EP.4 : แฟนที่ดูแลไม่ได้

2826 คำ
“ผมขอโทษนะครับ ภาพออกไปอย่างนั้น ยังไงน้องก็เสียหาย ผมจะรับผิดชอบเอง ถ้าน้องไม่รังเกียจเพราะผมเองก็ไม่ได้มีใคร ถ้าคุณอาไม่ว่าอะไร ผมจะให้ผู้ใหญ่ที่บ้านมาจัดการให้ถูกต้อง” “ตะวัน มีอะไรกับลูกสาวอาแล้วเหรอ” คำถามของป๊ามันทำให้ฉันตกใจ แต่จะกระตุ้นให้มันเกิดงานหมั้นขึ้น หรือทำให้ป๊าของฉันเปลี่ยนใจ ก็ต้องยอมเสียหายกันบ้าง “ที่จริงผู้ชายกับผู้หญิงอยูด้วยกันสองคนมันก็เป็นแรงดึงดูด แถมพี่ตะวันก็หล่อขนาดนี้ หนูเองก็ออกจะเป็นผู้หญิงที่เจ้าเสน่ห์ มันก็ต้อง.....” “เฮ้ออออ ยังไม่ได้สินะ ถ้าเจ้จะพูดซะยาวแบบนี้ แสดงว่าตัวเองยังซิงสนิทอยู่” ไอ้พูน้องชายที่แสนจะน่ารัก เอ่ยพูดขึ้นมาอย่างกวนอารมณ์ ใครขอความคิดเห็นของแกตอนนี้ไม่ทราบ “ให้มันเป็นเรื่องของการศึกษาดูใจต่อจากนี้ก็ได้ พัชชาเป็นคนน่ารัก ผมคิดว่าเราจะจูนกันติดได้ไม่ยาก” ทุกอย่างดีหมดเลยค่ะพี่ตะวัน แต่ทำไมถึงยังเรียกฉันว่าพัชชา มันดูเหมือนเราไม่ได้สนิทกันจริง อย่างน้อยก็ต้องเรียกน้องผิง ผิงผิง หรืออะไรก็ได้ที่บอกว่าเราสนิทกันรึเปล่า ถ้าออกตัวจะจีบฉันขนาดนี้ “พ่อตะวันคิดแบบนั้นเหรอ อาดีใจนะ ยังไงคุณตาของยัยผิง ก็อยากให้พ่อตะวันดูแลน้อง ที่บ้านสะดวกวันไหน ก็วันนั้นเลย” “ภายในอาทิตย์นี้ครับ ผมต้องกลับไปดูงานที่ภูเก็ต เวลาของผมมันค่อนข้างจะมีน้อย ยังไงผมจะรีบให้ผู้ใหญ่มาคุยนะครับ” หลังจากนั้นพี่ตะวันก็กลับเลย แบบว่าทำหน้าที่ของตัวเอง ก็จบเลย กลับเลย ความรวดเร็วนี้จะบอกว่าไร้มารยาทก็ไม่ใช่ เพราะเขานั้นได้พูดสิ่งที่ต้องการครบถ้วน แต่อะไรจะรีบขนาดนั้น ฉันเดินออกไปส่งพี่ตะวันที่รถ แต่ดูเหมือนพี่ตะวันก็ไม่ได้สนใจที่ฉันมาส่งเท่าไหร่ แถมขับรถออกไปเลย อะไรกันนอนด้วยกันก็สองวันแล้ว เย็นชาจังเลย แต่....ใครสน?? “ยินดีต้อนรับชีวิตที่สงบสุขของฉัน อ้าาาาา ยินดีต้อนรับเงินในกระเป๋า โทรศัพท์ใหม่ และชีวิตเดิม” . . หลังจากวันนั้นคุณยายซีกับคุณตาซัน ก็มากำหนดวันหมั้นหมายจริงๆ ซึ่งงานจะเกิดขึ้นภายใน 3 วัน แต่เป็นแบบเงียบๆเพื่อไม่ให้พวกนักข่าวขุดคุ้ย ว่าการหมั้นครั้งนี้ มันเป็นแค่การกลบข่าวที่ฉันเข้าโรงแรมกับพี่ตะวัน แน่นอนว่ามีคนยินดี ก็จะมีคนไม่ยินดี นั่นก็คือ แฟนฉันเอง “ไม่ชอบที่เป็นแบบนี้เลย แค่ติดต่อผิงไม่ได้หลายวันต้นก็ห่วงจะแย่แล้ว นี่เรายังต้องปลอมตัวมาเจอกันอีก ต้นเป็นแฟน แต่ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ ก็อยากบอกทุกคนว่าแฟนต้นน่ารักแค่ไหน” ต้นเดินเข้ามาประคองหน้าของฉันเอาไว้ในอุ้งมืออุ่นทั้งสองข้าง “มันเป็นแค่การแสดงอ่าต้น อีก 3 วันข้างหน้ามานะ มาให้ป๊าเค้าเห็นหน่อยว่าต้นก็จริงใจ” “ไปได้จริงเหรอ อยู่แบบหลบๆซ่อนๆด้วยใช่ไหม มันเจ็บนะคนดี เห็นคนที่รักไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น แค่ข่าวผิงออกมาจากโรงแรมกับพี่คนนั้น ต้นก็เจ็บแล้ว” ใบหน้าที่ร้าวรานค่อย ๆ ก้มลงใกล้ฉันเหมือนจะจูบ มันทำให้หัวใจของฉันเต้นน้อยๆกับผู้ชายตรงหน้า ในขณะที่ฉันกำลังจะเผยอปาก แสงเลเซอร์จากไรเฟิลก็ส่งสว่างที่หัวของต้นอีกแล้ว อะไร!!!! ป๊ายังตามอยู่อีกเหรอเนี่ย ฉันดันหัวของต้นออก ทำให้ต้นตกใจมาก ตกใจที่ฉันดันหัวออกเหรอ เปล่าาาาาาา ตกใจแสงจากไรเฟิลเนี่ยยยยยนนยน จ่อที่หัวขนาดนี้ “เข้าใจรึยัง ที่ฉันบอกว่าห้องนี้ไม่ปลอดภัย” “ต้นไม่กลัวหรอกนะ ต้นจะทำให้ท่านรู้ว่าต้นจริงจังนะ” แม้ประโยคนี้จะทำให้รู้สึกดีนะ แต่ต้นจะช่วยฉันจากเรื่องนี้ได้จริงนะเหรอ ถ้าทำได้ก็คงจะเป็นอยู่ให้เงียบ “ไปอยู่คอนโดเดียวกับฉันไหม ไม่ใช่ห้องของฉันนะ แบบว่าไปเช่าอยู่ที่นั่น เราจะได้เจอกันแบบไม่เป็นข่าว แถมยังปลอดภัยจากพ่อของฉันด้วย เราจะได้เจอกันบ่อยขึ้น อาทิตย์ละครั้งมันก็คงจะน้อยเกินไปจริงไหม คอนโดของฉันไม่ค่อยแพงนะ เดือนละห้าหมื่น หรือห้องเล็กๆสองหมื่นต้นๆก็มี แต่ทุกอย่างครบเลย ไฟน้ำรวม จบเลย” ฉันเสนอทางที่น่าจะทำให้เราใกล้กันขึ้น “น่าคิดนะ แต่ต้นเพิ่งเริ่มทำงาน เอาไว้ต้นได้บรรจุก่อนนะ” ต้นหัวเราะแห้งๆ ออกมา พยายามหน่อยต้น ฉันก็กำลังพยายาม “เฮ้ออออ ปัญหาของเรามันต่างกันนะต้น พี่ตะวันยอมช่วยก็จริง โดยมีข้อแม้ว่าถ้าเรามีข่าว เค้าจะยุติการช่วยเหลือทันที เราจะคบกันเค้าไม่ได้ว่า แต่เค้าจะไม่ยอมให้การช่วยเหลือของเค้าทำรายชื่อเสียงโรงแรมที่มีประวัติมายาวนาน” “เอาเถอะ ต้นเข้าใจอย่าคิดมากเลย คืนนี้นัดกับพวกโรสไว้ไม่ใช่เหรอ ทำหน้าแบบนี้เดี๋ยวไม่สวยนะ ไปเที่ยวให้ใจเย็นๆ แล้วค่อยว่ากัน ที่จริงเราก็ไม่ได้เจอโรสนานแล้วนะ” “ฉันเพิ่งจะเจอเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่ต้นอาจจะนานก็ได้ ไปเถอะ!! ร่างกายอยากปะทะแอลกอฮอล์” @ร้าน Jasmine 22:12 น “อัยยะ คนมีแฟน ไหนข่าวบอกว่าออกจากโรงแรมกับตะวันฉายไง ดีไหมมึง กูเห็นภาพแล้วอิจฉา” โรสที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกับพวกเพื่อนๆในรุ่นเดียวกันเอ่ยทักฉันกับต้น “มึงจะบ้าเหรอ หมั้นการเมือง จัดฉากการเมือง แล้ววันนั้นก็ไม่ได้อะไรกัน แค่ไปคุยงานเฉยๆ” ฉันหันไปมองต้นที่หน้าเจื่อนไปเลย ทำไมอีโรสถึงพูดขึ้นมา มันก็รู้ว่าฉันกับต้นคบกันอยู่ แบบนี้สงสารต้นแย่เลย ฉันจับมือของต้นไว้เป็นการให้กำลังใจ “ไรวะไม่สนุกเลย ปะเพื่อน เราไปเต้นกัน มากับผู้ ต้องเต็มที่กับเพื่อนด้วย กรูบอกเลยยยยยยย ผู้ชายคืนนี้โคตรดี” โรสลากฉันขึ้นไปเต้นท่ามกลางแสงสี เพลงที่เปิดดังไปทั่วสถานบันเทิง มันทำให้ฉันขยับโยกย้ายไปตามเสียงเพลง โดยมีโรสเพื่อนรักเต้นอยู่ข้างๆ เรากินดื่มเต้น กินดื่มเต้น วนลูปไปเรื่อยๆ ความเมามายมันเริ่มทำให้ดนตรีนั้นไพเราะเพราะกว่าที่เคย ภาพทุกอย่างมันเริ่มช้าลง ฉันเต้นอยู่บนฟอลกอดคอกับโรสพร้อมกับเสียงหัวเราะ “เอ้ย!!!! มือมึงอะเฉยๆก็ได้ ผู้หญิงเค้าเสียหาย” เสียงของต้นที่ตะโกนใส่คนที่กำลังลูบก้นของโรสอยู่ ทำให้ฉันต้องหันไปมอง แล้วรีบไปผลักผู้ชายคนนั้นออกจากโรสที่แทบเมาไม่ได้สติ เมื่อกี้ต้นอยู่ที่โต๊ะนี่หน่า “หิวก็ไปซื้อกิน อย่ามาทำสันดานมักง่าย จับของใครฟรีๆ” “ไรวะ แตะติดแตะหน่อยทำเป็นหวง ถุ้ย!! มาเที่ยวแบบนี้ก็มายั่วผู้ชายละวะ” ปากหมาๆของมันนี่หน้าตบจริงๆ ฉันผลักมันออกอีกที แต่กลับโดนโรสเข้าเข้ามาดึงเอาไว้ “ไปมึง อย่ามีเรื่องเลยยยยย” เสียงของโรสที่ยานคาง จะยืนยังไม่ไหว ทำให้ฉันต้องผลักโรสโรสไปหาต้น ให้ต้นรับเอาไว้ ทำให้โรสที่ยืนไม่ไหวกอดต้นเอาไว้แน่น “หน้าแบบนี้ก็ดูสวยดี แรดๆแรงๆแบบนี้พี่ชอบ ไปเที่ยวกับพี่ดีกว่า” ผู้ชายพวกนั้นพยายามจะลากฉันไปที่โต๊ะ ฉันมองไปให้ต้นช่วย แต่ต้นดันติดโรสที่เมาจนกอดแน่นหนึบ “ปล่อย!!!! ไอ้พวกชั่วเอ้ย!! ฉันบอกให้แกปล่อย!!!!” ฉันเริ่มกลัวเพราะโต๊ะของพวกนั้นมีผู้ชายเป็นสิบ นี่มันคลับ Vip นะ มันไม่น่ามีพวกกุ้ยสิ ฉันพยายามยื้อตัวเอง แต่เพราะฤทธิ์สุราที่ดื่มไปอย่างมากมาย มันทำให้ฉันไม่ได้อยู่ในจุดที่จะต่อต้านได้ ฉันเลยถอดรองเท้าส้นเข้มตีหน้าแม่งเลย คนยิ่งเมาๆอยู่ ฉันไม่ใช่ลูกขนหนู เอ้ย นั่นผ้า ลูกคุณหนูที่พวกแกจะมารังแกได้นะ นี่น้องฉันสอนมา ฉันทุบผู้ชายคนนั้นด้วยส้นรองเท้าอีกหลายที “โอ๊ย อีนี่!!!! มึงกล้าทำกูเหรอ” “พ่อมึงกูก็กล้า ชิชะ ปล่อยได้แล้ว ไม่งั้นแม่จะจิ้มเข้าเบ้าตาให้บอดเลย” ตะวันฉาย Say :: “ปล่อย!!!! ไอ้พวกชั่วเอ้ย!!! ฉันบอกให้แกปล่อย!!!” ผมหันไปมองเสียงที่ตะโกน ถึงได้เจอคนตัวเล็กที่ถูกกลุ่มผู้ชายลากมาที่โต๊ะ แต่ที่ประหลาดใจคือความใจสู้ของผู้หญิงตัวเล็ก ที่กำลังตีผู้ชายร่างยักษ์ด้วยส้นรองเท้า “ขอตัวนะสาวๆ สงสัยจะมีเรื่อง ชัย เคลียร์ที่ที” ผมลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อไปช่วยภาระที่ผมเพิ่งจะสลัดทิ้ง ผมพอเข้าใจพวกผับปิดมันไม่ได้มีมากมายนัก แต่การที่มาเที่ยวแล้วต้องเจอภาระไม่สบอารมณ์เอาซะเลย “โอ๊ย อีนี่!!!! มึงกล้าทำกูเหรอ” “พ่อมึงกูก็กล้า ชิชะ ปล่อยได้แล้ว ไม่งั้นแม่จะจิ้มเข้าเบ้าตาให้บอดเลย” โอ้ยยยยย ตัวเท่าลูกหมาเอาอะไรไปสู้เขา เฮ้อออออออออออ การถอนหายใจยาว ก่อนจะเข้าไปสะกิดคนที่มันกำลังจะตบภาระของชีวิตผม “เอ้ย สู้กับคนตัวเท่าๆกันดีกว่า ป๊าบบบบ!!!!” ผมซัดหมัดสาวตรงเข้าที่หน้าของไอ้คนที่พยายามตบภาระของผม แล้วกระชากแขนของภาระของผมออกมา แต่ดูเหมือนเธอจะเมาด้วยแฮะ “มึงเสือกไรด้วยตะวันฉาย มึงคิดว่าตัวเองใหญ่จะเสือกเรื่องผู้หญิงของใครก็ได้เหรอวะ” “แต่ไอ้ที่มึงลากอยู่ มันคือภาระของกูไง ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นคู่หมั้นกู กูจะไม่ยื่นมือเข้ามาเสือกเลย” “พี่ตะวันขา พวกมันรังแกหนู มันจะจับนมหนูด้วย จับก้นหนูด้วย ตรงนี้ๆ” แล้วคนที่เมาก็เอามือผมไปจับก้นเธอจนผมต้องดึงมือออก ไม่ต้องสาธิต ไม่ต้องการเลย ผมไปจับอะไรที่มันจับต้องได้ดีกว่า “เมียมึงโคตรตอแหลเลย กูไม่ได้ทำสักนิด” ต้องมีสักคนที่โกหก แต่ใครก็ช่างผมไม่สน ผมลากยัยภาระของผมออกมาจากตรงนั้น แต่กลับเจอผู้ชายอีกคนที่มาขวางผมเอาไว้ ประเด็นมันไม่ไม่ใช่ตรงนั้น มันคือตรงที่ กอดกับผู้หญิงอีกคน ความสัมพันธ์น่าประหลาด “ผิงไม่เป็นอะไรนะ ต้นเป็นห่วงมากเลย” ผู้ชายคนนั้นสลัดผู้หญิงอีกคนเพื่อมากอดภาระของผม แฟนสินะ เอาเถอะ แฟนยัยนี่มาแล้ว ผมจะได้กลับไปที่โต๊ะของผมเองบ้าง ผมผลักภาระคืนให้แฟนของเธอที่ไม่ได้ขอบคุณผมสักนิด เออ ภาระ มันก็คือภาระ ยังไงก็ยังเป็นภาระ ผิดที่เสือกเข้าไปช่วยเอง ผมมองคนที่ยังมองผมอยู่ มองอะไร ผมรู้ว่าเธอไม่ได้เมาถึงขั้นจะไม่รับรู้อะไร “ผิง ต้นพากลับโต๊ะนะ” อ้อนกันเข้าไป รีบๆไปเลยเจอเธอทีไรฉันมีเรื่อง!!!! แต่!!! ถ้าเอาตัวไปอีกแล้วดูแลไม่ได้อีกจะทำยังไง ผมไม่ได้มีเวลามาเฝ้าดูแลให้ตลอดนะ!!! ผมเดินไปกระชากตัวภาระกลับมา ไม่ใช่เพราะอยากได้ ยัยนี่เมาขนาดนี้ วิ่งไปมือหาเท้าคนอื่นอีกจะทำยังไง “พัชชา!!! ฉันจะไปส่งที่บ้าน ให้พวกเพื่อนเธอกลับเอง!!!” ผมดึงคนเมาที่เดินโซเซมาแนบตัวเองเอาไว้ ให้ตัวผมเป็นหลักที่พักพิงให้เธอได้ยืนเกาะ “ผมเป็นแฟน พี่มายุ่งอะไรด้วย แค่หมั้นเพราะหน้าที่อย่าเข้ามายุ่งได้ปะ” “แฟนที่ดูแลไม่ได้ มันเป็นยังไง!!!! ทำให้เห็นทีดิวะ วันที่ยัยภาระนี่โดนกระชากกระเป๋า นั่งร้องไห้ แฟนแบบน้องไปอยู่ไหน วันยัยนี่ไม่มีเงินที่จะกินข้าว แกทำอะไรอยู่ ไปทบทวนคำว่าแฟนในความคิดของตัวเองมา ว่ามันคืออะไร!!!!” ผมตั้งคำถามแล้วมองผู้ชายที่จับมือผู้หญิงสองคน ข้างละมือ ข้างหนึ่งก็จับภาระของผมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย อีกข้างก็จับกับผู้หญิงอีกคนที่กำลังเมาเละเทะ “ต้นไม่มีรถอ่า ต้นจะไปส่งฉันยังไง ฉันกลับกับพี่ตะวันก็ได้ ฝากส่งโรสหน่อยนะ” สีหน้าที่นิ่งไปของพัชชา มันกำลังบอกแล้วว่าตัวเธอเองก็รู้สึก “ชอบมันแล้วใช่ปะ ไหนบอกแค่หน้าที่ไง ใช่สิ คนรวยมันก็คงเหมาะกับคนรวย” แล้วคนที่ชื่อต้นก็ลากแขนของผู้หญิงอีกคนไป แล้วปล่อยมือแฟนตัวเองว่ะ มันยังไงวะ “มันไม่ใช่นะต้น” แล้วนี่ชอบมันจนสมองหายเหรอ ไปวิ่งตามเขาทำ ผมเดินไปลากแขนของพัชชาให้มาที่โต๊ะของผม คนที่ไม่เห็นค่าเราจะไปง้อทำไม ปวดประสาทจริง อย่าได้มาเกิดเป็นน้องผมนะ ผมตีตายนะบอกเลย นิสัยแบบนี้ ผมล็อกหน้าเด็กน้อยให้มองมาที่ผม ใบหน้าแดงๆที่บอกผมเธอเมา แล้วตาของเธอก็กำลังเศร้า “อย่ามาร้องไห้นะ” “เมื่อกี้ เมื่อกี้ เขาปล่อยให้ฉันโดนลากออกมา ทั้งๆที่ฉันปกป้องเพื่อน พี่ตะวันไม่เข้าใจ เค้าเป็นคนที่ขอฉันคบต่อหน้าป๊า ฉันอุตส่าห์มั่นใจว่าเค้าจะไม่กลัวป๊าฉัน ถ้าเราถูกบังคับให้เลิกกัน แต่เมื่อกี้ เค้าเห็นฉันโดนลากออกมา ก็ ก็ยัง...ช่างเถอะ ถ้าไม่ได้พี่ตะวันฉันจะเป็นยังไง” แล้วตัวภาระก็ปล่อยโฮออกมา อะไรอีกเล่า เฮ้อออออ คนมากินเหล้าแต่นี่ต้องมาโอ๋เด็ก “อะไรเล่า เธอไม่เข้าใจความรักด้วยซ้ำ เธอคบเค้านานแค่ไหน” “เข้าเดือนที่ 3 แล้วค่ะ” ดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตานี่มันยังไง น่าสงสารจังวะ เฮ้อออออ ผมลูบหัวปลอบให้พัชชาดีขึ้น ผมทำได้แค่นี้จริงๆ ผมไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะพูดอะไร “3 เดือน มันยังวัดอะไรไม่ได้เลย เด็กๆแบบเธอช่วงนี้อาจจะยังดูสวยงาม แต่เมื่อโตขึ้นเราจะเรียนรู้ที่จะเข้าใจคำว่าแชร์ ถ้ามันเป็นความรักจริงๆจะไม่มีใครต้องพยายาม เพราะแรงดึงดูดมันจะดึงคนทั้งสองคนเข้าหากันเองเข้าใจไหม” ผมปาดน้ำตาอุ่นๆที่ไหลตาของเด็กน้อยไม่หยุด เฮ้ออออ “เลิกร้องได้ไหม คนเค้าเข้าใจฉันผิดหมดแล้ว” “แฟนคนแรก เป็นแฟนคนแรกที่ยอมคบกับฉันไม่กลัวป๊าฉัน ฉันไม่เข้าใจเป็นแฟนฉัน ทำไมถึงไม่ช่วยฉันเมื่อกี้ถ้าฉันถูกฉุดไปข่มขืน เค้าจะมาช่วยฉันทันไหม ปวดใจ ปวดใจ จังเลย” เอ้าาาาา!!!! ร้องหนักกว่าเดิมอีก ผมทำอะไรไม่ถูกเลย ทำได้แค่อยู่เฉยๆ ให้เธอปล่อยน้ำตาออกมาจนพอใจ อีกด้าน “โรสสสสส!!!!” “อุววว อุววว อุววววแหวะ” หญิงสาวที่เมามายปล่อยอาหารและเครื่องดื่มมากมายออกมาจากร่างกาย พร้อมกับนอนเกลือกกลิ้งลงไปกับพื้น “โรสสสสส เฮ้ออออออ เดี๋ยวต้นไปส่งที่คอนโด” ต้นพยายามจะพยุงคนที่นอนกับพื้นขึ้นมา “ไปดูแลลลลลลล ผิงงง ผิงสิ มาดูแลฉันทำไม” หญิงสาวพยายามผลักชายหนุ่มออก แต่ชายหนุ่มก็ยังเข้าไปพยุงร่างที่ไม่สามารถจะช่วยเหลือตัวเองได้ “ผิงมีดูแลแล้ว อย่ามางอแงได้ไหม จะไปส่ง จะให้ผู้ชายมาหิ้วไปอีกรึไง” “งอแงง้านเหรอ? ชิ อุว อุวววแหวะ ออกไปไกลๆ คนจะอ้วก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม