ตอนที่ 4

1404 คำ
EP 4: ท่านประธานขา... อย่าใจร้ายนักเลย   ใช่ เพื่อนผู้ชายที่มาร่วมงานวันเกิดของเขาแทบจะทุกคน... ไม่ใช่สิ ทุกคนเลยก็ว่าได้ที่มองมุกตาภาเป็นตาเดียวกัน และนั่นก็ทำให้เขาแสนหงุดหงิด จนต้องแกล้งทำน้ำหกใส่หญิงสาว เพื่อให้หล่อนกลับไปจากงานซะ มันเป็นเรื่องงี่เง่าที่ไม่อยากจะย้อนคิดถึงเลย แต่เมื่อได้สบตากับดวงตาใสแจ๋วกลมโตของมุกตาภาในระยะใกล้ชิดอีกครั้ง ภาพในวันนั้นก็ย้อนคืนกลับมา ไม่มีทาง...! ต่อให้แม่นี่จะโตขึ้นเป็นสาวสวยและน่าปรารถนาสักแค่ไหน แต่เขาจะไม่มีทางเกลือกกลั้วกับหล่อนเด็ดขาด เขาก็แค่ต้องการขับไล่หล่อนออกไปจากชีวิตของมารดา รวมทั้งชีวิตของตนเองด้วย “ทำให้เสร็จล่ะ แล้วฉันจะให้คนมาตรวจว่าฝุ่นเกลี้ยงหรือเปล่า” เขาเดินจากไป ในขณะที่หล่อนน้ำตาร่วงกราวอาบสองแก้มครั้งแล้วครั้ง เมื่อไหร่ตรัยคุณถึงจะหยุดใจร้ายกับหล่อนเสียที หรือต้องรอจนกว่าหล่อนจะยอมเดินจากไปตามที่เขาต้องการ “บ้าชิบ! ใครล็อกประตูเนี่ย!” เสียงเขย่าประตูแรงๆ ดังขึ้น และมันก็ทำให้มุกตาภาต้องจ้องมองไป ซึ่งก็เห็นว่าตรัยคุณเขย่าประตูห้องเก็บของอยู่ มันเปิดไม่ได้... หล่อนหน้าซีด รีบเดินเข้าไปหาเขา ลืมความใจร้ายของเขาไปชั่วขณะ “ประตู... เปิดไม่ออกเหรอคะท่านประธาน” ตรัยคุณหยุดเขย่าบานไม้ และหันมาจ้องหน้าหล่อน “ใช่ ไม่รู้ใครมาล็อก” “เอ่อ... แล้วอย่างนี้... เราจะออกไปได้ยังไงกันคะ” หล่อนเห็นชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมแรงๆ ก่อนจะควานหาโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะพบว่าไม่ได้ถือติดมือมาด้วย “บ้าชิบ! ลืมได้ยังไงวะเนี่ย” เขาจ้องหน้าหล่อน “เธอพกมือถือมาด้วยหรือเปล่า” “เอ่อ... พกมาค่ะ แต่... ไม่มีเงินในโทรศัพท์” “อะไรของเธอเนี่ย” ตรัยคุณสบถอย่างหัวเสีย เขาเดินกลับไปกลับมาด้วยความหงุดหงิด “เพราะเธอคนเดียวเลยยายหนูสกปรก” “มุก...” “ฉันมีประชุมตอนบ่ายสอง นี่ถ้าออกไปไม่ได้ ประชุมล่มแน่” “งั้น... เราตะโกนดังๆ แล้วก็เขย่าประตูไปเรื่อยๆ ดีไหมคะ เผื่อจะมีคนผ่านมาเห็นบ้าง” “แถวนี้ถ้าไม่ใช่แม่บ้าน ใครจะเดินมา” เขาดุหล่อนที่ออกความคิดเห็นไม่ได้เรื่องเสียงไม่พอใจ “มุก... ก็แค่ออกความคิดเห็น” หล่อนก้มหน้า ไม่กล้าที่จะสบตามองเขา และก็ถอยออกห่าง คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะช่วยเขาคิดหรอก เพราะความคิดของผู้หญิงแร้นแค้นอย่างหล่อนมันไม่เคยมีค่าอะไรกับเขาอยู่แล้ว “แล้วนั่นจะไปไหน” “มุก... จะไปทำความสะอาดแฟ้มค่ะ” “ไม่ต้องเลย มานี่” “อ๊ะ...” โครมมมม! เพราะเขาคว้าข้อมือของหล่อนและกระชากให้กลับมาแรงๆ เกินไป ทำให้ร่างอรชรเซถลาเข้ามาปะทะกายหนุ่มแรงๆ มาก และนั่นก็ทำให้ทั้งสองร่างล้มกองลงไปบนพื้นห้องทั้งคู่ ความเงียบงันกระจายเต็มห้อง เมื่อดวงตาสบประสานกันในระยะชิดใกล้ ด้วยท่วงท่าที่ตรัยคุณทาบทับร่างสาวเอาไว้ใต้ร่าง ความเครียดขึงแผ่ซ่าน อะไรบางอย่างที่น่าสะอิดสะเอียดแล่นเข้ามาทดแทนความกรุ่นโกรธ ยิ่งเจ้าหล่อนผลักไสและพยายามจะดิ้นให้พ้นไปจากการทาบทับของเขา ตรัยคุณก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงการตื่นตัวทางเพศของตนเอง “อยู่นิ่งๆ” “มุก... เอ่อ... มุกจะลุก...” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่ออะไรบางอย่างที่รู้ว่าน่าจะใหญ่ใกล้เคียงกับท่อนแขนของตัวเองบดเบียดอยู่ที่หน้าขา “ท่าน... ประธาน...” คนที่หล่อนเรียกชื่อไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว นอกจากค่อยๆ ก้มหน้าต่ำลงมาหา จนตอนนี้กลิ่นลมหายใจอบอุ่นคล้ายกลิ่นของกาแฟโชยฟุ้งเข้ามาในจมูกจนมึนเมา “บางที... น่าจะมีวิธีอื่นที่ใช้กำจัดเธอได้ดีกว่าการแกล้งให้ทำงานหนักๆ นะ มุกตาภา” น้ำเสียงของเขาแหบพร่าและมันกระเส่าอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน “อย่างเช่น... การทำให้เธออับอายด้วย... ร่างกายของฉัน” “ท่าน... ประธาน!” ลูกกะตาของมุกตาภาแทบจะถลนออกมานอกเบ้าตา เมื่อได้ยินคำพูดของคนที่ทาบทับกายสาวเอาไว้แน่นหนา ตรัยคุณไม่รู้ว่าทำไมตัวเองมีความคิดแบบนั้นขึ้นมาได้ แต่ตอนนี้ร่างกายของเขามันเต็มไปด้วยความรู้สึกปรารถนา “ฉันก็อยากจะลองดูเหมือนกันว่า ผู้หญิงแร้นแค้นแบบเธอ รสชาติจะเหม็นโฉ่สักแค่ไหน” “ไม่นะคะ อย่าทำกับมุกแบบนั้น... ไม่ค่ะ อย่าค่ะท่านประธาน... อุ๊บบบ อื้อ...” แล้วตรัยคุณก็บรรลุโทสะของตัวเองด้วยการขยี้ปากอิ่มของมุกตาภา ผู้หญิงที่ปากของเขาบอกว่าแสนเกลียดแสนชัง แต่ปากอิ่มกลับทำให้เขาเสียการควบคุมตัวเองได้อย่างน่าตกใจ ทำไมปากของมุกตาภานุ่มจัง... ทำไมปากของมุกตาภาหอมแบบนี้... และทำไมปากของหล่อนถึงได้หวานเหลือเกิน... สัมผัสหวานฉ่ำแสนมหัศจรรย์ที่ได้รับทำให้ตรัยคุณที่พยายามฉุดรั้งตัวเองเอาไว้ ไม่อาจจะทำตามที่สมองร้องสั่งได้อีกต่อไป มือใหญ่สอดรองใต้ท้ายทอยเล็กและบดปากเข้าไปหาแนบแน่นยิ่งขึ้น อารามตื่นตกใจและขลาดกลัวของสาวน้อยเจ้าของอุ้งปากหอมหวานก่อกองไฟเล็กๆ จำนวนมากในกายหนุ่ม เขาไม่อาจจะฉุดรั้งตัวเองได้อีกต่อไป บดขยี้ปากนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะจุ่มจ้วงลิ้นสากลงไปในเพลิงหวานแห่งปรารถนา เขาไม่ควรจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ และไม่ควรอย่างที่สุด ที่จะจูบปากผู้หญิงที่เขาต้องการสลัดให้ออกไปจากชีวิตมากที่สุดอย่างมุกตาภา แต่ตอนนี้เขากำลังกระทำ กำลังบดขยี้ปากนุ่มราวกับตายอดตายอยากมานับแสนล้านปี ทั้งจูบทั้งขบด้วยความหิวกระหายตะกละตะกลามที่ไม่เคยพานพบมาก่อนเลยชีวิต ทั้งกลิ่นหอม ทั้งรสชาติหวานๆ ทั้งความนุ่มฉ่ำของกลีบปาก และลิ้นเล็ก มันทำให้อะไรบางอย่างที่พยายามซ่อนเร้นเอาไว้ตื่นตัวและก็สำแดงฤทธิ์เดชจนยากจะต้านทาน ทุกอย่างมันคงเดินทางไปจนถึงจุดสิ้นสุดของเพศรส หากไม่มีเสียงก๊อกแก๊กที่ประตูดังก่อกวนขึ้นเสียก่อน เขาจำต้องตัดใจปลดปล่อยร่างเล็กที่เพิ่งค้นพบว่าอวบอัดเต็มตึงเหลือเกินของมุกตาภาให้ออกจากอ้อมแขน และลุกขึ้นยืน “ลุกขึ้นได้แล้ว มีคนกำลังจะเปิดประตู” เขาสั่งหล่อน และก็ต้องยื่นมือไปคว้าแขนเล็กให้ลุกขึ้น แต่เจ้าหล่อนอ่อนแรงราวกับตุ๊กตาผ้า จึงต้องคว้ามากอดเอาไว้แนบอก บ้าชะมัด เขาอยากทำมากกว่าแค่จูบปากของมุกตาภา...! “ทรงตัวดีๆ อย่าล้มมาโดนฉันล่ะ” เขาจับหล่อนให้พิงกับชั้นเหล็กที่วางแฟ้มเอกสาร จากนั้นก็ขยับออกห่าง “อุ้ย ตายแล้วท่านประธาน!” คนที่เปิดประตูเข้ามาช็อกตาตั้ง เมื่อพบว่าตรัยคุณยืนมองอยู่ “ดิฉัน... ขอโทษค่ะ คือไม่รู้ว่าจะมีคนอยู่ในนี้ก็เลยล็อกประตู” “เดี๋ยวไปห้องฝ่ายบุคคลเลยนะ เอาใบเตือน” “ท่านประธานคะ ดิฉันขอโทษค่ะ ดิฉัน...” ตรัยคุณไม่สนใจจะฟังคำพูดแก้ตัวของแม่บ้าน เพราะตอนนี้เขาก้าวออกมาจากห้องเก็บเอกสารนั้นแล้ว บ้าชิบ ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นลงไป! ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบปากของตัวเองไปมาอย่างลืมตัว และก็เผลออมยิ้มออกมา “ปากเธอก็หวานดีเหมือนกันนะ” เขาพึมพำแผ่วเบา เนื้อตัวยังคงรุ่มร้อนค้างคากับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่จาง ตรัยคุณยืนนิ่ง จ้องมองภาพของตนเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาเหนืออ่างล้างหน้า และก็พบตัวเองไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ใช่...ตอนนี้โลกของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม