ตอนที่ 2 สมานฉันท์ชั่วคราว

4610 คำ
ตอนที่ 2 สมานฉันท์ชั่วคราว                   หลังจากเหตุการณ์ในวันที่ดนัยแกล้งสาวทอมที่รัก ได้ผ่านไปอีกสามเดือน สามเดือนที่ดนัยเฝ้ารอ             “นายครับ คุณที่รักมาอีกแล้วครับ”             ดนัยยิ้มมุมปาก “กี่คน”             “วันนี้มาคนเดียวครับ”             คราวนี้ดนัยยิ้มกว้าง หยุดออกกำลัง ร่างสูงใหญ่เรือนกายกำยำสมส่วน ขยับถอยห่างจากกระสอบทราย ทั้งกายเกาะพราวไปด้วยหยาดเหงื่อ เขายื่นมือไปให้สุระถอดนวมให้ เมื่อมือเป็นอิสระเขาเลยรับแก้วน้ำเย็นๆ จากสาวงามข้างกายที่รออยู่ก่อนแล้ว เขาก้มลงจูบริมฝีปากที่เคลือบสีแดงไว้ทีหนึ่ง และเงยหน้าขึ้นดื่มน้ำจนหมดก่อนจะวางแก้วดังกึกกับโต๊ะใกล้ๆ             “ดี! วันนี้จะเล่นอะไรสนุกๆ สักหน่อย”             สุระกับอานนท์ลูกน้องมือซ้ายขวาหันไปยิ้มให้กัน            ทั้งสองรู้ดีว่าเจ้านายวัยสามสิบเจ็ดของเขาทั้งหล่อ ทั้งรวยและยังโสด ใครๆ ก็รู้ว่าดนัยเนื้อหอมมากแค่ไหน แต่มีคนหนึ่งที่ไม่เคยสนใจจะชายตาแล แม้ว่าเจ้านายของพวกเขาจะเสนอทางเลือกดีๆ ให้แล้ว             ‘ที่รัก’ สาวทอมที่เจ้านายเขาสนใจ เป็นลูกค้าขาประจำของที่ผับแห่งนี้มาหลายปี บางครั้งมากับเพื่อนฝูง บางครั้งพาสาวๆ ติดสอยห้อยตามมาด้วย มาวันนี้เธอมาคนเดียว แน่ล่ะ ดนัยจ้องอยู่แล้ว ในผับแห่งนี้ไม่มีอะไรเล็ดลอดสายตาเขาไปได้ เขาเป็นเจ้าของนี่นา จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น             ดนัยเคยท้าให้ที่รักผู้นี้ยอมนอนกับเขาและเขาจะยกผับให้ แต่ที่รักไม่เล่นด้วย ยังหาว่าดนัยเพี้ยน แต่ก็ยังคงมาเที่ยวที่นี่บ่อยๆ อาจด้วยเป็นผับที่ใหญ่และดังที่สุดในเมืองภูเก็ต สาวๆ ที่ติดพันสาวทอมอย่างที่รักก็ชอบมาที่นี่เสียด้วย             ดนัยรับผ้าขนหนูจากสาวงามอีกนางหนึ่ง เขาจูบให้รางวัลไปทีหนึ่ง รอบกายดนัยไม่เคยขาดสาวงามสักวัน แค่เขากระดิกนิ้ว สาวๆ ก็พร้อมจะตัวอ่อนเลื้อยตามเขามาแล้ว ดนัยไม่ได้แค่หล่อ รวย และโสด แต่เขาเป็นคนกว้างขวางและมีอิทธิพลระดับหนึ่ง ถึงขนาดคนใหญ่คนโตของเมืองนี้ไม่ค่อยจะกล้าสบตาด้วย             ดนัยรอจนเหงื่อแห้งแล้วจึงเข้าไปอาบน้ำ ยังคงมีสาวงามนุ่งกระโจงอกเข้ามาคอยปรนนิบัติอีกสามคน เขาลงไปนั่งแช่น้ำในอ่าง ปล่อยให้สาวๆ ถูกหลัง ถูกตัวให้ เขานั่งจิบไวน์ขาวใบหน้ายิ้มแย้มอย่างสบอารมณ์             “จะทำอะไรทอมคนนั้นหรือคะ คนนั้นน่ะเล่นยาก” ปากขยับ มือก็ยังคงถูหลังให้ดนัย             ดนัยเอียงหน้า แลบลิ้นเลียริมฝีปาก “ฉันจะทำให้ดู รับรอง เหลวอยู่แทบเท้าแน่”             “เฮียแดนทำได้อยู่แล้วค่ะ เอาเงินฟาดไปสักสี่ห้าล้าน ขี้คร้านจะยอมขึ้นเตียงด้วยง่ายๆ”             “หึ ขนาดจะยกผับนี้ให้ยังไม่ได้ผล”             “ต๊าย โถๆ ยกมาทางนี้ดีกว่าค่ะ อกหนูใหญ่กว่าสาวทอมนั่นนะคะ” หญิงผู้นั้นเอ่ยอย่างคะนองปาก หารู้ไม่ว่าการว่าที่รักทำให้ดนัยไม่พอใจ             ดนัยตัวแข็งขึ้นมาทันใด “ออกไป!” ดนัยไล่             สาวรายนั้นหน้าเสีย เธอหันซ้ายหันขวา เพื่อนสาวที่มาด้วยกันไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น ทั้งสองยังก้มหน้าก้มตาอาบน้ำให้ดนัยต่อ             “ไป!”             “ปะ... ไป ไปแล้วค่ะ” สาวรายนั้นรีบนุ่งผ้าลนลานออกจากห้องน้ำไป             ที่เหลืออยู่สองคนไม่กล้าพูดอะไรอีก ดนัยดื่มไวน์รวดเดียวหมด เขาปาแก้วทิ้งอย่างขัดใจ สาวทั้งสองคนหน้าซีด รีบนุ่งผ้าและวิ่งน้ำตาซึมออกจากห้องน้ำไปพร้อมกัน             อานนท์เรียกเจ้านายเบาๆ ที่หน้าประตูห้องน้ำ รู้แล้วว่าสาวๆ พวกนั้นทำให้เจ้านายขัดใจ ช่างโง่นัก             “สามคนนั้น ไล่ออกให้หมด” เสียงเขาดังคล้ายตวาดเพราะมันดังก้องอยู่ในห้องน้ำแห่งนั้น              “ครับนาย” อานนท์ออกไปจากห้องทันที             ดนัยลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำมาล้างตัว เขาเดินเปลือยออกไปจากห้องน้ำ สุระยืนรออยู่ก่อนแล้วพร้อมเสื้อคลุมอาบน้ำ และสวมให้เจ้านายอย่างรวดเร็วคล่องมือ             “ข้างนอก?”             “ลูกค้าคนหนึ่งเมามาก่อนจะเข้าร้าน อาละวาดใหญ่ เด็กๆ จัดการไปแล้วครับ”            “ส่งเหล้าดีๆ ให้ที่รักสักหน่อย”             “ได้ครับนาย” สุระรับคำและเร่งไปสั่งเด็กร้าน             ดนัยใส่เชิ้ตสีดำคลุมทับด้วยสูทเข้ารูปสีดำเช่นกัน ผมรองทรงสูงถูกเสยไปด้านหลัง เขาออกจากห้องไปด้วยกลิ่นหอม เรือนกายสูง และเสน่ห์แห่งวัยสามสิบเจ็ด หลายคนพูดกันว่าดนัยเหมือนหนุ่มยี่สิบต้นๆ ต่อให้เข้าหกสิบ เขาก็ยังคงความหล่อเหลาเอาไว้ไม่มีเปลี่ยนแปลงแน่ๆ             ดนัยก้าวยาวๆ ออกไปต้อนรับแขก มีแขกหลายคนที่เขารู้จัก บ้างก็ผู้ใหญ่ที่เคารพ เขาจะสั่งเด็กๆ ในร้านให้เปิดห้องส่วนตัวให้ และกวาดสายตาคมกริบมองหาเป้าหมาย แต่กลับไม่เจอ อานนท์มองเจ้านายอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเจ้านายหันมาสบตาเขาเลยรีบเข้ามารายงาน             “ห้องวีไอพีครับ สาวสองคน”             ดนัยโคลงศีรษะ “เยี่ยม! ไม่ทันไรก็พาสาวเข้าห้อง”             “เอายังไงครับ?”             ดนัยยกสองมือเท้าสะเอว กวาดตามองรอบๆ อย่างใจเย็น “จ่ายไป เอาตัวมาทั้งสองคนนั่นแหละ”             “ได้ครับ”             ดนัยยิ้มกริ่ม สองมือกระตุกสูททีหนึ่งก่อนจะเดินเข้าห้องซูเปอร์วีไอพีส่วนตัวไป วันนี้เขาตั้งใจจะจัดการสาวทอมที่รัก ก็ต้องเล่นอะไรเพื่อเรียกน้ำย่อยสักหน่อย             ไม่นานสองสาวที่ว่าเดินนวยนาดเข้ามาหาดนัยยังห้องซูเปอร์วีไอพี เป็นห้องคาราโอเกะใหญ่ จุคนได้เกือบห้าสิบ มีที่นั่งบุนวมสีแดงชิดผนังเป็นแนวยาว มีจอใหญ่พิเศษเปิดเพลงคลอเบาๆ ดนัยกวักมือเรียกทั้งสองสาวให้ไปนั่งข้างเขา หญิงสาวเดินไปนั่งเบียดอยู่คนละทาง ดนัยวาดวงแขนโอบไหล่ จูบแก้มทั้งสองสาวคนละที             “ขอบคุณเฮียแดนค่ะที่ชวนพวกเรามานั่งดื่มในห้องนี้”             ดนัยยิ้มให้ เขารับแก้วจากเด็กร้านมาดื่ม และกำลังตั้งหน้าตั้งตาคอย คอยคนที่จะมาหาเขาต่อจากนี้ต่างหาก อยากรู้เสียจริงว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ แล้วจะโกรธมากขนาดไหนนะ ดนัยดื่มเข้าไปแก้วที่สองอย่างใจเย็น จนกระทั่ง…             ปัง!             ที่รักผลักประตูเข้ามาด้วยหน้าตาบึ้งตึง “ไอ้ยักษ์! กล้าดียังไงหา”             ดนัยหลุดพรืด ก้มหน้าหัวเราะ วางแก้วและโอบไหล่สองสาว หอมแก้มแรงๆ คนละฟอด สองสาวเอียงอาย ไม่ทันคิดว่าดนัยทำเพื่อให้ที่รักเดือดจัด ดนัยลดสายตาลงมองที่หน้าอกที่รัก มันแบนราบเหมือนอย่างเคย อึดอัดแค่ไหนนะที่ต้องรัดอกสวยๆ ไว้ตลอดเวลาอย่างนั้น             ที่รักตรงปรี่เข้ามา ก้มลงคว้าแก้วเหล้าสาดเข้าใส่หน้าดนัย             ว้าย!             สองสาวร้องขึ้นพร้อมกันและถอยห่างจากดนัยกับที่รัก รู้ว่าหนึ่งทอมสาวกับหนุ่มทรงเสน่ห์กำลังมีเรื่องกันแล้ว             ดนัยรับทิชชูจากเด็กร้านที่นั่งชงเหล้าให้อยู่ไม่ห่าง เอามันมาซับหน้า เขาไล่เด็กร้านคนนั้นออกไป และหันมาทางสองสาวที่ทำท่าจะออกไปเช่นกัน “นั่งก่อนสาวๆ ไม่มีอะไรหรอก”             “ฉันมาเอาคนของฉันคืน” ที่รักชี้ไปที่สองสาว             “ผมจ่ายไปมาก ถ้าจะเอากลับก็ถามพวกเธอเอาเองว่าจะไปกับคุณหรือจะอยู่กับผม” ดนัยเอียงหน้าเชิดขึ้น พูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าที่รักไม่สามารถพาสองสาวกลับไปได้             ที่รักหันไปมองสองสาวที่ยืนจับมือกันอยู่ “อยู่กับเฮียแดนค่ะ พวกเรารับเงินเฮียแดนมามากแล้วค่ะ”             “เท่าไร? พี่ให้เอง” ที่รักถามไปโดยไม่ต้องคิดมาก เธอเองก็ใช่ว่าขี้หมูขี้หมามาจากไหน ที่บ้านเปิดร้านทองถึงสิบสาขา พอจะคุยได้บ้างว่าบ้านรวย             “คนละห้าแสนค่ะ”             ที่รักตาโต หันมองดนัยอย่างไม่อยากจะเชื่อพร้อมทั้งหลุดอุทานมา “ห้าแสน! ตายห่า”             ดนัยขมวดคิ้ว “พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ” เขาไม่ชอบใจคำว่า ‘ตายห่า’ เพราะมันลงมาบนหัวเขาเต็มๆ เขายังไม่อยากตายไปเป็นไอ้ห่าบ้าบออะไรนั่น             “ไม่ต้องมายุ่ง!” ที่รักแหวใส่ดนัย ฝ่ายนั้นยักไหล่และชงเหล้าแก้วใหม่อย่างใจเย็น             “เอาอย่างนี้ดีกว่า”             ที่รักเชิดหน้าสองแขนกอดอก “ฮึ”             “ดวลเหล้ากัน ใครเมาก่อนแพ้ ใครชนะก็พาสาวๆ ไปได้” ดนัยเลิกคิ้วเชิงถาม             “ทำไมต้องรับข้อเสนอด้วย” ที่รักเข้าไปคว้าแขนสองสาว “ไปสาวๆ” แต่ทั้งสองคนขืนตัวไว้อย่างพร้อมใจ             “มากับพี่! จะไปกับไอ้นั่นหรือ?”             “พวกเราไม่อยากขัดใจเฮียแดนค่ะ”             ที่รักกัดกรามขมวดคิ้ว ชายตามองดนัย “ก็ได้! ใครพับไปก่อนแพ้” ว่าแล้วก็นั่งลง สองสาวเลือกไปนั่งข้างๆ ดนัย ที่รักมองตาขวางแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร             สองสาวเริ่มชงเหล้าให้ ทั้งดนัยและที่รักสบตากัน ก่อนจะกระดกเหล้าดื่มอึกๆ ขึ้นและวางแก้วเปล่าลงพร้อมกัน สองสาวร้องเชียร์พร้อมทั้งตบมือให้             “ใช้ได้นี่” ดนัยยิ้มกริ่ม ตาคมกวาดมองหน้าอกที่รักอีกครั้ง             “เอาอีก เร็วๆ เข้า เหม็นหน้าหมอนี่เต็มที” ที่รักยื่นแก้วให้สาวคนหนึ่ง             ดนัยหัวเราะชอบใจ อยู่กับที่รักเขาหัวเราะอย่างกับคนบ้า ทั้งๆ ที่เวลาปกติก็ไม่ได้เป็นอย่างนี้สักหน่อย เหตุนี้เขาเลยอยากแกล้ง อยากแหย่ที่รักยังไงเล่า เพราะเป็นสิ่งบันเทิงอย่างหนึ่งในชีวิตเขาไปเสียแล้ว             ที่รักดื่มนำไปก่อนเป็นแก้วที่สอง ดนัยอมยิ้มและดื่มตาม กับแกล้มไม่มีใครแตะสักอย่าง แม้ทุกอย่างจะน่ากินก็ตาม สองสาวยังคงชงเหล้าให้คู่ท้าทั้งสองอย่างเบิกบานใจ ไม่ว่าทางไหนจะชนะทั้งสองก็กระเป๋าหนักกลับบ้านอยู่แล้ว             แก้วที่หกแล้ว ที่รักคว้าคอสาวสวยข้างกายและแนบริมฝีปากลงไปบดเคล้า หญิงสาวครางประท้วง แต่ที่รักยังคงส่งลิ้นเข้าไปจนกระทั่งรู้สึกว่าไหล่ถูกเหนี่ยวไว้โดยแรง             “ยังไม่รู้ใครแพ้ใครชนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!” ดนัยนั่นเอง เสียงเขาแข็งกระด้าง นัยน์ตารึก็มองมาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า             ที่รักยักคิ้ว เลียริมฝีปากสองสามที ยิ้มยิงฟันพร้อมยักไหล่ใส่ดนัย ถึงจะถอนปากออกแล้ว มือยังคงล้วงเข้าไปในอกเสื้อสาวงาม จนอีกฝ่ายหัวเราะและเบี่ยงกายหลบ             “อย่ามาตีฉิ่งต่อหน้าผม ผมไม่ชอบ!”             “ใจแคบไปได้ มา ดื่มต่อ” ที่รักดื่มก่อนอีกแล้ว ชักอยากรู้แพ้ รู้ชนะให้เร็วๆ มันมือเต็มทน อยากพาสาวกลับบ้านจะตายชัก             ดนัยกระแทกแก้วกับโต๊ะ สาวข้างกายเขาสะดุ้งแต่ก็รีบชงเหล้าให้อย่างเร็ว ดนัยดื่มรวดเดียวหมดและกระแทกแก้วอีกครั้ง             “ห้ามจับ!” ดนัยร้องห้ามเมื่อเห็นมือที่รักล้วงเข้าไปในอกเสื้อสาวข้างกายอีกครั้ง ที่รักไม่สน ยังคงควานหาปลายยอดบัวตูมต่อไป             “ให้มันได้อย่างนี้ ให้ตาย” ดนัยบ่นอุบ อารมณ์เสียตั้งแต่เห็นที่รักจูบผู้หญิงต่อหน้าเขาแล้ว ดนัยลุกขึ้นเข้าไปนั่งแทรกกลางระหว่างที่รักกับสาวงาม             “ออกไป!” ที่รักผลักดนัยเต็มแรง ดนัยหันขวับและหรี่ตามอง             “จะนั่งอยู่ตรงนี้จนกว่าจะรู้แพ้รู้ชนะ” ดนัยไม่สนท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงของที่รัก เขาถอดสูทออก เหลือไว้แค่เชิ้ตดำถลกแขนเสื้อขึ้น และลงมือชงเหล้าเสียเอง เขาเลื่อนจานกับแกล้มไปตรงหน้าที่รัก แต่เจ้าทอมสาวไม่สน กลับคว้าแก้วเหล้าจากมือเขามาดื่มอึกๆ             สองสาวที่ว่างงานเลยหันไปหาจอทีวีขนาดใหญ่และร้องเพลงกันเสียเลย เสียงดนตรีดังกลบเสียงพูดคุยของที่รักกับดนัย ทำให้ต้องตะโกนกันบ้างบางจังหวะ ที่รักถอยห่างดนัยเมื่อเขาเอนหลังกับพนักพิงวาดสองแขนไปตามแนวยาวบนพนักพิง ทำท่าเหมือนจะโอบไหล่ที่รักก็ไม่ปาน             “อย่าให้มันมากนักนะไอ้ยักษ์” ที่รักว่าและเริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนสุด ดึงชายเสื้อออกจากขอบกางเกง             ดนัยชายตามองก็เห็นผ้ารัดอกชัดเจน มือไม้สั่นอยากจะกระชากผ้านั้นออกเสียเหลือเกิน แต่ก็ไม่ได้ทำ เขาหันไปชงเหล้าอีก ขณะที่สาวทอมลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เมื่อกลับมาก็เดินผ่านหน้าเขาไปแย่งไมโครโฟนจากสาวๆ และแหกปากร้องเพลงเสียเอง             ดนัยกอดอกนั่งมองที่รักไป ริมฝีปากก็ขยายกว้างไป นานๆ ครั้งจะตักอาหารใส่ปากบ้าง เพลงแล้วเพลงเล่าที่พวกสาวๆ เลือกให้ที่รัก ทั้งหมดเป็นเพลงจังหวะเร็วๆ ทำให้ที่รักกระโดดโลดเต้นอย่างบ้าระห่ำไปด้วย หากไม่ใช่เพราะเริ่มมึนตึงจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ที่รักคงไม่มาอยู่ร่วมกับดนัยเป็นชั่วโมงๆ อย่างนี้หรอก             ดนัยยกสองขาขึ้นพาดกับโต๊ะ สองแขนประสานกันที่ท้ายทอย มองที่รักอย่างชอบใจ ตัดสินใจแล้วว่าจะเล่นกับที่รักให้ถึงที่สุด เกมของเขาเพิ่งจะเริ่ม ดูสิว่าเขาจะเปลี่ยนสาวทอมชอบตีฉิ่งให้อ่อนระทวยชอบท่อนไม้ฟืนใต้ร่างเขาได้ไหม             สองสาวแท้กับหนึ่งชายเทียมยังคงสนุกกันต่อไปอีกพักใหญ่ จนกระทั่งที่รักเริ่มเสียงแหบนั่นแหละเลยยอมปล่อยไมโครโฟนให้สองสาวต่อ ดนัยชงเหล้าแก้วใหม่และยื่นส่งไปให้ ที่รักรับมาอย่างไม่เกี่ยงงอนและดื่มรวดเดียว             “แรง! ตั้งใจจะขี้โกงใช่ไหม”             ดนัยไม่พูดแต่ยื่นแก้วของเขาส่งให้ ที่รักรับมาดื่ม แรงเหมือนๆ กัน             “ก็แล้วไป” ที่รักนั่งลงห่างจากดนัยไปแค่ช่วงแขน “ไอ้ยักษ์นี่คอแข็งเป็นบ้า” บ่นพำคนเดียวแต่ดนัยได้ยิน เขาอมยิ้มแต่ไม่ต่อปากต่อคำ             “ไม่ชวนเพื่อนมาด้วยล่ะ?”             “ชิ” ที่รักเบ้ปาก “ไอ้ภามได้เมียใหม่แล้ว กำลังหลงหนัก จะไปจับกดเมียมันเร็วๆ นี้แหละ ไอ้พวกที่เหลือนั่นติดหญิง ไอ้คุณนายก็ผัวกลับมาจากต่างประเทศ มันเล่นปิดมือถือ ดึงสายโทรศัพท์ทิ้ง ไอ้พวกริยำตำบอน”             “พวกคุณเฮฮากันดีนี่นะ”             “ก็คบกันมาตั้งแต่เด็ก... หลอกถามเหรอ หา!” เมื่อนึกขึ้นได้ก็แหวใส่             “เปล่า แค่จะชวนคุย”             “นี่ไอ้ยักษ์”             ดนัยขมวดคิ้วและดีดหน้าผากที่รักเบาๆ “เรียกเพราะๆ หน่อยไม่ได้หรือไง”             ที่รักไม่ได้ใส่ใจนิ้วที่ดีดหน้าผากนั่น “ไอ้คุณยักษ์”             ดนัยจิกตาใส่ แต่ไม่ได้บังคับให้ที่รักเรียกเขาดีๆ อีก             “วันก่อนจับนมฉันน่ะ จ่ายมาซะดีๆ” ที่รักแบมือมาตรงหน้า ดนัยตบแปะให้ทีหนึ่ง             “จะเอาเท่าไร จับแค่ข้างเดียวหรอก ถ้าให้จับอีกข้างก็จะจ่ายเต็มที่เท่าที่เรียกมา”             “ไอ้นี่หัวหมอ” ที่รักหัวเราะ น้ำเมาเริ่มทำให้ชักสนุกปาก “นี่ๆ ฉันอารมณ์ดีแล้วล่ะ เรามาแบ่งสองสาวนั่นกันไหม ฉันเอาคนอกโตนั่น แหม ยั่วไม่หยอก อือ หน้าหื่นๆ อย่างคุณนี่จะคนไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละใช่ไหม”             ดนัยขมวดคิ้ว แทบจะสำลักน้ำลาย มาหาว่าเขาหื่น ทีตัวเองล่ะไอ้ทอมหื่น เขาไม่ยอมหรอก วันนี้ตั้งใจจะเล่นกับทอม ไม่ใช่กับสาวหน้าอกตูมก้นเบอะพวกนั้น             “ว่าไง?” ที่รักกระดกแก้วดื่มจนหมดและยื่นแก้วให้ดนัยช่วยชงให้ใหม่             “ไม่ล่ะ ใช้ข้อตกลงเดิม”             “บ๊ะ ไอ้โน่นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่เอา ชิ หล่อตาย ไอ้ยักษ์เอ๊ย”             “น้อยๆ หน่อย ถึงยังไงผมก็เป็นผู้ชาย ทอมเทิมอะไรผมปล้ำได้หมด ตัวแค่นี้ไม่กระสาแรงหรอก ต่อให้สองสาวนั่นด้วยราวเป็นสามก็เอาผมไม่อยู่”             “ชิชะ ขี้โม้ด้วย”             “หรือจะลอง?” ดนัยไม่พูดเปล่า แต่เขาขยับเข้าไปกอดคอที่รัก และก้มลงกระซิบข้างหู “เอาไหม” เสียงเขาแหบพร่า ที่รักผลักหน้าเขาออก ขยับห่างเขาไปอีก             “ขยะแขยง” ที่รักลูบแขนตัวเอง ขนลุกซู่             “ลองสักทีจะติดใจ บอกให้ ผมยอมให้คุณทำได้เต็มที่เลย ถ้าคุณชอบขึ้นเองผมก็ไม่ขัด”             “หยุดพล่ามที!”             ดนัยหงายหน้าหัวเราะ เขาปลดกระดุมลงมาเกือบจะถึงเข็มขัดอยู่แล้ว ที่รักเหลือบตามอง เห็นหน้าท้องแน่นเป็นมัดของเขาแล้วก็ต้องกลืนน้ำลาย ผู้ชายบ้าอะไร ดูดีไปหมดทุกอย่าง ยกเว้นปาก ปากค่อนข้างจะเสียอยู่มาก             “คุณเมาแล้ว แพ้นะ”             “ยัง! เอามาอีก” ที่รักยื่นมือออกไป ดนัยเลยส่งแก้วไปให้             ผ่านไปอีกสองชั่วโมง สองสาวเต็มอิ่มกับการร้องเพลงแล้วพากันเดินกลับมานั่งตรงข้ามกับดนัยและที่รัก ต่างมองหน้ากันเอง เมื่อเห็นว่าที่รักนั่งเลื้อยไปเลื้อยมา จนกระทั่งคอพาดอยู่กับพนักโซฟา ส่วนดนัยนั้นยังคงนั่งยิ้มกริ่มส่งสายตามาให้             “เฮียแดนชนะ” สองสาวตบมือให้และส่งยิ้มหวาน             “อือ” ดนัยพยักหน้าและก้มลงมองที่รัก             “ถ้าอย่างนั้น พวกเราสองคนจะปรนนิบัติเฮีย”             “ไม่ต้อง กลับไป”             สองสาวมองหน้ากันอย่างแสนเสียดาย ใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ดนัย เผื่อเขาติดใจจะได้เลี้ยงดูปูเสื่อตลอดไป แต่วันนี้เจ้าพ่อเพลย์บอยกลับบอกปัด สองสาวเสียหน้าอยู่บ้าง แต่ไม่กล้าทำอะไรดนัย เพราะเขาขึ้นชื่อโมโหร้าย สองสาวเลยคว้ากระเป๋าและออกจากห้องนั้นไปอย่างเร็ว             “นายครับ” สุระเข้ามา             “ดูแลร้านต่อนะ ฉันจะกลับบ้าน” ดนัยสั่งลูกน้องและช้อนร่างที่รักขึ้น เดินตัวปลิวออกไปด้วยความรวดเร็ว             ดนัยออกทางหลังร้าน รถเขาจอดรออยู่ที่นั่นแล้ว คนขับรถลงมาเปิดประตูให้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เป็นลูกน้องที่เขาจะให้ขับรถให้เป็นบางครั้งเท่านั้น ดนัยให้ที่รักนั่งตักเขา มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อที่รักจนหมด ปลดตะขอผ้ารัดอกและดึงมันออก วันนี้ที่รักรัดอกเสียหลายรอบจนเนื้ออ่อนๆ เป็นสีแดงจัด             “จะตายเพราะไอ้ผ้ารัดอกบ้าๆ นี่” ดนัยโคลงศีรษะอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์นักและโยนผ้าผืนนั้นไว้ข้างๆ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เลยเอามันมายัดใส่กระเป๋ากางเกงไว้             ดนัยมองลงไปที่อก เจอสปอร์ตบราสีน้ำเงินเข้ม เขาโคลงศีรษะ อยากจับที่รักใส่ทูพีชผ้าลูกไม้เสียเหลือเกิน แบบนั้นคงเจริญตากว่าเยอะ แล้วก็หัวเราะเบาๆ ประคองศีรษะที่รักให้เอนซบลงที่ไหล่เขา ยังสงสัยอยู่อย่างหนึ่งว่าทำไมที่รักใช้ผ้ารัดอกแล้วยังคงใส่บราอีก วุ่นวายหลายชั้น             ที่รักไล้มือไปตามอกดนัย บดขยี้แรงๆ ผ่านเนื้อผ้า ดนัยถึงกับสะดุ้งปัดมือที่รักทิ้ง แต่ที่รักตามมาอีก ทีนี้ทั้งมือทั้งปากมาหมด ปากรูปกระจับจูบสะเปะสะปะตรงซอกคอเขาจนมาประกบกับปากดนัยที่ยินยอมให้จูบโดยดี ริมฝีปากบดเคล้า ลิ้นเกี่ยวพันกันรัวเร็ว ที่รักดูดริมฝีปากล่างของเขาและเริ่มสอดลิ้นเข้ามาอีก ดนัยชะงักไปบ้างเพราะที่รักชำนาญจูบเสียเหลือเกิน ไอ้ที่ถูกเขาจูบในห้องน้ำนั้นไม่ได้สักครึ่งตอนนี้ เนื้อแท้ตัวตนของสาวทอมคงร้อนแรงไม่หยอกทีเดียว             ดนัยประคองสะโพกไว้ บีบหนักๆ อีกมือสอดขึ้นไปยังสปอร์ตบรา ไต่จากฐานขึ้นไปกึ่งกลาง เนื้อนวลเนียนมือ แต่แน่นตึงกระชับ ปลายยอดชูชันแข็งเป็นไต ปากเขายังคงประกบอยู่กับที่รัก สองมือบางๆ ของเธอยังคงไล้อกดนัย คราวนี้แทรกผ่านเนื้อผ้าไปสัมผัสเนื้อแท้ของเขา             “อกแบนไปแล้ว แข็งด้วย” ที่รักยังไม่ได้สติ ครางเบาๆ น้ำเสียงอ้อแอ้ฟังว่าผิดหวังกับอกแบนของดนัย จะให้มีก้อนเนื้อนุ่มนิ่มขึ้นมาได้ยังไงเล่า ยายทอมบ้า! อกเขาก็ไม่ได้แบนเสียทีเดียว แต่มันแข็งเพราะกล้ามเนื้อ             ดนัยดึงมือที่รักออกมา ขัดใจอย่างบอกไม่ถูก ที่รักถอนปากออกไปแล้ว คราวนี้สงบลงไปจริงๆ เมื่อดนัยได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วๆ ศีรษะซบลงกับซอกคอเขาตามเดิม             สิบห้านาทีรถมาจอดที่บ้านหลังใหญ่ ภายใต้รัวสีขาวสูง ตัวบ้านมีสามชั้น สไตล์โมเดิร์น ทาสีขาวดำ บ้างก็เล่นขอบสีเทา เปิดไฟแสงสีขาวยังจุดต่างๆ สนามขนาดใหญ่รอบข้างเต็มไปด้วยไม้ดอก เยื้องไปทางด้านหลังมีสระว่ายน้ำ มีเกาะกลางสระสวยงาม พรางตาไว้ด้วยซุ้มไม้เลื้อย ดนัยอุ้มที่รักขึ้นชั้นสาม แม่บ้านคนหนึ่งมองตาแทบถลนเพราะคิดว่าเจ้านายพาผู้ชายมานอนด้วย             ดนัยก้าวยาวๆ ขึ้นบันไดไปทีละสองก้าว เสียงที่รักครางอืออาฟังเหมือนคนกำลังพอใจสุขสมก็ไม่ปาน ดนัยตัวแข็งขึ้นมาอีก กัดฟันอย่างขัดใจและเร่งฝีเท้าไปจนถึงห้องนอน             เขาพาที่รักไปทิ้งโครมยังที่นอนใหญ่พิเศษ ตัวเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าทุกชิ้นแล้วก้าวขึ้นไป ดึงที่รักให้นอนดีๆ ตัวเองคร่อมทับไว้ สองแขนเหยียดตรงยกตัวขึ้นมองเจ้าทอมหมดสภาพ ดนัยขยี้หน้าอกนูนแรงๆ ทั้งสองข้าง ใบหน้าก้มต่ำลงไปไซ้ซอกคอหอม ไล้เลียจนเปียกชื้น             ดนัยล้วงเอามือถือและกระเป๋าสตางค์ของที่รักวางที่โต๊ะเล็กหัวเตียง และกระตุกตะขอกางเกงที่รัก ขยับดึงทางปลายเท้าทีเดียวหลุด แล้วก็ต้องขมวดคิ้วอีกเมื่อเห็นกางเกงชั้นในแบบขาสั้นชุดเดียวกับบราบ้าบอไร้เสน่ห์             “วันใดทำให้ยายทอมแต่งหญิงได้ จะจับใส่จีสตริง คอยดู” ดนัยปากางเกงที่รักทิ้งลงพื้น และขึ้นมาทาบทับบนร่างผอมบางอีกครั้ง             มือใหญ่สอดเข้าไปในกางเกงตัวนั้น โอบอุ้มเนินเนื้อเนียนนุ่มไว้ ปลายนิ้วขยับไปมา ที่รักส่ายหน้าและบิดกายหนีทั้งที่หลับตาอยู่ ดนัยยิ้ม อย่างน้อยๆ ที่รักก็ไวกับสัมผัสจากมือเขา ดนัยถลกสปอร์ตบราขึ้น ก้มลงไปดูดกลืนปลายยอดสีอ่อนจาง เขาได้ยินที่รักครางและยกศีรษะขึ้น ปรือตาเล็กน้อยแล้วก็กอดศีรษะเขาเอาไว้แน่น ทำให้ใบหน้าของดนัยจมลงไปยังเนินเนื้อเนียนนุ่มคู่นั้น             ดนัยจับสองแขนของที่รักออกจากศีรษะเขาลงไปกดไว้กับที่นอน ตัวเขาก้มลงไปปิดริมฝีปากที่เผยอน้อยๆ เขาสอดปลายลิ้นเข้าไป ที่รักก็ตอบรับอย่างดี เธอถึงขนาดดูดปลายลิ้นของเขา ดนัยกายสั่น เครื่องบุรุษผงาดขึ้นเติบโตจนเบียดแนบท้องแบบราบ จนเขาเผลอปล่อยมือที่รัก เจ้าทอมเลยลากนิ้วลงมากุมท่อนไม้ฟืนเขาไว้ทั้งสองมือ             ดนัยครางเสียงต่ำและไม่ยอมแพ้ เขาสอดมือเข้าไปในกางเกงที่รักบ้าง คราวนี้เขาทั้งบดทั้งขยี้จนร่างนั้นแอ่นรับอย่างชอบใจ เสียงหอบครางหนักขึ้น สองมือเริ่มขยับทำให้เจ้าท่อนไม้ฟืนกระตุกเบาๆ ติดๆ กัน             “ยายทอมบ้านี่ ขนาดเมาไม่ได้สติยังขนาดนี้ ร้ายนัก”             ดนัยเลื่อนปลายนิ้วลงต่ำ เขาแทรกนิ้วเข้าไปยังทางชื้นฉ่ำ นั้นจนสุดนิ้ว ที่รักสะดุ้งสุดตัว แต่ก็ผ่อนคลายลงเมื่อดนัยดึงนิ้วออก เขาขมวดคิ้วและยกมือนั้นมาส่องกับแสงโคมไฟหัวเตียงที่เปิดทิ้งไว้             “เลือด! ไฟแดงเหรอ” ดนัยแตะเนินเนื้อนอกกางเกงขาสั้นก็ไม่พบว่าเจ้าตัวใส่แผ่นรองรับไฟแดงไว้นี่นา สอดมือเข้าไปใหม่ก็ไม่เจอ เขาเลยรองสอดปลายนิ้วเข้าไปยังทางฉ่ำนั้น ควานนิ้วเบาๆ ก็ต้องพบว่ามันคับแคบจนน่าตกใจ ที่สำคัญ เจ้าทอมร้องออกมาเสียงดังเมื่อเขาขยับนิ้วเข้าออกแรงๆ สองสามครั้ง มือที่จับท่อมไม้ฟืนของเขาปล่อยและเปลี่ยนมายึดข้อมือเขาแทน             “หึๆ แสดงว่าเป็นแต่ตีฉิ่ง เหลือเชื่อ” ดนัยหงายหน้าหัวเราะอย่างชอบใจ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าที่รักยังบริสุทธิ์ อย่างน้อยๆ ข้างในก็ยังไม่ผ่านของใครมาก่อน             ดนัยค่อยๆ สอดนิ้วลึกเข้าไป ขยับทีล่ะนิดจนที่รักละมือจากข้อมือเขาและกลับไปกุมเจ้าท่อนไม้ฟืนยักษ์อีกครั้ง ดนัยเริ่มขยับเข้าออกเป็นจังหวะ ที่รักแอ่นกายขึ้น ปากยังคงส่งเสียงหอบคราง สองมือที่จับเขาขยับไปด้วย ตามจังหวะที่ดนัยนำพา ต่างฝ่ายต่างปรนเปรอซึ่งกันและกันจนที่รักหอบแรงขึ้น             “พอแล้ว” เสียงร้องนั้นแหบเบา             ดนัยรู้ว่าที่รักกำลังจะถึงฝั่งอันงดงาม เขาเร่งขยับนิ้วไปพร้อมๆ กับริมฝีปากที่ครอบครองปลายยอด ดูด เลียอย่างได้ใจ  ที่รักแอ่นอกหยัดสะโพก ส่ายหน้าเหมือนคนกำลังจะขาดสติ ดนัยเลื่อนใบหน้าไปจูบริมฝีปากนั้น ทั้งดูดทึ้งและกัดปากล่างไปเบาๆ เขาผละมาเลียตรงซอกคอ ที่รักยกศีรษะขึ้นกัดที่ไหล่เขา เพื่อระบายความรัญจวน ดนัยเลยเร่งปลายนิ้วรัวเร็วจนที่รักกระตุก ลงแรงกัดที่ไหล่เขาจนเกือบจะจมฟัน             ดนัยตัวเกร็งขณะที่ที่รักกำส่วนนั้นของเขาขยับในจังหวะหนักๆ และเกร็งแน่น ดนัยทานทนต่อไปไมไหวเสียแล้ว เขาปล่อยทุกหยาดหยดเลอะอยู่กับแผ่นท้องแบนราบของที่รักนั่นเอง พร้อมทั้งส่งเสียงครางแผ่วต่ำ เปลือกตาปิดแน่น จนกระทั่งน้ำค้างหยดสุดท้ายหยดออกไปจากท่อนไม้ฟืนของเขา ที่รักจึงปล่อยมือ ปล่อยปาก ทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาอย่างหมดเรี่ยวแรง             ดนัยก้มลงไปดูดดึงเนินเนื้อตรงปลายยอดสีจางอีกครั้ง ลากลิ้นยาวๆ ซ้ายที ขวาที สลับกันไปจนกระทั่งพอใจแล้วจึงทิ้งตัวลงนอนหงาย สองมือเสยผมตัวเอง อมยิ้มอยู่กับหลังคาเตียงแววตาสุกใส      
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม