บทที่10

1649 คำ
หลังจากที่หลายวันก่อนถูกหมอภีมขับรถชนหัวใจเข้าเต็มๆฉันก็ไม่ได้เจอหน้าคุณหมออีกเลยเพราะช่วงนี้ฉันเรียนหนักที่เคยโม้ไว้ว่าฉันจะต้องได้เบอร์โทรหมอภีมภายในสามวันเลยยังทำไม่สำเร็จ “เออ เมื่อวานที่ช็อปโทรมาบอกว่ากระเป๋าที่ฉันกับแกไปถามหามาแล้วนะวันนี้ไปดูกัน” “เอาไว้วันหลังแล้วกันวันนี้ขี้เกียจ” “อย่า แกจะไปหาคุณหมอคนนั้นก็บอกมาเถอะ” ยัยมีนมองฉันอย่างรู้ทันหรือจะเรียกว่ารู้ไส้รู้พุงก็ได้ “ถือว่ารู้ใจ” “ย่ะ เออ ว่าแต่แกลืมพี่น็อตได้แล้วจริงๆหรอ” ทันทีที่เดินมาหาที่นั่งได้ยัยมีนก็ถามถึงคนที่ฉันไม่อยากจะพูดถึง “ยัง” ถ้าบอกว่าฉันลืมพี่น็อตได้แล้ว ไม่รู้สึกอะไรด้วยแล้วมันก็คงจะเป็นเรื่องที่แปลกเกินไปเพราะคนคบกันมาตั้งหลายเดือน “เมื่อวานฉันเจอพี่น็อตที่โรงพยาบาล” ฉันเล่าด้วยสีหน้าที่เศร้า ถึงฉันจะแสดงออกว่าไม่เป็นอะไรแล้วแต่ลึกๆมันก็รู้สึกเจ็บแหละ “หรอ แล้วพี่น็อตไปที่นั่นทำไม” “ไม่รู้สิไม่อยากรู้ด้วยเลิกพูดถึงผู้ชายแบบนั้นเถอะ” “สงสัยจะไม่ทันแล้วย่ะโน่นมาโน่นแล้ว” ยัยมีนพยักพเยิดหน้าให้ฉันมองไปด้านหลัง “ไปกันเถอะ” พอฉันเห็นพี่น็อตกำลังเดินมาทางนี้ฉันก็ชวนยัยมีนไปที่อื่นแต่พี่น็อตก็เข้ามายืนดักหน้า “พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยคะ” “เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วค่ะ” ฉันเดินเฉียดไหล่พี่น็อตอย่างไม่แคร์โดยมียัยมีนตามมาด้วย “สงสัยจะไม่จบง่ายๆแล้วมั้งเหมือนพี่น็อตจะไม่อยากเลิกกับแกเลยนะ” “อยากเลิกหรือเปล่าไม่รู้แต่ฉันเลิกกับเขาแล้ว ได้ยินมั้ย” ฉันย้ำชัดกับยัยมีน “จ้า สวยยย” “อันนี้ไม่เถียง” ฉันภูมิใจในความสวยของตัวเองพลางหยิบมือถือขึ้นมาตอนนี้ฉันกับยัยมีนอยู่ในรถ ตั้งแต่ที่เท้าฉันเจ็บยัยมีนก็ทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้ฉันนั่งทุกวัน “แวะขนมร้านนั้นหน่อยนะ” ยัยมีนรู้ดีว่าฉันหมายถึงร้านไหนเพราะฉันสองคนชอบไปซื้อขนมญี่ปุ่นอยู่ร้านนึงเรียกได้ว่าเป็นลูกค้าประจำเลยล่ะเมนูขึ้นชื่อของทางร้านคือชีสทาร์ตอารมณ์คล้ายๆทาร์ตไข่บ้านเราแต่อันนี้เป็นของญี่ปุ่นแท้ๆขอบอกว่ารสชาติอร่อยมากแล้วราคาก็แอบแพงมากเหมือนกัน “เมื่อเช้ายังบ่นน้ำหนักขึ้นอยู่เลยไม่ใช่หรอ” “ใครบอกว่าฉันจะซื้อไปกินเองล่ะ” ฉันพูดพลางมองมือถือแล้วยิ้มให้กับหมอภีม เอ่อ ฉันหมายถึงรูปของคุณหมออ่ะค่ะแล้วก็เป็นรูปที่ฉันแอบเซฟมาจากประวัติบุคลากรของโรงพยาบาล จิตเนอะ 555 “ซื้อไปให้ใครยะ” “เดี๋ยวก็รู้” พอมาถึงร้านฉันก็ให้พนักงานจัดขนมใส่กล่องให้ขากลับเดินถือออกมาจากร้านเต็มสองไม้สองมือ “ตกลงแกจะซื้อขนมพวกนี้ไปให้ใครเนี่ย” กลับเข้ามาในรถยัยมีนก็ยังถามไม่หยุด “ซื้อไปฝากพยาบาล” “อย่าบอกนะว่าแกจะเอาขนมพวกนี้ไปหาพวก” “เขาเรียกว่าผูกมิตรต่างหากล่ะเป็นไงเพื่อนฉลาดใช่ม๊าาา” “ย่ะฉลาดใช้เงินน่ะนะ” “เอ้า แน่นอนมีเงินอย่างเดียวไม่ได้นะต้องฉลาดใช้ด้วย” ฉันพูดอย่างลอยหน้าลอยตา “เห้อ…ฉันชักจะสงสารคุณหมอคนนั้นแล้วสิสงสัยช่วงนี้ดวงคุณหมอจะถูกดาวพระเสาร์แทรก” หน้ายัยมีนที่มองฉันตอนนี้แบบว่านะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนใช่ฝูงนิตบกระบาลแยกไปแล้วค่ะ ยัยมีนขับรถมาส่งฉันที่โรงพยาบาลที่หมอภีมทำงานอยู่ โรงพยาบาลกับมหาวิทยาลัยที่ฉันเรียนอยู่คนละทางกันเลยค่ะแล้วไกลกันมากด้วยแต่ทำไงได้ก็คนมันอยากเจอนินา “แน่ใจนะว่าไม่ให้มารับ” “อือ ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวกลับเองขอบใจนะเพื่อนรักที่มาส่ง” ฉันส่งจูบไปให้ยัยมีน “ตามใจ” “งั้นไปล่ะ” ฉันโบกมือบ๊ายบายยัยมีนแล้วหยิบถุงขนมลงมาจากรถเดินเข้ามาด้านในตรงมาที่แผนกผู้ป่วยทั่วไปที่ฉันเจอหมอภีมวันนั้น “ไม่ทราบว่าป่วยเป็นอะไรมาคะ” พยาบาลหน้าเคาน์เตอร์ถามฉันขึ้น ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ถือว่ามีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศก็ว่าได้ครอบครัวฉันรักษาที่นี่ทุกคน “ไม่ได้ป่วยค่ะคือมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อยน่ะค่ะ” “อะไรคะ” พยาบาลมองหน้าฉันด้วยความสงสัย ฉันถอดแว่นตาออกก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปคุยใกล้ๆ “มาหาหมอภีมน่ะค่ะ” “คุณหมอภีมรภัทรใช่มั้ยคะ” “ค่ะ” ฉันรีบพยักหน้า “วันนี้คุณหมอไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะคือที่จริงคุณหมออยู่แผนกศัลยกรรมทรวงอกค่ะจะมาแผนกผู้ป่วยทั่วไปเฉพาะวันจันทร์กับวันอังคารค่ะ” “แล้วไม่ทราบว่าแผนกศัลยกรรมทรวงอกไปทางไหนหรอคะ” “ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสามแล้วเลี้ยวขวาค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” “อ่อ นี่ค่ะ ขนม” ฉันส่งกล่องขนมไปให้พยาบาล พยาบาลมองหน้าฉันงงๆ “รีบไว้เถอะค่ะถือซะว่าเป็นการขอบคุณที่หลายวันก่อนมารักษาอยู่ที่นี่แล้วคุณพยาบาลดูแลดีมากน่ะค่ะ” “อ่อ ขอบคุณค่ะ” พยาบาล อ่อ แบบยังงงอยู่ว่าฉันมารักษาตอนไหนแต่ก็ยอมรับกล่องขนมจากมือฉันนะ ฉันขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้นสามแล้วเดินมาตามที่พยาบาลคนนั้นบอก “ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าคุณหมอภีมรภัทรอยู่มั้ยคะ” ฉันยิ้มให้พยาบาลที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์อย่างเป็นมิตรที่สุดเพราะต่อไปนี้ฉันจะมาที่นี่ทุกวัน “คุณหมอผ่าตัดอยู่ค่ะไม่ทราบว่านัดคุณหมอไว้หรือเปล่าคะ” “ต้องนัดด้วยหรอคะ” ว่าที่คูมแฟนทำตัวอย่างกะดาราเลยเนอะ “ต้องนัดล่วงหน้าก่อนค่ะเพราะปกติคิวคุณหมอแน่นมากค่ะไม่ทราบว่าเป็นคนไข้ของคุณหมอหรือเปล่าคะ” “ค่ะแต่ไม่ได้นัดไว้หรอกค่ะ” ฉันไม่ได้โกหกนะก็ฉันเป็นคนไข้ของเขาจริงๆนินา “ถ้าจะพบคุณหมอเพื่อปรึกษาอาการคนไข้ต้องนัดคุณหมอไว้ล่วงหน้าก่อนนะคะ” มีพยาบาลอีกคนเดินเข้ามา น่าจะเป็นหัวหน้าคนนี้มั้ง “งั้นหรอคะขอบคุณนะคะ อ่อ นี่ค่ะ” เหมือนเมื่อกี้เลยค่ะพี่พยาบาลพากันมองหน้าฉันงงๆว่าฉันเอาขนมให้ทำไม “คือว่าหลายวันก่อนมารักษาที่นี่แล้วคุณพยาบาลดูแลดีมากเลยน่ะค่ะวันนี้เลยซื้อขนมมาฝาก” ฉันพูดสคริปเดียวกับพยาบาลที่อยู่แผนกคนป่วยทั่วไปแล้วพยาบาลสองคนนี้ก็มองหน้าฉันคงจะสงสัยว่าฉันมารักษาเมื่อไหร่แต่พอเห็นชื่อร้านขนมก็รีบรับอย่างไว “นี่ขนมร้านดังที่อยู่แถวทองหล่อนิคะอยากกินมานานแล้วแต่ว่าราคาแพงมากเลยไม่กล้าซื้อ” สีหน้าพยาบาลคนที่พึ่งเดินเข้ามาดูเป็นมิตรกับฉันขึ้นมาทันที อย่างที่บอกว่าร้านนั้นเป็นร้านญี่ปุ่นซึ่งเจ้าของก็เป็นคนญี่ปุ่นที่มาปักหลักอยู่ที่นี่ถ้าใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นจะรู้ว่าขนมของญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องของรสชาติและราคาที่ฉันซื้อมานี่ก็ตกพันกว่าบาทเองค่ะ “ถ้าชอบก็กินเยอะๆเลยนะคะ” พูดแล้วฉันก็เดินออกมาแต่พยาบาลก็เรียกฉันไว้ “เดี๋ยวก่อนค่ะคือว่าถ้าน้องอยากพบคุณหมอจะนั่งรอก่อนก็ได้นะคะเดี๋ยวอีกสักครึ่งชั่วโมงคุณหมอก็น่าจะผ่าตัดเสร็จแล้ว” “ได้หรอคะ” ฉันถามด้วยความตื่นเต้น การพิชิตใจเพื่อนร่วมงานถือว่าสำเร็จ “ได้สิคะเห็นแก่ที่น้องมีน้ำใจซื้อขนมมาฝากพวกพี่แต่อย่าบอกคุณหมอนะคะว่าพวกเราบอกให้รอ” “ไม่บอกแน่นอนค่ะ อ่อ เดี๋ยววันหลังจะซื้อรสอื่นมาให้อีกนะคะ” “เกรงใจแย่เลย” “ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ” พูดแล้วฉันก็เดินมานั่งที่เก้าอี้แถวๆนั้นผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงหมอภีมก็เดินออกมาจากห้องๆนึง รู้สึกจะเป็นห้องผ่าตัดแต่เขาไม่ได้เดินมาทางนี้ "คุณหมอคะ" ฉันวิ่งไปขวางหน้าหล่อๆนั้นไว้ ผู้ชายอะไรหล่อวัวตายควายล้มแต่ติดที่ชอบทำหน้าเย็นชาตลอดเวลา "คุณมาที่นี่ทำไม" กว่าหมอภีมจะตอบฉันได้ก็เล่นให้ฉันรอไปหลายวินาที นี่ถ้าให้ฉันยืนรอนานกว่านี้อีกนิดเดียวฉันจะกระโดดไปเกาะเอวแล้วนะคะ "คือพรีมซื้อขนมมาฝากคุณหมอน่ะค่ะ" ฉันส่งกล่องขนมสีหวานแหววที่ฉันตั้งใจเลือกเป็นพิเศษอยู่ๆหัวใจก็เต้นโครมครามขึ้นมาเฉยๆ ปกติฉันไม่ใช่คนประหม่าแบบนี้หรอกนะแต่ไม่รู้ทำไมเวลาอยู่ต่อหน้าหมอภีมทีไรความมั่นใจที่มีมันก็มลายหายไปหมด "ขอบคุณนะแต่ผมไม่ทานของที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ขอตัว" เจ้าของร่างสูงโค้งศรีษะให้ฉันนิดนึงก่อนจะเดินผ่านหัวใจที่ห่อเหี่ยวของฉันไป ผู้ชายอะไรปฏิเสธน้ำใจคนอื่นอย่างไร้เยื่อใยสุดๆ "ถ้าไม่ชอบขนมที่พรีมเอามางั้นพรุ่งนี้พรีมจะเอาสลัดผักรวมมิตรมาให้นะคะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม