ตอนที่ 10 ลมออกหู

1349 คำ
พีรมนที่ยังมีแรงสู้ไหวเธอกำลังต่อต้านฤทธิ์ยาที่กำลังเกิดขึ้น หญิงสาวจะลุกหนีไปจากเตียงแต่ก็ถูกเขากดเธอลงไปพร้อมกับนั่งคร่อมร่างเอาไว้ พันธนาการเธอด้วยท่านั่งคร่อมคุกเข่าหลวม ๆ ยืดตัวขึ้นถอดเสื้อเชิ้ตของตนเองออกไปแล้วปลดเข็มขัด มองใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความกำหนัดของเธออย่างพอใจ “อย่าพยายามเลยพลอย ยังไงซะคุณก็หนีไม่พ้นหรอก ภายในห้าถึงสิบนาทีนี้คุณก็ต้องตกเป็นของผมโดยสมบูรณ์แล้ว” พูดจบก็ดึงสายเข็มขัดนั้นออกจากกางเกงอย่างใจเย็น ค่อย ๆ ปลดตะขอกางเกงลง แล้วรูดซิปลงอย่างช้า ๆ เพื่อที่จะถอดมันออกไป พีรมนยิ่งรู้สึกเกลียดชังผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ก่อนหน้าไม่รู้ว่าเธอรักเขาลงไปได้อย่างไร เขามันซาตานในคราบสุภาพบุรุษชัด ๆ หากเปรียบเทียบกับธนัทแล้วอีกฝ่ายดีกว่าเขาหลายร้อยเท่า ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้เธอนึกถึงใบหน้าคมที่เอาแต่จ้องมองเธอด้วยแววตาหลงใหลของประธานหนุ่มผู้ร่ำรวยคนนั้น ภาวนาว่าเธอไว้ใจคนไม่ผิด คนที่จะสามารถช่วยเธอออกไปสถานการณ์นี้ได้ก็มีแต่เขาเท่านั้น ขณะที่โน้มตัวลงไปจูบเธอเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น “ใครวะ” อติรุจบ่นออกมาอย่างขัดใจ เมื่อจะโน้มตัวลงไปอีกครั้งเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน เขาจ้องมองพีรมนที่ยกคอขึ้นมองประตูอย่างมีความหวัง ภายในใจก็เริ่มเป็นกังวลก่อนจะสะบัดหัวไหล่ความคิดนั้นออกไป เธอขอความช่วยเหลือไปยังไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ ใครจะมาช่วยเหลือเธอตอนนี้ได้ทัน มันไม่มีวันเป็นไปได้อย่างแน่นอน เมื่อนึกได้อย่างนั้นก็ผละออกจากเธอ พีรมนได้โอกาสจะลุกขึ้นแต่เขาก็ไม่อยากให้เธอใช้โอกาสนั้นในการหลบหนี สัญชาตญาณความดิบเถื่อนที่อยู่ในตัวทำให้ใช้กำลังต่อยเข้าที่ท้องของหญิงสาว พีรมนทิ้งตัวลงบนเตียงงอตัวด้วยความเจ็บปนจุก ไม่คิดเลยว่าอติรุจจะเลวได้ใจถึงขนาดนี้ เขามองเธอที่นอนหน้านิ่วงอตัวอยู่บนเตียง ไม่ได้รู้สึกผิดแต่กลับรู้สึกว่าตนเป็นผู้นำและสามารถควบคุมเธอได้ เป็นความรู้สึกที่ดีอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่จะเดินไปที่ประตูแล้วเปิดออกเพื่อที่จะแง้มพูดคุยกับคนที่มาขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มของตน คนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือพนักงานหญิงสองคนและรปภ.อีกสองคน “มีอะไรหรือเปล่าครับ” เขาถามแล้วขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดและสงสัย “เราได้รับแจ้งมาว่าในห้องนี้ต้องการความช่วยเหลือเลยขึ้นมาดูค่ะ” เธอบอกด้วยความสุภาพพยายามชะเง้อมองเข้าไปในห้อง แต่อติรุจก็เอาตัวบังเอาไว้ “ไม่มีนะครับ ผมกับภรรยาเราสองคนทะเลาะกันนิดหน่อย” พนักงานสาวทั้งสองมองหน้ากันด้วยความลังเล ก่อนที่จะตัดสินใจให้รปภ.ผลักประตูเข้าไปในห้องเพราะนี่เป็นคำสั่งโดยตรงของธนัทว่าให้เข้ามาช่วยเหลือผู้หญิงของเขา ซึ่งถ้าจะให้เลือกระหว่างรบกวนลูกค้าและทำตามคำสั่งของเจ้านาย พวกตนก็ต้องทำตามคำสั่งเอาไว้ก่อนเพราะอย่างน้อยก็ไม่ใช่การทำโดยพลการ “ให้ตายสิเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะ” เขาตะโกนโหวกเหวกโวยวาย รปภ.ดันประตูห้องเข้าไป อีกคนก็จับตัวเขาเอาไว้ พนักงานหญิงทั้งสองวิ่งเข้าไปในห้องพบว่าพีรมนร้องขอความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ร่างกายของเธอยังคงร้อนรุ่มด้วยฤทธิ์ของยาปลุกความใคร่ จนตอนนี้เธอแทบจะไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองได้แล้ว ในขณะเดียวกันธนัทกำลังนั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว กำลังมุ่งหน้าไปที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนดาดฟ้าของโรงแรม เขามีสีหน้าที่เคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความโกรธ ข้อความของเธอที่ขอความช่วยเหลือว่าถูกอติรุจวางยาอยู่ภายในห้องพักโรงแรมของเขาทำให้ธนัทแทบจะเป็นบ้า โทรสั่งให้คนของโรงแรมรีบขึ้นไปช่วยเหลือเธอ แล้วให้กพลนำเฮลิคอปเตอร์พามาที่โรงแรมให้เร็วที่สุด เมื่อเฮลิคอปเตอร์จอดที่ดาดฟ้าเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดี พนักงานสาวที่กำลังช่วยเหลือพีรมนอยู่ถามว่าจะให้พาเธอไปที่ไหน เพราะตอนนี้รู้สึกเหมือนว่าหญิงสาวมีอาการไม่ค่อยดี ในขณะที่ผู้ชายก็อาละวาดจนแขกเหรื่อห้องอื่นออกมามองดูด้วยความสนใจ “พาเธอไปที่ห้องของฉัน ส่วนผู้ชายฉันจะไปจัดการเอง” เขาพูดเสียงเข้ม “ห้องพักที่คุณธนัทใช้ประจำ หรือว่าห้องด้านบนคะ” พนักงานสาวถาม เพราะธนัทจะแบ่งแยกห้องส่วนตัวและห้องที่ใช้หาความสุขกับผู้หญิงที่เป็นห้องธรรมดาเอาไว้ต่างหาก เขาไม่เคยอนุญาตให้ใครขึ้นไปห้องพักส่วนตัวของเขา “ห้องด้านบน” พูดแค่นั้นเขาก็วางสายแล้วรีบลงไปข้างล่างแทบจะทันที เมื่อไปถึงห้องที่เกิดเหตุก็พบว่าอติรุจยังคงโวยวายและเรียกร้องให้มีการนำตัวภรรยาของตนกลับคืนมา ชี้หน้าด่ารักษาความปลอดภัยด้วยความรู้สึกหัวเสีย ทันทีที่เข้าไปถึงตัวอติรุจ หมัดของเขาก็พุ่งตรงที่ปลายคางของเขาจนอีกฝ่ายล้มลงกับพื้น ไม่สนใจว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำร้ายลูกค้าอยู่ เพราะถือว่านี่คือเรื่องส่วนตัว “โทรเรียกตำรวจเลย ปิดห้องนี้ไว้ให้ตำรวจตรวจสอบอาหารกับเครื่องดื่มว่ามียาที่เขาวางยาเอาไว้ไหม งานนี้ถ้าแกไม่ติดคุก ฉันนี่แหละจะส่งแกเข้าไปเอง” เขาตะโกนเสียงกร้าว แววตาของประธานลูกเสี้ยวฮ่องกงฉายแววดุดันไม่ปรานี ในนาทีนี้อติรุจรู้แล้วว่าพีรมนขอความช่วยเหลือจากใคร เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความช่วยเหลือจะมาถึงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแผนการที่ล้มไม่เป็นท่า “ไม่ต้อง ปล่อยฉัน” อติรุจพูดแล้วสะบัดแขนออกจากรปภ.ที่กำลังพยุงตัวเขาขึ้นมา เมื่อแขกคนอื่น ๆ รู้แล้วว่าสถานการณ์นี้ลูกค้าเป็นฝ่ายผิดจึงแยกย้ายกันกลับเข้าห้องของตนเองไป ไม่อยากเป็นพยานรับรู้กรณีที่เรื่องถึงตำรวจแล้วจะเรียกตัวพวกเขาไปให้ปากคำเป็นพยาน “ให้แจ้งความเลยไหมครับ” หนึ่งในรปภ.ถามขึ้นมาเพื่อความมั่นใจ กพลมองหน้าเจ้านายที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่แล้วตัดสินใจแทนเขาอย่างใช้สติ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชื่อเสียงของโรงแรมและเจ้านายที่เพิ่งต่อยหน้าลูกค้าไป “อย่าเพิ่งแจ้งความ พาตัวผู้ใช้คนนี้ไปคุมตัวไว้ในห้องอื่นก่อน ส่วนห้องนี้ก็อย่าพึ่งเก็บกวาด รอให้คุณผู้หญิงฟื้นก่อนแล้วค่อยมาตัดสินว่าจะเอายังไงกับผู้ชายคนนี้” กพลเป็นฝ่ายตอบคำถามนั้นแทน ธนัทอยากต่อยเข้าไปอีกหมัดเพื่อระบายความโกรธ แต่ตอนนี้เขาเป็นห่วงพีรมนมากกว่าจึงรีบกลับขึ้นไปยังห้องด้านบนที่ทั้งชั้นเปรียบเสมือนบ้านอีกหลังเป็นชั้นส่วนตัวของเขา เมื่อเขาก้าวเข้าไปถึงก็ให้พนักงานสาวออกจากห้องไปรวมถึงกพลที่ตามมาก็ให้รออยู่ที่ด้านนอกตรงหน้าลิฟต์ พีรมนนั่งกระสับกระส่ายอยู่บนโซฟา มองเห็นเขาก็มองด้วยแววตาที่เยิ้มฉ่ำ แล้วลุกขึ้นมองเขาด้วยความปรารถนา รีบเดินเข้าไปสวมกอด ใช้มือวางลูบไล้ไปทั่วแผงอกกว้าง ธนัทเห็นดังนั้นก็กัดกรามแน่น ฤทธิ์ยาที่เธอเจอทำให้ไม่มีสติควบคุมตัวเอง มันแรงกว่าฤทธิ์ยาที่เขาเคยเจอเป็นอย่างมาก ************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม