ราวกับถูกร่างกายถูกสาปให้แข็งทื่อไปชั่วขณะ เมื่อมาร์คัสเรียกชื่อเธอออกมา ตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่ชื่อของเขาเหมือนชื่อคนที่แม่อยากให้แต่งงานด้วย มันคงไม่บังเอิญให้เธอชื่อเหมือนตัวเอง
"ฉันไม่ได้ชื่อคามิลล่า ฉันชื่อนีน่า"
"หึ ไม่คิดหน่อยเหรอว่าฉันสืบเรื่องเธอมารึยัง"
"นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่" เธอเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เกรงกลัว เขาคงไม่กล้าทำอะไรเธอเพราะเธอคือคนที่เขาต้องแต่งงานด้วยแถมยังเป็นลูกสาวเพื่อนแม่ของเขา
"ทำให้เธอเห็นตัวตนที่แท้จริงของสามีในอนาคตเธอไง"
"มะ...หมายความว่ายังไง"
"การจะเป็นเมียฉัน เธอต้องเรียนรู้อะไรอีกหลายอย่างเลยละคามิลล่า" มาร์คัสกระซิบบอกข้างใบหูด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ล้วงมีดในกระเป๋ากางเกงออกมาสัมผัสกับใบหน้าสะสวยของอีกฝ่าย
"จะ...จะทำอะไร" น้ำเสียงสั่นเครือเปล่งถาม ลมหายใจเริ่มติดขัดเมื่อเห็นเขากำลังใช้มีดสัมผัสหน้าตัวเอง เขาใช้สันมีดลากยาวจากแก้ม ลงมายังลำคอระหง หน้าอกใหญ่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ...กลัวจนไม่กล้าขยับร่างกายไปไหน
"คนที่จะมาเป็นเมียฉันได้ คนๆนั้นต้องไม่อ่อนแอ สามารถปกป้องและดูแลตัวเองได้ ซึ่งเธอไม่มีอยู่ในนั้น สักข้อเดียว"
"ฉันก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับพวกวิปริตแบบนายเหมือนกัน"
"หึ แต่ดีอย่างเดียว คือ ปากดี"
เธอสะดุ้งโหยง สันมีดในมือเขาถูกเลื่อนลงแล้วหยุดอยู่ที่ตรงนั้นของเธอ พลางออกแรงขยับไปมาจนมีดเสียดสีกับแพนตี้ที่สวมใส่ ทำให้เธอรู้สึกหวิวๆและกลัวในเวลาเดียวกัน
"ยะ...หยุดทำแบบนั้นนะ!"
"...."
"บอกให้หยุดไง!"
ผลัก!
เธอออกแรงผลักเขาสุดแรงที่มี ก่อนจะวิ่งเตลิดออกจากห้องไป เธอมองชายชุดดำหน้าห้องสามสี่คน ซึ่งเดินกรูเข้ามาหาเธอโดยอัตโนมัติ สัญชาตญาณสั่งให้เธอวิ่งไปอีกทาง ครั้นจะกดลิฟต์ก็คงรอดพ้นชายกลุ่มนี้ เธอตัดสินใจวิ่งลงทางบันไดแทน
ตึกตัก ตึกตัก!
เสียงฝีเท้าเธอสลับกับคนกลุ่มนั้นที่วิ่งตามลงมาอย่างรวดเร็ว แข้งขาเธอเริ่มอ่อนแรงจากการวิ่งลงบันไดโดยไม่ได้หยุดพัก พร้อมทั้งเหงื่อที่ท่วมตัว
เธอเปิดประตูออกเมื่อลงมาถึงข้างล่าง มุ่งหน้าไปยังเคาน์เตอร์พนักงานเพื่อขอความช่วยเหลือ ในสภาพเหนื่อยล้า
"ชะ...ช่วยด้วยค่ะ มะ...มีคนมาบุกรุกห้องของฉัน"
"สวัสดีค่ะ คุณมาร์คัส" พนักงานสองคนในตอนแรกยืนรับฟังคามิลล่า แต่พอมีอีกคนเดินมา กลับเบนไปทำความเคารพเจ้าของชื่อนั้นแทน
"เขาค่ะ เขาเป็นคนบุกรุกห้องของฉัน ส่วนผู้ชายชุดดำกลุ่มนั้นก็วิ่งไล่ฉันลงมา"
"เอ่อ...เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าคะ"
"หมายความว่ายังไงคะ"
"คุณมาร์คัสไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอนค่ะ"
"เหอะ! ก็เขานั้นแหละ ไม่เชื่อพวกคุณเปิดกล้องวงจรปิดดูเลยค่ะ"
พนักงานสองคนเริ่มเลิ่กลักมองหน้ากันสลับกับใบหน้าคมคายไร้ความรู้สึกของมาร์คัส พวกเธอสองคนอยากเปิดกล้องวงจรปิดตามที่คามิลล่าบอก หากว่ามาร์คัสไม่ใช่ลูกชายของเจ้าของที่นี่พวกเธอคงทำไปแล้ว
"เปิดสิคะ เปิดเลยถ้าเป็นอย่างที่ฉันพูดกรุณาโทรเรียกตำรวจมาจับเขาไปด้วยนะคะ"
"ออแลนด์"
"ครับนาย"
"มึงจัดสองคนนั้นให้เรียบร้อยส่วนเธอ มานี่!"
หมับ!
คามิลล่าโดนมาร์คัสลากออกจากตรงนั้น ท่ามกลางความตกใจของพนักงานสองคน คามิลล่าพยายามดิ้นออกจากพันธนาการของมาร์คัสแต่กลับทำไม่ได้เพราะเขามีกำลังมากกว่า
"ปล่อยฉันนะ! บอกให้ปล่อยไง!"
"หยุดดิ้นก่อนที่ฉันจะโมโห"
"ก็ปล่อยฉันก่อน...โอ๊ย!"
ร่างบางถูกจับเหวี่ยงใส่เสากำแพงตรงหน้าเต็มแรง เธอเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บปวด น้ำตามากมายเอ่อร้นออกมาคลอรอบดวงตา
"เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่โคตรน่ารำคาญเลย"
"ละ...แล้วนายจะให้ฉันสมยอมมากับคนเลวๆแบบนายเหรอ?" เธอเถียงกลับอย่างไม่ยอม น้ำเสียงที่เปล่งออกมาสั่นเครือจนรู้สึกได้ หยาดน้ำตาไหลกลอกกลิ้งลงมาสองพวงแก้ม แต่นั่นกลับไม่ได้ทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกสงสาร
"เผื่อลืมว่าคนเลวที่เธอด่าอยู่ กำลังจะเป็นผัวในอนาคตของเธอ"
"...." มาร์คัสบีบคางมนไว้แน่นจนแทบแหลกคามือ เขาแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวหากแต่แววตายังคงเย็นชาไม่เปลี่ยน คนอื่นมักสงสารเวลาเห็นคนร้องไห้แต่เขากลับรู้สึกตรงกันข้าม
"อย่าปากดีให้มันมากเพราะฉันไม่ได้ใจดีขนาดนั้น จำเอาไว้!"