ณ...คฤหาสน์ทัศไนย
เสียงที่ดังออกมาจากห้องทำงาน สร้างความเจ็บปวดให้ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งไม่น้อย ทุกถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากของมารดาและบิดาเลี้ยง ล้วนสร้างความเจ็บซ้ำให้ตนอย่างมาก นึกไม่ถึงเลยว่ามารดารับเขามาเลี้ยงด้วยเหตุผลบ้าๆ แบบนี้ เหตุผลที่แสนร้ายกาจ เพียงเพราะต้องการเงินจากคุณย่าใหญ่ ผู้เป็นมารดาถึงกับลงทุนหลอกลวงเขา หลอกลวงทุกคนที่มเหศวรเพียงเพราะต้องการเงินในส่วนของเขามาให้สามีคนที่สองเอาไปลงทุนทำธุรกิจ
“ผมต้องการเงินอีกห้าสิบล้าน คุณไปยืมอดีตแม่ผัวของคุณให้ผมหน่อยสิคุณแก้ว”
“นี่คุณจะบ้าหรือค่ะ เงินไม่ใช่บาทสองบาทนะคะคุณปราการ คราวที่แล้วที่ยืมไปก็ยังไม่ได้เอาไปคืนท่านเลย ฉันไม่มีหน้าไปพบท่านหรอก”
คุณประกายแก้วเอ่ยตำหนิสามีอย่างหัวเสีย เธอไม่มีหน้าไปพบอดีตแม่สามีในตอนนี้หรอก กี่ครั้งที่แล้วยืมเงินท่านมา แต่เธอก็ไม่ได้คืนท่านกลับไปสักครั้ง ข้ออ้างที่เคยใช้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็เอามาใช้อ้างอีกไม่ได้ด้วย
“รอให้ยัยนภาแต่งงานไปก่อนได้ไหมค่ะคุณปราการ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับงานแต่งของน้องสาวคุณด้วย อีกอย่างผมต้องการใช้เงินภายในอาทิตย์นี้”
คุณปราการเงยหน้าขึ้นโวยภรรยา เขาต้องการใช้เงินโดยเร็วที่สุด สถานการณ์ในบริษัทก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนเขาเริ่มท้อแท้ หมดกำลังใจที่จะทำงานแล้วจริงๆ เศรษฐกิจก็แย่ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการของบริษัทก็น้อยลง ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ มีหวังเขาต้องปิดบริษัทลงเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ แน่
“คุณเอาเงินไปทำอะไรนักหนาค่ะคุณปราการ”
“คุณก็รู้ว่าตอนนี้บริษัทของผมกำลังมีปัญหา ผมต้องการใช้เงินด่วน ถ้าไม่ได้เงินก้อนนี้ ผมอาจต้องปิดบริษัท”
“ปิดบริษัท!”
“ใช่...ปิดบริษัท”
คุณปราการตอบเสียงแข็งกร้าว ตั้งแต่แต่งงานกับภรรยาคนนี้ ชีวิตของเขาก็มีแต่ตกต่ำลง ธุรกิจที่ทำอยู่ก็เริ่มมีปัญหา การติดต่อกับลูกค้าก็ลำบาก สงสัยดวงเขาจะไม่สมพงษ์กับภรรยาคนนี้จริงๆ
แต่ก็มีดีอยู่นิดหน่อย ตรงที่ครอบครัวมีฐานะ พอที่จะให้เขานำเงินจากตรงนั้นมาต่อธุรกิจได้
‘ใช่สิ...ไอ้ปรัชยังมีพี่สาวอีกสองคนนี่นา’
แล้วคุณปราการก็นึกขึ้นมาได้ว่าภรรยายังมีลูกเลี้ยงอีกสองคน ฐานะก็ดีใช้ได้ มีทั้งโรงแรม รีสอร์ทแล้วก็ไร่องุ่นไม่รู้กี่พันไร่ และที่เขารู้มาอีกว่า เปรมมิกา เกษมศรีเป็นเจ้าของธุรกิจทั้งหมดของตระกูลเกษมศรีด้วย
“ทำไมคุณไม่ลองไปยืมเงินลูกเลี้ยงของคุณมาให้ผมล่ะคุณแก้ว”
“นี่คุณพูดบ้าอะไรน่ะคุณปราการ”
“ผมพูดความจริง สามีเก่าคุณมีลูกอยู่อีกสองคนไม่ใช่เหรอ? คุณก็เอาไอ้ปรัชไปต่อรองกับนังสองพี่น้องนั่นสิ ผมเชื่อว่านังสองพี่น้องนั่นต้องยอมให้ความช่วยเหลือคุณแน่”
เขามีเบี้ยอยู่ในมือแท้ๆ ทำไมถึงไม่คิดให้ได้ก่อนหน้านี้ เขารู้มาว่าเปรมมิกา เกษมศรีคอยติดตามดูความเคลื่อนไหวลูกเลี้ยงของเขาอยู่
ถ้าเขาใช้ลูกเลี้ยงเป็นข้อต่อรองในการยืมเงินจากสองพี่น้องคู่นั้น เขามั่นใจว่าสองพี่น้องคู่นั้นต้องยอมทำตามเงื่อนไขที่เขาให้ไปแน่นอน
“ถ้าคุณพูดกับพวกมันดีๆ คุณอาจจะได้จากนังสองพี่น้องนั่นเป็น10 ล้าน ไม่สิ... 100 ล้านเลยก็ได้”
“100 ล้านเลยหรือค่ะคุณปราการ”
“ใช่”
คำตอบจากปากสามีทำให้คุณประกายแก้วตาลุกวาว ไม่รู้มาก่อนเลยว่าลูกเลี้ยงทั้งสองจะร่ำรวยถึงเพียงนี้ โชคดีจริงๆ ที่เธอรับลูกชายที่เกิดจากสามีเก่ามาอยู่ด้วย
“มีแต่วิธีนี้แหละ ที่จะทำให้บริษัทของผมอยู่รอด”
“คุณแน่ใจใช่ไหมว่านังสองพี่น้องนั่นจะยอมให้เงินพวกเรา”
“ผมแน่ใจ เพราะสองคนนั้นอยากได้ตัวลูกชายคุณไปอยู่ด้วยจะตาย ผมรู้มาว่า นังสองพี่น้องนั่นคอยตามสืบความเคลื่อนไหวของเจ้าปรัชอยู่”
“ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูด ฉันจะเรียกเงินจากนังสองพี่น้องนั่นให้คุ้ม”
“นี่คุณยังโกรธพ่อของเจ้าปรัชอีกหรือคุณแก้ว”
“ใช่...ฉันไม่มีวันยกโทษให้ผู้ชายคนนั้นเด็ดขาด คนอย่างฉันเจ็บแล้วจำ ใครที่ทำให้ฉันเสียใจและเจ็บปวด ฉันก็พร้อมที่จะทำลายทุกอย่างที่ผู้ชายคนนั้นรัก ไม่เว้นแม้แต่ลูกสาวและลูกชายของเขา”
คุณประกายแก้วไม่เคยลืมสิ่งที่อดีตสามีเก่าทำเอาไว้แน่ เพราะเขาคนเดียว ชีวิตเธอถึงมีแต่ความทุกข์ หากไม่เขา เธอคงมีความสุขมากกว่านี้ พอนึกถึงเรื่องในอดีตขึ้นมา ใบหน้าสวยก็ตึงขึ้นมาด้วยความคับแค้นใจ เธอถูกบังคับให้เลิกกับคนรักแล้วไปแต่งงานกับปราณช์ บุตรชายคนรองของคุณหญิงปทุมวดี มเหศวร
ในคืนวันแต่งงานคนรักของเธอก็ฆ่าตัวตาย หลังจากแต่งงานกันไปปราณช์ก็ไม่เคยสนใจหรือดูแลเธอในฐานะภรรยาของเขาเลย วันๆ เอาแต่ดื่มเหล้าไม่สนใจทำงานหรือดูแลคนในครอบครัว พอเมาก็เอาแต่พร่ำเพ้อหาผู้หญิงคนอื่น
ทั้งๆ ที่เธอเป็นภรรยาและกำลังจะเป็นแม่ของลูกเขาแท้ๆ หลังจากเธอคลอดได้ไม่นาน เขาก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทิ้งให้เธอต้องเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว
คุณปราการมองหน้าภรรยาด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกว่าตอนนี้เขากลัว สงสารหรือหวาดระวังกับสิ่งที่ภรรยาพูด ความเกลียดชังในตัวสามีเก่าที่ฉายชัดอยู่ในแววตาของเธอ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“คุณนัดเจอกับนังสองพี่น้องนั่นเมื่อไร”
“...”
“คุณปราการ!”
คุณประกายแก้วเรียกผู้เป็นสามีเสียงกร้าว มองสีหน้าสับสนของสามีอย่างไม่พอใจ หรือกำลังคิดวางแผนเรื่องไม่ดีอะไรอยู่อีก...
“หืมม์...ว่าไงนะคุณแก้ว”
“ฉันถามว่าคุณนัดเจอนังสองพี่น้องนั่นเมื่อไร”
“ผมยังไม่ได้นัดเจอหรอก เพราะนังสองพี่น้องนั่นอยู่อังกฤษ”
คุณปราการอธิบายตามข้อมูลที่เขารู้ คนสนิทของเขาบอกว่าอีกหลายวันกว่าสองพี่น้องตระกูลเกษมศรีจะเดินทางกลับมาเมืองไทย เขาก็ไม่รู้อะไรมาก เกี่ยวกับประวัติของผู้หญิงสองคนนี้ สิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือ ทั้งสองรวยมากและยังเป็นหลานสาวของคุณหญิงปทุมวดี
******
คนที่ยืนแอบฟังอยู่แทบจะทรุดลงไปนั่งบนพื้นกับบทสนทนาที่ได้ยิน ความรู้สึกรักและเคารพที่เคยมีต่อบิดาเลี้ยงและมารดาผู้ให้กำเนิดยิ่งติดลบลงไปอีก นึกไม่ถึงเลยว่าพวกท่านจะคิดร้ายกับเขาถึงเพียงนี้
ไม่รัก ไม่เอ็นดูเขา เขาไม่ว่า แต่กล้าวางแผนทำร้ายคนในครอบครัวเขาแบบนี้ เขาคงอยู่เฉยไม่ได้ ถึงผู้หญิงที่พวกท่านทั้งสองพูดถึงจะเป็นพี่สาวต่างมารดา แต่พวกเธอก็ไม่สมควรที่จะต้องมาเสียเงินเพราะเขา
“ผมไม่ยอมเป็นเบี้ยให้คุณลุงกับคุณแม่ไปรีดไถ่เงินจากคุณย่าใหญ่แล้วก็พี่สาวทั้งสองของผมเด็ดขาด”
ปรัชญาพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ก่อนเดินออกจากที่ซ่อน กลับไปยังห้องนอนของตนเอง
*****