EP.3 ยอมตกลง

3050 คำ
พัชชา Say :: ฮ้าววววววว เอ๊ะ!!! ทำไมฉันโดนห่อเป็นดักแด้เลย พอหันไปมองคนข้างๆที่นอนขด ถึงได้รู้ว่าเมื่อคืนพี่ตะวันยอมนอนหนาว ฉันอาจจะทำตัวเป็นภาระให้พี่เขา แต่เชื่อเถอะว่าฉันไม่ได้ต้องการเลยถ้ามันไม่มาสุดทางแล้ว ฉันเอาผ้านวมที่ห่อตัวฉันอยู่ห่มให้พี่ตะวันคืน ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปโทรศัพท์หาที่บ้านจากโทรศัพท์ในห้องพัก ตู๊ดดดดดด ตู๊ดดดดดดด ตู๊ดดดดดดดดด สายสนทนา [ ค่ะ บ้านเจนกิจโสภณค่ะ ต้องการเรียนสายกับใครคะ ] “นิ่มเหรอ คุณแม่แยู่ไหม ขอคุยกับคุณแม่หน่อย” [ พวกคุณท่านไปคุยเรื่องการหมั้นหมายกับบ้านของคุณมานพค่ะ คุณหนูจะฝากอะไรไว้ไหมคะ ] “บอกที ว่าฉันจะหนีไปเมืองนอกไม่กลับมาแล้ว อย่าบีบให้ฉันต้องทำแบบนี้ พวกท่าน จะใจร้ายกับฉันเกินไปแล้ว ไม่สนใจสักนิดว่าฉันอยู่ไหน อยู่ยังไง ลำบากรึเปล่า แต่จะให้หมั้นกับคนอื่นอย่างเดียว แบบนี้มันไม่ถูกต้อง ไม่ใช่เลย ไม่ใช่สักนิด แค่นี้แหละ ไม่อยากคุยด้วยแล้ว” จบการสนทนา “อะไร ร้องไห้เหรอ ฮัชชิ่ววววว ติดหวัดเธอมาแล้วเนี่ย” “ป๊ากับม้าไปคุยกำหนดวันหมั้นแล้ว ฉันจะหนีไม่พ้นแล้ว ป๊ากับม้าไม่รู้หรือไง ว่าท่านมานพคนดีไม่จริง ทำไมถึงยังเลือก ไม่เอาหรอก” ฉันไม่อยากจะหมั้นจริงๆ พี่อาร์ทเป็นคนยังไง ฉันกับพูรู้ดี ผู้หญิงกี่คนแล้วต้องโดนทำร้ายร่างกาย ไม่เอา ฉันไม่เอาด้วยหรอก “เด็กมีปัญหาซะด้วย ร้องไห้ตามสบายนะ ถ้ามันไม่ทันแล้ว ฉันก็ไม่รู้จะช่วยเธอยังไง” พี่ตะวันเดินไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้ฉันได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับความเฮงซวยของชีวิตตัวเอง Rrrrrrrr Rrrrrrrrr Rrrrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์ของพี่ตะวันดังขึ้นฉัน ฉันเลยรีบวิ่งไปเรียกพี่ตะวันที่ห้องน้ำ แต่พี่ตะวันกลับวิ่งออกมารับโทรศัพท์ด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว ทำไมไม่ใส่ให้มันเรียนร้อยยยยยยยยย!!!!! ในห้องมีผู้หญิงอยู่นะ “ครับแม่ มีอะไรรึเปล่า ห๊ะ!!! พ่ออยากคุยกับผมเหรอ ทำไม?? ผมไม่ได้ทำตัวไม่ดีเลยนะครับ ระวังตัวจะแย่แล้ว เมื่อคืนผมไม่ได้หิ้วใครมานอนโรงแรมเลย จะมี ก็มีแต่ช่วยหมาหลงทางที่โดนพ่อตัดบัตร ตัดเงิน แถมยังนั่งร้องไห้แต่เช้า” อ๋อ ฉันเป็นหมาหลงทางอย่างงั้นเหรอ เคยโดนหมากัดไหม “อะไรนะแม่ เปิดกล้องเหรอ เอ่อออ ตอนนี้อะนะ ผมไม่สะดวก พ่อสั่งเหรอ!!!!! ทำไมเผด็จการชอบเอาความตายมาทุกที ผมจะไม่รักพ่อแล้วนะ” [ เปิด!!!!! ] เสียงตะโกน ที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ ทำให้พี่ตะวันหันมามองหน้าฉัน แล้วยัดโทรศัพท์ใส่มือของฉันเอาไว้ “คุยดีๆนะ พ่อฉันไม่ค่อยจะแข็งแรง ฉันจะรีบไปแต่งตัว ถ้าเปิดตอนนี้คนอื่นจะเข้าใจผิด ฉันไม่อยากให้เธอเสียหาย เข้าใจไหม ไม่งั้นไม่ต้องกินข้าว” เสียงกระซิบที่เป็นการบังคับ มันบอกให้ฉันต้องทำเพื่อความอยู่รอด แม้จะร้องไห้อยู่ ฉันก้มมองดูแผงอกของพี่ตะวัน คอกับตัวคนละสีเลย มันบอกว่าที่ผ่านมาเขาตากแดดทำงานหนักขนาดไหน “ฉันไม่กินคนมีแฟนแล้ว ไม่ต้องมามอง” พี่ตะวันหรี่ตามองฉัน แล้วฉีกยิ้มนำเพื่อให้ฉันยิ้มตาม ก่อนจะส่งสายตามองที่โทรศัพท์ เพื่อบอกให้ฉันรู้ว่าฉันควรทำอะไร ฉันกลั้นใจฉีกยิ้มหวานให้กล้อง ที่ตอนนี้มีชายชราที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้นวมส่งยิ้มให้ฉัน ไม่นานคุณยายซีที่ฉันเคยเจอก็เข้ามาร่วมกล้องกับคุณตาด้วย แย่แล้ว จะพูดอะไรดี “ค่ะ คุณซี” [ ตายจริง ทำไมหนูหน้าซีด ไอ้ตะวันมันทำอะไรหนูไหม ทำมิดีมิร้ายหนูรีเปล่า ] คุณยายถามมาเอาซะฉันอายเลย อายหน้าสด ที่บอกว่าหน้าซีดคุณยายเขาหมายถึงฉันหน้าจืดรึเปล่านะ แฮ่ะ อาการหัวเราะแห้งมันเป็นแบบนี้นิเอง “ไม่ค่ะ พี่ตะวันสุภาพบุรุษมากเลยค่ะ ถ้าไม่มีพี่ตะวันช่วยดูแลหนูคงจะแย่แน่ๆเลยค่ะ” ก็คงจะแย่จริงๆเป็นไข้ก็ยังสละผ้าห่มให้ แม้ตัวเขาเองจะจำใจช่วยฉันก็ตาม “เห็นไหม พ่อกับแม่ได้ยินจากปากน้องแล้วใช่ไหมครับ ว่าผมสุภาพบุรุษดี โอเคนะ” ฉันตกใจคนที่มาเกาะไหล่ของฉันเพื่อร่วมเฟรมกล้อง [ ใครจะไปรู้ แกมันเสือผู้หญิง น้องดูจะไร้เดียงสาไปที่จะอยู่กับแก เห็นแกกับน้องอยู่กับแบบนี้ แคกๆ ฉันก็รู้สึกดี ผิดตรงที่ การกำหนดวันหมั้นของน้องกำลังจะเริ่มแล้ว พ่อเสียดาย ตายไปต้องตกนรกเพราะผิดคำสัญญากับตาของพวกหลานๆ ที่อยากให้ครอบครัวเราดองกัน ] คุณพ่อพี่ตะวันเล่นใหญ่มาก แต่มันก็จริงอย่างที่คุณตาซันว่า ผู้ใหญ่ไปคุยแล้วฉันไม่อาจจฝืนมันได้อีกแล้ว แค่คิดน้ำตาก็ไหลแล้ว ฉันพยายามที่จะมองบนเพื่อเก็บน้ำตา “อะไรร้องไห้อีกแล้ว ร้องไห้ไม่ช่วยอะไรเลย” “ฉันร้อง เพราะฉันโกรธที่บ้านต่างหาก ไม่เกี่ยวอะไร พี่ควรจะไปทำงาน เน็กไทเบี้ยวค่ะ” ฉันหันไปเจอเน็กไทที่เบี้ยวไปทางซ้ายเล็กร้อยของพี่ตะวัน แล้วนึกถึงน้องชายที่จะขึ้นเป็นผู้บริหารแต่แต่งตัวไม่เคยเรียบร้อย มันเป็นความเคยชินที่ฉันจะขยับให้ แต่กลับโดนพี่ตะวันรวบมือเอาไว้ “เราควรจะวางสาย อย่าให้พวกขี้จิ้นทำหน้าฟิน เพราะเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แม่ครับ พ่อครับ เจอกันที่บ้านนะ ผมต้องไปทำงานแล้ว วันนี้จะมีพวกบริษัทเฟอร์นิเจอร์เข้ามาคุย” [ เดี๋ยวไอ้ตะวัน ตะวัน ] จบสายสนทนา พี่ตะวันกดวางสายแล้วยึดโทรศัพท์คืน แต่วันนี้ฉันไม่มีแรงจะมาสู้ด้วย วันนี้ฉันรู้สึกแย่เกิดกว่าจะทำอะไร ฉันถอยให้พี่ตะวันได้ทำอะไรสะดวก “ทำไมเธอไม่ขอให้แฟนเธอช่วย เขาต้องทำอะไรเพื่อเธอมากกว่านี้” “ฉันไม่รู้เลย เค้าก็เป็นคนดีนะ แต่ฉันไม่คิดว่าเค้าจะช่วยฉันได้ ฉันคิดว่าคนที่จะสู้อำนาจพ่อฉันได้ คงมีแค่พี่ พี่ตะวันฉันไม่ได้คิดว่าอยากได้รับอะไรจากพี่เลยนะคะ ขอแค่ทำให้การกำหนดวันของฉันกับพี่อาร์ทมันจบไป ถ้าพี่ช่วยฉัน ฉันยินดีจะเล่นละครตบตาพ่อพี่ว่าเรารักกัน” ฉันยื่นข้อเสนอ ตาของฉันกับพ่อของพี่ตะวันเป็นเพื่อนสนิทกัน ก่อนตาของฉันจะตายคุณตาซันรับปากว่าจะดูแลฉันให้ “ฉันจะช่วย แต่เธอรู้ใช่ไหม ว่าถ้าฉันช่วย เธอจะต้องไม่มีข่าวกัยแฟนของเธอเลย ประเทศไทยคือประเทศไทยศิลธรรม ถ้าเธอมีข่าวกับแฟนของเธอ ไม่เธอเป็นคนหลายใจ ฉันก็จะเป็นคนที่ไปแย่งเธอมา โซเชียลไม่เคยฟังเหตุผล เราไม่ได้ดังเหมือนดารา แต่ทุกข่าวของเราจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของบริษัท ต่อหน้าสื่อ ทุกงานสังคม เราจะออกคู่กัน” “ฉันทราบค่ะ แต่ทางป๊าของฉันไปคุยกับท่านมานพแล้ว พี่จะช่วยยังไง” . . ในเวลาต่อมาคุณชัยก็เดินเข้ามาในห้องของพี่ตะวัน พร้อมกับชุดที่แสนจะดูทะมัดทะแมง ประเด็นมันคือ เสื้อในก็ซื้อมาให้ด้วยเหรอ น่าอายจริง ให้ผู้ชายมาซื้ออะไรแบบนี้ให้ “รู้ไซส์ได้ยังไงวะ” ฉันสบถออกมา เพราะเรื่องส่วนตัวฉันไม่เคยบอกใคร ถ้าจะมีก็คงมีแต่ไอ้พูเท่านั้นที่รู้ “ใส่ๆไปเถอะหน่า ฉันเป็นคนบอกไซส์เอง คาดคะเนจากสายตา ไม่พลาดหรอก แล้วช่วยทำตัวเป็นว่าที่คู่หมั้นที่ดี รักษาหน้าของฉันด้วย เราจะเดินออกไปจากโรงแรม โดยมีคนถ่ายรูปของเราแล้วส่งให้นักข่าว ใครจะมาก่อนมันไม่เกี่ยว" “ใครที่ขึ้นสื่อก่อน คนนั้นเข้าวินใช่ไหมคะ” “อาฮ่า ถูกต้อง และต้องไว ช่วยเล่นละครให้เหมือนตอนที่พยายามจะไม่อยากหมั้นกับฉันด้วย ต่อไปมาคุยเรื่องข้อตกลง เธอต้องรู้เอาไวัก่อนที่ฉันยอมช่วย เพราะพ่อของฉันแก่แล้ว สุขภาพไม่ค่อยดี ฉันคิดว่าเวลาของท่านเหลือน้อยมากแล้ว ฉันอยากจะทำให้ท่านรู้สึกดีที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ แล้วฉันชอบข้อเสนอของเธอที่บอกจะรักกันปลอมๆให้พ่อฉันดู พ่อฉันคงจะได้ จิ้นจิกหมอน อย่างน้อยก็เลิกพูดถึงเรื่องตาย” พี่ตะวันทำหน้าเศร้าลง คุณตาซันแก่มากแล้ว ก็ไม่แปลกที่ท่านจะเริ่มพูดเรื่องตาย “งั้นอาทิตย์ละ 1 วัน เราจะไปรักกันปลอมๆให้คุณตาซันดู แต่ช่วยฉันเถอะนะ พี่รู้ใช่ไหม ถ้ายอมหมั้นกับพี่อาร์ทไป ฉันต้องโดนย่ำยี ให้เสียทั้งใจ ทั้งร่างกาย เกียรติของตัวเอง” ฉันแสดงอาการเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์ “เวอร์ซะไม่มี ไปได้แล้ว ฉันใกล้ถึงเวลานัดแล้ว ฉันจะให้เบลล์บอยถ่ายรูปให้” “ค่ะ” อีกด้าน “นี่พวกป๊าเล่นแบบนี้เหมือนเราว่างกันมากเลยนะครับ” ภูวดลคุยกับคนเป็นพ่อ ที่รอดูพี่สาวของเขาออกมาจากโรงแรมกับลูกของเพื่อนสนิทของคุณตา “คนที่มีอีโก้สูงๆแบบพี่สาวแก ต่อให้เรียนรู้ด้วยตัวเองก็จะเข้าข้างตัวเองว่าถูก เจอคนทำอะไรใช้เหตุผลตลอดแบบตะวันฉาย อาจจะสอนอะไรได้เยอะ ทำตามคำขอของตาแกด้วย” “ผมขอความจริงป๊า” ภูวดลมองหน้าพ่อของตัวเองอย่างไม่เชื่อว่าพ่อของเขา อยากจะทำตามคำขอของคุณตาจริงๆ “ฉันไม่ชอบแฟนพี่สาวแกมันเอาชื่อพี่สาวแกไปป่าวประกาศทั่วบริษัท ว่าเป็นแฟนพี่สาวแก ฉันไม่ชอบ ถ้าคบกันรักกันฉันจะไปว่าอะไร แต่ฉันไม่ชอบมัน ถ้ามันมาดีๆฉันจะไม่ว่าอะไร แต่มันมาไม่จริงใจฉันไม่ชอบ” “แต่ป๊าวางแผนมากมายทั้งหมดนี่ ยอมเช่าทุกห้องในโรงแรมให้ลูกสาวตัวเองอยู่กับผู้ชาย ป๊าคิดอะไรอยู่ ถ้าผิงโดนพี่ตะวันจะทำยังไง ป๊า ผิงถึงจะดูมั่นใจ ทำเหมือนมั่นใจ แต่ยัยนี่อินโนเซนต์มากเลยนะ แล้วก็ไม่ระวังตัวเพราะเราโตมาด้วยกันตลอด การอยู่กับผู้ชายสำหรับยัยนั่นคือเรื่องปกติ แต่สำหรับพี่ตะวันอะไรที่มันปกติ มันจะกลายเป็นให้ท่าเลยนะ” ภูวดลออกอาการเป็นห่วงพี่สาว เพราะคนเป็นมีอาการสนุกกับสิ่งที่ทำ “แล้ว??? ฉันรู้ว่าไอ้ตะวันจะไม่ทำไง ไม่ใช่เพราะมันเป็นสุภาพบุรุษ แต่เพราะว่ามันรักพ่อและแม่มาก อะไรที่จะทำให้พ่อแม่เสียใจไม่ทำหรอก เผลออยากให้สองคนนี้ได้กัน พี่สาวแกอาจจะต้องเริ่มก่อนด้วยซ้ำ แต่จะไปถึงขั้นนั้นได้ ต้องให้พี่สาวแกเห็นความชั่วของไอ้ต้น เตี้ย เหี้ยอะไรนั่น” “ป๊า นั่นไงออกมากันแล้ว” “อ๊าาาาาา กอดกันออกมาเลย ยอมแล้วสินะตะวันฉาย ให้มันได้แบบนี้สิวะ ไอ้พูม่าลูกรัก ถ่ายส่งไปให้ม้าแกที่งอน บินกลับกรุงเทพไปก่อนที ว่าวิธีของป๊ามันได้ผล ลูกสาวฉันน่ารักเหมือนแมวขนาดนี้ ตะวันแกจะทนไหวเหรอ” เสียงสบถของคนเป็นพ่อ ทำให้ลูกชายมองอย่างไม่ชอบใจนัก “ป๊า!!!! น่าเกียจจจจจ ไม่อยากช่วยป๊าแล้วว่ะ นั่นลูกสาวป๊านะ” “ทำไมแกมันหวงพี่สาวจังวะ ไอ้พูม่า แกรู้ใช่ไหม ว่าฉันจะต้องไปประจำที่ฮ่องกงแล้ว อากงแกแก่มากแล้ว ถ้าพวกแกยังอยู่กันแบบว่าคลำดูไม่มีหางเอาหมดแบบนี้ ฉันไม่กล้าไป แกอยากช่วยฉัน ไปสืบเรื่องไอ้ต้นเตี้ยอะไรนั่นก่อน หมดงานของฉันที่นี่แล้ว ฉันจะกลับกรุงเทพไปง้อเมีย และเตรียมสคริปตอบนักข่าวด้วย” คำตอบธีระผู้เป็นพ่อทำให้ภูวดลต้องกุมขมับ ที่ช่วยอะไรพี่สาวตัวเองไม่ได้เลย “ป๊า แล้วกระเป๋าของผิงที่จ้างให้ไปขโมยมาอะ” “เอาไปเผาทิ้งให้หมด” “กระเป๋าใบนี้ 5 แสนนะป๊า!!!!” “ที่บ้านมีเป็น 30 ใบ หายไป 5แสน ก็ไม่ทำให้พี่สาวแกเลิกซื้อหรอก ไปๆ ไปสืบเรื่องไอ้ต้นเตี้ยมาให้ฉัน” ตะวันฉาย Say :: การคุยงานวันนี้เป็นไปได้ด้วยดี พัชชาทำงานได้ดีเกินคาด มีไหวพริบในการคุยงาน หลบเลี่ยงข้อเสียของเราได้เป็นอย่างดี ผมเลยต้องพาเด็กน้อยมาเลี้ยงข้าว แล้วพาเธอซื้อเสื้อผ้าที่จะใส่กลับในวันพรุ่งนี้ เมื่อวานหงอยเป็นหมา แต่พอบอกว่าช้อปปิ้งใจสู้เกินร้อยมาก “ท่านประธานครับ ข่าวบันเทิงลงข่าวแล้วครับ” ชัยเอ่ยบอกผมในขณะที่พัชชาไปเลือกซื้อชุดชั้นใน เพราะแบบที่ชัยเลือกมามันแก่และคันเกินไป ไม่ชอบใส่ลูกไม้แฮะ “อืม ป่านนี้ พ่อฉันคงดีใจจนแก้มปริ” หมอบอกว่าพ่อผมจะอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี ถ้าอารมณ์ดีๆมีใจอยากจะอยู่ อาจจะได้ 2-3 ปี แบบนี้คงจะดีแล้ว ผมอยากให้ท่านอยู่กับผมนานกว่านี้ “พี่ตะวัน!!!! อันนี้ฉันให้พี่ ฮ่ะๆ” กระดาษใบเล็กสีขาวถูกยื่นมาให้ผม จ้า สลิป รูดบัตรชาวบ้านและเอาสลิปมาให้เจ้าของ เยี่ยมจริงๆ ผมพาพัชชากินข้าว ช้อปปิ้งขอบคุณที่เธอทำให้ผมเปิดบิลเฟอร์นิเจอร์ภายในถูกลงตั้งหลายแสน เธอมีความสามารถในการทำงาน 70 คะแนน แต่ใช้ชีวิตคนเดียวเป็น 0 โตมายังไงนะ “พี่ตะวันชุดนอน” “อะไรอีกอะ ยังไม่พออีกเหรอ!!!!!” ผมหันไปมองชุดที่หญิงสาวเรียกให้หันไปดู ชุดนอนซีทรูสีแดง ฮึก!!! จะใส่นอนเหรอ ไม่ดีมั้ง ผมเป็นผู้ชาย ผมรีบลากแขนพัชชาให้พ้นร้านวิคตอเรีย ในใจกลัว เกรงว่าเธอจะมีความอยากจะใส่จริง คนยิ่งของขาดมานาน ไม่ได้ๆ “ชอบอะไรแบบนี้เหรอคะ ลามกจังเลย น้องชายฉันก็ชอบ ฮ่ะๆ พูดแล้วคิดถึงน้องจังเลย ปกตินอนด้วยกัน ตั้งแต่ดื้อกับป๊าก็นอนบ้านตลอดเลย กลับกันเถอะค่ะ วันนี้เหนื่อยจัง มันร้อนมากเหมือนกับตกนรก” เหนื่อยอะไร ไม่เจอแดดเลย เจอแค่อากาศร้อนก็จะตายแล้วเหรอ เวอร์ ไม่เชื่อหรอก . . เรากลับมาที่โรงแรมแน่นอนเธอต้องมานอนที่ห้องผมอีกคืน เพราะเราจะกลับกันตอนเช้า ผมเข้ามาอาบน้ำปกตินอนตีฟอง แช่น้ำร้อน แต่ที่ไม่ปกติ คือคนที่เข้ามาในห้องน้ำ!!!! อีกแล้ว!!!!!! เข้ามาทำไม!!!! ให้ท่าเหรอออออออออออ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะอ้าปากด่า คนที่เข้ามาในห้องน้ำก็ชิ่งพูดขึืนมาก่อน “พี่ตะวันคะ พรุ่งนี้ตอนเรากลับ ไปเยี่ยมคุณตาซันกันไหมคะ” ประโยคของพัชชา ทำให้ผมหยุดที่จะด่าแล้วรอฟังสิ่งที่เธอจะพูด “อยากไปเหรอ แล้วเข้ามาในห้องน้ำทำไม” ผมถามเจตนาของคนที่เข้ามา “พี่ไม่ล็อกประตูอะ แล้ววันฉันแต่งตัวเรียบร้อย” มันใช่ประเด็นไหม ประเด็นของผมคือ เข้ามาทำไม ทำไมไม่รอให้ผมออกไปก่อน แล้วค่อยคุย เธอนี่มันเป็นคนยังไง ผมนอนมองคนที่นั่งลงที่พื้นห้องน้ำอย่างเรียบร้อย “เพราะจะทำให้มันเข้าถึงผู้ใหญ่เร็วขึ้นไงคะ งานหมั้นของเรามันจะได้มาเร็วๆ ฉันไม่อยากโดนทำโทษแล้ว แล้วอีกอย่างพ่อของพี่จะได้ดีใจด้วย” ข้อเสนอที่แสนจะน่าฟัง มันทำให้ผมต้องถอนหายใจ ในโลกนี้ไม่มีของฟรี ยิ่งกับลูกสาวนักธุรกิจ ไม่มีของฟรีแน่นอน “แลกกับ??” “ไปคุยกับป๊าฉันให้หน่อย ว่าเลิกทำโทษฉันได้แล้ว ไม่เอาแก๊งลูกเป็ดแล้ว เดินตามเป็นขบวน ไอ้พูมีแค่ 2 ทำไมฉันถึงต้องมี 10 คน วินวินทั้งคู่” รอยยิ้มหวานที่บอกถึงข้อตกลงที่เราจะได้ทั้งสองฝ่าย ได้กับผีนะสิ ผมมีแต่เสีย “วินของเธอนะสิ ไม่ใช่ฉัน ออกไปได้แล้วปะ ค่อยว่ากันพรุ่งนี้คืนนี้ฉันนอนเตียง เธอนอนโซฟา อย่าริอาจปีนมานอนบนเตียงของฉันอีก ไม่งั้นจะให้ชัย โยนเธอไปนอนข้างถนน” “ดุจังเลย ตกลงมาสิ แล้วฉันจะไป ไม่งั้นฉันก็ไม่ไป อายหนอนน้อยๆละสิ” คนที่พูดทำลอยหน้าลอยตา เหมือนกับผมต้องยอมเธอแน่ๆ เธอใช้วิธีนี้กับน้องชายของตัวเองบ่อยแน่ๆ แล้วดูท่าจะได้ผล เธอถึงได้กล้าต่อรองกับผม ผมตัดสินใจลุกขึ้นยืนจากอ่างอาบน้ำ ไม่ไปก็โชว์ให้ดูซะเลย “อ๊ายยยยยย!!!! อี๊!!!! ยืนทำไม ไปแล้วๆ ไม่อยู่แล้ว” เด็กน้อยคลานหนีผมออกจากห้องน้ำ โดยมี่ผมไม่ต้องไล่เลย “โถ๊ะ!!! คลานเป็นหมาเลย ไม่เห็นหรอก ฟองเยอะขนาดนี้ อะโด่วเอ้ยยยย ก็นึกว่าแน่”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม