หนี้รัก หัวใจซ่อนร้าย EP.3

1475 คำ
ปัทมา เจนจิรา บุษยามาศทำหน้ายุ่ง เมื่อภานุกรพูดจบ พวกเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเปรมมิกามีบ้านอยู่ที่ประเทศอังกฤษด้วย พวกเธอรู้แต่ว่าเปรมมิกาเป็นสาวเหนือ บิดามารดาเสียชีวิตและอาศัยอยู่กับป้าเท่านั้น “ไอ้นุ ตกลงไอ้เปรมเป็นใครกันแน่?” “ไอ้เปรมก็เป็นเพื่อนของฉันกับพวกแกไง” “เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว แต่ที่ฉันอยากรู้ก็คือไอ้เปรมเป็นลูกใครต่างหาก” “ฉันคงตอบพวกแกไม่ได้ เอาไว้พวกแกเจอไอ้เปรม แล้วค่อยถามมันเองก็แล้วกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันกลับก่อนก็แล้วกัน” ภานุกรตัดบทแล้วล้วงกระเป๋าสตางค์อออกมา ก่อนจะหยิบธนบัตรใบละพันออกมาสามใบแล้ววางลงบนโต๊ะแล้วพูดขึ้นมาอีกครั้ง “เอาไว้ฉันติดต่อไอ้เปรมได้เมื่อไร ฉันจะโทร.ไปบอกพวกแกทันที” “แกยังไปไหนไม่ได้นะไอ้นุ” ปัทมาสั่งแล้วยืนมือไปดึงแขนของภานุกรเอาไว้ ถ้าไม่เคลียร์กันให้รู้เรื่อง เธอไม่ยอมปล่อยให้เขาไปแน่ ใช่ว่ามีแต่เขาที่เป็นห่วงเปรมมิกา เธอกับเจนจิราและบุษยามาศต่างก็เป็นห่วงเปรมมิกาไม่แพ้กัน “บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะไอ้นุ ไอ้เปรมเป็นใครกันแน่ แล้วทำไมแกถึงรู้อยู่คนเดียว พวกฉันก็เป็นเพื่อนกับไอ้เปรมเหมือนกันนะ ทำไมแกถึงบอกฉันไม่ได้ว่าไอ้เปรมมันเป็นใคร” “ไอ้เปรมเป็นหลานสาวของคุณหญิงปทุมวดี มเหศวร ฉันบอกพวกแกได้แค่นี้แหละ ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่ม เอาไว้พวกแกเจอไอ้เปรมเมื่อไร พวกแกก็ถามไอ้เปรมก็แล้วกัน” ภานุกรบอกเพียงแค่นั้นแล้วแกะมือปัทมาออกทันที ก่อนเดินออกมาจากร้านอาหารด้วยอารมณ์ไม่ปกตินัก อดเป็นห่วงเปรมมิกาไม่ได้ ตอนนี้ไม่รู้ไปหลบอยู่ที่ไหน ติดต่อก็ไม่ได้ ไปหาที่บ้านก็ไม่เจอ? “ชอบทำตัวให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยนะไอ้เปรม” ประโยคสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปากของภานุกร ทำให้ชายหนุ่มอีกโต๊ะที่นั่งฟังบทสนทนาถึงกับตีหน้ายุ่ง โดยเฉพาะคนที่เป็นต้นเหตุของการหายตัวไปของเปรมมิกา ******* ธราทิปนั่งเงียบไปตั้งแต่ที่ได้ยินสาวๆ โต๊ะด้านหลังเอ่ยชื่อของผู้หญิงที่เขาบอกเลิกไปเมื่อสามเดือนก่อน ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะได้ยินชื่อของเธออีก นึกไม่ถึงเลยว่าโลกจะกลมขนาดนี้ ที่น่าตกใจก็คือเรื่องที่หญิงสาวเป็นหลานสาวของคุณหญิงปทุมวดี มเหศวรมากกว่า ปัทมานั่งหน้าตึงเมื่อภานุกรลุกหนีออกไปซะเฉยๆ ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แล้วตกลงเธอจะติดต่อเปรมมิกาได้ที่ไหน โทร.ไปก็ดันปิดเครื่อง โทรศัพท์ไปหาที่บ้านที่เชียงใหม่ ทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้ บุษศยามาศถอนหายใจ มองสีหน้าไม่สบอารมณ์ของสองเพื่อนสนิทอย่างอ่อนใจ ถึงเธอจะรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างที่เปรมมิกาไม่ได้เล่าเรื่องในครอบครัวให้เธอฟัง เธอเข้าใจดีว่า เรื่องบางเรื่องคนนอกก็ไม่ควรรู้ ส่วนเรื่องที่ภานุกรรู้เธอก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะเท่าที่รู้มาเปรมมิกากับภานุกรเป็นญาติกัน ถึงจะเป็นญาติห่างๆ กันก็ตามที แต่ก็ยังถือว่าทั้งสองเป็นญาติกัน จึงไม่แปลกที่จะรู้ความลับของกันและกัน “จะเอายังไงดีล่ะเจน” สุดท้ายเธอก็คว้าน้ำเหลวอีกครั้ง สามเดือนแล้วที่เธอติดต่อเปรมมิกาไม่ได้ เธอไม่เพียงแต่โทรศัพท์ไปหา แต่ยังขึ้นเครื่องบุกไปถึงบ้านทุกหลังที่คิดว่าเปรมมิกาจะไป “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” เจนจิราเงยหน้าขึ้นตอบปัทมา เพราะตอนนี้เธอก็มืดแปดด้านแล้วเหมือนกัน เธอเชื่อว่ามีแต่ภานุกรเท่านั้นที่รู้ว่าเปรมมิกาพักอยู่ที่ไหน? พูดกันตามหลักความเป็นจริง! เพื่อนในกลุ่มนี้ที่สนิทกับเปรมมิกามากที่สุดก็คือ...ภานุกร พวกเธอทั้งสามยังไม่สนิทจนเต็มร้อยเท่ากับภานุกร เรื่องบางเรื่อง ความลับอย่างของเปรมมิกา พวกเธอจึงไม่รู้ และก็มีเรื่องบางเรื่องและความลับบางอย่างของภานุกรเช่นกัน ที่พวกเธอไม่รู้ “เรียกเช็คบิล แล้วกลับกันเถอะ” “ก็ดี เพราะฉันก็กินอะไรไม่ลงเหมือนกัน” “น้องๆ เช็คบิล” เจนจิราเรียกบริกรสาวมาเก็บเงิน เพราะคนเดียวที่รู้ว่าเปรมมิกาอยู่ที่ไหน ก็กลับไปแล้ว ถึงนั่งกันต่อไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา หลังจากเช็คบิลค่าอาหารเสร็จเรียบร้อย เจนจิรา บุษศยามาศและปัทมาก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ธราทิปนั่งเงียบตั้งแต่ได้ยินโต๊ะด้านหลังพูดถึงผู้หญิงที่เขาบอกเลิกไปเมื่อสามเดือนก่อนอย่างครุ่นคิด ทุกเรื่องที่เขาได้รู้ช่างเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายทั้งนั้น เขาไม่เคยสืบประวัติของเปรมมิกา เพราะคิดว่าเธอเป็นแค่คู่นอนชั่วคราวก็เท่านั้น ******* “นี่คุณเปรมเป็นหลานสาวของคุณหญิงปทุมวดีจริงเหรอไอ้หนึ่ง” “ไม่รู้เว้ย ฉันก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกนี่แหละ” “คุณเปรม...นามสกุลอะไรวะไอ้หนึ่ง” ณรงค์เดชถามด้วยความสงสัย เขารู้แต่เพียงชื่อจริงของผู้หญิงที่เพื่อนสนิทเคยคบก็เท่านั้น อาจเพราะรู้ดีว่าผู้หญิงที่ธราทิปรักไม่ใช่เปรมมิกา เขาเลยไม่ได้สนใจที่จะสอบถามประวัติหรือทำความรู้จักมากเกินความจำเป็น “นามสกุล...เกษมศรี” “แต่ผู้หญิงที่สาวๆ โต๊ะนั่นกำลังพูดถึงนามสกุล...มเหศวร” วิทวัสโพล่งออกมาอย่างสนใจใคร่รู้ ถ้าพูดถึงตระกูลมเหศวร ทุกคนย่อมรู้ดีว่าตระกูลนี้โด่งดังมาก ไม่ว่าจะเป็นวงการเมือง วงการบันเทิงและวงการธุรกิจ ทายาทเกือบทุกคนของตระกูลมเหศวรมีแต่ฉลาดและเก่งกาจแทบจะทุกคน และแน่นอนว่าเขารู้จักทายาททุกคนของตระกูลนี้ “ใช่...มเหศวร” ธราทิปพึมพำเบาๆ “แต่มันแปลกนะโว้ย ฉันรู้จักชื่อทายาททุกคนของตระกูลมเหศวร เปรมมิกา มเหศวร ฉันไม่รู้จักจริงๆ” “คิดมากไปก็เท่านั้นแหละ เลิกยุ่งเรื่องของคนอื่นดีกว่า อีกไม่กี่เดือนแกก็จะแต่งงานแล้วนะไอ้หนึ่ง” ลิขิตตัดบท เพราะเขาไม่อยากให้เพื่อนสนิทคิดมากเกี่ยวกับเรื่องของเปรมมิกา ตอนนี้เปรมมิกาเป็นอดีตไปแล้วสำหรับธราทิป เขาไม่ต้องการให้เกิดปัญหาอะไรขึ้นมาอีก “นั่นสินะ ฉันควรเลิกสนใจเรื่องของคนอื่นเสียที อีกไม่กี่เดือนฉันก็จะแต่งงานกับนภาแล้ว” เขาควรเลิกยุ่งกับเรื่องไร้สาระเสียที ทุกอย่างที่เขาทำมาทั้งหมดกำลังจะสำเร็จแล้ว ความสุขที่เขาใฝ่ฝันมานาน ใกล้จะเป็นจริง เขามั่นใจว่าชีวิตแต่งงานของเขากับเพียงนภาจะต้องมีแต่ความสุข “แล้วตอนนี้เตรียมการไปถึงไหนแล้วไอ้หนึ่ง” “เสร็จไปเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว” “ตกลงแกจะหมั้นเช้า แล้วแต่เย็นเลยหรือเปล่าไอ้หนึ่ง” วิทวัสถาม เขาเคยเจอคนรักของธราทิปเมื่อหลายปีก่อน และนั่นก็เป็นเพียงครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอ เกือบห้าปีที่ไม่ได้เจอกัน ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน? ธราทิปวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ แล้วหันไปมองวิทวัสด้วยความแปลกใจ จู่ๆ ทำไมวิทวัสถึงถามเขาแบบนี้ แต่เขามั่นใจในตัวของสาวคนรัก ผู้หญิงที่จะเป็นเมียและแม่ของลูก ต้องเป็นเพียงนภาเท่านั้น “ใช่ ฉันไม่อยากรออีกแล้ว ฉันรอนภามาหลายปีแล้วนะโว้ย โชคดีนะที่นภาไม่ขอเวลาฉันเพิ่มอีกสัก 2-3 ปี เพื่อทำงานก่อนที่จะแต่งงานกับฉัน” “แกแน่ใจแล้วใช่ไหม? ที่จะแต่งงานกับนภา” ลิขิตถามเพื่อความมั่นใจ เขาสงสัยมาตลอดเรื่องคนรักของธราทิป อาจเพราะไม่รู้จักนิสัยใจคอของเธอว่าเป็นอย่างไร เลยไม่แน่ใจว่าหญิงสาวรักและต้องการแต่งงานกับธราทิปจริงหรือเปล่า? “แน่ใจที่สุดไอ้ลิขิต” คำตอบอันหนักแน่นของธราทิป ทำเอาทั้งโต๊ะเงียบสนิท จากนั้นทั้งสามหนุ่มก็เลิกสนใจเรื่องส่วนตัวธราทิป แล้วชวนกันคุยเรื่องธุรกิจของแต่ละคน เวลาก็ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ทั้งสี่ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน *******
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม