บทนำ
บทนำ
บรรดาวิหคขับขานบทเพลงก้องท้องฟ้าสีคราม ส่งผลให้คนที่กำลังง่วนอยู่กับการนั่งเขียนแผนงานหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ละสายตาจากกระดาษปึกใหญ่ตรงหน้า
ชายวัยกลางคนเหม่อมองออกไปทางบานกระจกใสขนาดใหญ่ในห้องทำงานของตนเองอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เจ้าตัวจะยันกายลุกขึ้นจากเก้าอี้กำมะหยี่ช้าๆ แล้วเดินตรงไปหยุดยืนอยู่หน้าบานหน้าต่าง ทอดมองทัศนียภาพด้านนอกอย่างพินิจพิจารณา
ภาพของอาคารสีน้ำเงินเข้มขนาดใหญ่สะดุดตาเป็นอันดับแรก เมื่อได้ต้นไม้ใหญ่คอยแทรกแซมอยู่รอบข้างก็ยิ่งเสริมให้มันดูโดดเด่นและน่าเกรงขาม แต่นั่นกลับทำให้คนมองทอดถอนหายใจออกมาอย่างลำบากใจ
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูส่งผลให้เจ้าของห้อง “มีอะไร”
“มีจดหมายส่งมาถึงท่านค่ะ!”
“อืม วางไว้ตรงนั้นแหละ” เขายังคงยืนหันหลังให้ประตูไม้บานใหญ่ ขณะที่หูฟังเสียงเปิดและปิดประตูของอาจารย์ผู้ช่วย เมื่อมั่นใจว่าอีกฝ่ายออกไปแล้วค่อยหมุนกายกลับมานั่งบนเก้าอี้ตัวโปรด กวาดตาสำรวจดูว่าชื่อบนหน้าซองจดหมายแต่ละฉบับมาจากใครบ้าง
“ฟีเรียส เรเมอร์...” อาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนฟราเทลเลียสถึงกับเลิกคิ้ว นานแล้วที่เพื่อนเก่าคนนี้ไม่ได้ติดต่อมา ซึ่งมันก็ไม่แปลกถ้าเขาจะนึกสงสัยสาเหตุที่ทำให้อดีตนักฆ่ายอมส่งจดหมายที่เขาบ่นนักบ่นหนาว่าน่าเบื่อมาถึงเดแฮมเบล เมืองอันเป็นศูนย์กลางของสองอาณาจักรใหม่แบบนี้
เขาดึงกระดาษแผ่นขนาดพอดีมือออกจากซองจดหมายสีขาวสะอาด คลี่อ่านจดหมายด้วยแววตาเรียบเฉยทั้งที่ในใจนั้นตรงกันข้ามกับที่แสดงออกมาโดยสิ้นเชิง
ด้วยตำแหน่งหน้าที่อันจัดว่าสำคัญในสังคม เขาจึงต้องคอยอำพรางสีหน้าที่แท้จริงไว้ภายใต้หน้ากากไร้อารมณ์ ในชีวิตของเขามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำให้เขา ‘หน้ากากหลุด’ ออกมาได้ และหนึ่งในนั้นก็คือเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนคนนี้
‘ถึงโลแลน
ไง! แกคงจะสงสัยสินะว่าทำไมคนที่หายหน้าหายตาไปจากสังคมกว่ายี่สิบปีอย่างฉันถึงได้เขียนจดหมายมาหาแกแบบสายฟ้าแลบแบบนี้....
ตอนนี้ลูกชายของฉันก็กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนฟราเทลเลียส ที่ๆฉันกับแกเคยเรียนจบมาด้วยกัน ขอบอกตามตรงเลยว่า ตอนที่ลูกชายของฉันบอกว่าแกเป็นครูใหญ่คนใหม่ของโรงเรียนทำให้ฉันตกใจมากเลยทีเดียว ไม่นึกว่าคนที่เอาแต่โดดเรียนอย่างแกจะได้สิทธิ์เป็นถึงครูใหญ่ของที่นี่ แต่ก็ดี...เพราะฉันมีเรื่องจะให้แกช่วยเสียหน่อย
ก่อนอื่น ฉันขอย้ำว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันทำเพื่อตนเองหรือคนในครอบครัว แต่สิ่งที่ฉันตัดสินมันเกี่ยวพันกับโลกของเราโลแลน มันเกี่ยวพันกับโดรีเธียโดยตรง!
ฉันไม่รู้ว่าแกรู้ข่าวนี้ไหม แต่โธเนียสมันตายแล้ว....พวกเรารู้ดีว่ายามเมื่อสายเลือดของมันจางหายไปทีละนิด นั่นก็หมายถึงเงามืดที่เริ่มครอบคลุมโดรีเธียนั้นมีมากขึ้นทุกที
ทั้งแกและฉันก็รู้ว่าโธเนียสนั้นเป็นลูกชายคนเดียว เมื่อสิบเจ็ดปีก่อน ฉันกับยัยแก่ได้ไปเยี่ยมมันที่เฮเลน่าแล้วก็พบกับร่างของมันและเดียน่าที่ไร้ลมหายใจ โลแลน...ฉันรู้ว่าสิ่งนี้ทำให้แกสะเทือนใจมาก แต่รู้อะไรไหม…พวกมันทั้งสองคนมีลูกสาวอยู่คนหนึ่งที่รอดชีวิตมาได้ ซึ่งมันเป็นไปตามคำทำนายที่นักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่เคยทำนายเอาไว้
ทีนี้ ฉันจะพูดถึงประเด็นที่ฉันเขียนจดหมายงี่เง่านี่มาหาแกสักที การเขียนจดหมายนี่มันน่าเบื่อชัดๆ! ลายมือของฉันก็ใช่ว่าจะดีอะไรนักหนา จำได้ว่าตอนเรียนหนังสือ ฉันถูกสั่งให้คัดการบ้านทั้งหมดใหม่เป็นประจำ
เอาเป็นว่า สิ่งที่ฉันอยากจะขอแกก็คือ ให้ลูกของโธเนียสเข้าเรียนที่ฟราเทลเลียส แล้วทำยังไงก็ได้เพื่อให้มันอยู่ในความดูแลขององครักษ์แห่งคำทำนาย ฉันขอแค่นี้คงไม่เป็นเรื่องที่ใหญ่เกินไปสำหรับแกใช่ไหม?
ไม่ว่ายังไง ชะตาของโดรีเธียก็อยู่ในมือของเด็กคนนี้แล้ว หวังว่านายจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีนะ
อ้อ เกือบลืมไป ชื่อของเด็กคนนี้ก็คือ คราทีล่า ชื่อที่แม่ของเด็กคนนี้ชอบพูดเสมอว่าอยากให้ลูกชื่อแบบนี้ แต่ตอนนี้ ทุกคนต่างก็เรียกเธอว่า ‘คราเทล เรเมอร์’
ปล. ฉันได้แจ้งการสมัครเอาไว้กับทางโรงเรียนแล้ว และไม่ว่าจุดเริ่มต้นหรือผลมันจะเป็นยังไง ก็ขอให้แกยอมรับในการตัดสินใจของฉันด้วย
จาก ฟีเรียส เพื่อนเก่าของแก’
โลแลนวางจดหมายลงบนโต๊ะอย่างเชื่องช้าพลางถอนหายใจ
เรื่องบางเรื่องต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทว่าทุกครั้งที่นึกถึงก็ยังสร้างความเจ็บปวดทรมานให้เขาได้ไม่ต่างจากแผลสดใหม่
ชื่อของบุคคลในจดหมายเปรียบเสมือนใบมีดที่กรีดย้ำลงบนหัวใจ เจ็บจนแทบอยากจะหลั่งน้ำตาออกมา
‘เดียน่า...’
“มันเริ่มต้นขึ้นแล้วสินะ คำทำนายจารึกให้ไว้ในสงครามเมื่อหกร้อยปีก่อน...”
น้ำเสียงแหบแห้งแผ่วเบาราวกับว่ากำลังรำพึงอยู่กับตนเอง เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ใบหน้าที่มีรอยเยี่ยวย่นประปรายตามกาลเวลาก็ถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มบาง
“ฉันก็อยากเห็นเหมือนกัน...ลูกสาวของโธเนียสกับเดียน่าผู้ซึ่งเป็นดั่งความหวังของมนุษย์ทุกคน”
เขาดึงลิ้นชักใต้โต๊ะ หยิบกรอบรูปขนาดพอดีออกมาอย่างเบามือและทะนุถนอมอย่างที่สุด
“คราเทล เรเมอร์…” แววตาของเขาเหม่อลอยราวกับคนละเมอ มือหนาลูบไล้ไปบนใบหน้าของบุคคลในภาพอย่างแสนคิดถึงซึ่งจากเขาไปอย่างไม่มีทางหวนคืน