Chapter 10 สวาทรักคนเถื่อน​ (1)

2718 คำ
Chapter 10 สวาทรักคนเถื่อน​ (1) ยามบ่ายแก่​ ๆ​ ที่แสงแดดอ่อน​ ๆ​ ทอประกายอาบไล้ห่มคลุม​ บ้านเสวกุลโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางแสงสีทองนวลตา​ มีภูเขาเป็นฉากหลังทอดตัวเป็นแนวยาว...ภาพแสนคุ้นเคย​ บรรยากาศยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไป​ หากแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปนั่นคือละครชีวิต​ พลิกผันไปตามบทบาทที่แต่ละคนได้รับ ในห้องกระจกใส​ห้องหนึ่งที่ชั้นล่าง เสียงสนทนากันเบา​ ๆ​ ดังเล็ดลอด "น้องฝนสวยมาก ใส่ออกมาแล้วสวยยิ่งกว่าแบบที่ร่างไว้อีก​ พอดีมั้ยคะ​ ต้องแก้ตรงไหนหรือเปล่า​ คำชมพร่ำไม่หยุด ภัคภัสสรหมุนตัวอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่สูงจรดเพดาน​ ใบหน้าสวยราบเรียบไร้ซึ่งรอยยิ้ม​ ทั้งที่วันนี้มันน่าจะเป็นวันที่หล่อนมีความสุขกับการได้ลองชุดเจ้าสาว​ แต่ความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เลย ยิ่งวันแต่ง งานใกล้เข้ามามากขึ้นเท่าไหร่​ หล่อนนอนหลับไปพร้อมน้ำตาทุกคืน ความทรมานนี้ไม่มีใครรับรู้​ เพราะหล่อนบอกตัวเองทุกวัน​ จะทนแบกรับเอาไว้เพียงลำพัง “ไม่ต้องแก้แล้วค่ะ​ พอดีแล้ว" หล่อนไม่มีอารมณ์มาเรื่องมาก​ หากเจ้าบ่าวคือคนที่รักนั้นคงจะดี หล่อนอาจจะอยากเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในงาน​ แต่งานแต่งครั้งนี้มันเกิดขึ้นเพราะความไม่เต็มใจ​ หล่อนไม่อยากโดดเด่นอะไรทั้งนั้น​ อยากจะให้รีบจบ​ ๆ​ ไปด้วยซ้ำ แล้วจะทนได้ไหมในวันเข้าหอ​ คิดมาถึงตรงนี้รอบขอบตาก็ร้อนผ่าวปวดหนึบ​ แอบขบกรามแน่นเพื่อฝืนตัวเองไม่ให้ร้องไห้อวดสายตาเจ้าของห้องเสื้อ ที่ด้านนอก...สายตาเจือความรู้สึกหลากหลายคู่หนึ่งแอบจับจ้องมองเข้ามาด้านในนานแล้ว​ คล้ายจะมีเซ้นส์ ภัคภัสสรหันไปมอง สบตากับเขาอย่างบังเอิญ "พี่สิงห์!" ใจหายวาบตกไปอยู่ตาตุ่ม คิดไปสารพัดว่าจะเกิด อะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้...หล่อนกลัวแววตาที่มองมาคู่นั้น...ยามนี้ไม่มีใครอยู่ในบ้านนอกจากหล่อน เพราะทุกคนไปอยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด ส่วนหล่อนจะตามไปทีหลังเมื่อลองชุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระเจ้าคงต้องการทดสอบความอดทนของหล่อนแน่ ๆ จึงส่งซาตานร้ายให้ผุดขึ้นมาจากนรกอีกครั้ง และวันนี้จะต้องเป็นวันแย่ ๆ อีกวัน ไม่อาจคาดเดากับการกลับมาของเขาแต่ละครั้งได้เลย ลางหรณ์ของหล่อนเป็นจริง​ เมื่อแทนไทเดินเข้ามาในห้องอุ้งมือแกร่งคว้าหมับลงบนข้อมือเล็กแล้วออกแรงกระตุก มองไปทางคนนอก​ บอกทางสายตาให้รู้ว่า​ นี่คือบ้านของเขา​ จะทำอะไรก็ได้ "ผมมีเรื่องต้องคุยกับเธอ ขอตัวว่าที่เจ้าสาวสักครู่" ชายหนุ่มออกแรงลากให้ภัคภัสสรออกไปจากห้อง ขณะที่หล่อนสบตามองหาตัวช่วย หากแต่แววตาคมกล้าที่ตวัดมองราวจะกินเลือดกินเนื้อ ก็ทำให้คนนอกที่ไม่รู้ความเป็นไปไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่ายืนงงอยู่คนเดียว ภัคภัสสรพยายามบิดข้อมือหนี​ เมื่อถูกเขาฉุดกระชากลากถูไปยังบันไดที่จะพาไปสู่ห้องนอน...ใจเต้นโครมคราม​ คิดล่วงหน้าว่าคงไม่ใช่การลากมาคุยแบบสันติแน่ "จะไปไหนคะ​ พี่สิงห์ต้องการอะไร​ ฝนไม่มีอะไรจะคุยกับพี่สิงห์!" เมื่อดื้อดึงนัก​ เดินไปดี​ ๆ​ ไม่ได้ เขาจึงอาศัยแรงที่มีมากกว่าจัดการแบกหล่อนขึ้นมาพาดไว้บนบ่าราวกับร่างนั้นเบาเหมือนปุยนุ่น หล่อนทำได้เพียงแต่ดิ้นและใช้สองมือทุบแผ่นหลังกว้างไปมา​ หากแต่การดิ้นรนไม่ช่วยให้ได้รับอิสรภาพกลับคืน เขาเดินขึ้นบันไดที่เวียนวนแล้วตรงดิ่งไปยังห้องนอนของตน นั่นทำให้ภัคภัสสรยิ่งดิ้นหนักขึ้น "ทำไมต้องคุยในนี้คะ! ปล่อยนะ​ ฝนไม่ไป​ ไม่คุยอะไรทั้งนั้น!" หล่อนโวยวายลั่นบ้าน​ เมื่อรู้ตัวแล้วว่าวันนี้คงไม่รอดกรงเล็บของราชสีห์ผู้หิวโหยแน่ "แหกปากให้ตาย​ ก็ไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาช่วยเธอหรอกนะ!" ชายหนุ่มใช้เท้าถีบบานประตูแล้วแบกหล่อนเข้าไปในห้อง ก่อนโยนร่างนั้นลงไปบนเตียง​ รู้ทันว่าหล่อนต้องกระเสือกกระสนหนี ร่างหนัก​ ๆ​ จึงรีบโถมตามลงไป สองมือตรึงข้อมือเล็กเอาไว้กับที่นอน ภายใต้ชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาด​ หล่อนนอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างหนัก​ ๆ​ แววตาของเขามองดูไม่ต่างไปจากเด็กที่กำลังจะถูกแย่งของรักของหวงไปจากอก​ เลยต้องทำทุกวิธีทางเพื่อรักษาเอาไว้​ แม้วิธีการออกจะเอาแต่ใจและงอแงเล่นนอกกติกาไปหน่อยก็ตาม แววตาคมกล้าไล่มองไปยังผิวเนื้อนวลเนียน​ ท่อนบนมีเพียงเกาะอกสีขาวปิดบังส่วนซ่อนเร้นเอาไว้​ ก่อนสายตาจะหยุดนิ่งยังใบหน้ารูปไข่หวานละมุน​ แววตาของหล่อนฉายแววหยิ่งผยอง​ ท้าทายเขาในท่าที จวนเจียนจะถูกจับกินหากแต่ก็ยังหยิ่งผยองจนวินาทีสุดท้าย​ เขากระตุกยิ้มอย่างผู้ชนะใส่หน้าคนที่นอนนิ่ง​ คล้ายกับยอมจำนน “หึ อยากมีผัวจนตัวสั่น หรือเพราะหิวเงินจนหน้ามืดยอมมีผัวแก่คราวพ่อก็เอา สรุปเธอเป็นแบบไหน หรือทั้ง สองอย่างฮึปลายฝน!" หล่อนมองหน้าเขาอย่างโกรธขึ้งที่เขาสำรอกถ้อยคำระคายหูออกมาจากปากร้ายกาจ กลับมาคราวนี้เขาไม่ได้มาตัวเปล่า เขามาพร้อมพายุที่พร้อมจะถล่มทุกอย่างจนราพนาสูร “ถ้าตอบว่าถูกทุกข้อ​ ฝนจะโดนอะไรคะ!" "ไม่ต้องทำเก่งปลายฝน​ เธอได้โดนจริง​ ๆ​ แน่!" หล่อนใช้ความเงียบหวังปราบคนพาลให้ล่าถอย​ หากแต่ที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มหยามเหยียด "ดีนะ ในขณะที่คุณพ่อป่วยหนักนอนอยู่โรงพยาบาล แต่เธอกลับแอบมาลองชุดเจ้าสาวอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว หึ สงสัยจะอยากแต่งกับเขาจนตัวสั่น คงรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้วใช่มั้ย" หล่อนสบตากับคนตรงหน้าอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ...เขายังเหมือนเดิม คิดว่ามันเป็นนิสัยที่ฝังรากลึก หมดหนทางเยียวยาเสียแล้ว "พี่สิงห์ก็เหมือนกันนั่นแหละ​ ในขณะที่คุณพ่อนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล​ พี่สิงห์กลับแอบมาหาเรื่องฝน​ ว่าคนอื่น ไม่ดูตัวเอง!" หล่อนยอกย้อนจนคนพาลหน้าชา ขบกรามแน่นสบตากับเขาอย่างท้าทาย นึกอยากจะย้อนกลับบ้าง แล้วเขาล่ะมัวไปทำอะไรอยู่ หายหัวไปเป็นปี ๆ มาถึงก็ตำหนิคนอื่นโดยไม่รู้ถึงความเป็นไป...เขาไม่รู้หรอกว่า คนทางนี้ต้องแบกรับความทุกข์ระทมแค่ไหน กินน้ำตาต่างข้าวแทบทุกวัน "ฉันเพิ่งบินมาถึง​ ส่วนเธอล่ะปลายฝน​ เธอมัวทำอะไรอยู่ที่นี่​ ทำไมถึงไม่ไปหาคุณพ่อ" "ฝนกำลังจะไปโรงพยาบาล แต่ห้องเสื้อก็โทร.มาพอดี" เขากระตุกยิ้มให้กับคำแก้ตัวของผู้หญิงหน้าเงิน คำพูดของหล่อนเขาไม่มีวันที่จะเชื่อใจ "นั่นแหละปลายฝน ที่แท้เธอคิดถึงตัวเองมากกว่าคนอื่น ไม่ต้องอ้างอะไรทั้งนั้น" "ฝนผิดอะไรคะ​ ทำผิดตรงไหนในสายตาพี่สิงห์" ชายหนุ่มบดกรามจนเป็นสันนูน ยอมรับว่าคราแรกเขาตั้งใจว่าจะไม่ยุ่ง แต่เมื่อมาเห็นหล่อนในชุดเจ้าสาวแล้ว อดเสือกตัวเองเข้ามาไม่ได้จริง ๆ มันเหมือนกับเครื่องย้ำเตือน​ จากนี้ไปเขาไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้แบบนี้อีก คล้ายกับคนหวงก้าง​จนลืมถูกผิด ก่อนหล่อนจะเป็นของใคร เขาจะขอลองชิมตัดหน้าแม้ว่าจะต้องตกนรกก็ยอม "ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพราะเห็นว่าเขารวย​ หึ ฉันถามหน่อย แล้วเธอเอาไอ้สี่สิบเก้านิ้วนั่นไปทิ้งไว้ไหน เขาไม่ว่าเอาเหรอที่เธอหนีมาแต่งงานแบบนี้!" เขายกเรื่องสมัยพระเจ้าเหาขึ้นมา​ หล่อนขี้เกียจจะเถียงกับคนพาล ปล่อยให้เขาเข้าใจแบบนั้นต่อไป จะเข้าใจว่าหล่อนผ่านผู้ชายมามากมายก็ช่างหัวแทนไท นั่นคือปัญหาของเขา​ ไม่ใช่ปัญหาของหล่อน "เงียบทำไมปลายฝน ตอบฉันมาสิ เธอทำแบบนี้ได้ยังไง!" "ฝนมีเหตุผล และพี่สิงห์ก็ไม่จำเป็นต้องรู้!" "ฉันให้โอกาสเธออีกครั้ง ล้มเลิกงานแต่งซะ ไปกับฉัน ไปบอกอาภพว่าเธอเปลี่ยนใจแล้ว" "เพื่ออะไรคะ​ จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร..." "ฉันพยายามจะฉุดเธอขึ้นมาจากก้นหลุม​ อยากจะตะเกียกตะกายลงไปอีกก็ตามใจ" หล่อนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ เขาทำเหมือนกำลังสยายปีกเพื่อปกป้องคนไร้หนทางไป หากแต่ก็ไม่อาจเชื่อได้เลยว่าหากหลุดพ้นจากคนอย่างเอกภพ​ แล้วมาหลบภัยภายใต้ปีกของแทนไท ปีกที่กางปกป้องแท้จริงคือปีกของซาตานร้ายที่พร้อมจะทำลายหล่อนได้ทุกเมื่อหรือไม่ หนีเสือปะจระเข้ หล่อนไม่มีทางเลือกที่ดีที่สุดเลยสักทางเดียว "ฝนตัดสินใจดีแล้ว จะไม่เดินถอยหลังอีก" น้ำเสียงและแววตาเด็ดเดี่ยว ทำให้แทนไทอยากที่จะเอาชนะ​ ส่วนที่ทำลงไปเพราะหวงหรือว่าอะไรนั้น​ เขาตอบตัวเองไม่ได้เช่นเคย "งั้นก็มาดูกันสิ หากเธอเป็นเมียฉัน จะมีใครหน้าไหนยังอยากได้อยู่มั้ย!" เขาเริ่มไม่สนห่าเหวอะไรทั้งนั้น​ สองมือถลกชาย กระโปรงชุดเจ้าสาวขึ้นสูง ในขณะที่ภัคภัสสรทั้งดิ้นทั้งข่วน เป็นพัลวัน หากแต่เขาหาได้สะดุ้งสะเทือน "ฉันเคยจูบเธอ...แต่วันนี้ฉันจะทำมากกว่านั้น!" "อย่า...อื๊อ..." เขาไม่อาจควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ จึงแสดงความป่าเถื่อนออกมาแบบนั้น ความร้อนเร่าบดขยี้หน่วงหนักลงบนกลีบปากนุ่มตามแรงอารมณ์...อา...มันหวามหวานคล้ายได้ลิ้มรสชาติแสนสดใหม่​ ลุ่มหลงในเสน่ห์ล่อหลอกจนอยากลองลิ้มชิ้นเนื้อแสนหอมหวาน​ กัดให้จมเขี้ยวแล้วละเลียดเข้าปากอย่างใจเย็น​ ในห้วงอารมณ์หวามไหวจากรสสัมผัสที่ได้รับจากเรียวปากอุ่น สักพักเขาต้องผงะเมื่อความเจ็บจากแรงขบแล่นพล่านไปทั้งร่างกาย “ซี๊ดดด...เธอกล้ากัดฉันเหรอปลายฝน​ ฉันจะฆ่าเธอให้ตายคาเตียง!" เขาเข่นเสียงอาฆาต​ ปลายนิ้วแกร่งแตะลงบนรอยเจ็บ สัมผัสได้ถึงความคาวเค็มจากตุ่มรับรส​ หล่อนแผลงฤทธิ์กัดริมฝีปากของเขาจนได้แผลกันเลยทีเดียว ภัคภัสสรอาศัยจังหวะนั้นผลักร่างคนหื่นเต็มแรง​ ผลุนผลันลงจากเตียงก่อนที่จะตกไปอยู่ในอ้อมกอดของซาตานร้ายอีกครั้ง สองมือจับชายกระโปรงยกขึ้นมา เพื่อที่จะวิ่งหนีเขาออกไปจากห้องก่อนจะหกล้มหน้าคะมำเพราะเหยียบชายกระโปรงตัวเอง และจังหวะเดียวกันนั้น บานประตูก็ถูกผลักเข้ามาเต็มแรง​ หญิงสาวต้องผงะ​ เมื่อคนที่้เดินสวนเข้ามาไม่ใช่ใคร​ คือว่าที่สามีในอนาคตนั่นเอง เขารู้เพราะเจ้าของห้องเสื้อโทร.ไปบอก​ ในขณะที่กำลังเดินทางมารับภัคภัสสรไปโรงพยาบาล "ไอ้สิงห์ ฉันจะฆ่าแก!" เอกภพโกรธจนลงหัวเมื่อเห็นท่าทีตื่นตกใจของภัคภัสสร​ บ่งบอกว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในห้องนี้...เหมือนถูกลูบคม ปลายกระบอกปืนจึงเล็งไปยังคนที่ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวแม้สักนิด ทำราวกับว่ามันคือปืนเด็กเล่นที่มาจากร้านทุกอย่างยี่สิบ ไม่เชื่อว่าในรังเพลิงคือกระสุนจริงที่อาจส่งเขาไปลงนรกได้ ให้ตายสิ เขาเกลียดท่าทีกวนประสาทนั่นชะมัด​ ไม่กลัวตายก็ควรจะเกรงใจปืนในมือเขาบ้าง​ เอกภพคิดขณะที่ ยังคงเล็งกระบอกปืนอยู่อย่างนั้น หากไม่ติดว่าเป็นบ้านคนอื่น​ ป่านนี้แทนไทได้ถอดวิญญาณไปคุยกับยมบาลแล้วจริง​ ๆ แทนที่จะหนีจนหัวซุนข้อหาปล้ำว่าที่ภรรยาชาวบ้าน​ แทนไทกลับขยับเข้าหาคล้ายกับต้องการเปิดทางให้อีกฝ่ายยิงได้แม่นขึ้น​ ชายหนุ่มดุนลิ้นไปตรงรอยเจ็บที่เกิดจากฟันซี่คม เขามองหน้าเอกภพอย่างอย่างท้าทาย "ถือปืนเข้าบ้านคนอื่นแบบนี้ ผมแจ้งความได้เลยนะครับ" "แกเอากฎหมายมาขู่ฉันเหรอ!​ แล้วที่ทำอยู่นี่ล่ะ​ ไอ้สารเลว!" “งั้นก็จะมัวช้าทำไม ยิงมาสิครับ เอาเลย!" แววตาอาฆาตมองเลยไปยังคนที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังเอกภพ กระตุกยิ้มไปให้หล่อน บอกให้รู้ว่ามันไม่จบแค่นี้แน่นอน​ เขาจะเอาคืนให้หนัก​ ข้อหาทำเขาเจ็บตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า "ท้านักใช่มั้ย​ แกได้ตายสมใจแน่!" เมื่อเห็นว่าเอกภพทำท่าจะขาดสติเหนี่ยวไกขึ้นมา จริง ๆ พลัน! ภัคภัสสรก็ปราดออกมาจากมุมที่ปลอดภัย เอาร่างไปขวางกลางเอาไว้ หากเอกภพขาดสติเหนี่ยวไกขึ้นมาจริง ๆ แน่นอนมันต้องผ่านร่างหล่อนก่อนจะไปถึงแทนไท "อย่าค่ะ! อย่ายิงเขา" "ทำบ้าอะไรฮึปลายฝน​ หลบไปซะ​ ผู้ชายคนนี้มันจะปล้ำเธอนะ!" เหมือนหล่อนกำลังปกป้องชายชู้ เอกภพคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ​ "มันยังไม่เกิดขึ้น​ เก็บปืนก่อนค่ะคุณอา!" "เธอปกป้องมันเหรอ ปลายฝน!" "เปล่าค่ะ​ แต่ไม่อยากให้มีคนตายในบ้าน หากอาภพยิงเขา​ อาภพก็จะต้องติดคุก แล้วฝนจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร ฝนจะต้องเป็นหม้ายขันหมากเหรอคะ" ถ้อยคำแสนบาดลึกห้วงอารมณ์แทนไท หล่อนเผยใจออกมาแล้ว อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเอกภพ​ เขาอยากอาเจียนเพราะความเลี่ยน​ในน้ำคำ ความรู้สึกเหมือนมายืนงงในดงน้ำตาล​ เหม็นกลิ่นความรักเหลือเกิน หากแต่ใครเล่าจะรู้ ที่หล่อนต้องพูดออกมาแบบนั้น แท้จริงมันคือมารยาล่อหลอก หล่อนจะต้องทำให้เอกภพรักและหลงจนโงหัวไม่ขึ้น​ จะใช้เล่ห์ทั้งหมดที่มีพรากทุกอย่างกลับคืน เพื่อเป้าหมายอันสูงสุด แม้จะแลกมาด้วยการถูกแทนไทตราหน้าว่าชั่วช้าก็ตาม เมื่อเห็นว่าเอกภพมีท่าทีอ่อนลง​ หล่อนจึงขยับเข้าหาคนที่ยืนมองแทนไทตาเป็นหมัด มือนุ่มจับลงบนท่อนแขนแกร่งแล้วค่อย ๆ ออกแรงกดให้เขายอมลดปลายกระบอกปืน จนกระทั่งมันห้อยตกลงไปอยู่ข้างลำตัว​ หล่อนได้ทีดึงปืนในมือของเขามาถือไว้เพื่อความปลอดภัย "อย่าทำอะไรตามอารมณ์เลยนะคะ ฝนคงมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณอา" 'เธอรักเขาลงเหรอปลายฝน​ ผู้ชายคนนี้หักหลังทุกคนในบ้านเรานะ​ ผู้หญิงสารเลว!'​ เสียงก้องอยู่ในหัวแทนไท​ ชายหนุ่มบดกรามจนเป็นสันนูน​ เมื่อเห็นความรักที่ทั้งสองมีต่อกัน​ ผ่านท่าทีและแววตาที่สื่อออกมา การที่หล่อนซุกซบใบหน้าลงบนบ่ากว้าง มันทำให้หัวใจเอกภพถึงกับอ่อนยวบ เขาพ่ายแพ้ความอ่อนโยนที่หล่อนเสแสร้งแสดงออก ภาพความแนบชิดตรงหน้า ทำให้แทนไทถึงกับเบือนหน้าหนี​ เมื่อเขาเริ่มปั่นป่วนในท้อง​ รู้สึกคลื่นเ**ยนอยากอาเจียนออกมา อยากจะยกห้องนอนให้ทั้งสองไป​ หลังจากนี้จะทำอะไรกันก็เชิญ ในขณะที่แววตาของหล่อนบอกเขาว่า เขาจะไม่มีวันได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้​ ​และเขาจะไม่มีวันได้ทำมากกว่าการจูบ​ หล่อนสัญญากับตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม