“เปล่าค่ะ นี่มันก็นานแล้ว เดี๋ยวจะทำให้พี่คิวเสียลูกค้า ถ้ายังไงขวัญขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” เธอกล่าวลาเขาพร้อมกับพนมมือไหว้ แล้วก็เดินจากไป ปล่อยให้คิรากรได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ในปฏิกิริยาของเธอ
หลังจากที่ขวัญจิราปลีกตัวออกมาจากคิรากรแล้ว เธอก็เดินไปตามทางเรื่อย ๆ และรอคอยให้อีกฝ่ายโทรมา ว่าเขาจะสนใจในตัวเธอ บ้างไหม
ตี๊ด! ตี๊ด!
เสียงข้อความแอปพลิเคชันสีเขียวแจ้งเตือนขึ้นมา ขวัญจิรา ขมวดคิ้วเป็นปม ด้วยความสงสัยว่าใครกันนะที่ส่งข้อความมาถึงเธอ
ว่าแล้วหญิงสาวก็หยิบมือถือขึ้นมา พร้อมกับเปิดแอปพลิเคชัน สีเขียวอย่างใจจดใจจ่อ แต่ข้อความดังกล่าวใช้ชื่อว่า ‘Q สุดหล่อ’ เมื่อหญิงสาวได้เห็นชื่อผู้ที่ส่งมาให้ เธอฉีกยิ้มด้วยความดีใจทันที
จากนั้นเธอก็เปิดเข้าไปอ่านข้อความ แต่ในข้อความนั้นมันแจ้งเตือนขึ้นมาว่า ‘Q สุดหล่อ ส่งรูป’ ด้วยความที่เธออยากรู้ จึงเปิดมันด้วยความตื่นเต้นปนดีใจ ว่าเขาจะแกล้งอะไรเธออีกหรือไม่
เมื่อขวัญจิราเปิดข้อความดังกล่าวแล้ว เธอเห็นกระดาษจดหมายสีชมพู ในเนื้อกระดาษมีใจความว่า
‘ถึงพี่คิว นักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียน จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายที่หนูเขียนถึงพี่เป็นฉบับแรกและน่าจะเป็นฉบับสุดท้ายที่หนูจะเขียนถึงพี่ หนูเป็นแฟนคลับพี่มานานแล้วค่ะ ตั้งแต่หนูมาเรียนที่โรงเรียนนี้ แล้วได้เห็นพี่เป็นไอดอลของหนู พี่ทั้งเรียนเก่ง เล่นกีฬาก็เก่ง หนูชื่อขวัญ เรียนอยู่ชั้นมอหนึ่ง หนูอยากบอก พี่คิวว่า หนูชอบพี่ค่ะ หวังว่าพี่คิวได้อ่านฉบับนี้ แล้วจะไม่ขยำมันทิ้งนะคะ ถือว่าเป็นจดหมายจากแฟนคลับนะคะ’
หญิงสาวฉีกยิ้มไม่หุบ เธอไม่คิดว่าจดหมายที่เก็บมันไว้ใต้โต๊ะ ทำไมไปอยู่ที่เขาได้ แต่ใครกันนะ ที่เอาจดหมายฉบับนี้ไปให้เขา หรือเพื่อน ๆ ในห้องที่คอยกลั่นแกล้งเธอตลอดเวลา เพื่อที่จะทำให้เธออับอายต่อหน้าชายหนุ่มที่เธอแอบปลื้ม มันเป็นแค่ความรักของเด็กสาวที่มีความรู้สึกดี ๆ ให้ใครอีกคน แต่ก็ช่างมันเถอะ มันก็แค่อดีตเมื่อหลายสิบปี เก็บเอามาใส่ใจก็ปวดหัวเปล่า
แต่ในวันนี้เธอได้เจอเขาจริง ๆ ตลอดสิบกว่าปี เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอเขาอีก นี่มันโลกกลมหรืออย่างไร ที่ทำให้เขาและเธอโคจรมาพบกันอีกครั้ง แต่มาเจอกันตอนที่เขาไม่มีใคร ส่วนเธอนั้นก็มีพันธะอยู่กับผู้ชายอีกคนที่เรียกว่าสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย
Khwon : พี่คิวยังเก็บไว้อยู่อีกหรือคะ น่าอายจัง ^///^
Q สุดหล่อ : ยังเก็บไว้ตลอดซิ จากแฟนคลับของพี่ทั้งคน จะให้พี่ทิ้งมันไปได้ยังไงกันล่ะ หื้อ
Khwon : ขวัญก็นึกว่าพี่คิวจะแกล้งอะไรขวัญซะอีก ^-^
Q สุดหล่อ : เห็นพี่เป็นคนยังไงหา ยัยเด็กหน้าม้าเต่อ ฮา ๆ ^o^
Khwon : พี่คิวคะ!!!
Q สุดหล่อ : โอ๋ ๆ พี่หยอกเล่นจ้า อ้อ พี่คงต้องไปก่อนนะ ลูกค้ามาพอดี ว่าแต่เราเถอะ หาอะไรทานด้วยนะ เป็นห่วง
Khwon : เช่นกันนะคะ พี่คิว
เมื่อชายหนุ่มเป็นคนตัดบทสนทนาไปซะก่อน เพราะลูกค้าที่เขาได้นัดไว้มาพอดี ส่วนขวัญจิราเอง ก็ไปไม่เป็นเลยทีเดียว เมื่อเขาและเธอได้แชทข้อความโต้ตอบกันไปมา แต่ทว่ามันไม่ใช่แค่นั้นน่ะซิ มันยิ่งเติมไฟรักของหญิงสาวมากขึ้น และยิ่งทำให้เธอนั้นหลงรักเขาจนหัวปักหัวปำจนถอนตัวไม่ขึ้นด้วยเช่นกัน
ต่อจากนั้นเพียงไม่นาน ขวัญจิราก็โดนผู้ใหญ่ทั้งสองโทรตาม แต่ทว่าเธอไม่อยากที่จะกลับบ้าน เลยขอให้กชอรบอกให้คนขับรถไปหาร้านชาสักร้าน เพื่อที่เธอจะได้ฆ่าเวลาในการกลับไปยังที่พักอาศัย
เมื่อมาถึงที่หมาย ทั้งสามก็ได้ก้าวขาเข้ามาภายในร้านเกือบจะพร้อม ๆ กัน ร้านชาดังกล่าวมีชื่อว่า‘ชิลลี่ ชา’ เป็นร้านชาที่อยู่ในใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ ด้านในตกแต่งแบบเรียบง่าย สไตล์มินิมอล มีไม้ดอก ไม้ประดับเป็นพุ่มและแบบไม้เลื้อย มองไปอีกนิดจะเห็นน้ำตกจำลองที่จัดชิดริมกำแพงร้าน จัดไว้อย่างสวยงาม ตัวร้านตกแต่งด้วยสีไข่ไก่
‘ชื่อร้านคุ้น ๆ จัง ไม่ใช่ม้าง’ ขวัญจิราสะบัดศีรษะไล่ความคิดออกจากหัวไป เพราะชื่อร้านน้ำชา เหมือนชื่อของเพื่อนเธอ ในสมัยที่ขวัญจิรายังเรียนมหา’ลัย
“รับอะไรดีคะ” เสียงหวาน ๆ อันคุ้นเคยดังกล่าวเข้ามาในโสตประสาทของขวัญจิรา ที่มัวแต่นั่งเหม่อลอยมาตั้งแต่เข้ามาในร้าน
“ชิลลี่” น้ำเสียงตกใจของขวัญจิรา พึมพำออกมาเบา ๆ แต่คนที่เธอเอ่ยชื่อกลับได้ยิน พร้อมกับผู้ใหญ่อีกสองท่านที่นั่งข้าง ๆ กัน จนลืมบุตรสาวและลูกสะใภ้อย่างตนไปเลยว่ามาด้วยกัน
“ขวัญ ขวัญจิราเหรอ” หญิงสาวร่างเล็กบาง หน้าตาจิ้มลิ้ม มีสีหน้าตกใจและปนดีใจ ที่จู่ ๆ เธอก็ได้เจอเพื่อนสาวคนนี้อีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เจอมานาน ซึ่งต่างฝ่ายต่างเรียนจบ และได้แยกย้ายกันกลับไปอยู่บ้านของตน โดยที่ขวัญจิราเองก็ไม่รู้ว่าชิลลี่ได้เปิดร้านขายน้ำชา
ขวัญจิราพยักหน้ารับว่าเป็นเธอที่ชื่อขวัญจิรา จากนั้นเธอคว้ามือเพื่อนไปนั่งอีกโต๊ะซึ่งห่างไกลจากโต๊ะของท่านทั้งสอง