ไม่รู้เพราะเหมือนหรือเพราะจิตใต้สำนึก
ตอนที่1
ร้านไนท์คลับของกาย
หลังจากที่ทานข้าวเป็นเพื่อนคุณยายในเวลาหัวค่ำ ฉันก็ออกมาพร้อมกับรถของคุณกวินและยัยเกลนั่นแหละ เรานั่งกันอยู่ที่ห้องด้านบนที่เป็นห้องประจำการของพี่กายและเพื่อนๆของเขา เอาจริงฉันได้มารู้จักกลุ่มพวกพี่เขาเพราะเกวลินแหละที่พามา
" มะลิ ดื่มไหม " พี่เตชินหันมาถามฉันเหมือนกับทุกครั้ง และเช่นเดิมฉันก็ยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า จนพี่กายที่นั่งอยู่พูดแซวขึ้น
" มึงก็ถามน้องทุกรอบ น้องเขาก็ปฏิเสธทุกรอบ ไม่จื่อไม่จำ " (ใช่ค่ะไม่จื่อไม่จำ)
มะลิ (อายุ 21 ปี ) ตัวเล็กน่ารัก-เพื่อนสนิทของเกวลิน- (เรื่องหัวใจของกวิน)
เธอเป็นคนนิสัยกล้าได้กล้าเสีย ชีวิตครอบครัวของเธอไม่ค่อยอบอุ่นเท่าไหร่นัก(ถ้าได้ติดตามเรื่องของเกวลินก็จะรู้ถึงปัญหา)หลังจากที่เกิดเรื่องนั้น มะลิก็ขอเข้าทำงานต่อที่ KN Group และเป็นความโชคดีของเธอที่กวินสั่งบรรจุเธอเข้าเป็นพนักงานประจำทันที ทำให้เธอได้เงินเดือนในส่วนนี้มาเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน และได้รับความเมตตาจากคุณยายมาริสาที่ให้เธอพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังใหญ่นี้ด้วย
นั่งได้ราวๆหนึ่งชั่วโมงบุคคลสำคัญในคืนนี้ก็เดินปรากฎตัวมาที่หน้าประตู ใบหน้าหล่อละมุน สายตาคมแต่มีความหวานซ่อนอยู่ในนั้น ผิวที่ขาวจัดให้ทำดูโดดเด่นได้จากไกลๆ เขามองตรงมาที่เกวลินด้วยแววตาที่ซ่อนอะไรบางอย่างก่อนจะมองไปที่เพื่อนสนิทของเขาสลับไปมา
" พี่รามิล " เกวลินเอ่ยทักทาย ก่อนที่กวินจะลุกขึ้นและเข้ากอดเพื่อนเป็นการทักทาย และมานั่งลงข้างกับมะลิที่นั่งอยู่ตรงข้าม
" พี่ไปหาเกลที่บ้านมา ไม่รู้ว่าเกลอยู่ที่นี่ด้วย "
" อ่อ เกลมากับคุณกวินแล้วก็มะลิค่ะ " มะลิที่สังเกตสายตาของเขามันดูหม่นลงเล็กน้อย
" อือ ทำงานด้วยกันหนิเนอะ " ยิ่งพอเขาพูดประโยคนี้ออกมายิ่งทำให้คนฉลาดอย่างมะลิรู้ทันทีว่าเขากำลังปลอบใจตัวเองอยู่เพราะเดาใจเขาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าเขากำลังชอบเพื่อนของเธอมาก่อนหน้านี้ และเมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ด้วยความที่รู้จักกันมาก็นานพอสมควรเพราะก่อนหน้านี้รามิลเป็นอาจารย์สอนพวกเธออยู่ที่มหาลัย เมื่อก่อนเธอก็เรียกเขาว่าอาจารย์แต่เมื่อจบออกมาเขาก็แทนตัวเองว่าพี่ ทำให้พวกเธอต้องเรียกเขาว่า"พี่"แทน
เมื่อมองดูบรรยากาศที่เริ่มจะไม่ดี มะลิจึงยิ้มขึ้นมาก่อนจะหันไปทักทายเขาด้วยเสียงสดใสตามฉบับของเธอ
" พี่รามิล สบายดีนะคะ "
" สบายดี ดูโตขึ้นนะ สวยเชียว " เขาหันมามองเธอพร้อมกับยิ้มให้ก่อนจะตอบ แต่แววตานั้นมันดูไม่เหมือนเมื่อก่อน
" เว่อร์ค่ะ ไม่เจอกันแค่สองเดือนเอง " มะลิจึงเลือกตอบกลับไปแบบติดตลก เลยทำให้บรรยากาศตอนนี้กลับมาดีขึ้น
รามิล (อายุ28ปี) เจ้าของใบหน้าหล่อละมุนผิวขาวจัดน่ามอง นิสัยดี(แต่เธอกลับมองว่าเลว)
-อาจารย์หนุ่มอายุน้อยที่สุดของมหาลัย- แต่ตั้งแต่แม่ของเขาเรียกตัวให้ไปช่วยงานที่ต่างประเทศอยู่หลายเดือนทำให้เขาต้องยุติบทบาทการเป็นอาจารย์ และการที่เขากลับมาครั้งนี้เพราะกลับมารับช่วงต่อจากพ่อของเขาในการเป็นผู้บริหารห้างดังใจกลางเมือง
ใบหน้าของมะลิหยีตามทุกครั้งเมื่อรามิลยกเหล้าเข้าปากครั้งละครึ่งแก้วชนิดที่ว่าต่อให้คอแข็งแค่ไหนก็ต้องหิ้วปีก
" ไอ้มิล ดื่มอย่างกับจะรีบไปนอน " เป็นกายที่พูดขึ้น
" เออจริง เหล้าหนึ่งลิตรแม่งกินไปคนเดียวจนเหลืออยู่แค่เนี่ย " เตชินพูดต่อ รามิลมองเพื่อนสองคนสลับกันไปมาก่อนจะหัวเราะในลำคอและพูดขึ้น
" หึ~ กลัวหมดหรอ กูซื้อเพิ่มให้ " ว่าแล้วก็ควักเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงปึกใหญ่วางลงบนโต๊ะดังตุบ!!!
" พวกกูเป็นห่วงมึง มึงไม่เคยดื่มหนักขนาดนี้นี่หว่า " เตชินตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
" มีอะไรเล่าให้พวกกูฟังได้ไหมวะ " กายที่ขยับนั่งตัวตรงพร้อมกับถามขึ้น รามิลก้มหน้ามองแก้วเหล้าในมือ
" ไม่มีอะไร ไม่เป็นไร กูโอเค โอเคทุกอย่าง " พูดจบก็ยกเหล้าเทเข้าปากอีกครั้ง ก่อนจะมองหน้าของเพื่อนทีละคนที่มองเขาอยู่แต่ไปหยุดที่กวินและเกวลินสลับไปมาอยู่หลายครั้ง จนเขาต้องรีบดึงสติกลับมาก่อนที่น้ำตาที่กลั้นไว้มันจะไหลออกมา
เขาเงยหน้าสบัดไล่ความคิดเล็กน้อยและซึ่งเป็นการเงยหน้ายอมรับความจริงว่าคนที่เขาตั้งใจมาสารภาพความรู้สึกกับเพื่อนรักของเขากำลังเปิดใจให้กันอยู่ และเขาก็เทเหล้าดื่มอีกรอบ มะลิที่นั่งมองอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดพร้อมกับจับแก้วไว้
" พี่รามิล ค่อยๆดื่มก็ได้คะ มีเวลาทั้งคืนพวกเราไม่ได้รีบไปไหน " เขาหันมามองมะลิด้วยแววตาเศร้าแวบหนึ่งก่อนจะปรับให้มันเป็นปกติ แต่มันไม่สามรถเล็ดลอดสายตาของมะลิไปได้หรอก
" มึงไม่ต้องห่วง กูจะทำให้ดีที่สุด " เป็นเสียงกวินที่พูดขึ้นพร้อมกับมองจ้องหน้าของรามิลอย่างให้สัญญา
" กูเชื่อใจมึง " รามิลที่เริ่มออกอาการเมา ใบหน้าขาวใสที่แดงขึ้นมากับเสียงที่ยานๆ เขายกแก้วไปด้านหน้าชนกับกวินและเทเข้าปากพรวดอีกครั้ง
" กูว่าพามันไปนอนที่ห้องกูก่อนดีกว่าว่ะ " กายที่พูดขึ้น เมื่อมองดูสภาพของเพื่อนที่หนักเอาการ
" เดี๋ยวกูพามันไปเอง " กวินที่รับอาสาโดยมีเกวลินและมะลิเดินตามหลังไปติดๆ
" รู้ไหมฉันโคตรอิจฉาที่เธอรักเขา~ " เสียงเพลงในร้านยิ่งทำให้ใจของชายหนุ่มเจ็บช้ำขึ้น เขาหลับตาข่มความจุกหน่วงที่กลางอก
กวินเปิดห้องเข้าไปก่อนจะค่อยวางรามิลลงช้าๆ มะลิที่สังเกตทุกคนรอบข้างเธอก็พอจะรู้ได้ว่ากวินเองก็มีเรื่องที่จะคุยกับเกวลินเธอจึงอาสาดูแลรามิลต่อให้
" เดี๋ยวมะลิดูแลให้ค่ะ " หลังจากที่มะลิพูดทั้งสองก็เดินออกไป
มะลิรีบหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้เขาเผื่อคลายคความร้อนในร่างกาย
" ขอโทษนะพี่รามิล " เธอถือวิสาสะปลดกระดุมเสื้อเขาออกสามเม็ดอย่างไม่ได้คิดอะไร ก่อนจะใช้ผ้าที่หมาดเช็ดให้ตามหน้าอกและซอกคอ
" เกล พี่มาช้าไปใช่ไหม " มะลิที่ตกใจเมื่ออยู่ๆเขาก็จับมือเธอไว้พร้อมกับพูดประโยคนั้นออกมา
" นี่มะลิค่ะ บ่แม่นเกล " เธอพยายามดึงมือออกทว่าเขากับเพิ่มแรงจับแน่นขึ้น
" พี่ผิดเองที่ไม่ยอมบอกเกลว่าพี่รู้สึกยังไง " เขายังพูดออกมาเพราะภาพที่เขาเห็นหญิงตรงหน้าเขาคือเกวลิน
" พี่รามิล มะลิเอง มองหน้าก่อนเร็ว มะลิเอง " หญิงสาวพยายามอธิบายแต่เหมือนมันจะไม่ได้ผลเพราะคนที่เธอพูดด้วยดันนิ่งไปแล้ว แต่มือที่เขาจับเธอยังจับแน่นอยู่แบบนั้น เธอต้องเช็ดหน้าเช็ดตัวให้เขาอยู่แบบนั้นด้วยมือข้างเดียว จนความร้อนในร่างกายของเขาลดลง
" เกาะแน่นเป็นตุ้กแกเลยแม่งเอ้ย!! คิดผิดหรือคิดถูกวะเนี่ย " มะลิบ่นออกมาเมื่อเธอพยายามแกมือแล้วแต่เขาก็ยังไม่ปล่อย เธอจึงได้แต่นั่งอยู่อย่างนั้น แถมไม่ได้เอามือถือติดมือมาจะเรียกใครช่วยก็เรียกไมได้
พรึบ!!!
" เชี่ย " มะลิอุทานคำหยาบออกมาเมื่ออยู่ๆคนที่นอนอยู่ก็พลิกร่างกายพร้อมกับดึงข้อมือของเธอไปด้วยทำให้ตอนนี้เธออยู่ในท่านอนพาดตัวเขาอยู่ ก่อนจะพยายามลุกออกไปนั่งที่เตียงอีกฝั่ง
" พี่รามิล " เธอพยายามเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีท่าทีว่าคนที่เรียกอยู่จะตื่นขึ้นมา
" โอ้ย สิสูนแล้วเด้อ(จะโมโหแล้วนะ) " หญิงสาวที่เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเผลอทุบไปที่แขนแกร่ง และนั่งทำให้คนที่หลับอยู่ค่อยๆลืมตา
" ตื่นแล้วหรอ ปล่อยแขนมะลิก่อน " ชายหนุ่มมองหน้าเธอก่อนจะกระตุกข้อมือจนเธอล้มตัวลงมาใบหน้าใกล้กับเขา
" ทะ ทะ ทำอะไร " มะลิที่ตกใจรอบสอง ถามออกมาเสียงติดขัด
" เกล " เสียงเรียกที่แสนแผ่วเบาแต่ทำให้มะลิถอนหายใจออกมายาว ฮืมมมม~~~~
ไม่รู้ว่าเพราะเธอเหมือนเกวลินหรือเพราะจิตใต้สำนึกของเขามันมีแต่เกวลิน ถึงทำให้เขามองหน้าของเธอแต่เรียกชื่อของเกวลิน
" กะยังว่าบ่แม่นเกล แนมเบิ่งคักๆ แนมเบิ่ง นี้!!! " เธอพูดออกมาด้วยความโมโหพร้อมกับจับที่ใบหน้าของเขาให้จ้องมองใบหน้าของเธอชัดๆ
โดยที่ไม่คิดว่าเขาจะตอบกลับเธอด้วยวิธีแบบนี้