ตอนที่13 เจ้าของดอกไม้สีขาว
รุ่งเช้า
คนตัวเล็กที่ตื่นมาก่อนกำลังจ้องมองใบหน้าหล่อละมุนของคนตัวโตที่หลับสนิทอยู่ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะยอมตกเป็นของเขาในเวลาอันสั้นแบบนี้ ในใจก็แอบหวั่นเล็กน้อย ปลายนิ้วไล่เกลี่ยที่กรอบหน้าได้รูปของเขาอย่างต้องการจจำ ผิวหน้าที่เนียนละเอียดราวกับผู้หญิงทำให้เธออดไม่ได้ที่จะกดหอมลงไปเบาๆ ครั้งที่1 2 3 4 มะลิกดจมูกลงบนแก้มเขาซ้ำๆจนคนที่หลับอยู่รู้สึกตัวขึ้นมา
" แอบหอมพี่หรอคะ "
" ไม่ได้แอบค่ะ แต่หอมเลย " ว่าแล้วเธอก็กดจมูกลงไปอีก 1 2 3
จุ๊บ~ เขาหันหน้ามาทำให้ริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกัน
" morning kiss " เสียงทุ้มพูดออกมาพร้อมกับสบตาเธอ ทำให้คนตัวเล็กถึงกับก้มหน้าลงที่หมอนจนเกือบจะขาดอากาศหายใจ
" แพ้...มะลิแพ้ทุกทีเลย " เธอพูดออกมาพลางหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง นึกโกรธตัวเองที่เก็บทรงไม่เคยอยู่เมื่อต้องเจอกับสายตาและน้ำเสียงแบบนี้ของเขา
" พี่รามิล ขอห้ามข้อหนึ่งได้ไหมคะ " เขาลุกขึ้นนั่งพร้อมกับรอฟัง เธอหันกลับไปมอง
" ป้าดโธะ!! " เสียงใสอุทานออกมาเมื่อชายหนุ่มนั่งถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็คลอนใหญ่กับผิวขาวๆสะท้อนกับแสงตอนเช้า ทรงผมที่ปล่อยธรรมชาติกลับดูดีเหมือนกับคนที่อาบน้ำวันละสิบรอบ
" อยากทำอะไรมากกว่ามองไหม " เขาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอจ้องเขาไม่วางตา คนตัวเล็กที่ได้สติสะบัดหน้าสองสามทีก่อนจะมองที่หน้าของเขาแทน
" อย่าทำเสียงแบบนี้ใส่มะลิเลยนะคะ แล้วก็ไอ้สายตาแบบนั้นด้วย " เธอพูดเสียงอ้อนวอนพร้อมกับยกมือขึ้นมาประสานในท่าขอพร รามิลยกยิ้มเอ็นดูในท่าทาง ก่อนจะล้มตัวนอนลงที่ตักของเธอ
" พี่รามิลจะทำอะไรคะ "
" หิวนมค่ะ " เขาตอบทีเล่นทีจริงเมื่อยอดถันที่ไร้บรามันดันเสื้อออกมาเป็นรูปทรงตรงหน้าเขา คนที่ถูกล้อถึงกับหน้าแดงไปต่อไม่ถูกและห่อไหล่ลงอย่างต้องการปกปิด
" ทะลึ่ง "
" เมื่อคืนกินไม่อิ่มค่ะ นมหวานมาก "
" พี่รามิล!!! " เขาไม่ตอบโต้ด้วยคำพูดแต่กลับมุดหัวเข้าไปในเสื้อยืดของเธอแทน อันที่จริงมันก็คือเสื้อยืดของเขาที่เอาให้เธอใส่นอนนั้นแหละ
" ทำอะไรพี่รามิล มะลิจั้กจี้ " หญิงสาวพยามเปิดเสื้อออกจากเขาแต่เหมือนมันเป็นการขยับให้เขาทำอะไรได้สะดวกขึ้นมากกว่า
" อ้ะอื้อ " เสียงทัดทานเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเสียงครางหวานเมื่อเขาจัดการกับเต้านั้นได้สำเร็จ ปากหยักครอบดูดที่ยอดหวานของเธอตามที่พูด(คนอย่างรามิลไม่เคยพูดเล่น)จนเจ้าของร่างกระตุกเพราะความเสว
" อื้อ พี่รามิลพอแล้วค่ะ อ้ะ " เมื่อได้ยินเสียงเธอพูดเขายิ่งดูดแรงขึ้นพร้อมเพิ่มความเร็วของลิ้นในการสะกิด เสื้อถูกเปิดขึ้นจนเขาเห็นเต้ากลมทั้งสองข้างชัดเจน เลือดในกายสูบฉีดแรงเขาไม่เคยห้ามตัวเองได้เลยสักครั้งที่อยู่ใกล้เธอ
" ขออีกได้ไหมคะ " เขาถามออกมาเสียงหวาน พร้อมส่งสายตาต้องห้ามให้เธอ
" ถ้าบอกไม่ให้จะหยุดไหมคะ " เธอถามกลับ เขายกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบ
" ไม่หยุดครับ " ว่าแล้วเขาก็ลุกขึ้นมาบดจูบเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่มนั้นอีกครั้งพร้อมกับมือหนาที่เคล้นคลึงเต้ากลมเด้งอย่างมันมือ หญิงสาวได้รับบทเรียนอันเร่าร้อนอีกครั้งในยามเช้าแค่เพียงไม่กี่ครั้งก็เหมือนเขาจะทำให้เธอเสพติดเซ็กจากเขาเข้าให้แล้วสิ
รอยจ้ำแดงที่เขาทำไว้ที่ซอกคอและหน้าอกจนหญิงสาวมองตัวเองที่หน้ากระจกและตกใจกับรอยนั้นเธอรีบวิ่งออกจากห้องน้ำทั้งที่ตัวห่อแค่ผ้าขนหนูเอาไว้
" พี่รามิล!! " เธอเรียกเขาเสียงดังจนคนที่กำลังยืนแต่งตัวอยู่หันมามองอย่างตกใจ
" เป็นรอยเต็มเลย " เขายกยิ้มอย่าพอใจพร้อมเดินเข้ามาหาแขนกร่งโอบรอบเอวไว้ก่อนจะหอมเข้าที่แก้มเนียนฟอด~~~
" แสดงความเป็นเจ้าของไง " เขาพูดออกมาเสียงนุ่ม
" หืม~ เล่นเหมือนเด็กๆไปได้ " เธอพูดพร้อมกับหันหน้าหนี
" เด็กไม่เด็กคนบางคนก็ร้องเกือบขาดใจแนะ " คำพูดกำกวมจากคนตัวสูงเรียกสีแดงขึ้นมาที่ใบหน้าของคนฟังอีกครั้ง จนเธอต้องถอยออกจากอ้อมกอดของเขาเพื่อไปแต่งตัวอีกทาง
บ้านหลังใหญ่ของคุณยายมาริสา
" ให้เขาไปด้วยไหม " รามิลเอ่ยถามเมื่อจอดรถที่หน้าบ้านของคุณยายในเวลาพลบค่ำ
" ไม่ต้องก็ได้ค่ะเกรงใจ กลับบ้านดีๆนะคะ " เธอตอบกลับพร้อมกับเปิดประตูลงรถอย่างรวดเร็ว เขาได้แต่ลดกระจกลงมองตาแห่นหลังของหญิงสาวจนเธอหายเข้าไปในบ้าน
" คุณยาย " เสียงสดใสของหลานสาวคนที่สองของคุณยายมาริสาดังมาจากหน้าประตูทำให้เกวลินและคุณยายมาริสาหันมามองพร้อมกัน
" เหนื่อยเลยใช้ไหม ทำงานขามวันข้ามคืน " คุณยายมาริสาเดินเข้ามาถามด้วยท่าทางอบอุ่นเช่นเคย
" มาถึงบ้านก็หายเหนื่อยเลยค่ะ "
" ปากหวาน "
" จ้า " เกวลินที่ยืนฟังคำหวานของสองคนด้วยความหมั่นไส้จนพูดขึ้นมาพลางมองออกไปที่หน้าประตู รถสีดำคุ้นตาทำให้เธอจำได้ทันที
" มะลิ!! ใครมาส่งมึงวะ " ใจของเธอกระตุกเล็กน้อยเมื่อถูกเพื่อนถามมาแบบนั้น
" พี่รามิล " เธอเลือกที่ตอบออกไปตามตรง
" หึ..ทำไมพี่รามิลได้มาส่ง "
" บังเอิญ " มะลิตอบอย่ากำกวม
" บัง.. "
" คุณยายขา...มะลิหิ้วหิว ไปกินข้าวข้างนอกไม่อร่อยเหมือนของคุณยายเลยค่ะ " เธอเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อมาหาของกินแทนก่อนที่จะถูกเพื่อนสาวไล่ต้อนจนหมดทาง
" เออ...ยัยเกลนี่ถามเป็นเด็กไปได้เพื่อนเขาโตแล้ว เซ้าซี้ " คุณยายมาริสาพูดออกมาแบบนั้นทั้งที่ก็พอมองเกมส์ออก
ในห้องนอนของสองสาวเกลินที่แอบตะหงิดใจกับเรื่องของเพื่อนสาวเธอมองมะลิที่เดินเข้าไปอาบน้ำและออกมาจนมาหยุดที่ตู้เสื้อผ้า
" มึงสงสัยอะไรในตัวกู " มะลิที่เห็นท่าทางของเพื่อนก็เอ่ยถามขึ้นมา
" มึงกับพี่รามิลมีอะไรที่ปิดบังกูอยู่ " มะลิใส่ชุดนอนเดินกลับมาหาเพื่อนที่เตียงนอน
" อ่ะดู " เธอเอียงคอที่มีรอยแดงจากการแสดงความเป็นเจ้าของของรามิลให้เกวลินดู
" อีมะลิ นี่มึง.."
" เออ ที่กูหายไปเมื่อคืน กูอยู่กับเขาพอใจยัง " เกวลินยกมือขึ้นมาปิดปากยิ้มเขินออกมา พร้อมมองรอบแดงที่คอและอกของเพื่อน
" พอเลยมึงไม่ต้องยิ้มเลย "
" ถามหน่อยดิ " เกวลินขยับเข้ามาใกล้เพื่อนอย่างต้องการอยากรู้
" แซ่บไหมวะ? "
" อีเกล " มะลิเรียกเสียงดุจนเกวลินสะดุ้ง
" สุดๆ " คิกๆๆๆ เสียงหัวเราะของสองสาวดังทั่วห้อง อย่างถูกอกถูกใจ
รุ่งเช้า
" คุณยายมะลิไปทำงานก่อนนะคะ " เธอเดินมาบอกคุณยายมาริสาที่นั่งอบขนมในห้องครัวในยามเช้าตรู่
" กินข้าวไหมลูก ยายทำกับข้าวไว้ "
" อยากกินนะคะ แต่ว่ามะลิต้องนั่งเท็กซี่ไปเอารถก่อนกลัวจะสายค่ะ "
" งั้นไปเถอะลูกไป ตอนเย็นอยากกินอะไรยายจะทำไว้รอ "
" อืม...ไก่ตุ๋นมะระค่ะ "
" โอเค ยายทำรอนะ " จบบทสนทนามะลิก็เดินออกไปรอที่ปากซอย
เสียงเรียกเข้า~~~~~~
" ครับ " รามิที่เห็นเบอร์โทรเข้ามาก็กดรับทันที แต่ต้องขมวดคิ้วเมื่อปลายสายพูดมา
" พี่จะไปตอนนี้เลย อย่่าไปไหนจนกว่าพราจะไปถึง " หลังจากตัดสายจากคนตัวเล็กไปเขาก็รีบกดเบอร์โทรหากวินทันที
กลุ่มชายฉกรรจ์ราว 10 คนบุกเข้ามาที่บ้านของคุณยายมาริสาเป็นจังหวะเดียวกับที่มะลิกลับเข้าไปเพื่อเอาเอกสาร เธอนึกถึงเขาเป็นคนแรกเพราะเธอเองยังไม่มีเบอร์ของบอส
" มะลิ " เขาเปิดรถเข้ามานั่งกับเธอ
" พี่รามิล "
" ไม่เป็นอะไรใช่ไหม "
" ค่ะ แต่เป้นห่วงคนในบ้านจัง " มะลิตอบด้วยววตาเศร้า ดูเป็นกังวล
ทั้งสองคนลงจากรถและย่องไปดูที่มุมกำแพง
" พวกมันเป็นใคร "
" ต้นเหตุมาจากมะลิเองแหละ " เธอพูดอย่างรู้สึกผิด รามิลหันมองพร้อมกับตั้งคำถามบนใบหน้า
" เจ้าหนี้ของที่บ้านมะลิ มันเคยจับตัวมะลิไปแล้วเกลกับคุณกวินไปช่วยออกมาค่ะ มันน่าจะแค้น "
" เมื่อไหร่ พี่ไม่เห็นรู้เรื่อง "
" ตอนที่พี่รามิลไปต่างประเทศค่ะ " แววตาคมที่ปฝงความหวานไว้แปรเปลี่ยนเป็นแค้นจ้องมองชายเหล่านั้น ไม่นานกวินก็มาถึงพร้อมกับคนของเขาราวๆ20คนได้ จนชาวบ้านระแวกนั้นต่างหวาดกลัวปิดบ้านสนิทไม่มีใครกล้าออกมาดูสักคน