ในตอนเย็นพีรมนกลับมาถึงบ้านก็เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้บุพการีทั้งสองได้รับรู้ถึงความชั่วร้ายของอติรุจ เมื่อได้ยินอย่างนั้นผกาก็ถึงกับเอามือทาบที่อก โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ตอนแรกวิมลโทรมาให้ตนช่วยพูดกับพีรมน ไม่คิดว่าแผนการทุกอย่างนี้จะเป็นแผนการที่ชั่วร้าย โชคดีที่เธอไม่ได้อยู่ในแผนการนั้นด้วยไม่อย่างนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวคงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
ไม่รอให้เรื่องเกิดพ้นวัน พีรพลพาภรรยาและลูกสาวเพียงคนเดียวตรงไปที่บ้านยิ่งยศนิรันดร์ทันที
เมื่อไปถึงวิมลก็ออกมาต้อนรับอย่างยิ้มแย้ม เข้าใจว่าลูกชายทำแผนการได้สำเร็จแล้ว อีกครอบครัวคงจะมาเรียกร้องหาความรับผิดชอบ ซึ่งเธอก็พร้อมที่จะให้เด็ก ๆ ทั้งสองคืนดีกันอยู่แล้ว
“สวัสดีค่ะคุณพีรพล คุณผกา” วิมลจีบปากจีบคอเอ่ยต้อนรับด้วยความยินดี ผกาที่เดินไปถึงตัวของวิมลด้วยความเป็นแม่และเกือบที่จะตกอยู่ในแผนการนี้ด้วยก็ไม่ได้ใจเย็นอะไร พอเห็นหน้าวิมลก็ชี้หน้าด่าโดยไม่สนใจมารยาทอะไรทั้งสิ้น
“สั่งสอนลูกชายตัวเองยังไงให้ทำชั่วทำเลวได้ถึงขนาดนี้ วางยาลูกสาวของฉันเหรอ ตัวเองก็เป็นผู้หญิงแท้ ๆ กล้าวางแผนการทำแบบนี้กับผู้หญิงด้วยกันได้ยังไง”
“เด็ก ๆ เขาก็แค่เล่นสนุกกัน สร้างความตื่นเต้น ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่เลยค่ะ ไหน ๆ ก็แต่งงานกันแล้ว ในเมื่อตอนนี้ตาอาร์ตไปทำเรื่องอย่างนั้นกับหนูพลอยเข้า ถ้าอย่างนั้นเราก็ให้เด็ก ๆ คืนดีกันก็ได้นี่คะ” วิมลพยายามกล่าวอย่างใจเย็น ริมฝีปากยังคงยิ้มแย้มตลอดเวลา
ในขณะที่บุญชัยฟังเรื่องราวคร่าว ๆ แล้วก็อดโมโหภรรยาไม่ได้ “นี่คุณวางแผนถึงขั้นให้ลูกวางยาหนูพลอยเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิคะคุณลุง โชคดีนะคะที่พลอยรอดมาได้ ไม่อย่างนั้นก็คงจะตกเป็นเหยื่อแผนการชั่วไปแล้ว” พีรมนพูดเสียงแข็ง จ้องมองวิมลด้วยแววตาที่แข็งกร้าว
เมื่อวิมลรู้ว่าลูกชายทำแผนการล้มเหลว ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็รู้สึกเป็นกังวล และตีหน้าเศร้าขึ้นมาทันที
“เอ่อ หนูพลอยใจเย็น ๆ ก่อนนะลูก ที่พี่เขาทำไปก็เพราะอยากจะคืนดีกับหนูเท่านั้น”
“แต่พลอยก็บอกแล้วไงคะว่าไม่ต้องการคืนดี ทุกอย่างมันจบลงตั้งแต่คืนนั้นแล้ว ถ้าหากคุณป้ายังจะพยายามทำให้พลอยกับเขาคืนดีกันอีก พลอยจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ ไม่สนใจหรอกนะคะว่าคนจะพูดว่ายังไง ถ้ายังอยากทำงานด้วยกันต่อไปก็อย่ามาวุ่นวายกับพลอยอีกเลยค่ะ ต่างคนต่างอยู่” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ได้แสดงความเคารพต่ออีกฝ่ายเพราะตอนนี้วิมลไม่ได้มีอะไรให้น่าเคารพเลยสักนิด
“พลอย ลุงต้องขอโทษแทนป้ากับอาร์ตด้วยนะ หลังจากนี้ไปลุงจะกำราบทั้งสองคนไม่ให้ไปยุ่งวุ่นวายกับหนูอีก หลังจากนี้ไปเราก็เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกันต่อไป หรือถ้าหนูไม่สบายใจก็แยกกันดูแลเป็นสองส่วนก็ได้ ให้ลุงกับตาอาร์ตดูแลในส่วนของโรงงาน ส่วนหนู ก็ดูแลในส่วนของบริษัท แบบนี้ดีไหม จะได้ไม่ต้องได้เจอหน้ากันอีก” บุญชัยเสนอขึ้นมา
“แบบนั้นก็ดีค่ะ เพราะพลอยไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว” หญิงสาวรับข้อเสนอนั้น ไม่สนว่าจะเป็นเพียงการเสนอขึ้นมาลอย ๆ หรือว่าจริงจัง ในตอนนี้เธอไม่ไว้ใจครอบครัวนี้เลยสักคน
“ผมเข้าใจคุณนะครับคุณบุญชัย แต่เรื่องนี้ ผมกับครอบครัวรับไม่ได้จริง ๆ หวังว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก” พีรพลกล่าว เข้าใจดีว่าเขาต้องรับศึกสองทาง ทั้งทางหุ้นส่วนทางธุรกิจอย่างพวกตน และทางลูกเมียที่ก่อปัญหาให้
เมื่อผกาต่อว่าวิมลจนพอใจแล้วก็ชักชวนสามีและลูกสาวให้กลับไป หลังจากกลับไปได้ไม่นานอติรุจก็มาถึงพร้อมกับสภาพที่เมามายจนดูไม่ได้
“ทำไมแกถึงสะเพร่าขนาดนี้ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ก็ปล่อยให้หนีไปได้” พอวิมลเห็นลูกชายก็เข้าไปทุบตีด้วยความโมโหและเสียหน้า แต่ก็ถูกลูกชายผลักลงไปจนล้มลงนั่งกับพื้น
“เพราะแผนการของแม่นั่นแหละ ทำไมไม่เลือกสถานที่ดี ๆ รู้ไหมว่าคนของโรงแรมนั้นมันรังแกผมมากแค่ไหน” เขากล่าวโทษมารดา จากนั้นก็เดินขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจพยุงเธอให้ลุกขึ้น
บุญชัยมองดูลูกชายที่เดินผ่านหน้าไปและภรรยาที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้น เขาส่ายศีรษะด้วยความเอือมระอา หากไม่กังวลว่าถอนทุนไปแล้วจะต้องขาดทุนถึงสามล้าน มีหรือว่าเขาจะทนหน้าด้านเป็นหุ้นส่วนอยู่กับครอบครัวศุภเสถียรมนตรีทั้งที่เกิดเรื่องขนาดนี้
************************
ด้วยความคับแค้นและความเสียหน้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น อติรุจตัดสินใจที่จะกระจายข่าวลือเรื่องธนัท และพีรมนออกไป จนตอนนี้มีข่าวลือฉาวโฉ่อยู่ในวงการธุรกิจว่ามีเจ้าของโรงแรมและตึกให้เช่าสำนักงานชื่อดังกำลังเป็นชู้กับภรรยาของนักธุรกิจรุ่นใหม่
ชี้เป้าขนาดนี้คนก็คาดเดาได้ไม่ยาก เจ้าของโรงแรมและตึกให้เช่าสำนักงานมีเพียงธนัทคนเดียวเท่านั้น ทำให้ตอนนี้มีคนพูดถึงเขาไปทั่วในฐานะชู้รักที่ยุ่งเกี่ยวกับภรรยาของคนอื่น และกำลังสืบหาว่าผู้หญิงเป็นใคร
หากเป็นแต่ก่อนธนัทคงจะโกรธและให้คนไปจัดการกับต้นตอของข่าวลืออย่างรวดเร็ว แต่วันนี้เขากลับใจเย็น แล้วยังยิ้มรับข่าวลือนั้นอีก เพราะข่าวลือนี้ทำให้เขาพลิกวิกฤติเป็นโอกาส
เพราะหลังจากที่เขาลือเริ่มแพร่ออกไป พีรมนก็ตัดสินใจที่จะตอบตกลงจดทะเบียนสมรสกับเขา ดังนั้นแม้ข่าวลือจะทำลายชื่อเสียงเขามากสักแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว
“แน่ใจแล้วเหรอครับคุณธนัท” กพลถามเมื่อเห็นว่าตอนนี้เขานั่งยิ้มกริ่มอยู่บนโต๊ะทำงาน ยกนาฬิกาข้อมือดูทุก ๆ สองนาทีเพื่อให้ถึงเวลาที่นัดหมาย
“แน่ใจอะไร” น้ำเสียงนั้นถามกลับมาพร้อมกับแววตาที่มองลูกน้องคนสนิทอย่างไม่พอใจ เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะทักท้วงเรื่องการตัดสินใจจดทะเบียนสมรสสายฟ้าแลบของตน
“หมายถึงว่า คุณธนัทจะไม่ให้แก้ข่าวจริง ๆ เหรอครับ ตอนนี้ธุรกิจของเราได้รับผลกระทบหนัก โรงแรมก็ถูกยกเลิกจองจากพวกบริษัทใหญ่ ๆ ห้องที่จองเพื่อจัดงานสัมมนาจากคิวที่เต็มตอนนี้ทางผู้จัดการโรงแรมทั้งสองสาขาแจ้งมาว่า มีการยกเลิกออกไปมากกว่าครึ่ง” กพลรายงานด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นกังวล เข้าใจถึงความรักที่เขามีต่อพี่พีรมน แต่เรื่องธุรกิจก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
“ฉันกำลังหาทางจัดการเรื่องนี้อยู่นายไม่ต้องห่วงหรอก พวกที่ยกเลิกไปก็แค่แสดงจุดยืน เป็นเรื่องปกติ” ธนัทไม่ได้โง่พอที่จะเห็นความรักสำคัญกว่าทุกอย่าง เรื่องนี้เขามีวิธีจัดการของตนเองเรียบร้อยแล้ว
อีกอย่างบริษัทที่ยกเลิกไป หากเปลี่ยนใจกลับมาจองในภายหลังย่อมไม่ได้ราคาที่จองล่วงหน้าแน่ เรื่องนี้จะเป็นบทเรียนให้แก่พวกเขาที่ไม่ไว้ใจในการร่วมธุรกิจ และเชื่อข่าวลือโดยไม่สนใจเหตุผลและความจริงที่เกิดขึ้น
เมื่อนาฬิกาชี้เวลาที่เหมาะสมเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วกระชับเสื้อสูทให้เข้าที่ พยักหน้าให้กพลที่ยืนเอามือประสานกันไว้ที่หน้าตักเป็นการส่งสัญญาณว่าถึงเวลาที่สำคัญ
กพลเปิดประตูให้เจ้านายเดินออกไปแล้วเดินตามแผ่นหลังกว้างนั้น ไม่คิดเลยว่าคนที่เย็นชาไม่สนใจผู้หญิงคนไหนที่เข้าหา สุดท้ายแล้วเขาจะสยบต่อผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งอย่างพีรมน
************************