“พี่ขุนนนน” น้ำขิงเดินเข้าไปเอ่ยทักทายพี่ชายตัวเอง ซึ่งก็คือพี่ขุนหรือพี่ขุนพล
“มีอะไร” พี่ขุนหันมามองหน้าถามน้ำขิงสีหน้ารู้ทัน
“คือแบบ...” พึ่บ! น้ำขิงรีบนั่งลงข้างพี่ตัวเองพร้อมกับบอกจุดประสงค์ที่ต้องการ ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนก้มหน้าไม่รู้จะต้องทำอะไรยังไง
“นั่งก่อนสิ” เสียงใครบางคนดังขึ้นทำให้ฉันหันไปมอง ก่อนจะเห็นว่าคนที่พูดก็คือพี่คิน หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของพวกพี่เขานี่แหละ เอาจริง ๆ ฉันก็พอที่จะรู้จักกับพี่เขาอยู่บ้าง เพราะมาเป็นเพื่อนน้ำขิงบ่อย คือรู้จักเคยพูดคุยกันแต่ไม่ได้สนิทอะไรมากประมาณนั้นน่ะ
“ขอบคุณค่ะ” ฉันก้มหน้าตอบพี่คินกลับไป และตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งยังตรงที่พี่เขาบอก ซึ่งก็คือที่ตรงข้ามกับพี่เขา แต่เป็นด้านข้างของใครอีกคน
“สะ...สวัสดีค่ะพี่ดิน” ฉันรวบรวมความกล้าหันไปทักทายคนที่นั่งเงียบอยู่
“...” แต่ก็ต้องพบแต่ความเงียบงันกลับมา โดยฉันเองก็ชินแล้วแหละ มันก็มักจะเป็นแบบนี้อยู่ตลอด
“ทักแต่ไอ้ดินนะ” พี่คินยิ้มเอ่ยบอกฉัน ฉันรู้ดีว่าเขาต้องการแก้สถานการณ์ความอึดอัดที่เกิดขึ้นต่างหาก
“สวัสดีค่ะ พี่คิน” ฉันจึงเงยหน้ายิ้มบอกพี่เขาไป
“...” เขาก็ยิ้มตอบกลับมาด้วยสีหน้าใจดี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นหรอกนะ ที่ฉันส่งยิ้มไปนั้น...ก็มีเพียงแค่รอยยิ้มฝืน ๆ เท่านั้น ตอนนี้ฉันรู้สึกเกร็งไปหมด ตั้งแต่ตัดสินใจล้มตัวลงนั่งข้างคนตัวสูง ฉันก็ได้แต่บีบมือตัวเองแน่นด้วยความประหม่า
ทั้งที่อยู่ใกล้พี่เขามาก แต่มัน...กลับเหมือนไกลยังไงไม่รู้
“กินอะไรรึยังคะ” สุดท้ายฉันก็อดไม่ได้ที่จะหันไปเอ่ยถามอีกคน
“...” พี่ดินก็เงียบไม่ตอบอะไรกลับมา
“พี่ดิน”
พึ่บ ใบหน้าหล่อหันมามองหน้าฉันนิ่ง ทำเอาฉันชะงักไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง
พึ่บ! อยู่ ๆ ร่างสูงของคนที่นั่งอยู่ด้านข้างฉันก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
ตึกตึก ก่อนจะเดินออกไปทันทีอย่างไม่สนใจอะไร โดยมีสายตาของฉันที่ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง
โลกของพี่...ฉันไม่มีสิทธิ์เลยสินะ
“ไม่เป็นไร” เสียงทุ้มของคนตรงหน้าฉันเอ่ยขึ้น ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง แล้วก็ต้องเห็นรอยยิ้มบาง ๆ ของพี่คินที่ส่งยิ้มมาให้ฉันอยู่
“มันก็เป็นแบบนี้แหละ” ตามมาด้วยเสียงพี่ขุนพล
“...” ฉันก็เอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดอะไรออกไป
“ถอดใจรึยัง” พี่ขุนพลมองหน้าถามฉัน ไม่ต้องสงสัยว่าที่พวกพี่เขาพูดและถามแบบนี้ มันหมายความว่ายังไง ทุกคนที่อยู่รอบตัวฉันรู้ดีว่าฉันรู้สึกยังไงกับพี่ดิน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เคยบอกแต่พวกเขารู้ได้จากแววตาและท่าทีของฉัน ฉันเป็นคนโกหกคนไม่เก่ง แล้วยิ่งถ้าเป็นความรู้สึกของตัวเองแล้วก็...ฉันไม่เคยที่จะโกหกมันได้เลยสักครั้ง
“ยังค่ะ” ฉันยิ้มตอบกลับไป จะให้ฉันถอดใจได้ยังไง สิ่งพวกนั้นไม่เคยอยู่ในความคิดของฉันด้วยซ้ำ
“งั้นก็สู้หน่อยแล้วกัน...”
“...งานยากหน่อย” พี่ขุนพลบอกฉันด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
“...” ฉันก็ส่งยิ้มตอบพี่เขากลับไป
“งั้นเราไปกันเลยไหมวี อาจารย์น่าจะใกล้เช็กชื่อแล้ว” น้ำขิงหันมาพูดกับฉัน
“อืม” ฉันก็พยักหน้าตอบกลับไป
“งั้นขิงไปละนะพี่ขุน อย่าลืมไปคุยกับที่ลงทะเบียนให้ด้วย”
“อือ รู้แล้วน่า”
“เอาเซคเดียวกับพี่ด้วยนะ”
“รู้แล้ว”
“ดีมาก เป็นพี่ก็ต้องเชื่อฟังน้องนะ”
“เฮ้ย ๆ มากไป”
“ฮ่า ๆ ๆ ไปละ...”
“...ไปแล้วนะคะพี่คิน ไว้เจอกัน” น้ำขิงไม่ลืมที่จะหันไปเอ่ยบอกพี่คินที่นั่งอยู่
“...” พี่เขาก็พยักหน้ารับรู้ ส่วนฉันก็ได้แต่ก้มหัวให้รุ่นพี่ทั้งสองไป ก่อนที่เราทั้งสองจะเดินกลับมายังตึกคณะของตัวเอง
ตึกตึก...
“วาริน บุญรักษา...”
“มาค่ะ” ฉันรีบเดินเข้าไปในห้องด้วยความเร่งรีบพร้อมกับยกมือบอกอาจารย์ที่กำลังเช็กชื่ออยู่
เกือบมาไม่ทันซะแล้ว
“แปลว่ายังไม่ถึงชื่อฉัน” น้ำขิงและนั่งลงที่นั่งข้างฉันด้วยท่าทีสบายใจ
“...” ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป หยิบปากกากับชีตขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวเรียน
“วี” เสียงน้ำขิงเอ่ยเรียกฉันขึ้น ทำให้ฉันหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเอง
“ฮะ”
“ไม่คิดถอดใจบ้างเลยเหรอ”
“...” ฉันก็นิ่งไปกับคำถามของคนด้านข้าง
“พี่ดินดู...ไม่เปิดใจให้ใครเลยนะ”
“ฉันรู้ แต่ว่า...”
“...เลิกรักใครสักคน มันไม่ง่ายเลยนะ” ถ้ามันง่าย ฉันก็คงตัดใจไปตั้งแต่แรกแล้ว
“ทั้งที่พี่เขาไม่สนใจเธอขนาดนี้น่ะเหรอ” ไม่เกินจริงเลยสิ่งที่น้ำขิงพูดมา ตลอดเวลาที่ฉันเจอพี่ดิน มันเหมือนฉันไม่มีตัวตนสำหรับพี่เขาจริง ๆ
“ไม่รู้สิ ทั้งที่รู้ว่าไม่สามารถที่จะเข้าไปในโลกของพี่เขาได้เลย แต่ว่า...ฉันเองก็ยังคงหยุดความรู้สึกตัวเองไว้ไม่อยู่ มันมีแต่จะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ” เพราะฉันไม่เคยชอบหรือหลงรักใครละมั้ง พอได้มารู้สึก...มันถึงคอนโทรลอะไรไม่ได้เลย
“ฉันเข้าใจเธอนะ แต่วี...”
“...สู้อะไรก็ไม่เหนื่อยเท่ากับสู้กับคนที่อยู่ในใจและความทรงจำของเขาหรอกนะ”
“...” ฉันก็นิ่งไปกับคำพูดของเพื่อนตัวเอง
“ถ้าเป็นไปได้ ถอดใจตั้งแต่ตอนนี้เถอะ...”
“...ฉันเป็นห่วงเธอนะ”
“...”
“วี”
“ฉันรู้นะว่าน้ำขิงว่าเธอหวังดีและเป็นห่วงฉัน แต่ฉันยังไหวอยู่ ฉันขอสู้อีกหน่อยได้ไหม”
“...”
“นะน้ำขิง”
“อืม เธอนี่นะ...ดื้อจริง ๆ เลย”
“...” ฉันก็ได้แต่ยิ้มออกมากับท่าทีของคนด้านข้าง ขอฉันลองสู้อีกหน่อยแล้วกันนะ ฉันยังอยากจะเป็นคนนั้น...คนที่ได้ไปอยู่ในโลกของพี่เขาอีกคน
อีกด้าน
ร่างสูงเจ้าของใบหน้านิ่งเรียบเดินเข้ามานั่งยังโต๊ะประจำที่พวกเขามักจะมานั่งรอเรียน
“อ้าวไอ้ดิน...” เอเดนทักและถามขึ้น
“...แล้วไอ้คิน ไอ้ขุน?”
“ใต้ตึก” เสียงทุ้มตอบพร้อมกับนั่งลงด้วยท่าทีปกติ
“มันทำไร”
“...” ดินก็เงียบไม่ตอบ
“ห่า อยู่กับมึงแล้วอึดอัดฉิบ”
“...” คนตัวสูงก็นิ่ง หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“สัส” เอเดนบ่นออกมาเงียบ ๆ คนเดียว ก่อนจะหันไปเห็นคินกับขุนพลเดินเข้ามา
“ทำไรใต้ตึกวะ” เอเดนถาม
“น้องกูมาให้ช่วยลงทะเบียนเรียน” ขุนพลตอบ
“ใคร”
“กูมีน้องสาวกี่คน”
“น้องน้ำขิง?”
“อือ”
“โห่ไอ้สัสดินไม่บอกกูวะ ว่าน้องน้ำขิง...”
“ไอ้เอเดน น้องสาวกู”
“ฮ่า ๆ ๆ ก็แค่ล้อเล่นไหมวะ” ใบหน้าหล่อหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ
“แล้วเตวินทร์?” คินถามขึ้น
“มันอยู่สตูดิโอ...”
“...ได้น้องจิ๊กซอว์มาเป็นแบบ” เอเดนตอบ
“หึ” คินได้แต่แสยะยิ้มออกมาหลังจากที่ได้ยินคำตอบของเพื่อน
“แล้วนี่มึงไม่มีเรียน?” ขุนพลถามเอเดนขึ้น เพราะพวกเขาเรียนกันคนละคณะ คิน ดิน ขุนพล เรียนอยู่บริหารปีสี่ ส่วนเอเดน กับเตวินทร์เรียนอยู่นิเทศศาสตร์ปีสี่ แต่ถึงแม้ว่าจะเรียนคนละคณะกัน แต่พวกเขาก็ยังคงสนิทกันเหมือนปกติ
“มี แต่ค่อยเข้าตอนท้ายคาบ”
“มึงนี่นะ” ขุนพลได้แต่ส่ายหัวออกมากับคำตอบของร่างสูง
“ว่าแต่คืนนี้ ยังไง” เอเดนถามขึ้น
“กูไม่” คินตอบ
“มึงอะไอ้ขุน”
“ดูก่อน”
“เชี้ยไปด้วยกันดิ คืนนี้กูว่าดี ๆ เยอะ” เอเดนบอก
“ระวังวิเวียนรู้”
“รู้...แล้วทำอะไรกูได้?” คนตัวสูงถามออกมาด้วยสีหน้าไม่สนใจ
“...” ทำให้คินกับขุนพลก็ได้แต่ส่ายหน้าออกมากับท่าทีเพื่อนตัวเอง เอเดนจึงเลิกสนใจทั้งสองหันไปยังร่างสูงอีกคนแทน
“ไอ้ดิน ไปกัน”
“...” ดินก็นั่งนิ่งไม่ตอบ
“ไอ้ดิน”
“ไม่ไป” ปากหนาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“สักหน่อยดิวะ”
“...” สายตาคมหันไปมองหน้าใบหน้าหล่อที่พยายามคะยั้นคะยอให้เขาไป
“เออ ๆ ไม่ไปก็ไม่ไป” สุดท้ายเอเดนก็เลือกที่จะไม่เซ้าซี้อะไรอีก
พึ่บ แล้วเจ้าของใบหน้านิ่งเรียบก็ลุกขึ้นเดินออกไป
“มึงก็รู้ มันไม่ชอบไปอะไรแบบนี้” ขุนพลเอ่ยขึ้น
“เออ ก็รู้ แต่มึงจะให้มันหมกตัวอยู่แต่ในห้องรึไง...”
“...ในห้องแม่งก็มีแต่อะไรเดิม ๆ” เอเดนตอบ
“ทำไงได้วะ ก็เรื่องมันเป็นแบบนี้” ขุนพลบอก
“...” เอเดนก็นิ่งไป
“เดี๋ยวกูชวนมันเอง” คินเอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่
“ไหนตอนแรกมึงบอกไม่ไป” ขุนพลถาม
“ก็อยากให้มันได้ออกมาบ้าง ไม่ใช่หมกตัวอยู่แบบนั้น” ร่างสูงตอบ
“แล้วมึงจะทำไง” เอเดนถามพร้อมกับหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเอง
“...” คินไม่ตอบแต่เลือกที่จะมองไปยังทางที่ดินเดินออกไปแววตานิ่ง