คุ้นหน้า

1460 คำ
ห้วงความฝันเมื่อคืนมันช่างเหมือนจริงเหลือเกิน เจณิสามองสำรวจเงาตัวเองที่สะท้อนในกระจก ร่างเปลือยเปล่ายืนนิ่งมองเงาตัวเองตรงหน้าพร้อมลูบไล้มือตามเนินอกอวบและไหปลาร้าตัวเอง มันเต็มไปด้วยรอยที่ประหลาด และยิ่งไปกว่านั้นตามซอกคอก็เต็มไปด้วยรอยช้ำเป็นจ้ำๆ และรู้สึกเจ็บกลางหว่างขาทำให้เดินไม่สะดวก ทั้งๆ ที่มันเป็นความฝัน แต่ทำไมทุกอย่างมันชัดเจนตามร่างกาย และยิ่งไปกว่านั้นให้ความรู้สึกเสมือนจริงอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกอิ่มและเจ็บปวดที่ได้รับเมื่อคืนมันเหมือนไม่ใช่ฝัน แต่พอตื่นเช้ามาทุกอย่างในห้องปกติ คราบเลือดพรหมจรรย์ก็ไม่มีติดบนผ้าปูที่นอน โดยหารู้ไม่ว่าคนที่พรากความสาวตัวเองนั้นได้จัดการเก็บทุกอย่างให้คงสภาพเดิมให้เธอเหมือนตกอยู่ในห้วงความฝัน คราบเลือดก็ถูกเขาใช้เวทมนตร์ลบทิ้งให้ใสสะอาดไร้ร่องรอยคราบ ทุกอย่างตามร่างกายมันเหมือนไม่ใช่ฝัน มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่เมื่อคืน เธอสลัดความคิดของตัวเองทิ้งแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน เธอเป็นเพียงข้าราชการตัวเล็กๆ ที่เพิ่งสอบบรรจุได้และได้มาทำงานที่นี่ และงานแรกที่ได้รับมอบหมายคือไปตรวจที่ดินของ ‘มังกรกัณฐ์’ คนอะไรชื่อแปลกและรวยมาก เขามีที่ดินในครอบครองเยอะจนไม่อยากจะเชื่อ พาทีมองหน้านายน้อยตัวเองพร้อมกับนึกถึงคำพูดของนายท่านตัวเองที่ส่งสาสน์มาให้ตัวเองเมื่อตอนเช้ามืดว่า ‘ผู้หญิงคนนั้นมาแล้ว’ และนั่นทำให้พาทีรู้ทันทีว่าผู้หญิงที่คุณท่านตัวเองพูดถึงคือใคร ‘เจณิสา’ นั่นเอง “เธอมาถึงแล้วลุงพาที” มังกรกัณฐ์ที่นั่งนิ่งเงียบมาตลอดก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินออกจากห้องทำงาน พาทีก็เดินตามนายน้อยตัวเองออกไปติดๆ และก็จริงอย่างที่มังกรกัณฐ์พูด เมื่อเดินออกมาจากห้องทำงาน รถของทางกรมที่ดินก็มาจอดตรงหน้า มังกรกัณฐ์มองคนที่อยู่ในรถสามคน มีชายหนึ่งหญิงสอง แล้วเขาก็หยิบแว่นกันแดดที่สอดอยู่ที่คอเสื้อออกมาใส่แล้วเดินก้าวลงบันไดไปหาแขกที่เปิดประตูก้าวลงจากรถเช่นกัน ‘ทำยังไงก็ได้ให้สองคนนั่นอยู่ห่างจากเจณิสา ผมต้องการอยู่กับเธอเพียงลำพัง’ มังกรกัณฐ์บอกพาทีผ่านกระแสจิตและพาทีก็ตอบกลับมา ‘ครับ’ ด้านเจณิสาพอลงจากรถมาก็ตกใจกับคนที่ยืนสูงสง่าอยู่ตรงหน้า รูปร่างสมบูรณ์แบบของบุรุษที่เก็บซ่อนดวงตาไว้ภายใต้แว่นกันแดดทำให้เธอใจเต้นแรงผิดปกติ หายใจติดขัดเมื่อมือใหญ่ยกขึ้นถอดแว่นกันแดดออกและนั่นทำให้เธอเบิกตากว้าง เมื่อบุรุษตรงหน้าคือชายคนเมื่อคืน ชายในฝัน ฝันประหลาดและทำให้แก้มทั้งสองของเจ้าหน้าที่สาวซับสีเลือด เหงื่อเม็ดผุดขึ้นเต็มหน้า “สวัสดีครับ” พาทีเอ่ยสวัสดีเจ้าหน้าที่กรมที่ดินทั้งสามคนพร้อมส่งยิ้มเป็นมิตรให้ “สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ” ทั้งสามเอ่ยทักทายเป็นประโยคเดียวกัน แต่มีหนึ่งคนพูดไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นักและก็เอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าเงยหน้าสบตาคนในฝันตัวเอง ดวงตาของเขาเป็นสีเขียวมรกตอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันแปลกมากและยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้สึกว่าสายตาดุดันเย็นชาของเขากำลังจดจ้องมองเธออยู่ มองเหมือนรู้จักเธอ แต่จะเป็นไปได้ยังไง เมื่อคืนเธอฝันถึงเขาและยังฝันลามกอีกต่างหาก ทุกซอกทุกมุมของร่างกาย ปากหนาของเขาได้สัมผัสและเรียวลิ้นสากของเขาก็ลากผ่านทุกจุดซ่อนเร้นของเธอ ‘ไม่หรอกณิสา เธอตาฝาดแน่ๆ’ เธอส่ายหัวแรงๆ แล้วมองคนตรงหน้าอีกครั้งและก็ยังเป็นคนเดิมและตอนนี้เขาได้นำแว่นกันแดดกลับมาใส่อีกแล้ว ‘ทำไมถึงคิดว่าตัวเองตาฝาด’ เสียงเข้มดังขึ้นข้างหูจนเจณิสาต้องหันมามอง แต่ก็ไม่มีใคร แล้วเสียงเมื่อกี้คือเสียงใคร พอหันไปมองสบตาเขาผ่านแว่นกันแดดและยิ่งเห็นมุมปากหนายกยิ้มก็ยิ่งแน่ใจว่าเป็นเขา แต่ทำไมเขาได้ยินเสียงในใจของเธอเล่า ‘เมื่อคืนเธอน่ารักมากเจณิสา’ เขาเห็นคนตัวเล็กตื่นตกใจก็ยิ่งอยากแกล้งจึงพูดอีกครั้งและนั่นทำให้เจณิสาขยับไปกอดแขนของเพื่อนร่วมงานที่ยืนอยู่ใกล้ตัวเอง “เป็นอะไรณิสา” ชณิดาเอ่ยถามรุ่นน้องที่อยู่ๆ ก็สะดุ้งมากอดแขนตัวเอง “ไม่มีอะไรค่ะพี่” เจณิสาตอบพร้อมผละมือที่กอดแขนอีกฝ่ายออกมายืนที่เดิม หึหึ มังกรกัณฐ์แค่นขำแล้วหันไปสั่งพาทีด้วยสายตา “ทุกคนเชิญเข้าไปข้างในออฟฟิศกันดีกว่าครับ” พาทีเอ่ยเชิญทั้งสามคนเข้าไปข้างในออฟฟิศตามคำสั่งของนายน้อยตัวเอง “ขอบคุณครับ” สุเทพ หัวหน้าเจ้าหน้าที่เอ่ยขอบคุณแล้วเดินตามพาทีเข้าไปในออฟฟิศ พอเข้ามาด้านในแล้ว พาทีก็บริการเจ้าหน้าที่กรมที่ดินด้วยการนำน้ำดื่มเย็นๆ มาให้ทั้งสามคน คนละขวด เพื่อดื่มดับกระหายก่อนจะเริ่มทำงาน “เอกสารทุกอย่างเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินอยู่ตรงหน้าพวกคุณนะครับ คุณมังกรกัณฐ์ให้ผมจัดเตรียมไว้ให้พวกคุณตั้งแต่เช้าแล้ว” พาทีเอ่ยบอกพร้อมนั่งลงยังเก้าอี้ตัวที่ว่าง ส่วนเจ้าของที่ดินนั้นนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเองเอนหลังพิงพนักเก้าอี้มองจ้องคนตัวเล็กที่เป็นเป้าหมายของตัวเอง ที่ตอนนี้เอาแต่หันมามองทางตัวเองเป็นระยะ ‘แอบมองฉัน ฉันคิดค่ามองนะ’ เสียงเดิมดังข้างหูอีกแล้ว และนั่นทำให้เธอต้องรีบคว้าหยิบแฟ้มเอกสารตรงหน้ามาเปิดเริ่มงานของตัวเอง “ถ้ามีอะไรต้องการเพิ่มเติมเรียกผมได้เลยนะครับ” พาทีเอ่ยบอกทั้งสามคนเมื่อเห็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่มองไปทางนายน้อยของตัวเอง เพราะตั้งแต่มาถึงมังกรกัณฐ์ไม่พูดไม่จากับเจ้าหน้าที่เหมือนกับไม่เต็มใจกับการมาของพวกเขา ก็จริง เพราะมังกรกัณฐ์ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายในอาณาจักรของเขา เมื่อก่อนเป็นของพ่อ ตอนนี้เป็นของเขา ยิ่งเขาและพาทีไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา การที่มีคนนอกเข้ามาวุ่นวายมันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาและพาที นั่นแหละเขาถึงไม่ชอบเข้างานสังคม แม้จะร่ำรวยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก แต่น้อยคนนักจะได้เจอเขา ถ้าเขาไม่ต้องการและอนุญาตก็ไม่มีสิทธิ์ได้รู้เรื่องของเขา “ครับ เดี๋ยวถ้ามีอะไรที่ผมสงสัย ผมจะถามคุณพาทีนะครับ” สุเทพเอ่ย “แต่เราต้องมีคนไปสำรวจพื้นที่จริงนะคะหัวหน้า” ชณิดาเอ่ยขึ้น “ฉันจะพาไป เชิญคุณเจณิสา” คนที่เงียบมาตลอดเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินมาหยุดที่ด้านหลังเก้าอี้ที่เจณิสานั่งจนทำให้เธอนั่งเกร็งไม่กล้าขยับตัวลุกจากเก้าอี้ “ดีเหมือนกันครับ ถ้างั้นรบกวนคุณมังกรกัณฐ์ด้วยนะครับ” สุเทพเอ่ยแม้จะรู้สึกแปลกที่อีกฝ่ายรู้จักชื่อของลูกน้องตัวเองได้ยังไง “นั่นสิ งานจะได้เสร็จเร็ว ณิสาไปกับคุณมังกรกัณฐ์เถอะ” ชณิดาเองก็เห็นด้วยกับหัวหน้า “ตะ...แต่...” เจณิสายังพูดไม่ทันสุดความ เสียงเข้มของคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ก็ดังขึ้น “เชิญคุณเจณิสา” โอกาสมาถึงแล้ว มีหรือมังกรกัณฐ์จะปล่อยให้หลุดมือ และนั่นทำให้เจณิสาต้องลุกขึ้นยืนพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กของตัวเอง “รบกวนด้วยนะคะ” เจณิสาเอ่ยพร้อมกับเดินตามคนตัวโตออกไปจากออฟฟิศ พาทีมองตามหลังนายน้อยตัวเองไปจนสุดสายตาจนประตูห้องปิดสนิท ทั้งสองคนหายลับไปจากการมองเห็นถึงหันมาสนใจเจ้าหน้าที่ที่เหลือทั้งสองคน เขายังไม่ทันได้พูดได้ทำอะไร โอกาสก็เข้ามาเองจนไม่ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม