เมื่อรู้ว่ามีคนอื่นกำลังสนใจในตัวของพีรมน วิมลมารดาของธนัทก็ออกอาการร้อนใจทันที บุญชัยเองที่เป็นรองประธานบริษัท ดูแลโรงงานเป็นหลักก็ได้ยินจากพีรพลมาอยู่ว่ามีลูกค้ารายใหญ่ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของบริษัท แต่ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะสนใจในตัวของอดีตว่าที่ลูกสะใภ้
“พลอยเขาก็ชัดเจนแล้วว่าเลิกกับแก ถ้าจะมีคนมาชอบพอหรือว่าปลูกต้นรักกับใครก็ไม่ใช่เรื่องผิด” เขาไม่ได้เข้าข้างลูกชายแม้แต่น้อย
“คุณก็พูดได้นี่คะ” วิมลหันไปแหวใส่สามี บุญชัยเป็นประเภทไม่ขวนขวาย โอกาสที่จะได้เกี่ยวดองกับหุ้นส่วนใหญ่แล้วฮุบรวมกิจการอยู่ตรงหน้าจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ง่าย ๆ ได้อย่างไร
“งานแต่งงานก็จัดแล้ว แขกเหรื่อรับรู้ก็มากมาย ถึงข่าวลือเรื่องที่เจ้าสาวล่มงานแต่งจะหลุดออกมาก็เถอะ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เชื่อและคิดว่าลูกกับพลอยยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ เราต้องใช้โอกาสนี้ทำให้พลอยปฏิเสธไม่ได้” วิมลบอกแก่ลูกชาย
“ผมง้อจนไม่รู้จะง้อยังไงแล้วครับแม่ แผนมัดมือชกก็ไม่เคยสำเร็จ แล้วยังมีไอ้ลูกค้าหน้าตี๋นั่นอีก สายตาที่มันมองพลอยแทบจะกลืนกินไปทั้งตัว เจ็บใจจริง ๆ” เขาไม่ได้หึงหวงเธอ แต่ไม่อยากพ่ายแพ้และอยากได้ตัวพีรมนกลับมา
“ไม่ต้องห่วง แม่มีแผนสำรอง อย่างไรเธอก็ต้องยอมคืนดีและจดทะเบียนสมรสกับลูกชายแม่แน่” วิมลยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยแผนการ บุญชัยส่ายศีรษะไม่รู้ว่าภรรยาจะวางแผนทำอะไรอีก เขาไม่อยากรับรู้ให้ต้องปวดหัวเลยสักนิด
วิมลมองสายตาของสามีด้วยความหงุดหงิด เดินนำอติรุจไปยังห้องด้านหลังแล้วกระซิบแผนการออกมาให้ลูกชายรู้
“ดีเลยครับแม่ งานนี้ไม่คืนดีคงไม่ได้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เจ้าเล่ห์แล้วยิ้มให้กับมารดา แผนการนี้แม้จะเป็นมุกในละครแต่ก็สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้ผลอย่างดีเชียวล่ะ
************************
หลังจากที่ผกาวางสายจากวิมลก็รู้สึกลำบากใจที่อีกฝ่ายพยายามที่จะให้ลูก ๆ คืนดีกัน ตอนแรกเธอก็เห็นด้วยว่าอยากให้คืนดีกัน เพราะงานแต่งงานก็จัดไปแล้ว ธุรกิจก็ร่วมทุนกันแล้ว
แต่สุดท้ายเมื่อเห็นว่าลูกไม่มีความสุข และยืนยันไม่อยากกลับไป พร้อมทั้งพฤติกรรมของอติรุจเองเธอก็รับไม่ได้ จึงล้มเลิกความคิดนี้ไปแล้ว ทว่าครอบครัวฝ่ายนั้นก็ยังพยายามให้เธอร่วมมือด้วย
“เป็นอะไรคุณ สีหน้าดูไม่ดีเลย”
“บ้านนั้นน่ะสิคะ อยากให้ฉันช่วยพูดกับลูกว่าให้ไปกินข้าวกับตาอาร์ต เขาอยากขอโอกาสอย่างจริงจังเป็นครั้งสุดท้าย บอกว่าครั้งนี้ถ้าง้อไม่สำเร็จเขาก็จะตัดใจและจะทำใจแล้วว่าจะเป็นได้แค่หุ้นส่วนทางธุรกิจกันเท่านั้น ฉันไม่รู้จะพูดกับลูกยังไงดี” ผกาบอกกับสามีที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่ในวันหยุดของเขา
พีรพลวางหนังสือลง ถอดแว่นตาออกวางไว้บนหนังสือจากนั้นก็หันไปพูดกับภรรยาอย่างจริงจัง
“ไม่ต้องไปฟังบ้านนั้นให้มาก ทุกวันนี้เราร่วมงานกันในฐานะหุ้นส่วนเท่านั้นก็พอแล้ว ผมกับคุณบุญชัยเองเราก็ทำงานร่วมกันได้ดี ปูทางเอาไว้ให้ลูก ๆ ของเราไว้หมดแล้ว ตาอาร์ตก็ไม่ใช่ผู้ชายที่เหมาะกับการเป็นผู้นำครอบครัว แค่เขากล้านอกใจลูกเราในงานแต่งงานคุณก็น่าจะรู้แล้วนะว่าเขาไม่น่าจะดูแลลูกเราให้มีความสุขได้” เป็นครั้งแรกที่พีรพลออกความเห็นเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“ค่ะ” ผการับปากสามี แต่ก็ลำบากใจไม่น้อยเพราะวิมลเองก็กำลังรอคำตอบอยู่ และเพราะคำพูดของพีรมนในวันที่เธอล่มงานวิวาห์และความสุขของลูกสาวเพียงคนเดียว ผกาจึงตัดสินใจโทรกลับไปปฏิเสธเพื่อแสดงจุดยืนว่าทุกอย่างได้จบลงไปแล้วจริง ๆ
เมื่อไม่ได้รับความร่วมมือจากผกา วิมลก็รู้สึกว่าเธอยิ่งต้องทำแผนนี้ให้สำเร็จ ให้เพื่อนของพีรมนช่วยเหลืออย่างลับ ๆ โดยอ้างว่าจะทำเซอร์ไพรส์ขอคืนดี หว่านล้อมให้เพื่อนของหญิงสาวสงสารจนยอมให้ความร่วมมือด้วย
พีรมนรับสายจากเพื่อนของเธอ แม้จะไม่ได้สนิทกันมากแต่ก็เป็นเพื่อนที่พูดคุยกันได้ เมื่ออีกฝ่ายโทรมาร้องห่มร้องไห้และขอนัดเจอเธอเพื่อระบายเรื่องราวที่ทุกข์ใจ เมื่อเพื่อนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากพีรมนจึงเดินทางไปหาอย่างไม่ได้คิดอะไรมาก
สถานที่คือห้องพักในโรงแรมศิรินทร์เลิศ ที่เธออ้างว่าทะเลาะกับครอบครัวแล้วหนีมาพักที่นี่ เมื่อไปถึงก็ติดต่อประชาสัมพันธ์เพื่อขอคีย์การ์ดเข้าห้องตามที่สินีบอกเธอเอาไว้ พอเข้าไปในห้องนั้นก็พบว่าในห้องว่างเปล่า มีอาหารและเครื่องดื่มวางเตรียมเอาไว้ แต่ไม่มีเงาของสินีเพื่อนของเธอ
สักพักประตูก็ถูกเปิดออก ตามด้วยอติรุจที่เดินเข้ามาพร้อมกับช่อดอกไม้
“นี่แผนของคุณเหรอ”
“ขอโทษนะพลอย แต่พี่ไม่รู้จะใช้วิธีไหนที่จะให้พลอยยอมออกมาเจอพี่ พี่อยากขอโอกาสให้พี่พูดอะไรบางอย่าง ถ้าครั้งนี้พลอยไม่ใจอ่อน พี่ก็จะไม่รบกวนใจพลอยอีกต่อไป” เขาพูดเสียงเบา จากนั้นก็เชิญให้เธอไปนั่งที่โต๊ะวางอาหารที่อยู่หลังห้อง
“กินข้าวกับพี่ก่อนนะ กินไปพูดไป” เขาขอร้องเธอด้วยแววตาที่อ้อนวอน
“ก็ได้ค่ะ” เธอให้โอกาสเขาได้พูดให้มันจบ ๆ ไม่ใช่ว่าใจอ่อน แต่เพื่อตัดความรำคาญเท่านั้น ครั้งหน้าเขาจะได้ไม่หาเหตุผลมาขอโอกาสอะไรแบบนี้จากเธออีก
เขารินเครื่องดื่มให้เธอ จากนั้นก็ตักอาหารให้อย่างเอาใจ
“คุณรีบพูดเถอะค่ะ ฉันไม่หิว”
“กินก่อนเถอะ นะพลอย” เขาขอร้องเธอ แววตาดูเศร้าและมีความหวังอะไรบางอย่าง
เธอไม่กินแต่กลับยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ จากนั้นก็กอดอกมองเขาด้วยแววตาที่เย็นชา
“ให้พี่ทำยังไงพลอยถึงจะยอมกลับมาคืนดีกับพี่ สถานะของเราตอนนี้คือสามีภรรยาที่แต่งงานกันตามประเพณี พลอยจะตัดพี่ได้ขาดจริง ๆ เหรอ” เขาถามเธอเสียงเบา
“ฉันไม่เคยถอยหลังค่ะ ถ้าได้มูปออนแล้วก็คือเดินหน้าเท่านั้น” เธอพูดแล้วยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบอีกคำ ตอนนี้รู้สึกร้อนผ่าวในลำคอไม่รู้ว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์นี้แรงไปหรือไม่ แต่เมื่อความร้อนนั้นวิ่งพล่านไปที่ท้องน้อยจึงรู้ตัวว่านี่มันเป็นอาการของการถูกวางยา
“นี่คุณทำอะไร” เธอวางแก้วลงแล้วเอามือกุมศีรษะ มืออีกข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อควานหาโทรศัพท์เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ
“ไม่มีใครมาช่วยได้ทันหรอกพลอย กว่าจะมาถึงเราสองคนก็เข้าหอกันแล้ว” เขาพูดแล้วยิ้มที่มุมปาก ปล่อยให้เธอขอความช่วยเหลือไป เพราะกว่าคนจะมาถึงเธอก็ตกเป็นของเขา ซ้ำคนที่มาก็จะได้เป็นพยานรัก คราวนี้ละเธอไปไหนไม่รอดแน่
พีรมนกดโทรศัพท์ด้วยมือที่สั่นเทา คนที่พอจะช่วยเหลือเธอได้เร็วที่สุดมีเพียงคนเดียวเท่านั้น แล้วรีบส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังกล่องสนทนานั้น บอกหมายเลขห้องอย่างละเอียด ก่อนที่จะถูกอติรุจดึงเธอให้ลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เหวี่ยงเธอไปที่เตียง
“เรามาเข้าหอกันเถอะพลอย เข้าหอกันอย่างที่มันควรจะเป็นตั้งแต่แรก” น้ำเสียงนั้นแหบพร่า มองดูเธอที่กำลังต่อสู้กับความปรารถนาของตัวเองก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ อย่างไรพีรมนก็ต้องเป็นภรรยาของเขาโดยสมบูรณ์ในวันนี้
************************