“อือ...พี่ภูมิคะ” ขวัญจิราผลักภูมิรพีออกจากซอกคอของตน เมื่อทั้งคู่ได้มาอยู่ในห้องนอนกันสองต่อสอง แต่เนื่องด้วยเธอมีอาการอ่อนเพลียมาก อยากจะพักผ่อน แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจสามีของตนด้วยเช่นกัน
ย้อนกลับไปในช่วงกลางวัน ก่อนที่ภูมิรพีจะขับรถตรงไปยังวัด เพื่อที่จะไปทำบุญ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะแวะไปรับบิดาและมารดาของตน ซึ่งเป็นทางผ่านไปวัดพอดิบพอดี
ภูมิรพีเห็นว่าวันนี้เป็นวันดีเลยอยากพาครอบครัวของตนไปทำบุญที่วัดด้วย เขาจึงได้ขออนุญาตจากขวัญนิภาเข้าไปรับกชอรและฐากูรที่บ้าน เพราะนาน ๆ ที ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะได้เจอกัน
หลังจากที่ไปทำบุญที่วัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสามต่างพูดคุยกันอย่างออกรส พวกเขาเหล่านั้นจึงตกลงไปสังสรรค์กันต่อที่บ้านของขวัญนิภา จนเวลาล่วงเลยจนมืดค่ำ กชอรและฐากูรเป็นคนขอปลีกตัวออกมา เมื่อคนขับรถมารับถึงหน้าบ้านของขวัญนิภา
แต่พอเมื่อบิดาและมารดาของภูมิรพีกลับบ้านไปแล้ว ขวัญจิรา ขวัญนิภาและภูมิรพีก็ได้จัดเก็บสัมภาระต่าง ๆ ที่อยู่ในสวนบริเวณหน้าบ้านให้เรียบร้อย
บ้านของขวัญนิภาเป็นบ้านจัดสรรที่มีบริเวณข้างบ้านและหน้าบ้านพอให้ได้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ หรือพืชผักสวนครัวไว้ทาน
เป็นบ้านที่ขวัญนิภาได้ปลูกและสร้างมากับถวิตซึ่งเป็นบิดาของขวัญจิรา ถึงแม้ว่าตอนนี้ถวิตจะจากขวัญจิราตั้งแต่ที่เธอยังเรียนไม่จบ ม.ปลายด้วยซ้ำ แต่ขวัญนิภาไม่สามารถลืมสามีของตนได้เลย หล่อนได้แต่ทำบุญตักบาตรในทุก ๆ วัน เพื่อให้คนที่รักของตนไปสู่ภพภูมิที่ดี และไม่ต้องเป็นห่วงบุตรสาว เพราะตอนนี้บุตรสาวได้เป็นฝั่งเป็นฝากับเขาไปแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกลับไปพักผ่อนในห้องนอนของตน จึงทำให้ภูมิรพีเกิดอารมณ์ขึ้นมา ขวัญจิรามิอาจปฏิเสธได้
ภูมิรพีค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของขวัญจิราอย่างเร่งรีบ กลัวว่าภรรยาของตนจะเปลี่ยนใจในเกมรัก
“อ๊า! อ๊ะ! พ...พี่ภูมิ เบา ๆ หน่อยสิคะ ด...เดี๋ยวแม่ก็ได้ยินหรอก” ขวัญจิราเอ่ยปากห้ามปรามพร้อมกับใบหน้าที่บูดเบี้ยว เรียวปากห่อตัวเข้าหากัน
“ก็พี่หิวนิคะ ก็เราไม่ได้ให้พี่มาหลายวัน ก็ไม่แปลกที่พี่จะกินมูมมามขนาดนี้” ภูมิรพีโผล่หน้ามาจากซอกคอของขวัญจิรา ก่อนที่จะเอื้อมแขนไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอออก
แต่ทว่าขวัญจิรากลับผลักชายหนุ่มให้ออกห่าง พร้อมกับเอ่ยปากอีกครั้ง
“พี่ภูมิคะ เราสองคนยังไม่ได้อาบน้ำกันเลยนะ ไม่เหม็นเหรอ” หญิงสาวทำท่าจะเดินออกไป ทั้งที่เจ้าตัวเหลือแค่ชั้นในเพียงแค่สองชิ้นที่ปกปิดร่างกายของเธอเอาไว้ แต่ทว่าภูมิรพีกลับอุ้มเธอขึ้นพาดบ่าทีเผลอ
“พ...พี่ภูมิ ทำอะไร ขวัญเวียนหัวนะคะ” หญิงสาวร้องโหวกเหวกโวยวาย
“พี่ก็พาเราไปอาบน้ำไง” บอกเพียงแค่นั้นเขาก็เดินเข้าไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากประตูห้อง
ภูมิรพีปล่อยหญิงสาวลงเมื่อมาถึงห้องน้ำ จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็ถอดเสื้อผ้าให้แก่กัน ล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดสะอ้าน แต่ในระหว่างที่ ขวัญจิรากำลังถูสบู่ให้ภูมิรพี แก่นกายของเขามันเด้งใส่มือขวัญจิรา หญิงสาวมีท่าทีเขินอาย ถึงแม้ว่าจะแต่งงานกันมาแล้วหลายปีก็ตาม แต่พอเป็นเรื่องแบบนี้ทีไร เธอเป็นต้องเขินอายแบบนี้ตลอด นี่คงเป็นเสน่ห์ของหญิงสาวอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ภูมิรพีชอบมีอะไรกับภรรยาของตน
ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังล้างสบู่และยาสระผมด้วยน้ำที่ไหลมาจากฝักบัว แต่แล้วภูมิรพีเป็นฝ่ายจู่โจมขวัญจิรา โดยการจับเธอชิดผนังห้อง แล้วใช้ริมฝีปากของตนประกบริมฝีปากของภรรยาอย่างดูดดื่ม จึงทำให้ฝักบัวที่ขวัญจิราจับอยู่ร่วงหล่นจากฝ่ามือ
ปลายนิ้วเรียวยาวและหนาลูบไล้ไปทั่วกลีบอันบอบบางของภรรยา เขาใช้ปลายนิ้วถูวนไปรอบ ๆ กลีบทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อย ๆ นำนิ้วของตนขยับเข้าไปในร่องสาวของขวัญจิราอย่างช้า ๆ เพื่อให้ภรรยาของตนได้ลิ้มรสความเสียวซ่านที่แผ่มาจากปลายนิ้วของเขา
“อ๊า! อ๊ะ! อือ” ขวัญจิราครางออกมาเบา ๆ ในขณะที่มือของเธอกำลังสาวแก่นกายของเขาอย่างชำนาญ
แจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ!
แต่ทว่าส่วนล่างของขวัญจิราก็โดนปลายนิ้วของภูมิรพีซอยเข้าซอยออกเป็นจังหวะ จึงทำให้เกิดเสียงระหว่างเนื้อและน้ำผสมปนเปกันไป ในขณะที่มือของหญิงสาวสาวแก่นกายของเขาด้วยความเร็วเช่นกัน
“อ๊า...ส อ๊า!”
ริมฝีปากของขวัญจิราห่อปากร้องซี๊ดซ๊าดด้วยความเสียว แต่ทว่าชายหนุ่มกลับชักนิ้วออกมาและจับแก่นกายของเขาถูเข้าไปที่กลีบสองข้างประมาณสองถึงสามครั้ง ในขณะที่แขนอีกข้างของเขาก็ยกขาของขวัญจิราขึ้นมา เพื่อให้ทำการสอดใส่ได้สะดวก จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ขยับมันเข้าร่องสาวของหญิงสาวจนมิดลำ
ขวัญจิราสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อแก่นกายของเขาเข้าสู่ร่างกายของเธอ แต่ในขณะนั้นเธอก็ยกแขนทั้งสองข้างโอบกอดคอสามีของตน ก่อนที่ชายหนุ่มจะจับเธออุ้มและยกสะโพกของเธอขึ้นลงตามจังหวะไปในคราเดียวกัน
ในระหว่างที่ส่วนล่างกำลังซอยเข้าซอยออก ภูมิรพีก็ได้ก้าวขาออกไปอย่างช้า ๆ ในขณะที่แขนอุ้มขวัญจิราและไปหยุดตรงชักโครกก่อนที่เขาจะหย่อนก้นลงนั่งบนฝาชักโครกสีขาวที่ปิดเอาไว้เวลาที่ไม่ได้ ใช้งาน