ประตูห้องทำงานถูกเปิดโดยไม่มีสัญญาณ และเจ้าของห้องก็ไม่ได้เอ่ยอนุญาตแต่อย่างใด ทอเลเมียสหงุดหงิดเล็กน้อย และกวาดตามองผู้มาเยือนอย่างเอาเรื่อง แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครเขาก็หันกลับมาจับต้องกับเอกสารที่กำลังตรวจตราต่อ เพราะถือว่าคนผู้นั้นได้รับสิทธิ์ให้ทำอย่างนั้นได้
“มีอะไรเหรอ...ดูรีบร้อน...” เจ้าของห้องถามเสียงเรียบ
“อ๋อ...คุณท่านให้ผมเอาสัญญาโครงการสร้างคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เราประมูลได้มาให้คุณเซ็นครับ”
“อืม...เอามาสิ”
พิศณุทำตามคำสั่งเขาวางแฟ้มที่หอบหิ้วเอามาวางไว้บนโต๊ะตรงหน้ารองประธานบริษัท ก่อนจะก้าวถอยห่างออกมา
“เดี๋ยวตอนบ่ายผมจะเข้ามาเอานะครับ” พิศณุทำท่ารีบร้อนหันหลังกลับจะเดินออกไปจากห้องทันที แต่สีหน้าที่อมพะนำบางอย่างของเขากลับปกปิดสายตาที่เฉียบคมไม่ได้ มองผ่านเพียงแวบเดียว ทอเลเมียสก็มองเห็นถึงความผิดปกติได้แล้ว
“มีอะไรทำไมไม่รอผมจะเซ็นให้เลย...”
“คือผมมีงานด่วนต้องไปจัดการให้ท่านประธานครับ” คนพูดยังแสร้งทำเป็นให้มีพิรุธชัดเจน โดยการกลอกตาไปมาอย่างน่าสงสัยที่สุดแถมอมยิ้มน้อยๆ ไว้ในสีหน้าอีกต่างหาก
“หยุดก่อน...” ทอเลเมียสเรียกเลขาของทรงภูมิไว้อีกครั้งก่อนจะวางปากกาลงและปิดแฟ้มเอกสาร
“มีอะไรเหรอครับ...”
“คุณนั่นแหละมีอะไรบอกผมมาเดี๋ยวนี้นะ ไหนๆ ก็เรียกร้องความสนใจได้แล้วก็เล่ามาสิ”
“แหม...คุณนาซีรู้ทันผมตลอดเลยนะ” พิศณุปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจ เพราะด้วยความสนิทสนมแล้วเขาทั้งคู่ก็เปรียบเสมือนเพื่อนที่ดีต่อกัน
“จะบอกก็บอกมาสิท่ามากเหลือเกิน...”
“โอเค...ก็ที่อยากบอกเนี่ยเพราะเห็นว่างานที่ผมกำลังไปจัดการเนี่ยมันเกี่ยวข้องกับคุณนิดๆ หน่อยๆ ไง”
“หือ...” ทอเลเมียสเอียงคอด้วยความสงสัยเข้าไปอีก จนคู่สนทนาเดินเอามือล้วงกระเป๋าเดินเข้ามาประชิดของโต๊ะทำงานของเขา
“คุณวงศ์ศาสต์เขามาพบกับคุณทรงภูมิ เรื่องฝากลูกสาวเข้ามาดูงาน ก็ทำนอง...ให้ทางบริษัทของเราช่วยสอนงานให้หน่อยเพราะตอนนี้เธออยู่ในระยะพักผ่อนเตรียมตัวไปเรียนเมืองนอกปีหน้า แล้วไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ ก็เลยมาหาอะไรทำแก้เซ็ง...” เขาบอกเสียงนิ่ง แบะปากอมยิ้มและยักคิ้วหลิ่วตากับคนที่ตั้งใจฟังอย่างใคร่รู้ แต่ก็ยังเก็บอาการไว้กับมาดเข้มๆ นั่น
“บริษัทตัวเองเยอะแยะไม่มีงานให้ทำรึไง...”
“เราก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเบื้องหลังเป็นยังไง...เขาคงยังไม่อยากให้ลูกสาวรับรู้อะไรตอนนี้” พิศณุกล่าวลอย เหลืบตามองผู้มีตำแหน่งสูงกว่าที่กำลังกระดิกนิ้วบนโต๊ะอย่างครุ่นคิด
“อาจจะเป็นแค่ข่าวลือ...ไม่มีใครรู้จริงนี่ว่าเขาทำธุรกิจอื่นแอบแผง”
“นี่คุณนาซี คิดอย่างที่พูดจริงๆ เหรอครับ อืม...แต่ก็ช่างเถอะเราก็ไม่ได้ไปเดือดร้อนอะไรด้วยนี่ ว่าแต่ผมขอตัวก่อนดีกว่า...รีบ”
“พามาที่นี่...” ทอเลเมียสกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เมื่อพิศณุทำท่าจะหันหลังจากไปอีกครั้ง เลขาหนุ่มอมยิ้มอย่างรู้ทัน
“อะไรเหรอครับ...พาใครมา...”
“อย่าลีลา...พาลูกไอ้...เอ่อ คุณหนูอรุโณรีย์มาหาผม ผมจะจัดหาตำแหน่งให้เขาเอง”
“เลขาส่วนตัว?...”
“คุณพิศณุ!”
“โอเคครับตามนั้น...รอสิบนาทีครับท่านรองประธานเดี๋ยวกระผมจะนำของหวานมาเสิร์ฟ” เลขาหนุ่มรีบเปิดประตูห้องทำงานส่วนตัวออกไปทันที โดยไม่ได้หันหลับมาดูหน้าตาถมึงทึงเอาเรื่องของทอเลเมียส แต่กระนั้นเขาก็พอจะเดาออก