ในระหว่างนั้น ขวัญจิราได้กลับไปเยี่ยมมารดาที่อยู่ห่างไกลออกไป เพราะเธอขออนุญาตผู้เป็นมารดาว่า ตนอยากลองใช้ชีวิตเป็นเด็กหอ แต่มารดาให้บุตรสาวอยู่ได้แค่หอพักหญิงเท่านั้น และตัวเธอเองก็ตกลง ซึ่งหอที่เธอไปอยู่ในสมัยเรียนคือ หอพักระรื่น เลยทำให้รู้จักกับเพื่อน ๆ ในหอนั้น
เป็นช่วงปิดเทอมพอดิบพอดี ขวัญจิราได้พามารดาของตนมาเที่ยว พร้อมกับไปทำบุญที่วัด จึงทำให้ขวัญนิภาได้พบเจอกับกชอรโดยบังเอิญ
แต่เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้พบเจอกัน พวกเขาก็ได้พูดคุยกันนานหลายชั่วโมง จนกชอรเองเป็นคนที่นำทั้งคู่ไปทานอาหารด้วยกัน และรวมไปถึงพาทั้งคู่ตระเวนเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ
เพราะขวัญนิภาและขวัญจิรามาด้วยรถแท็กซี่ เมื่อผู้ใหญ่ทั้งคู่ได้พบเจอกันอีกครั้งก็ได้มีการพูดคุยสารทุกข์สุกดิบ รวมไปถึงเรื่องเล่าย้อนวัยหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้กับขวัญจิราได้ฟังอย่างออกรส
แต่เผอิญในวันนั้น ฐากูรบิดาของภูมิรพีติดธุระเลยไม่ได้มากับกชอร ทำให้ไม่ได้เจอกับพวกเขาทั้งสอง แต่กชอรมากับคนขับรถแทน
ต่อจากนั้นเพียงไม่นาน ภูมิรพีก็ได้แวะไปหามารดาของขวัญจิรา ซึ่งเขาได้เบอร์โทรมาจากกชอรมารดาของตน แต่ก่อนที่เขาจะไปหามารดาของขวัญจิรา
ภูมิรพีได้โทรไปขอที่อยู่จากขวัญนิภา โดยอ้างว่ากชอรให้นำของฝากไปให้ เนื่องจากว่าตนไปเที่ยวต่างจังหวัดมา เลยนึกถึงขวัญนิภาถึงแม้ว่าขวัญนิภาจะปฏิเสธอย่างไร แต่มีหรือที่ภูมิรพีจะยอมแพ้ เขาพูดจาหว่านล้อมจนขวัญนิภาใจอ่อน และบอกที่อยู่ให้อีกฝ่ายไปในที่สุด
เมื่อภูมิรพีหาข้ออ้างได้สำเร็จ เขาก็ได้เตรียมของฝากที่เอ่ยมาเมื่อสักครู่ พร้อมกับหาข้ออ้างพามารดาและบิดาไปเที่ยวเล่นต่างจังหวัดสักสองสามวัน และไม่ลืมที่จะซื้อของมาฝากขวัญนิภาอีกด้วย
จากนั้นเป็นต้นมา ภูมิรพีจะเข้าหาขวัญนิภาตลอด จนเอาชนะใจมารดาของขวัญจิราได้ แต่ก่อนที่ขวัญจิราได้แต่งงานกับชายหนุ่ม เธอก็เคยได้ไปออกเดตกับเขาเพียงสองต่อสอง โดยมีขวัญนิภาวางแผนให้บุตรสาวของตนได้พบเจอกับชายหนุ่มผู้นี้ และให้ทั้งสองศึกษาใจคอกันไปเอง
จนในที่สุดเมื่อขวัญจิราเรียนจบ ชายหนุ่มไม่ลืมที่จะไปยินดีกับเธอ จนทำให้เพื่อนในคณะเดียวกันต่างอิจฉาหญิงสาว ที่มีผู้ชายหล่อเหลา หน้าตาดีมาถ่ายรูปคู่กับเธอ ถึงแม้ว่าขวัญจิราจะอ้างว่าเป็นพี่ชายที่ตนรู้จักก็ตาม
แต่ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ภูมิรพีก็ขอขวัญจิราแต่งงาน ต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย หญิงสาวมีท่าทีที่กระอักกระอ่วนใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เธอก็ต้องปั้นหน้ายิ้มให้กับเขา
ความรู้สึกของเธอในตอนนั้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และก็ไม่อาจปฏิเสธความหวังดีนี้ได้ ถึงแม้ว่าเธอจะมีใจให้เขาไปบ้างแล้วก็ตาม เพียงแต่ชายหนุ่มไม่ใช่คนที่เธอรักจริง ๆ
ปี้น ปี้น
เสียงแตรรถยนต์ดังขึ้นตรงบริเวณหน้าบ้านของขวัญจิรา เมื่อเจ้าตัวได้ยินเสียงดังกล่าวก็รีบวิ่งแจ้นออกมาอย่างไว โดยที่ลืมไปว่าตนใส่ชุดไทยและเป็นชุดกระโปรงที่แคบเอามาก ๆ จนเจ้าตัวล้มคะมำ
“ตายแล้วววว ยายขวัญ” ขวัญนิภาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นบุตรสาวของตนล้มจนหน้าจูบพื้น แต่หล่อนเองก็ไม่อาจละมือจากตรงนี้ได้
ภูมิรพีที่ได้ยินเสียงอุทานของแม่ยาย เขาจึงรีบลงจากรถอย่างไว ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ทว่าเมื่อเขาวิ่งมาถึงหน้าบ้าน ได้เห็นร่างบางซึ่งเป็นภรรยาของตนกำลังนอนกลิ้งอยู่บนพื้น ในขณะที่เจ้าตัวพยายามพยุงตัวเองขึ้นมา แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะชุดที่เธอสวมใส่ มันไม่เหมาะสำหรับขวัญจิราจอมแก่นเอาซะเลย แต่แล้วชายหนุ่มกลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พร้อมเสียงหัวเราะที่เล็ดลอดออกมา กับความซุ่มซ่ามของเธอเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า
“หัวเราะอะไรคะ นี่ขวัญล้มนะ ยังจะมายืนหัวเราะขวัญอยู่อีก”
“จ้า ๆ พี่เชื่อแล้ว ต่อให้เธออายุมากขึ้นเท่าไหร่ ไอ้นิสัยแบบนี้ไม่เคยหายเลยจริง ๆ”
เมื่อตนพูดจบก็เข้าไปพยุงตัวหญิงสาวให้ลุกขึ้นและนำตัวเธอไปนั่งบนโซฟา พร้อมกับจัดแจงขยับชุดของภรรยาให้เข้าที่
“ยายขวัญเอ๊ย ยายขวัญ ทำเอาแม่หัวใจจะวายตาย” ขวัญนิภา ได้นำมือมาทาบที่อกไว้อย่างโล่งใจ “ดีนะ ตาภูมิเข้ามาช่วย ไม่งั้นยายขวัญได้ไปเฝ้าคุณตา คุณยาย และคุณพ่อบนสวรรค์แน่ ๆ”
ขวัญนิภาก้าวเท้าเดินมาจากในครัว พร้อมกับปิ่นโตหนึ่งเถา ส่วนมืออีกข้างถือตะกร้าหวาย ซึ่งมีน้ำเปล่าสองขวด ของหวานและช่อดอกไม้
“แม่ก็พูดเกินไป ขวัญยังไม่ได้อายุสั้นขนาดนั้นนะคะ” ขวัญจิราทำหน้ามุ่ยใส่มารดาของตน พร้อมกับค้อนสายตาไปทางสามี
“เราเองก็เถอะ อายุปูนนี้แล้ว ทำไมถึงยังทำตัวอย่างกับม้าดีดกะโหลก”
“พี่ภูมิก็อีกคน แทนที่จะช่วยขวัญกลับยืนหัวเราะซะงั้น ขวัญอายนะคะ” เจ้าตัวสะบัดหน้าหนี พร้อมกับแก้มพวง ๆ ที่เริ่มแดงขึ้นด้วยความเขินอาย
“จะอายอะไรกัน เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว จะมีอะไรให้ต้องอายอีก” ภูมิรพีจับปลายคางของภรรยาให้หันหน้ามามองตน
“แฮ่ม ๆ แม่ว่าเราไปกันได้แล้วนะ เดี๋ยวไม่ทันพระฉันเพล อย่าลืมหยิบสังฆทานมาด้วยล่ะ” ขวัญนิภากระแอมออกมา เพื่อให้ทั้งคู่รู้ว่ายังมีผู้ใหญ่อีกท่านที่ยืนอยู่ตรงนี้ พลางสั่งบุตรสาวของตน
“ครับ ๆ ขอโทษครับคุณแม่” เมื่อภูมิรพีพูดจบ เจ้าตัวก็รีบลุกออกจากโซฟา แล้วไปช่วยขวัญนิภาถือของเพื่อที่จะไปทำบุญที่วัด
หลังจากนั้นขวัญนิภาก็เดินตามภูมิรพีไปติด ๆ แต่ขวัญจิราให้มารดาไปรอที่รถก่อน เพราะตนจะปิดบ้านปิดเรือนเอง พร้อมกับไม่ลืมหยิบสังฆทานออกมาด้วย