจไม่น้อยรวมไปถึงเขาด้วยเช่นกัน แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อทุกอย่างคืออุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น “สวัสดีค่ะคุณหมอคามิน คุณหมอไบรอัน” ร่างท้วมของแม่เพนนีเดินทางมาที่โรงพยาบาลโดยมีคุณหมอคามินและไบรอันเป็นคนคอยอำนวยความสะดวกทั้งหมด “เชิญทางนี้ครับคุณป้าประพา” น้ำเสียงสุภาพของคุณหมอคามินเอ่ยพูดกับคุณแม่ของเพนนี เขาชี้ทางให้หญิงร่างท้วมเดินไปยังห้องเก็บศพที่รอญาติมารับโดยมีคุณหมอไบรอันเดินตามไม่ห่าง “คุณป้าจะนำเอาไว้วัดไหนครับ” “ป้าก็ยังไม่รู้เลยค่ะ คุณหมอก็รู้ว่าบ้านของเราไม่ได้มีเงินทองอะไรมากมาย” น้ำเสียงที่ดูเศร้าสลดของประพาเอ่ยบอกกับคุณหมอหนุ่มทั้งสองอย่างน่าสงสาร “แล้วคู่กรณียังไม่ติดต่อมาเหรอครับ” “ติดต่อมาขอรับผิดชอบแล้วค่ะ” “แล้วป้าประพาจะเอายังไงต่อครับ” เสียงทุ้มของคุณหมอไบรอันเอ่ยถามแม่ของเพนนีด้วยความเป็นห่วง “เรื่องงานศพก็คงจัดตามมีตามเกิดแหละค่ะคุณหมอ” “งั้นผมกับไบรอันขอเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้กับเพนนีเองครับ” หมอคามินเอ่ยบอกกับคุณแม่ของเพนนีด้วยใบหน้าจริงจัง ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันไปสบตากับคุณหมอไบรอันที่ยืนพยักหน้าเป็นอันตกลง “จะดีเหรอคะ” “ครับ ถือว่าผมทั้งสองทำเพื่อเพนนีเป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกันครับ” “ขอบคุณมากเลยนะคะ ขอบคุณจริง ๆ” ประพายกมือขึ้นไหว้คุณหมอทั้งสองด้วยรอยยิ้ม สร้างความแปลกใจให้กับคุณหมอไบรอันที่ยืนสังเกตอาการของแม่เพนนีไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะยังไงท่านก็ได้เสียลูกสาวไปแล้ว “มีอะไรติดต่อพวกผมได้นะครับ” “ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม