ตอนที่ 3 รวบรัด

3654 คำ
ตอนที่ 3 รวบรัด                   เสียงโทรศัพท์ดังรบกวนการนอนตั้งแต่เจ็ดโมง ที่รักค่อยๆ ขยับกายอย่างขัดใจ ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมศีรษะ เสียงโทรศัพท์ดังแล้วหยุด แล้วก็แผดเสียงขึ้นมาอีก จนจำต้องควานมือออกจากผ้าห่มและมาเจอโทรศัพท์มือถือ นั่นเพราะดนัยหยิบส่งไปให้ มือนั้นหายเข้าไปในผ้าห่มอีกครั้ง             “บ้านไอ้ภาม” เสียงที่รักดังไม่เบา             “หา อือ บ้านไอ้กร”             “เอ่อ บ้านไอ้ชิน”             “อ้าว บ้านไอ้นาว”             “หา! เหรอ บ้านไอ้ชาติมั่ง”             “จริงดิ!”             ดนัยได้ยินสิ่งที่ที่รักพูด แต่ไม่ได้ยินปลายสาย แต่เขาเดาว่าใครสักคนโทร.มาถาม อาจจะเป็นที่บ้านของที่รัก             “ได้ไงเล่า ยุ่งจริง”             ที่รักขยับลุกนั่ง ผ้าห่มหลุดไปจากตัว             “เอ่อ เตียงสี่เสา เบาะนุ่มเป็นบ้า บ้านใครวะ เดี๋ยวสิพ่อ คิดก่อน บ้าน บ้าน...” ที่รักกวาดสายตาไปรอบๆ จนมาเจอร่างใหญ่ข้างกายที่ขยับตัวนั่งพิงหัวเตียง ที่รักตาโตและหลุดอุทานใส่ปลายสาย “บ้านไอ้ยักษ์!”             “เดี๋ยวๆ มาอยู่ที่นี่ได้ไง ทำไมวะ เดี๋ยวสิพ่อ”             ที่รักขมวดคิ้วใส่โทรศัพท์ มือหนึ่งขยี้ผมตัวเองอย่างขัดใจ จนปลายสายขู่กรรโชก ที่รักเลยดึงโทรศัพท์ออกมาดูและยอมทำตามบิดาสั่ง             “ไอ้ยักษ์ไหน? บอกกูมา มันอยู่ไหน มึงไม่มีเพื่อนชื่อยักษ์ อย่ามาหลอกพ่อมึง”             ดนัยปล่อยก๊าก ที่แท้ พ่อลูกก็เหมือนกัน             “ไอ้ยักษ์! ไอ้ยักษ์มันหัวเราะพ่อใช่ไหมวะไอ้รัก หน็อย เอาลูกกูไปกกยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะ”             “ผมไม่ได้ชื่อยักษ์ ชื่อดนัย เรียกแดนก็ได้ครับคุณพ่อ”             คำว่าคุณพ่อ ทำให้ปลายสายนิ่งเงียบไปพักใหญ่ “ที่รัก บอกพ่อสิ ลูกไปนอนกับ เอ่อ กับคุณแดนมาใช่ไหม” น้ำเสียงของปลายสายเปลี่ยนไปแล้ว             “อะไรเล่าพ่อ ไม่ได้นอนสักหน่อย รักเมาน่ะ”             “ไม่เชื่อหรอก”             “ไม่เชื่อก็มาดูเอง” ที่รักขึ้นเสียงพลางก้มลงมองตัวเอง “เฮ้ย ทะ ทำ ทำไมแก้ผ้าอยู่ล่ะ นมกูเป็นจ้ำเลย ข้างล่างก็เจ็บ ไอ้ ไอ้ยักษ์ แก้ผ้าทำไมวะ”             “เดี๋ยวๆ ขนาดแก้ผ้านอนกันแล้วนี่ยังบอกว่าไม่ทำอะไรรึ พ่อมึงโตมาก่อน พ่อมึงรู้โว้ย พวกมึง เออ โทษๆ คุณแดนมุดรูไอ้รักมันแล้วใช่ไหม”             “ฮ่าๆ ครับ มุดแล้ว” ดนัยหัวเราะและยอมรับตรงๆ ที่รักถึงกับหน้าแดงยกมือขึ้นต่อยเขาไปเปรี้ยงหนึ่ง             “เพ่ เพ่นอนกะเฮียแดนแล้วจริงอะ” เสียงนั้นเป็นเสียงชาติชายดังมา”             “ไอ้รักโว้ย ไอ้รัก กับเฮียแดนจริงๆ แล้วรึ โอ๊ยตาย” เสียงนั้นคือเสียงมะนาว             “บอกพ่อมาไอ้รัก!”             “หยุดพล่ามทีเถอะ ปวดหัวโว้ย”             “ไม่ได้! ถ้ามึงท้องขึ้นมาจะทำไง ไอ้ตอนตีฉิ่งนี่พ่อไม่ห่วงหรอก แต่ไอ้ที่มุดเข้าไปแล้วนี่พ่อมึงไม่ห่วงไม่ได้ว่ะ แม่มึงกระทืบกูตายคาตีนแน่”             ดนัยหัวเราะชอบใจ “อีกชั่วโมงเจอกันครับ”             “หา! ไอ้รักจะพาลูกเขยไปที่บ้านใช่ไหม”             “ครับ ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ไว้เจอกันครับ” ดนัยพูดจบแล้วก็แย่งโทรศัพท์ที่รักมาตัดสายทิ้ง             ที่รักยืนขึ้นชี้หน้าเขามือสั่น “ตอแหล! มุดเมิดอะไรกัน”             “มุดจริงๆ หลักฐานอยู่ที่นั่นไง” ดนัยบุ้ยปาก             ที่รักก้มลงมองตามสายตาของดนัย เห็นคราบอะไรบางอย่างติดที่หน้าท้องและกางเกงชั้นในขาสั้น แค่นั้นก็รู้แล้วว่ามันเป็นอะไร แม้จะไม่มีประสบการณ์กับเพศตรงข้ามมาก่อน แต่ที่รักก็ชอบดูหนังอย่างว่าอยู่หรอก             ผัวะ!             อีกหมัดที่ต่อยข้างแก้มดนัย เขาไม่หลบแต่กลับยื่นมือมารวบตัวที่รักไว้ สาวทอมตัวสั่นเพราะกำลังโกรธจัด “ออกไป! สารเลวเอ๊ย เวรแท้”             “ไม่เอานา ยังไงผมก็รับผิดชอบ”             “ไม่ต้องมารงมารับอะไรทั้งนั้น”             “ไม่ได้หรอก เกิดคุณท้องขึ้นมา พ่อคุณก็ตายคาตีนแม่คุณน่ะสิ”             “เชื่ออะไรกับพ่อ ปล่อยโว้ย จะกลับบ้าน”             ดนัยยอมปล่อยแต่โดยดี ที่รักต่อยเขาไปอีกเปรี้ยงและรีบใส่เสื้อผ้า ก่อนออกไปยังชี้หน้าดนัย “อย่าให้เห็นหน้าอีก ไม่งั้นตายแน่”             ดนัยยักไหล่ ท่าทีไม่สนใจและสะบัดผ้าห่มลุกขึ้นยืนเต็มสัดส่วน ที่รักหันหน้าหนีกายเปลือยและสะบัดหน้าคว้าโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์จากไปทันที             ดนัยเดินเข้าห้องน้ำไปและกลับออกมาในเวลาเพียงสิบนาที เขาแต่งตัวง่ายๆ และลงมาชั้นล่าง แม่บ้านบอกว่าที่รักออกไปแล้ว เขาแค่พยักหน้าและออกจากบ้าน เขาขับรถไปเอง ขับไปอย่างสบายอารมณ์ จนกระทั่งมาจดลงยังบ้านสองชั้นหลังหนึ่ง เนื้อที่รอบบ้านราวๆ สามไร่ ตัวบ้านเด่นอยู่ตรงกลาง สุนัขห้าตัววิ่งมาเห่าหอนอยู่หน้าบ้านเมื่อดนัยบีบแตรรถ คนที่มาเปิดประตูเป็นหญิงวัยกลางคน ดนัยลดกระจกลงและยกมือไหว้             “ผมดนัยครับแม่นม”             แม่นม ใช่ อาภรณ์คือแม่นมของที่รักจริงๆ แต่ดนัยรู้ได้อย่างไร อาภรณ์ยิ้มให้และเปิดประตูกว้างให้ดนัยพารถเข้าไป             หน้าบ้านมีหญิงชายกลางคนยืนอยู่ และอีกหลายคนที่เหลือวัยใกล้เคียงกัน ภาม ชิน กรทอง ชาติชาย และมะนาว ดนัยจำพวกนั้นได้ พวกนั้นเป็นเพื่อนของที่รัก แต่เจ้าตัวอยู่ไหนล่ะ             ดนัยลงจากรถคันโตและยกมือไหว้พ่อแม่ของที่รัก ทั้งสองตะลึงงันไปตั้งแต่ที่ดนัยลงจากรถแล้ว             “เทพบุตรชัดๆ เลยแม่มึง”             “ลูกเขยแม่หล่ออย่างนี้เชี่ยวหรือ ตายไปสามชาติก็ไม่อยากเชื่อ ให้ตาย ที่รักของแม่”             “ที่รักล่ะครับ” ดนัยถามขึ้นหลังจากรับไหว้เพื่อนๆ ของที่รักแล้ว             “ขึ้นห้องไปแล้วค่ะ” มะนาวเป็นคนตอบ             “ภาม ชิน ไปขุดไอ้รักลงมา” เมฆาสั่ง รู้ดีว่าถ้าจะใช้แรงต้องให้สองหนุ่มร่างใหญ่ที่สุดไปจัดการ ภามกับชินก้าวยาวๆ เข้าบ้านไป             เมฆากับสุดใจเข้ามาคล้องแขนดนัยคนล่ะข้างและพาเดินเข้าบ้านหน้าตายิ้มแย้มพอใจเป็นที่สุด ดนัยแค่หัวเราะเบาๆ และก้าวไปพร้อมๆ กับทั้งสองคน             ทางด้านที่รัก ตอนที่กลับมาถึงบ้านก็เห็นทุกคนพร้อมหน้ากันหมดแล้ว สาวทอมชูกำปั้นให้และก้าวสวบๆ ขึ้นชั้นสองไป ทุกคนไม่ได้สนใจที่รัก แต่สนใจดนัยมากกว่า ที่รักรีบสลัดเสื้อผ้าตรงปรี่เข้าห้องน้ำ กระจกบานใหญ่สะท้านภาพเรือนร่างบางๆ หน้าอกเป็นจ้ำแดง ซอกคอ หน้าท้อง ข้างล่างเหนอะหนะ             “ไอ้ยักษ์หื่นสารเลว!” ที่รักแค่นเสียงอย่างเคียดแค้นสุดกำลัง ทุบมือลงไปที่อ่างล้างหน้าแรงๆ แล้วเร่งอาบน้ำ จนสะอาดหมดจด             “ไอ้รัก” เสียงชิน และถามขึ้นมา “อยู่ไหนวะ?”             “ห้องน้ำ” เสียงภามและไม่กี่วินาทีทั้งสองโผล่เข้ามา เป็นเวลาเดียวที่ที่รักใส่เสื้อคลุมอาบน้ำเสร็จ ผมยังคงเปียก ทั้งสองเข้ามาคล้องแขนที่รัก             “ปล่อยนะไอ้พวกบ้า กูอาบน้ำอยู่ไม่เห็นหรือไง”             “ค่อยกลับมาอาบเถอะนา” ชินว่า             “ลงไปข้างล่างก่อน เฮียแดนมาแน่ะ”             “ไอ้บ้านั่นมาทำไม มาถูกได้ไง พวกแกบอกเหรอ หา ไอ้พวกเพื่อนทรยศ”             “เปล่าโว้ย คนระดับนั้น สืบเอาเองสิ ท่าทางจะพอใจมึงมากนะไอ้รัก”             “กูชอบผู้หญิง”             ภามกับชินพยักหน้าให้กันก่อนจะจับบน จับล่างแบกที่รักลงไปที่ห้องรับแขก ที่รักโวยวายลั่นบ้าน เท้าเตะ มือต่อย ไอ้พวกหนังหนาทั้งสองก็ยังไม่หยุดและพาที่รักมาจนได้             “นั่งเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงสุดใจตวาดเมื่อที่รักทำท่าจะวิ่งออกไป             สาวทอมเกาหัวแรงๆ และเดินกลับมานั่งลงที่โซฟาตัวยาวข้างๆ กับดนัย ฝ่ายนั้นมองที่รักและฉีกยิ้มให้ พลางสำรวจใบหน้าใสๆ ขอบตาคล้ำนั้นไปด้วย             “มีอะไรก็รีบๆ พูด รักจะนอน” ที่รักยอมสำรวมเพราะกลัวสุดใจเป็นที่สุด             “เมื่อคืนมึงมุดกันจนเช้าเลยใช่ไหมวะ” เมฆาเอ่ยมา ก่อนจะร้องโอดโอยเมื่อภรรยาทุบหลัง             “ต้องรับผิดชอบนะคุณ”             “ผมขอเวลาอาทิตย์หนึ่ง ทุกอย่างจะพร้อมสำหรับงานแต่งครับ” ดนัยตอบไปอย่างมั่นใจและเขาก็คิดไว้แล้วก่อนจะมาถึงบ้านของที่รัก             “อย่ามาบ้านะ!” ที่รักลุกขึ้นมาถลึงตาใส่ดนัยจนถูกภามกดลงให้นั่งตามเดิม สองไหล่ไหวแรงๆ เพราะกำลังโกรธจัด             “ผมพูดจริงครับ พรุ่งนี้ผมจะให้คุณลุงมาคุยอีกครั้ง ผมมีญาติคนเดียวคือลุงสมศักดิ์ สารวายุครับ”             “สมศักดิ์ สารวายุ ผู้ว่าฯ?” สุดใจทวนชื่อแสนจะคุ้นหู             “ครับ” ดนัยพยักหน้า             “ตายแล้ว พ่อแดนหลานผู้ว่าจังหวัด”             ทุกคนที่นั่นได้อึ้งกันไปอีก เดิมทีก็รู้ว่าดนัยก็ร่ำรวยพอแล้ว นี่ยังควบครอบครัวคนมีหน้ามีตาของเมืองเข้าไปอีก เมฆากับสุดใจมองหน้ากันและยิ้มกว้าง             “เป็นอันตกลง สินสอดแล้วแต่ทางพ่อแดนจะให้ ส่วนพรุ่งนี้จะพาผู้ใหญ่มาคุยหรือไม่ก็เอาตามสะดวกเถอะ อีกหนึ่งอาทิตย์ที่รักจะแต่งงาน ได้ยินนะทุกคน” สุดใจเอ่ยเสียงดังๆ ทุกคนหัวเราะและตบมือเฮฮากันลั่นบ้าน มีแต่ที่รักที่ควันออกหู หน้าบึ้งเพียงลำพัง             “ไม่แต่ง!”             “ถ้าไม่แต่งก็ใส่กระโปรงชั่วชีวิต ห้ามเที่ยว ห้ามออกจากบ้าน ห้ามรับโทรศัพท์” สุดใจโพล่งขึ้นมา             ที่รักตาเหลือก รู้ดีว่ามารดาพูดจริงทำจริง เมื่อหันไปทางดนัย เขานั่งยิ้มอยู่ข้างๆ ที่รักเลยต่อยเปรี้ยงไป แต่เขารับหมัดไว้และกระชากให้ที่รักมาอยู่ในวงแขนเขา             “ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน” ดนัยจูบแก้มที่รักหนักๆ ทีหนึ่ง สุดใจปิดปากหัวเราะอย่างชอบใจ             ที่รักตบดนัย ตบแล้วตบอีก แต่เพราะข้อมือถูกเขารวบไว้ เลยได้แค่ขยับข้อตบเขา มันไม่แรงนัก ดนัยรวบมือนั้นลงต่ำ ที่รักเลยเปลี่ยนมาหยิกอกเขาแทน ดนัยเลยช้อนตัวที่รักอุ้มเสียเลย             ที่รักตกใจร้องโวยวายสะบัดตัวเกือบหล่นไปก็หลายครั้ง ดนัยเลยใช้วิธีแบกแทน คราวนี้สาวทอมหัวห้อยสองขากระทุ้งหน้าท้องแน่นมัดกล้ามไปด้วย             “ผมขออนุญาตไปส่งว่าที่ภรรยาที่ห้องได้ไหมครับ”             “ตามสบายเลยพ่อลูกเขย ไปเลย ห้องแรกทางซ้ายมือน่ะ จะเล่นจ้ำจี้กันยังไงก็ได้ ไม่ต้องรีบกลับหรอก”             ดนัยหัวเราะเบาๆ และก้าวยาวๆ จากไป เสียงโวยวายของที่รักยังคงดังลั่น และค่อยๆ ห่างไป จนได้ยินเสียงปิดประตูโครมและเงียบไปทั้งสองคน             “อย่างนี้มีลูกหัวปีท้ายปีแน่” แม่นมอาภรณ์เข้ามากระซิบกับสองสามีภรรยา             “ให้มันได้อย่างนี้สิ ไอ้รักจะได้เลิกเป็นทอมเสียที” สุดใจกอดอกขณะที่พูด             “ไปพวกเรา ไปหาชุดสวยๆ หล่อๆ เป็นเพื่อนเจ้าสาวกันโว้ย” มะนาวเอ่ยขึ้น คว้าแขนเพื่อนหนุ่มทั้งหลายไว้ก่อนจะบอกลาเมฆาและสุดใจ             “แม่! เราล่ะ ต้องเตรียมอะไรบ้าง อาทิตย์เดียวจะทันหรือ?”             “ไม่ทันก็ต้องทันสิพ่อมึง บัตรไม่ต้องพิมพ์แล้ว โทรศัพท์นี่แหละ แต่เอ จัดงานที่ไหนจะบอกแขกว่าไง โอ๊ย ฉันมึนหมดแล้ว นี่อย่าให้พลาดล่ะ ไม่อย่างนั้นไอ้รักไปคว้าสาวทำเมียแน่ แม่อยากมีหลานนะพ่อ อยากให้ไอ้รักมันแต่งงานกับพ่อแดนเร็วๆ”             “ใจเย็นก่อนแม่” เมฆาโอบไหล่ภรรยาไว้ยิ้มกริ่มมองขึ้นไปชั้นสอง             สองคนที่ถูกเอ่ยถึงกำลังสู้กันด้วยแรงเท่าที่มี ที่รักถูกดนัยพาไปยังเตียงนอน แต่ไม่ได้ปล่อยเป็นอิสระ ยังคงทาบทับ สองแขนถูกรวบไว้ ขัดขืนยังไงก็สู้แรงดนัยไม่ได้ เลยได้แต่จ้องเขาตาแทบทะลุเบ้า หอบหายใจแรง             “เหนื่อยแล้วเหรอ?” ดนัยก้มลงมากระซิบริมหู ที่รักยกศีรษะขึ้นจะกัดเขา แต่ดนัยรู้ทันและหลบอย่างไว “ไม่เอานาที่รัก”             แววตาเขาเป็นประกาย ทั้งยังรอยยิ้มทรงเสน่ห์ ไหนจะเรือนกายกำยำ ที่รักได้สำรวจใบหน้าเขาใกล้ๆ ก็ตอนนี้เอง ดนัยเป็นคนหล่อระดับพระเอกหนังเลยล่ะ             เสียท่า! ที่รักเสียท่าไอ้ยักษ์หื่นเข้าจนได้               อีกหนึ่งอาทิตย์เวียนมาถึง งานมงคลสมรสของดนัย สารวายุ กับ ที่รัก วรวรรณก็มาถึง ดนัยพิมพ์บัตรเชิญเสร็จในครึ่งวันและส่งให้เมฆาและสุดใจ ส่งลูกน้องให้อีกสองคนเพื่อพาสุดใจกับเมฆาไปแจกบัตรเชิญ สถานที่จัดงานคือบ้านของดนัย มีแผนที่ให้พร้อมกับบัตรเชิญ             สถานที่ถูกจัดเบ็ดเสร็จพร้อมทันวันงาน งานเช้ากำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาที บ่าวสาวนั่งมองหน้ากันที่พื้นพรมต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย             ที่รักสวมชุดไทยเปิดไหล่ ผ้าสไบทอง ทับด้วยสไบโปร่งเดินดิ้นเงินดิ้นทอง ตัวผ้าถุงจับจีบหน้าเนื้อทองเข้ากับสไบ ผมถูกช่างหวีขึ้นไปรวบไว้และติดผมปลอมให้ดูสวยหวานยิ่งขึ้น เรือนร่างสูงโปร่ง ทรวดทรงองเอวมาพร้อม ที่รักดูไร้ที่ติอย่างไม่น่าเชื่อ             ดนัยอยู่ในสูท เนกไทสีทองให้เข้ากับชุดของที่รัก ทุกอย่างแม้กระทั่งช่างแต่งหน้าของที่รัก ฝ่ายดนัยจัดหามาหมด และตอนนี้เขากำลังมองที่รักอย่างพอใจยิ่ง             “ยิ้มหน่อยสิ”             “อย่ามาแหย่นะ” ที่รักกัดฟัน หากไม่เพราะโดนสุดใจข่มขู่สารพัดอย่าง มีหรือที่รักจะยังคงนิ่งเงียบอยู่ได้ถึงตอนนี้             “คุณสวยมากเลยนะวันนี้”             “หุบปาก!” ที่รักเอ่ยดังขึ้น สุดใจกระแอมมาทีหนึ่ง             “มา ได้ฤกษ์แล้ว แดน สวมแหวนให้หนูที่รักได้แล้ว” ท่านผู้ว่าฯ มีศักดิ์เป็นลุงแท้ๆ ของดนัยเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม             ดนัยหยิบแหวนเพชรเม็ดโตจากพานทองข้างๆ คลึงเล่นกับปลายนิ้วและยื่นมือไปกุมมือที่รักไว้ เขาบรรจงสวมแหวนลงไปยังนิ้วเรียวยาว ที่รักกัดปากและมองแหวนที่นิ้วตัวเองนิ่งจนสุดใจกระแอมมาอีก เลยจำเป็นใจต้องยกมือไหว้ดนัย ชายหนุ่มรับมือนั้นไว้และมองหัวคิ้วยู่ของที่รับด้วยความชอบใจ สุดใจกระแอมมาอีก ที่รักเลยหยิบแหวนอีกวงมาสวมให้ดนัย ทั้งสองกุมมือกัน ที่รักหน้าบึ้งตึงตลอดเวลา ทั้งสองก้มลงกราบแทบเท้าของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย มีพิธีสงฆ์อีก แต่ไม่นานก็เป็นอันเสร็จ             ที่รักก้าวฉับๆ เดินขึ้นไปชั้นสองที่จัดไว้เป็นห้องแต่งตัวของเธอ ประตูกำลังจะปิดอยู่แล้วแต่ดนัยใช้แขนกันไว้และแทรกตัวเข้าไปก่อนจะปิดประตูตามหลัง             “ออกไป!” ที่รักตวาดเสียงดังจนแสบแก้วหู             “ไม่เอานา เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว”             ที่รักถลกชุดเตะดนัย ท่าทางวางโต             เสียงเคาะประตูดังก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มวางมวยหนักกว่าเก่า             ดนัยขยับไปเปิดประตู แต่ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งผ่านพวกแม่บ้านเข้ามาถึงตัวเขาเสียก่อน ทั้งยังร้องห่มร้องไห้ เข้ามาซบอกดนัย             “เฮียแดน เฮียจะแต่งงาน”             “ปาน!” ดนัยแข็งทื่อไปแล้ว             ผู้หญิงที่มีชื่อว่าปานปวียังคงกอดดนัยร้องไห้ ที่รักขมวดคิ้วมองทั้งสองอยู่ห่างๆ             “ปานท้อง!”             ที่รักก้าวยาวๆ คิดจะออกจากห้องไป ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น แต่ดนัยสลัดปานปวีออกและวิ่งไปคว้าตัวที่รักและกลับเข้ามาในห้องปิดประตู เขายังคงกอดรัดเจ้าสาวของเขาไว้แน่น             “เลิกโกหกเถอะปาน เฮียไม่ได้โง่นะ” ดนัยรู้ทันและคิดว่าเขาก็ไม่น่าจะพลาดแน่นอน             “ปานท้องจริงๆ”             “แล้วปานไปนอนกับใครมา เฮียรู้ว่าปานไม่ได้มีเฮียคนเดียว อย่าทำให้เฮียโกรธดีกว่า วันนี้เป็นวันแต่งงานของเฮีย หากปานยังอยากให้เฮียช่วยเรื่องเงินก็บอกมาว่าท้องกับใคร”             “ท้องกับเฮียแดน!” ปานปวียังยืนยันคำเดิม             “ถ้ายังยืนยันก็ต้องตรวจให้แน่ใจ”             “ปานไม่ตรวจ! ปานแน่ใจว่าลูกของเฮียแดน รับผิดชอบมาเลยนะ”             ที่รักหยุดดิ้นแล้ว และยื่นมือออกไปจับหน้าอกปานปวี และก็เม้นปาก “โกหก! ไม่ได้ท้องสักหน่อย”             “ยายทอมบ้า! ฉันรู้นะว่าเธอไม่ชอบผู้ชาย แล้วแต่งงานกับเฮียแดนทำไม”             “รู้จักฉันด้วยรึ ใครว่าฉันชอบผู้หญิง เฮียแดนน่ะเด็ดจะตาย ใครไม่ชอบก็บ้าแล้ว แล้วเฮียแดนก็รักฉันถึงได้แต่งงานด้วย” ที่รักแกล้งซบหน้าลงกับอกดนัยและกอดเขาไว้ สายตามองปานปวีอย่างผู้ชนะ ดนัยอมยิ้ม รู้ดีว่าที่รักกำลังแกล้งปานปวี             “เฮียแดน ถึงยังไงวันนี้เฮียแดนต้องยกเลิกงานแต่งนะคะ ปานไม่ยอมด้วย”             “นมยังกะลูกมะนาว ก้นก็ไม้กระบอกดีๆ นี่เอง หน้าท้องก็ไม่เห็นป่อง ท่าทางท้องลมแล้วล่ะน้องสาว อย่าทำให้ตัวเองขายหน้าจะดีกว่านะ”             “อย่ามายุ่ง!”             “ผู้หญิงท้องจะเจ็บหน้าอก อกจะตึง แต่หล่อนนะนมยาน” ที่รักเบ้ปากและปล่อยดนัย แต่ดนัยไม่ยอมปล่อยเธอ เขากลับกอดไว้แน่นจนที่รักต้องปั้นปากใส่             “อานนท์ สุระ” ดนัยเรียกสองคนสนิท             “ครับนาย” ทั้งสองผลักประตูเข้ามาในเวลารวดเร็วเช่นกัน             “พาปานปวีไปโรงพยาบาล ตรวจดูว่าท้องจริงหรือเปล่า อายุครรภ์เท่าไร สืบมาให้หมดว่าก่อนหน้านี้ปานปวีหายไปไหนกับใครมาบ้าง” ดนัยสั่งความลูกน้องก็จริง แต่ตาเขายังคงอยู่ที่ปานปวี ทันได้เห็นแววตาวูบไหวลังเลของเจ้าหล่อน             ปานปวีสะบัดหน้า วิ่งออกไปด้วยความรวดเร็วและอับอายเป็นที่สุด ดนัยพยักหน้าให้ลูกน้องออกไป ประตูห้องปิดลง ห้องนั้นเลยกลับมาเงียบอีกครั้ง             ดนัยก้มลงมองสาวทอม “เมื่อกี้จะออกไปไหน?”             “ออกไปเรียกผู้ว่าฯ มาดูความสารเลวของหลานชายไง กินเดาะ ไข่ไม่เลือกที่ ไอ้ยักษ์เอ๊ย”             ดนัยยิ้ม “ต่อไปจะไข่เป็นที่เป็นทาง” ดนัยก้มลงมาอีก ลมหายใจของเขารดอยู่ข้างแก้มที่รัก             “ชิ หวังไปเถอะ ที่ยอมแต่งเพราะแม่หรอก”             “คุณแม่ขู่อะไรไว้หรือถึงได้หงอเชียว”             “อย่ามายุ่ง!” พูดพร้อมทั้งสบัดตัวแต่ยังถูกดนัยกอดรัดไม่ปล่อย             ดนัยยกตัวที่รักพาเดินไปนั่งที่เตียง เขานั่งลงข้างๆ สาวทอมขยับออกไปแต่ยังคงนั่งห่างไปไม่มาก อยากจะฤทธิ์มากอยู่หรอก แต่สุดใจอยู่ที่นี่ด้วย ขืนทำให้มารดาโกรธ ที่รักตายแน่             ที่รักนั่งกอดอก ตาขวาง ดนัยยิ้มและขยับเข้ามาใกล้ มือเขาไวพอกับความคิด เขากระชากสไบให้หลุดออกจากไหล่บาง เจ้าตัวเลยตะครุบสไบไว้หมับ             “ทำอะไร?”             “ถอดออกเถอะ ไม่ชอบไม่ใช่เหรอ”             “ก็ไม่ชอบสิ ชุดบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ยุ่งยากวุ่นวาย เดินก็ลำบากตายชัก” ว่าแล้วก็ยกขาขึ้นมาข้างหนึ่งพับงอเข้าหาตัวและ วางราบกับที่นอน             “งั้นก็ถอด มา จะช่วยถอดให้ อยากดูหน่อยว่าใส่บรายังไง”             “ไอ้หื่น!” พูดพร้อมกับผลักหน้าดนัย             “คุณหื่นกว่าผมอีก รู้ไหม วันนั้นคุณจูบผมก่อน ขยี้อกผมซะแสบไปหมด ยังหาว่าอกผมทั้งแบนทั้งแข็ง”             “บ้านา!” ที่รักหน้ายู่ “นี่ คุยกันตรงๆ นะ ฉันน่ะก็ไม่ได้รังเกียจคุณหรอก แต่คุณทำให้ฉันไม่พอใจเองนะ ฉันบอกตรงนี้เลยว่าชอบผู้หญิง ต่อไปถ้าฉันพาผู้หญิงเข้าบ้าน อย่ามายุ่งล่ะ”             “เฮ้ย! ผมเป็นสามีคุณนะ”             “แล้วไง เป็นแค่ในนามก็ได้นี่นา ไอ้ที่พลาดแล้วพลาดเลย ก็ช่างมันเถอะ”             “ให้ตาย” ดนัยเสยผม เหลือกตามองสูง             ที่รักลุกขึ้นและถอดชุดตรงนั้นเลย ในเมื่อดนัยก็เคยเห็นของเธอมาแล้ว จะอายอะไร ที่รักฮำเพลงและเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายใจ ชุดที่ถอดยังกองอยู่ที่หน้าเตียงนั่นเอง             “คงต้องอบรมยกใหญ่ เรื่องนี้ต้องปรึกษาแม่ยาย” ดนัยสะบัดหน้า ก้าวตึงตังออกจากห้องไปหาแม่ยายสุดใจจริงๆ             “ที่รักล่ะ?”             “อาบน้ำอยู่ครับ” ดนัยดึงแขนสุดใจเข้าหลบมุมหนึ่ง “ผมมีเรื่องจะปรึกษา” แล้วดนัยก็เล่าที่คุยกับที่รักให้แม่ยายฟัง             “หน็อย กล้าดียังไงจะพาหญิงเข้าบ้าน” สุดใจขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ไม่ต้องห่วง แม่จะบอกวิธีกำราบเอง”             สุดใจกระซิบกับดนัยอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ดนัยจะยิ้มออก วิธีของแม่ยายช่างง่ายดายและได้ผลดีมาแล้ว เอาล่ะ เขาจะทำตามคำแนะนำก็แล้วกัน  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม