ตอนที่14 หวงสะกดแบบนี้
" เมื่อไหร่ พี่ไม่เห็นรู้เรื่อง "
" ตอนที่พี่รามิลไปต่างประเทศค่ะ " แววตาคมที่ปฝงความหวานไว้แปรเปลี่ยนเป็นแค้นจ้องมองชายเหล่านั้น ไม่นานกวินก็มาถึงพร้อมกับคนของเขาราวๆ20คนได้ จนชาวบ้านระแวกนั้นต่างหวาดกลัวปิดบ้านสนิทไม่มีใครกล้าออกมาดูสักคน
" พวกมันเป็นใครวะ " กวินกัดฟันกรอดถามออกมาอย่างคนอารมณ์ร้อน
" พวกไอ้ชาติชายค่ะ " มะลิตอบ
" ชาติชั่วมากกว่าถ้ามาแนวนี้ " รามิลพูดตามหลัง สายตาคมกริบของกวินมองเข้าไปด้านใน ยิ่งเห็นหญิงสองคนที่ยืมท่ามกลางกลุ่มชายรูปร่างกำยำแบบนั้น เขาแทบอยากพุ่งตัวเข้าไปในทันที
" พร้อมหรือยัง " กวินกดเครื่องมือสื่อสารที่ใส่ไว้ที่ใบหูถามออกไป
" กันตัวผู้หญิงออกมาก่อน เอาความปลอดภัยเป็นหลัก "
" มันหนีได้ให้มันหนีไป " น้ำเสียงในประโยคสุดท้ายพานให้รู้สึกเย็นไปถึงหัวใจ
พรึบๆๆๆ กลุ่มคนของกวินบุกเข้าไปประชิดตัวของคนหลุ่มนั้นด้วยความรวดเร็วโดยที่มันไม่ทันตั้งตัว
" อย่าเข้ามา ไม่งั้นกูยิง " มีชายคนหนึ่งที่ไหวตัวทันจับตัวของเกวลินล็อคคอไว้พร้อมกับจี้ปืนเข้าที่ข้างกมับ มะลิมองเพื่อนพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาช้าๆและเกวิลนก็มองเธอกลับมาแวบหนึ่งเช่นกันก่อนจะหลับตาปี๋เพราะความกลัว
" เอาตัวไอ้พวกนี้ออกไป " สิ้นสุดคำสั่งของกวินกลุ่มชายที่ถูกล็อคตัวไว้นับสิบก็ถูกนำตัวออกไปขึ้นรถที่ด้านนอกตามวิถีมาเฟียของเขา
" คุณกวิน ฮึก เกลกลัว "
" เกล " มะลิทำท่าจะปรี่เข้าหาเพื่อนสาวทว่ารามิลกับดึงเธอมาไว้ในท่าโอบและส่ายหน้าห้ามให้อยู่ดูท่าทีก่อน
" เกลลูกเกล " คุณยายมาริสาที่เห็นหลานสาวตกอยู่ในเนื้อมือคนชั่ว จิตใจที่เคยแข็งแกร่งก็อ่อนระทวย
" ปล่อยผู้หญิงแล้วฉันจะปล่อยแกไป " กวินพูดเสียงเข้ม พร้อมยืนประชันหน้าอย่างไม่กลัว
" ปล่อยไปมึงก็ฆ่ากูอยู่ดี " ชายคนนั้นตอบกลับมา ท่าทางร้อนรนเหมือนหาทางหนี
" กูจะไม่ทำอะไรมึง ขอแค่มึงปล่อยเธอคืนมาให้กู แต่ถ้ามึงทำอะไรเธอลูกเมียมึงที่รออยู่ที่บ้าน กูไม่รับรอง!! " เขากดเสียงต่ำลงในประโยคท้ายๆซึ่งทำให้มันสายตาวูบไหวลงอย่างเห็นได้ชัด
" ใครส่งมึงมา " กวินแกล้งถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
" นะ นายชาติชาย "
" มันให้มึงเท่าไหร่ " กวินถามเข้าประเด็นเพราะรู้ทันเกมส์มาตลอดว่าคนที่มาทำงานแบบนี้ล้วนทำเพื่อเงินเท่านั้น
" ห้าแสน "
" กูให้มึงล้านหนึ่ง ให้มึงมาทำงานให้กู " รามิลยกยิ้มมุมปากพอใจกับวิธีของเพื่อน เพราะหากเป็นเขาก็คงคิดจะทำแบบเดียวกัน
" กูจะเชื่อมึงได้ยังไง? "
" ระหว่างกูกับไอ้ชาดชั่วนั้น ใครน่าเชื่อถือกว่ากัน " มันนึกตามคำของกวิน ก่อนที่ลดปืนลง
ผลักกก!!! ร่างเล็กของเกวลินถูกผลักส่งให้กวินด้วยความแรงจนเธอเซถลาแทบล้มทั้งยืน มันทิ้งปืนลงพร้อมกับนั่งคุกเข่าในท่ามอบก่อนที่ลูกน้องของกงินจะเข้ามาล็อคตัวมันไว้
" เอาตัวไปก่อน " หลังจากได้รับคำสั่งกลุ่มชายสูทดำน่ากลัวเหล่านั้นก็ออกจากบ้านของคุณยายไปจนหมด เขาเคลียร์สถานการณืเคลียร์พื้นที่ได้อย่างรวดเร็วอย่างคนที่มีวุฒิภาวะ แม่อายุจะยังไม่ถึง30 จนคุณยายมาริสาชื่นชมในความกล้าของเขาในครั้งนี้
" ฮึก ยาย ยายขา ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ " หลังจากที่เกวลินเป็นอิสระเธอก็โผเข้ากอดคุณยายพร้อมด้วยน้ำตาที่ไหลหลั่งออกมา มือเหี่ยวลูบหัวปลอบขวัญมะลิก็เข้ามากอดทั้งสองพร้อมกัน
" ขวัญเอ้ยขวัญมานะลูกนะ ไม่เป็นไรแล้ว อย่าร้องๆ "
" กูขอโทษนะ " มะลิลูบหลังเพื่อนสาวอย่างเป็นห่วงและรู้สึกผิดที่พาเธอต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้
" มันไม่เกี่ยวอะไรกับมึงเลย " เกวลินตอบกลับเพื่อน
" แต่..."
" อย่าโทษตัวเอง มึงคือเพื่อนกู " เสียงพูดปนสะอื้นของเกวลินทำให้มะลิหลั่งน้ำตาแหล่งความรู้สึกผิดออกมา
" ให้กูช่วยไหม " รามิลถามหลังจากที่ออกมาจากบ้านของคุณยายมาริสา กวินฉายแววตาคมกริบอย่างเคียดแค้นเมื่อนึกถึงหน้าของคนที่บงการ
" ไม่ต้อง ขี้กากแบบมันจัดการได้ไม่ยากหรอก " กวินตอบ
" มันเป็นเจ้าหนี้ของที่บ้านมะลิจริงหรอวะ "
" เออ..แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับมะลิหรอกมันแค้นกูส่วนตัว " รามิลที่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดในคราแรกเขาอยากเข้าไปจัดการด้วยแต่กวินขอจัดการเรื่องนี้เอง
ช่วงเย็นวันเดียวกัน
" เดี๋ยวไปรับ "
" จะพาไปไหนคะ "
" คิดถึง อยากอยู่ใกล้ๆ " คนที่ได้ฟังต้องหายใจเข้าลึกๆเก็บอาการเขิน เธอไม่เคยชินเลยที่โดนเขาหยอดคำหวานใส่
รามิลเจ้าของใบหน้าหล่อละมุนขับรถหรูมาจอดที่หน้าบ้านของคุณยายมาริสา และหญิงสาวคนที่เขาพบหน้าหลังจากที่พึ่งจะแยกกันได้ไม่นานก็เดินออกมาและขึ้นมานั่งด้านข้างของเขา สายตาจ้องมองเธอด้วยความหลงไหล ผมยาวของเธอถูกมัดรวบหางม้า ใบหน้าเนียนใสธรรมชาติไร้เครื่องสีแต่งแต้ม ทำให้เขาอดที่จะโน้มใบหน้าเข้าไปหอมฟอดลงที่แก้มใส
" พี่รามิล " เธอทัดทานเล็กน้อยเพราะความเขินอาย และได้รับเป็นรอยยิ้มหวานของเขากลับมา
" ไปอยู่ด้วยกันไหมไม่อยากห่างไปไหนเลย " เขาพูดกับเธอน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟัง
" พูดไปเรื่อยพี่รามิล จะพาไปไหนคะ ไปสิ "
" ค้างได้ไหม " เขาถามออกมาพร้อกับมองเธออย่างมีแผนการ
" ต้องมาส่งก่อนฟ้าสางค่ะ " ชายหนุ่มยกยิ้มพอใจในคำตอบ ก่อนจะเริ่มเคลื่อนรถออกไป
ตึกสูงริมแม่น้ำ ห้องกว้างสุดหรูเต็มไปด้วยเฟอนิเจอร์ราคาแพง การตกแต่งดูทันสมัยหรูหราสมราคา หญิงสาวมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกทึ่งเล็กน้อย
" ชอบไหมคะ " ชายหนุ่มที่ยืนด้านหลังโอบเอวไว้พร้อมถามชิดที่ใบหู ลมหายใจร้อยๆเป่ารดลงที่ผิวเนียนพาให้รู้สึกสูบวาบแปลกๆ
" ก็ชอบค่ะ แต่คงไม่มีวาสนา " เธอตอบกลับก่อนจะหันมามองหน้าเขา ยิ่งไดรู้จักเขามากขึ้นเธอยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรเหมาะกับเขาเลยสักนิด ความรู้สึกน้อยใจแล่นเข้ามาในหัวใจ และอยู่ๆเธอก็คิดอยากจะเว้นระยะห่างจากเขา
" ทำไมทำหน้าย่างนั้น คิดอะไร " รามิลเอ่ยถามเมื่อสังเกตสีหน้าของคนรักที่ดูไม่ค่อยมีความสุข และเมื่อถูกถามเธอก็ปรับสีหน้าให้ยิ้มออมาก่อนจะโผเข้ากอดเขาแน่นๆเป็นครั้งที่เธอรู้สึกว่าอยากกอดเขาเอาไว้แบบนี้
" ทำไมวันนี้อ้อนจัง " รามิลเอ่ยถามพร้อมกับยกมือมากอดตอบและค้างไว้ที่แผ่นหลัง แต่คนตัวเล็กก็ไม่ได้พูดอะไรกลับมา
กล่องของขวัญสีดำผูกด้วบริ้นโบว์สีแดงถูกยื่นให้หญิงสาวขณะที่เธอนั่งดูมือถืออยู่ที่โซฟาห้องรับแขก เธอเงยหน้ามองเขาอย่างสงสัยก่อนจะรับมันมา
" อะไรคะ " รามิลยิ้มส่งมาพร้อมกับนั่งลงข้างๆเธอ
" จะให้ใส่ไปไหนคะ "
" เปลี่ยนก่อนเดี๋ยวพาไป
คนตัวเล็กกับชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวผ้าซาตินของแบรนด์หรูบนเรือนร่างที่สมส่วนของเธอ ด้านหลังเปิดเผยให้เห็นแผ่นหลังบางๆที่ขาวเนียนและด้วยความสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยทำให้เรียวขาของเธอดูรับกับรองเท้าส้นสูงสีเบจ ชายหนุ่มไม่อาจละสายตาจากคนตรงหน้าได้
" จะไปกันเลยไหมคะ " คนที่ถูกมองรู้สึกเขินอีกครั้งเมื่อเจอสายตาแบบนี้ของเขา อยู่ๆความรู้สึกหวงก็เกิดขึ้นมาในใจเมื่อเธอเดินหันหลังไปหยิบกระเป๋าทำให้เขาเห็นแผ่นหลังที่โชว์นอกเนื้อผ้าออกมา เสียงถอนหายใจฮืม~ ออกมายาวเฟื้อยตามด้วยเสื้อสูทตัวนอกที่ถูกถอดออกและนำไปคลุมไหล่ให้กับเธอ
" ข้างบนลมแรง " (ข้ออ้างแต่ความจริงคือหวง) มะลิไม่ได้ปฏิเสธเขาแต่อย่างใด แต่เมื่อมองสำรวจเขาคืนบ้างก็เกิดอยากถอดเสื้อสูทนี้คืนไป เชิ้ตดำที่เขาปลดกระดุมลงสองเม็ดจนเห็นกล้ามอกแวบๆ แขนเสื้อที่ถูกพับขึ้นจนเห็นลำแขนที่มีเส้นเลือดเล็กน้อย แต่เพียงแค่นี้มันก็ทำให้เขาดูเซ็กซี่จนมะลิเกิดหวงขึ้นมาบ้าง
" เราจะไปไหนกันคะ " เขาเดินจูงมือเธออกมาจากห้องก่อนจะเข้าไปในลิฟท์และกดไปที่ชั้นบนสุดของคอนโด