บทที่ 9 เรื่องของความรัก

1670 คำ
..ทางด้านสปาย.. ผมได้ยินชัดเจนทุกคำ เพราะน้องสาวตัวดีของผมมันป่าวประกาศลั่นโรงอาหาร ดีนะที่คนไม่ค่อยเยอะ แต่ก็นั่นแหละครับ ผมว่ายังไงไอ้เพจบ้าๆนั่นมันเอาไปลงอีกแน่ ผมได้แต่ยืนกำหมัดแน่น แล้วเดินไปหาน้องสาวตัวดี ที่บอกกี่ทีก็ไม่เคยฟังว่าไอ้นนท์มันไม่เคยรักไม่เคยชอบ "สปอยมานี่เลยเป็นไงงามหน้ามั๊ยไปบอกรักผู้ชาย แล้วเป็นไงมันเคยเห็นหัวแกบ้างมั๊ยกี่ปีแล้วที่แกตามตื๊อมันห๊ะ" ผมตะคอกน้องออกไปสุดเสียงด้วยความลืมตัว ทั้งที่รู้ว่าน้องเสียใจอยู่แต่มันอดไม่ได้เพราะผู้ชายที่เธอชอบดันเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับผมน่ะสิ "ใช่สิคนอย่างพี่มันไม่เคยรักใครจะไปรู้อะไรล่ะ สักวันนึงเถอะถ้าพี่เกิดรักใครจริงขึ้นมา แล้วเขาปฏิเสธพี่แบบที่หนูโดน แล้วพี่จะเข้าใจความรู้สึกของหนูเอง" พูดจบเธอก็วิ่งออกไปจากตรงนั้น.. "สปอยๆ กลับมานี่นะ โธ่โว้ยยย...ทำไมต้องเป็นมึง เป็นมึงอีแล้ว" "มึงใจเย็นดิวะ น้องมันเสียใจอยู่มึงควรปลอบไม่ใช่ซ้ำเติมไหมอีกอย่างเรื่องความรักมันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะ" เสียงของโปเต้ "ความรักห่าเหวอะไร กูว่ามันไร้สาระการเรียนก็แย่พอละยังจะมามีเรื่องผู้ชายอีกงามจริงน้องกู" สปายบ่นพึมพำ "เอาน่ามึงก็ให้เวลาน้องมันหน่อย คงเหมือนที่น้องมึงพูดแหละถ้าวันใดมึงเกิดรู้สึกรักใครขึ้นมาจริงๆ มึงจะรู้เองว่าความรักมันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลยสักนิดที่มึงกินไปทั่วเพราะมึงยังไม่เจอคนที่ใช่ไง" เสียงของโปเต้ "เห้ยย..วันนี้มึงมีสาระจังวะไอ้ปีกาจู" เป็นเสียงของบีกันต์ "กูชื่อโปเต้ครับ ไอ้บีเกิ้ล" โปเต้ตอบกลับอย่างเซ็งๆที่มันชอบล้อชื่อเล่น "กูก็ชื่อ บีกันต์ครับ บีเกิ้ลนั่นมันหมามั๊ย" "อ้าวกูคิดว่ามึงเป็นหมา เห็นว่างไม่ได้ติดสัตว์ตลอด" "ไอ้สันขวานนน" ทั้งสองปะทะฝีปากกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร "กูถามจริงปีนี้พวกมึงอายุเท่าไหร่กันแล้ว" เสียงซีดี "ยี่สิบสองแล้ว ทั้งสองตอบพร้อมกัน" "ก็ยังดีที่พวกมึงจำอายุของตัวเองได้ กูคิดว่าสองขวบซะอีกเห็นชอบเถียงกันเป็นเด็กๆ " "ไปเหอะขึ้นเรียนกัน คืนนี้ไปตื๊ดกันหน่อยมั๊ยวะ" "ไป" ทั้งสามประสานเสียงตอบกลับสปายด้วยความพร้อมเพรียง .................... เอาจริงๆ ฉันได้ยินนะที่ยัยสเปิร์มมันบอกชอบพี่นนท์ต่อหน้าคนทั้งโรงอาหาร แล้วก็หน้าแตกไปตามระเบียบแต่ตอนที่เขาตอบยัย สเปิร์มทำไมต้องมองมาทางฉันด้วยนะเหมือนจะบอกว่าที่พูดมาเป็นความจริง แล้วเขาจะบอกฉันทำไมกัน.. ติ้งไลน์..เสียงไลน์ดังขึ้นฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แด๊ด : วันนี้พ่อนัดลุงชลที่ผับจะคุยเรื่องงานเลี้ยงประจำปีกัน เดี๋ยวหนูมากับพี่นนท์เลยนะ ลูกสาว : พ่อคะหนูไปเองก็ได้หนูโตแล้วค่ะ แด๊ด : อย่าดื้อ ตามนี้แหละ ลูกสาว : ส่งสติ๊กเกอร์ไฟกลับไป แด๊ด : ส่งสติ๊กเกอร์ ยิ้มหวานกลับมา ลูกสาว : ส่งสติ๊กเกอร์นวม..มวย แด๊ด : 5555 ชวนเพื่อนๆ มาด้วย เพราะว่าพ่อจะให้ชวนมางานเราด้วยอยู่แล้ว.. ลูกสาว : สติ๊กเกอร์นั่งเคาะโต๊ะ แด๊ด : สติ๊เกอร์รูปหัวใจส่งจูบ ฉันนี่ร้องกรี๊ดเลยยลืมตัวว่าไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะโดนขัดใจ "เป็นไรยัยวี่ ทำหน้าเหมือนอยากจะไปออกรบ" เป็นเสียงของข้าวตังที่นั่งไกล้ที่สุด "เปล๊าาา" "มีพิรุธสุดๆ เลยนะยะ บอกมา" นางทำหน้าแบบอยากรู้สุดๆ ขนมจีนไง "ก็คุณพ่อนะสิให้ฉันไปผับกับพี่นนท์ แล้วให้ชวนพวกแกไปด้วย" "ว๊าย..ตอบตกลงให้ไวเลยค่ะเพื่อนสาวเออว่าแต่พ่อแกรู้จักพี่นนท์ด้วยหรอ" เป็นเสียงของน้ำเงี๊ยวไงจะใครล่ะ "เออนั่นดิ แกไปรู้จักพี่นนท์ตอนไหน" เสียงขนมจีน "สรุปฉันต้องเล่าให้พวกแกฟังใช่ไหม" "ใช่ " ทั้งสามประสานเสียงโดยพร้อมเพรียงกัน.... เล่ามาให้หมดห้ามกั๊ก แต่ถ้าคิด จะพักคิดถึงที่นอนนนะยู..คิคิ เป็นเสียงของขนมจีน "เฮ่ออ..คืองี้นะ ซุบซิบ ซุบซิบ@#$%&" "โห้ !! พรมลิขิตชัดๆ วี่เอ้ยแกทำบุญด้วยอะไรเนี่ยยยฉันละอยากจะกรี๊ดดังๆ..." อ้าย...อุบบนางทำท่าจะกรี๊ดจริงๆน่ะสิ ฉันเลยเอามืออุดปากนางเอาไว้ได้ทัน ตอนนี้หมดคาบเรียนแล้วแต่เรามานั่งรวมตัวกันอยู่ ณ.ที่ประจำอันเป็นที่พักพิงของพวกเราค่าา "ยัยบ้าแกจะกรี๊ดทำไมนังเงี้ยว" "อู้อี้..อืออ..ออกก็ฉันจะโว้ยยย..เอามือออกเลยยัยหวี่ มือแกไปทำไรมาเนี่ย" "อ๋อฉันไปเข้าห้องน้ำมาแล้วลืมล้างมือ" "อี๋ยัยบ้าาาแล้วแกเอามาอุดปากฉันเนี่ยนะ แหวะๆ อุ๊บว่าละเค็มแปลกๆ " "เว่อร์ให้น้อยๆ หน่อยแกนังเงี้ยวเล่น ใหญ่ปานรัชฎาลัยเธียเตอร์ไม่มี สปอนเซอร์จ่ายหรอกนะจ๊ะหึหึ.. "เออดูละเล่นใหญ่พอๆกันทั้งคู่ล่ะ" เป็นเสียงยัยแม่ชีประจำกลุ่ม "แล้วสรุปแว่" " ว่าาา " ทั้งสามประสานเสียงกันโดยมิได้นัดหมายเมื่อนังเงี้ยวยังไม่เลิกเล่น... "แหมขำๆ ไหมวะพวกแกนี่จริงจังกันไปได้ สรุปไปนะไปพวกแกกลับกัน" "ฉันจะไปจิกชุดสวยๆ ค่าาพ่อเพื่อนแสนดีขนาดนี้ต้องให้เกลียดสุดๆ" "เกียรติค่ะเกียรติ ไม่ใช่เกลียด" เป็นเสียงขนมจีน "เออ..ฉันพูดไม่ชัดนิดเดียวทำเป็นแย้งชิ" หล่อนทำปากยู่ใส่เพื่อนๆ "ว้ายยย..พูดถึงไม่ทันไรว่าที่สามีของหล่อนก็เดินมาโน่นละอารมณ์เหมือนแบบเจ้าชายมารับเจ้าหญิง..โอ้ยยฉันล่ะฟินนนเลยค่าชีวิตแกล่ะมันน่าอิจฉาจริงๆนังวี่เอ้ย" "แล้วดูแต่ละคนเดินมามาดอย่างกะบอยแบน ฉันละอยากเป็นแขนของเขาจัง" พูดจบก็ทำท่าเพ้อฝัน "แขนอะไรล่ะนังเงี้ยว" "ก็แขนเป็นฟอ ขอเป็นแฟนไงล่ะนังจีน" " โห่ห่ห่ " .เมื่อเงี้ยวพูดจบก็ได้รับเสียงโห่มาเป็นรางวัลปลอบจิตปลอบใจ "เรื่องเพ้อเจ้อขอให้บอก ยัยลูกรอกถนัดนักแล" "พูดใส่ตัวเองก็ได้วุ้ยย.."เป็นเสียงขนมจีน "สาธุๆๆๆๆ..งวดนี้เลขอะไรคะเจ้าแม่ลูกกรอก.." "เหอะๆๆ..เงี้ยวนั่งสั่นประดุจดังเจ้าแม่มาประทับร่าง..สะ..สอง..สะ..ศูนย์..โว้ยยยฉันไม่ใช่ลูกกรอก แต่ถ้าหวยออกก็อย่าลืมน้ำแดงด้วยละกัน" "ฮ่าๆๆ..กลุ่มน้องเนี่ยฮานะครับ" เป็นเสียงของลีโอสายรั่วประจำกลุ่ม.. "โอ๊ะโออ..คือพี่ๆ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ คือมันไม่ใช่อย่างที่เห็นเลยนะคะคุณพี่สุดหล่อขา.. คือจริงๆ หนูเป็นคนเรียบร้อย กริยาชดช้อยมากๆ ค่ะ.. "ไม่ทันแล้ววว" ทั้งหมดประสานเสียงกันโดยมิได้นัดหมายอีกครั้ง.. "อุ้ยยย..แหะๆ เขิลลจุงงงง" "พี่นนท์มารับวีวี่หรอคะ"ข้าวตังถาม "ครับบ" "เฮ่อออ..วี่ไปเองได้ค่ะไม่รบกวนพี่หรอก ถ้าพี่มาเพราะคำสะ" ฉันพูดยังไม่ทันจบพี่นนท์ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน "พี่มาด้วยใจครับ" "วี๊ดดดดวิ้วววี๊ดดดวิ้วว..เอาละโว้ยหินของมหาลัยมันกำลังจะจีบสาววะ" เป็นเสียงของบาส "กรี๊ดดดดๆๆ...เพื่อนวี่จะลงจากคานแล้วโว้ยยย" ฉันนี่อิ้งไปเลยค่ะกับคำตอบของเขานี่พูดได้หลายคำด้วยนะคิดว่าพูดเป็นคำเดียวซะอีก เป็นบุญหูของฉันหรือเปล่าเนี่ยย..ฉันได้แต่คิดในใจ "เฮ้ยๆๆ ไอ้นนท์มันพูดได้มากกว่าหนึ่งคำแล้วโว้ยยย" เป็นเสียงของบอล "พระอาทิตย์จะขึ้นทางตะวันตก ฝูงวิหกจะแตกรังแน่หนักหนา จากกลางคืนเป็นกลางวันเนิ่นนานมา ทั่วธาราปลาน้อยใหญ่ไม่หวนคืน" เป็นเสียงของลีโอ "เป็นไปแล้วบักฝรั่งโอ้มายกอด ไอ้เพื่อนยอดสำนักกลอนแห่งวังหลวง โอ้ยอดรักแห่งตำหนักสะท้านทรวง ไร้คู่ควงช่างน่าขันเสียงจริงเอยย" "ปรบมือดิครับรออะไร"เป็นเสียงของบอลอีกแหละ และทุกคนก็ปรบมือตาม "โห..กูคิดว่าสุนทรภู่มาเองเลยนะ ว่าแต่มึงแต่งกลอนเป็นหรอว๊ะไอ้ลีโอ" "อืมกูชอบอ่านประวัติของสุนทรภู่".. เยสสสสเข้ อาปาเดเฮเดเฮเดเฮ" "หยุดกันก่อนนะคะพวกพี่ๆ ว่าแต่พวกหนูตลก นี่พวกพี่เล่นพกกลอนแปดมาว่าพี่มีแต่กลอนหรอคะแล้วประตูมียังเอ่ยย เป็นเสียงของขนมจีน "นี่เราสนิทกันขนาดนั้นเลยหรอครับ" เป็นเสียงของบาสคราวนี้ทุกคนเงียบกริบเหมือนไม่มีใครอยู่ณ.ที่แห่งนี้เลยเพราะบาสทำหน้านิ่งๆ เหมือนจริงจังแต่แล้วเจ้าตัวก็พูดต่อ "พี่ล้อเล่นครับ" "เฮ่อออ.." ทุกคนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก "มัวแต่เล่นไร้สาระเสียเวลา" เสียงของชานนท์พูดจบก็เดินไปคว้าแขนของคนตัวเล็กให้เดินตามตนเองไปที่รถต่อหน้าต่อตาของทุกคน ที่ยังดูอิ้งๆ กับคำพูดของเพื่อนของตัวเองที่พูดเป็นประโยคยาวๆ ได้ "อะเอ่อ..พวกพี่ๆจะไปผับกันมั๊ยคะ พวกเราตามไปกัน" เป็นเสียงของขนมจีน "ไปสิครับ" "ไปค่ะงั้นแยกย้ายเจอกันที่ผับ" แล้วทั้งหมดก็สลายตัวกันไป..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม